วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 151 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2018, 17:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
การเห็นการทำงานของ อายตนะภายใน-ภายนอก เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งแห่งการปรากฎการรู้

เป็นการพิจารณาเห็นธรรมในส่วนหนึ่ง ที่นำไปสู่การตรัสรู้

กระนั้น พระองค์ก็ยังคงพิจารณาเห็นธรรมในอีกหลาย ๆ ส่วนที่เป็นปัจจัยนำไปสู่
การเห็นไตรลักษณ์

การพิจารณาเห็นอ่อน แข็ง การพิจารณาการได้ยินเสียง การเห็นสี
ก็เป็นการทีจิตเข้าไปคลุกเคล้าอยู่กับอารมณ์ธรรมหนึ่ง
และยังคงไม่ยอมละจากอารมณ์ธรรมนั้น ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...

ซึ่งต้องมีสักกาลหนึ่งล่ะ ที่จิตจะคลายจากการเข้าไปคลุกอยู่กับอารมณ์ธรรมนั้น

ก็ยังไงมันต้อง คลาย สักวัน

จิตจะคลาย ไปเรื่อย ๆ

เพื่อพ้นจากการพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล

เพราะสุดท้ายสภาวะธรรม อันเป็นจิต มันเป็นเช่นนั้น

ธรรมสุดท้าย ก็ ธรรม คือ จิต นั่นล่ะ


พี่เอก้อนขา

แบบนี้ใช่มั๊ยคะ

ปรากฎการรู้ของวิญญาน ทีหลายๆคน หลงไปจริงๆจังๆ

ว่า เห็นๆนะ ได้ยินๆนะ ได้กลื่นๆนะ โรสๆนะ สัมผัสๆนะ และปัญญาๆ นะ คือผู้รู้

การพิจารณาเห็นธรรมส่วนนึง ส่วนนั้นคือ กุศลา อกุศลา อัพพยากตา

และพิจารณาลงต่อด้วย อนิจจะ ทุกขะ อนัตตะ

และเพราะอวิชชา จึงเป็นเหตุให้จิตคลุกเคล้าไปกับเจตสิกสังขารอย่างไม่ลดละจนเป็นเนื้อเดียวกัน

กระนั้น ยังมีเวลาปรากฎ แม้จะเป็นปัจจุบันเวลา

จนกว่า จะพ้นจากเวลาทั้งสามกาล

เหลือแต่ ดวงใจของพ่อ หรอคะ พี่เอก้อน ?

สาธุๆๆ นะคะ
เมไปหละ บ๊ายบาย

จะส่งข่าวไปแสนโกฎโลกธาตุให้ค่ะ




ขอบคุณค่ะ :b8: :b1:

ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ

:b1:

ดวงใจของพ่อ

มีน้อยคนที่จะใช้คำพูดประโยคนี้ ...

:b1:


เมก็ว่านะ

"ดวงใจของพ่อ" คำนี้คงมีความหมายสำคัญที่สุด สำหรับพี่เอก้อน

เม เรยไปเลือกเอาคำว่า "ดวงใจของพ่อ" มาจากตลาดนัดมาฝากค่ะ คิคิ


อุปทานและการปล่อยตัวให้ตกอยู่ภายไต้อำนาจของอายตนะ
จึงพากัน เฝ้ามอง จดจ่อ ติดตาม ตามเรียน ตามรู้ อยู่แต่ในกระบวนการหลอกลวงของวิญญาน
เคลิบเคลิ้มสุขใจไปกับ การเห็น ธรรมชาติของการเกิดดับ เกิดดับๆๆ อยู่ร่ำไป อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นั่นเป็นเพียงธรรมชาติที่แท้จริงของภพภูมิสัตตาวาส

เพิกถอนและปลดปล่อย ถอยห่าง ละวาง เลิกยึดมั่น และออกจากความหลงในภาระหน้าที่ทำแบบนั้น

แสงสว่างรุ่งเรืองธรรมฝ่ายจิต ก็จะสว่างส่องนำทางเปิดให้เห็น
ธรรมชาติอันบริสุทธิ์แท้จริง ที่ไม่เคยได้พบมาเรยตลอดการเดินทางในสังสารวัฎ

บ๊ายบายค่ะ



ใช่ คำนี้เป็นคำที่มีความหมายสำคัญที่สุดสำหรับพี่เอกอนจริง ๆ :b16: :b16:

ต้องยอมรับว่า น้องเม รู้ใจพี่เอกอน :b1:

ไปเลือกหยิบ ดวงใจของพ่อ มาจากตลาดนัดได้

ทั้ง ๆ ที่ในตลาดนัด มีคำมากมาย ...

แต่ก็เลือกหยิบคำนี้ คำที่ดูจะไม่เกี่ยวกับธรรม ไม่เกี่ยวกับจิต เลย

แต่คำนี้เป็นคำที่พี่เอกอนรู้สึกถึง และ มีความทรงจำกับคำนี้

ความทรงจำเกี่ยวกับสภาวะธรรมของ พ่อ

พี่เอกอนรู้สึกถึงสิ่งนั้นว่า พ่อ

ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครนะ แต่น้องเมอ่านใจได้... :b1:

...

:b1: ... จริง ๆ ... :b1:


คนจำนวนมากมาย อาจกล่าวธรรม พูดตามที่จดจำมา ที่ฟังได้เป็นวันๆๆ
ว่าฟังนะค๊ะ ตถาคตว่าอย่างนั้น อย่างนี้
พระธรรมว่าอย่างนั้นอย่างนี้ กระทู้แล้วกระทู้เล่า

แต่มีน้อยคนนัก ที่จะประจักษ์ในธรรมนั้นจริงๆ

คนที่กล่าวธรรมได้ จึงมีมากมายเหมือนขนสัตว์
แต่คนที่ประจักษ์แก่ใจได้ มีน้อยเหมือนมีแค่จมูกของสัตว์

ผู้ที่ประจักษ์สามารถกล่าวคำใดๆก็ได้ อย่างอิสระ โดยไม่ต้องพึ่งพาคำคนอื่นใด

และคำๆนั้น จะถูกต้องไม่มีผิดพลาดแม้นแต่นิดเดียว

ที่พี่เอกอนพูดมา
เหมือนเรื่อยๆเปื่อยๆ

แต่เมรู้ว่า พี่ประจักษ์ได้และพบสิ่งสำคัญ

แต่ อย่าอยู่ในนั้น อย่าสำคัญจนเก็บไว้
ไม่ว่าไว้เบื้องบน เบื้องล่าง หรือรอบๆค่ะ




:b8: :b8: :b8:

ขอบคุณ พี่เอกอนระลึกในคำเตือนของน้องเม

:b1: :b1: :b1:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 22 ก.ย. 2018, 17:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2018, 17:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b12: เรื่องนี้พี่เอกอนขอออกความเห็นเท่าที่พอจะปลอบขวัญชาวโลกนะ :b12:

กลัวชาวโลกจะ อกอีแป้นแตก หัวใจวาย เป็นลม 18 ตลบ

เพราะคำว่า โมฆะ เป็นคำที่ออกแนว ล้างบาง อย่างมาก :b32:

และเป็นคำที่แสลงหู

แต่ผู้ปฏิบัติที่ยึดมั่นในพระธรรมคำสอน ยึดมั่นในความทรงจำอันเป็นประเพณีแห่งการศึกษาปฏิบัติอันดี

ก็ให้ยึดไปเถอะ ยึดไปจนถึงวันที่ทุกอย่างเป็น "โมฆะ" จะปรากฏ

ซึ่งคำว่า โมฆะ ในนัยยะนี้ ไม่ใช่อะไรที่หยามต่อคำสอนของพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว

แยกให้ออก จิต กับ คำสอน

จิต ของจริง อยู่เหนือ ภาษา อักขระ บันทึกธรรมทั้งหมดทั้งมวล

เมื่อของจริง แสดงตัว ของจริงจะชำระของปลอมทุกอย่างออกทั้งหมด

ของที่เคยรักแค่ไหน ยังไงก็ไม่รอด

ไม่มีของปลอม ของลอกเลียนแบบ ของแอบแฝง สิ่งของทดแทน

สิ่งของใช้แทนอะไรทนแขวนอยู่กับของจริงได้

:b1:


หลายคนเรียนธรรมะ เพื่อไปเปิดสำนัก เปิดยูทูป ให้ไปกดไลค์
เพื่อเอาเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัว

แต่น้อยคน เรียนธรรมะ เพื่อจะนำมาใช้พาตัวเอง ให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ ของภพภูมิ ค่ะ






โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2018, 18:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
eragon_joe เขียน:
:b1:

อ่านไปอ่านมาแล้ว งง

ปลงดีก่า ...

:b16:

:b12:
ตถาคตแสดงความจริงให้ทุกคนที่กำลังฟังเข้าใจถูกตามเสียงของพระองค์
ทรงตรัสรู้จริงๆถ้าฟังแล้วงงเพราะปัญญาไม่พอต้องฟังแล้วไตร่ตรองบ่อยๆ
คิดตามคำที่อ่านหรือฟังตรงๆไม่ตัดแต่งต่อเติมเสริมเข้าไปหรือไม่ตัดออก
แต่เป็นการคิดตรงคำช้าๆตามเสียงที่อ่านย้ำๆให้เข้าใจเสียงตามคำนั้นตรงๆ
ถ้ายังไม่เคยฟังพระพุทธพจน์ก็ท่องจำและพูดทุกคำที่ตนไม่รู้จักตามปกติค่ะ
:b4: :b4:


เริ่มยังงี้ก่อนเถอะครับ คือว่า
ปีนี้ คุณโรสเป็นประธาน,หรือกรรมการทอดกฐินวัดไหนบ้างครับ :b32:

:b12:
เริ่มต้นที่แยกประเภทของพุทธบริษัท4ให้ตรงก่อนนะ
1ประเภทที่ทำงานหาเงินทำธุรกิจทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวและบริวารไม่เข้าไปทำให้วัดวุ่นวายเรื่องเงินทอง
2ประเภทไม่ทำงานสละบ้านทรัพย์สินเงินทองไม่เลี้ยงดูใครมากินนอนที่วัดตามการบรรพชาไม่ใช้เงินทอง
เลี้ยงชีพด้วยปลีแข้งเดินบิณฑบาตถ้ามันลำบากต้องการใช้เงินก็ลาสิกขามาประกอบอาชีพเข้าใจไหมคะ
และคนที่ไม่ได้บรรพชานั้นพระพุทธเจ้าให้อยู่ครองเรือนอย่าไปเบียดเบียนให้บรรพชิตหาเลี้ยงมันบาป
:b32: :b32:
เลือกให้ถูกประเภทแล้วก็ทำตามประเภทนั้นให้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้า



ถ้าแยกอย่างนั้นแล้วมันจะเป็นบริษัทเป็นพุทธบริษัทได้ยังไงเล่า บ้านกับวัดต้องอาศัยกันและกัน

:b32:
ยังไม่เก็ตอีกไม่มีคนไม่มีวัดไม่มีวัตถุ
มีแต่จิตเกิดดับสืบต่อไม่ขาดสายค่ะ
รู้คือปัญญาส่วนไม่รู้คือกิเลสอวิชชา
:b32: :b32:



อ่ะนะ ไม่มีคน ไม่มีวัด ไม่มีวัตถุ ถ้ายังงั้นก็ไม่มีบ้าน แล้วคุณไปเช่าบ้านที่ไหนนอนล่ะ คิกๆๆ

แถวๆบ้านคุณโรสเขาว่าคุณโรสเป็นคนไหม อ้าว


ต้องเหาะได้ก่อนรู้และเข้าใจไหมว่าสมมุติคฤหัสถ์นอนบ้านหาเงินไม่ซื้อบ้านก็เช่าบ้านก็ถูกต้องแล้ว
ตัวเองรู้ตามปกติว่ามีคนบ้านวัดคือความคิดเห็นผิดไงคะไม่เข้าใจเหรอมีมิจฉาทิฏฐิ
ปกติคนทั่วไปใครไม่รู้ว่ามีคนมีรถมีบ้านมีวัดแต่พระพุทธเจ้ารู้ความจริงว่าไม่มีไง
ยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่ากำลังหลงผิดตามที่ไม่ได้กำลังคิดถูกตามการฟังคำสอนจ้ะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2018, 19:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b1:


สะเทือนใจ..

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2018, 19:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
:b1:

อ่านไปอ่านมาแล้ว งง

ปลงดีก่า ...

:b16:


ถูกต้องแล้ว... :b12: :b12: :b12:


ยังนึกอยู่ว่า อ๊บซ์ หายไปไหน

อ๊บซ์มีเรื่องแปลกอะไรจะมาเล่ามั๊ย :b13: :b13:


มีแต่เรื่อง..ไม่แปลก... :b13: :b13: :b13:

eragon_joe เขียน:
เพราะถ้าคาดไม่ผิด มันน่าจะต้องมีอะไรที่เกรียวกราวอยู่ในช่วงนี้

เกี่ยวกับสถานการณ์ของโลก

:b13: :b13: :b13:


น่าน... :b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2018, 09:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อกระทู้ "ความจริงของสภาพธรรม" สภาพธรรม เขียน สภาวธรรม ก็ได้ ดู



สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งทีเป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง


สมาธิ ความมีใจตั้งมั่น, ความตั้งมั่นแห่งจิต, การทำให้ใจสงบแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน, ภาวะที่จิตั้งเรียบแน่วอยู่ในอารมณ์ คือ สิ่งอันหนึ่งอันเดียว, มักใช้เป็นคำเรียกง่ายๆ สำหรับ อธิจิตตสิกขา


สภาวทุกข์ ทุกข์ที่เป็นเองตามคติแห่งธรรมดา

(สภาวทุกข์ จะเขียน สภาพทุกข์ ก็ได้ ความหมายเดียวกัน)


แต่ทีนี้ คนพูดบางทีก็ว่าไปเรื่อยเปื่อยออกนอกไป

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 00:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ชื่อกระทู้ "ความจริงของสภาพธรรม" สภาพธรรม เขียน สภาวธรรม ก็ได้ ดู



สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งทีเป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย

สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง


สมาธิ ความมีใจตั้งมั่น, ความตั้งมั่นแห่งจิต, การทำให้ใจสงบแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน, ภาวะที่จิตั้งเรียบแน่วอยู่ในอารมณ์ คือ สิ่งอันหนึ่งอันเดียว, มักใช้เป็นคำเรียกง่ายๆ สำหรับ อธิจิตตสิกขา


สภาวทุกข์ ทุกข์ที่เป็นเองตามคติแห่งธรรมดา

(สภาวทุกข์ จะเขียน สภาพทุกข์ ก็ได้ ความหมายเดียวกัน)


แต่ทีนี้ คนพูดบางทีก็ว่าไปเรื่อยเปื่อยออกนอกไป

:b1:
จะเรียกว่าอะไรก็ตาม
ทุกอย่างก็กำลังปรากฏ
ว่ามีแล้วตามเหตุตามปัจจัย
ไม่รู้ตรง1สัจจะที่ตนมีตามเป็นจริง
แปลว่าสะสมอวิชชาแล้วเดี๋ยวนี้เข้าใจไหมคะ
ว่าจิตเกิดดับทีละ1ขณะมี7ชวนะเกิดภพใหม่แล้ว7ชาติ
บอกแล้วบอกอีกว่าไม่ได้เห็นสีไม่รู้ความจริงคิดเองไม่ได้
เดี๋ยวนี้เลยลืมตาปริบๆอยู่นี้น่ะที่อ่านอยู่นี่จิตเกิดดับครบ6ทาง
ทำอะไรก็ไม่ได้เพราะแค่กะพริบตาเฉยๆยังไม่ทำอะไรกิเลสก็เกิดใหม่แล้ว
มีแต่เพียรอดทนฟังตั้งใจฟังคำวาจาสัจจะที่มีผู้กล่าวความจริงให้เข้าใจแล้วรู้สึกตัว
ฟังพระพุทธพจน์จากการสนทนาคิดตามเวลามีคนถามก็ตอบดูว่าตนตอบถูกตรงบ้างไหม
หนทางอันเอกมีทางเดียวคือจิตได้ยินเท่านั้นที่มีเสียงความจริงให้เข้าใจถูกตามได้ว่าตนตรงจริงหรือยังน๊า
https://youtu.be/4xjWVUcVbWE
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 00:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b12: เรื่องนี้พี่เอกอนขอออกความเห็นเท่าที่พอจะปลอบขวัญชาวโลกนะ :b12:

กลัวชาวโลกจะ อกอีแป้นแตก หัวใจวาย เป็นลม 18 ตลบ

เพราะคำว่า โมฆะ เป็นคำที่ออกแนว ล้างบาง อย่างมาก :b32:

และเป็นคำที่แสลงหู

แต่ผู้ปฏิบัติที่ยึดมั่นในพระธรรมคำสอน ยึดมั่นในความทรงจำอันเป็นประเพณีแห่งการศึกษาปฏิบัติอันดี

ก็ให้ยึดไปเถอะ ยึดไปจนถึงวันที่ทุกอย่างเป็น "โมฆะ" จะปรากฏ

ซึ่งคำว่า โมฆะ ในนัยยะนี้ ไม่ใช่อะไรที่หยามต่อคำสอนของพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว

แยกให้ออก จิต กับ คำสอน

จิต ของจริง อยู่เหนือ ภาษา อักขระ บันทึกธรรมทั้งหมดทั้งมวล

เมื่อของจริง แสดงตัว ของจริงจะชำระของปลอมทุกอย่างออกทั้งหมด

ของที่เคยรักแค่ไหน ยังไงก็ไม่รอด

ไม่มีของปลอม ของลอกเลียนแบบ ของแอบแฝง สิ่งของทดแทน

สิ่งของใช้แทนอะไรทนแขวนอยู่กับของจริงได้

:b1:


หลายคนเรียนธรรมะ เพื่อไปเปิดสำนัก เปิดยูทูป ให้ไปกดไลค์
เพื่อเอาเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัว

แต่น้อยคน เรียนธรรมะ เพื่อจะนำมาใช้พาตัวเอง ให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ ของภพภูมิ ค่ะ






:b32:
โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยไม่เกิดตอนไม่รู้ตรงสัจจะตามคำสอนนะคะ
สติเจตสิก+ปัญญาเจตสิก=สัมมาทิฏฐิคือมรรคแรกตามคำสอนเกิดได้เมื่อเริ่มคิดถูกตามการฟังคำสอน
คือความคิดเห็นถูกความเข้าใจถูกตามคำสอนทีละ1คำตรงขณะตอนที่ฟังแล้วคิดตรงสัจจะที่ตนมีตามได้
คิดเองตามเห็นผิดคือความเห็นผิดเป็นมิจฉามรรคไม่ฟังคำวาจาสัจจะแปลว่ากำลังมีความไม่รู้+ไม่ใช่สาวก
:b32: :b32:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b1:


สะเทือนใจ..

:b32: :b32: :b32:

:b32:
จิต1ขณะมี7ชวนะไม่รู้ตรง1สัจจะคือเกิดกิเลสแล้ว7ชาติ
ที่แน่ๆตรงนี้มีโมฆะบุรุษเพราะกล่าวบัญญัติคำตถาคตได้
แต่ไม่สามารถกล่าวตรงสัจจะให้ผู้อื่นมีความคิดเห็นถูกเลย
มีแต่กล่าวตามคำตถาคตเฉยๆที่เป็นภาษาบาลีพูดทุกคำที่ไม่รู้จักค่ะ
:b32: :b32:
แนะนำฟังจากผู้ที่กล่าวคำวาจาสัจจะให้เข้าใจทุกคำในพระไตรปิฎกในภาษาไทยค่ะ
https://youtu.be/kIw6INHNlK4


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 02:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b12: เรื่องนี้พี่เอกอนขอออกความเห็นเท่าที่พอจะปลอบขวัญชาวโลกนะ :b12:

กลัวชาวโลกจะ อกอีแป้นแตก หัวใจวาย เป็นลม 18 ตลบ

เพราะคำว่า โมฆะ เป็นคำที่ออกแนว ล้างบาง อย่างมาก :b32:

และเป็นคำที่แสลงหู

แต่ผู้ปฏิบัติที่ยึดมั่นในพระธรรมคำสอน ยึดมั่นในความทรงจำอันเป็นประเพณีแห่งการศึกษาปฏิบัติอันดี

ก็ให้ยึดไปเถอะ ยึดไปจนถึงวันที่ทุกอย่างเป็น "โมฆะ" จะปรากฏ

ซึ่งคำว่า โมฆะ ในนัยยะนี้ ไม่ใช่อะไรที่หยามต่อคำสอนของพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว

แยกให้ออก จิต กับ คำสอน

จิต ของจริง อยู่เหนือ ภาษา อักขระ บันทึกธรรมทั้งหมดทั้งมวล

เมื่อของจริง แสดงตัว ของจริงจะชำระของปลอมทุกอย่างออกทั้งหมด

ของที่เคยรักแค่ไหน ยังไงก็ไม่รอด

ไม่มีของปลอม ของลอกเลียนแบบ ของแอบแฝง สิ่งของทดแทน

สิ่งของใช้แทนอะไรทนแขวนอยู่กับของจริงได้

:b1:


หลายคนเรียนธรรมะ เพื่อไปเปิดสำนัก เปิดยูทูป ให้ไปกดไลค์
เพื่อเอาเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัว

แต่น้อยคน เรียนธรรมะ เพื่อจะนำมาใช้พาตัวเอง ให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ ของภพภูมิ ค่ะ






:b32:
โสภณเจตสิกไม่เกิดตอนไม่รู้ตรงสัจจะตามคำสอนนะคะ
สติเจตสิก+ปัญญาเจตสิก=สัมมาทิฏฐิคือมรรคแรกตามคำสอน
คือความคิดเห็นถูกความเข้าใจถูกตามคำสอนทีละ1ขณะตอนกำลังฟังแล้วคิดตรงสัจจะที่ตนมีตามได้เท่านั้น
คิดเองตามเห็นผิดคือความเห็นผิดเป็นมิจฉามรรคไม่ฟังคำวาจาสัจจะแปลว่ากำลังมีความไม่รู้+ไม่ใช่สาวก
:b32: :b32:
กบนอกกะลา เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b1:


สะเทือนใจ..

:b32: :b32: :b32:

:b32:
จิต1ขณะมี7ชวนะไม่รู้ตรง1สัจจะคือเกิดกิเลสแล้ว7ชาติ
ที่แน่ๆตรงนี้มีโมฆะบุรุษเพราะกล่าวบัญญัติคำตถาคตได้
แต่ไม่สามารถกล่าวตรงสัจจะให้ผู้อื่นมีความคิดเห็นถูกเลย
มีแต่กล่าวตามคำตถาคตเฉยๆที่เป็นภาษาบาลีพูดทุกคำที่ไม่รู้จักค่ะ
:b32: :b32:
แนะนำฟังจากผู้ที่กล่าวคำวาจาสัจจะให้เข้าใจทุกคำในพระไตรปิฎกในภาษาไทยค่ะ
https://youtu.be/kIw6INHNlK4



นั่นแน้ คุณยายโรสมั่วๆๆๆ ใหญ๋แล้วหล่ะค่ะ

โมฆะยาย แล้วค่ะ

เพราะคุณยายโรส ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก ไม่ได้เรียนพระอภิธรรม ปฎิบัติก็ไม่เป็น

คุณยายโรส จึงไม่รู้ว่า เมเอาปฎิจจสมุปาทธรรมมาแจก ให้ฟรีๆ
เอา พระอภิธรรมมัตสังคหะ ปริเฉทที่ 8 ว่าด้วย ปัจจัยสังคหวิภาค
ที่พระพุทธองค์ ทรงแสดงปฎิจจสมุปาทไว้ถึง 11 อาการ 12 องค์ธรรม
มาแจกให้ฟรีๆ

นี่แหละตัวอย่าง โมฆะยาย ที่ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎก ไมีได้เรียนพระอภิธรรม ปฎิบัติก็ไม่เป็นค่ะ


มั่วหนัก เพราะไม่รู้จักว่า วิถีจิตน่ะ มีหลายประเภทนะคะ

และก็มั่วหนักไปอีก ว่าจิตหนึ่งขนะ 7 ชวนะ

เพราะคุณยายโรส ไม่ได้เรียนพระปริยัติมา ได้แต่ฟังงูๆปลาๆ

เรยไม่รู้ว่า จิตที่ มี 2 ชวนะ ก็มี

เรยไม่รู้ว่า จิตที่รับอารมณ์ ขนะที่ 9 ถึง 15 น่ะคะ ช่วงนั้นจะมี 7 ขนะ
เค้าเรียกว่า 7 ชวนะ หรือขนะ ก็มี

เรยไม่รู้ว่า อนุขนะ ก็มี

คุณยายโรส จึงเป็นตัวอย่างคนที่ไม่ได้เรียนพระอภิธรรมมาเรย
ไม่ได้เรียนปริยัติมาเรย

เรยมั่วซ้ำซากแต่ จิตหนึ่งขนะ มี 7 ชวนะ

มั่วซ้ำซากจริงๆค่ะ




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 03:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


เมแนะนำนะคะ คุณยายโรส

พระไตรปิฎกมีอยู่ พระท่านสังคยานามาจบหมดแล้ว จบเล่มแล้ว ครบทุกหมวดแล้ว

ให้คุณยายโรส ไปเรียนให้เป็นกิจจะลักษณะซะนะคะ

อายุก็มากแล้ว จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้

มัวแต่ไปฟังยูทูป เค้าอัดเทปมากี่สิบปีแล้ว อัดไม่จบสักที

แล้วเมื่อไร จะเรียนจบสักทีหละคะ

นี่ไงคะ ควรจะเรียนอะไร จากไหน ยังไม่รู้เรย
ไปเรียนจากยูทูป อัดเทปมากี่ปีแล้ว ไม่จบสักที

เรยงูๆปลาๆอยู่อย่างนี้แหละ
รอให้เค้าอัดยูทูปให้จบทุกหมวดธรรมก่อนนะคะ
ค่อยมา

ตอนนี้ เมแนะนำให้นะคะคุณยายโรส
ไปเล่นที่อื่นนะคะ อย่ามาเล่นแถวนี้ค่ะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 05:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
มืดมานานแล้วเพียรฟังเพื่อให้เกิดปัญญาเข้าจิตแทนกิเลสจะได้ตาสว่างหรือเอาแค่มืดบอด
ทุกคนกำลังมีตาไม่บอดและหูไม่หนวกจึงจะสะสมปัญญาคิดเห็นถูกตามคำสอนได้
คำสอนตรงไปตรงมาเพราะปัญญาเกิดเองไม่ได้อ่านสิคะสุตมยปัญญาเกิดจากฟัง
ถ้าไม่ฟังก็รู้ไม่ได้เพราะการฟังคือการรู้ตรงความจริงตรงตามคำสอนตรงปรมัตถ์
สัจจะทุกๆขณะไม่ใช่ชื่อบัญญัติคำและไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนดังนั้นกิเลสมีแล้ว
ในจิตตนเองทุกครั้งที่เห็นเป็นวิบากกรรมปรากฏให้ได้รับผลสุขทุกข์ไปเรื่อยๆ
ตอนหลับสนิทไม่มีกิเลสเกิดเพราะเป็นสภาวะที่ไม่รู้อะไรเลยยาวนานกว่าตอนลืมตาตื่น
พอลืมตาเห็นปุ๊บจำปั๊บว่าเป็นเราชื่ออะไรนอนที่ไหนสมบัติหนี้สินเยอะไหมยังไม่ลุกจากเตียงเลย
หลงผิดว่าตนรู้น่ะกิเลสไหมเพราะสุตมยปัญญาจำให้แม่นๆปัญญาเกิดได้ตามลำดับข้ามสุตะคือมิจฉามรรค
เพราะสัมมามรรคคือมรรคแรกคือสัมมาทิฏฐิเกิดตามหลังกิเลสตอนกำลังฟังคือแทรกตามหลังเห็น555
เพราะตัวเองเห็นเป็นกิเลสเพราะไม่รู้ถึงสีที่กระทบตาตามที่ตถาคตทรงตรัสรู้คือเป็นทศพลญาณและ
ทศพลญาณไม่มีสัตวโลกตนไหนทำอะไรพิศดารแค่ไหนก็เป็นไม่ได้แล้วในทุกๆชาติตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไป
ต้องรู้ก่อนถึงจะละไม่รู้ได้เพราะกิเลสเกิดตั้งแต่ขณะที่3ดับยังไม่ครบ6ทางกิเลสไหลออกมาตลอดเวลาแล้ว
ทุกท่านต้องใช้สติปัญญาของตนเองไตร่ตรองจากการฟังด้วยตนเองไม่ใช่ให้เชื่อโดยใช้หลักกาลามสูตร10
ท่านต้องเชื่อสายตาตนเองที่เห็นเทียบกับการฟังตรงขณะเพราะตถาคตทรงแสดงว่าจิตเห็นสีจึงต้องฟังไงคะ
และผู้ที่จะมาตรัสรู้และมาบัญญัติทุกคำต่างๆตามที่มีบันทึกในตำราอีกคือพระศรีอริยเมตตรัยพระพุทธเจ้า
ถ้าไม่ฝึกฟังจะไม่รู้เลยว่าใครพูดจริงเพราะเอาคำของพระพุทธเจ้ามาพูดได้แต่ไม่ได้มีปัญญาเท่าพระองค์แน่ๆ
อย่าให้ใครมาหลอกคุณได้ใช้ตาที่ไม่บอดดูทุกอย่างตามปกติตอนกำลังฟังพระพุทธพจน์จากคนที่กล่าวตรงๆ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ขอทรัพย์สินเงินทองลาภยศหรือดอกไม้ธูปเทียนจากใครทรงตรัสความจริงให้สาวกฟังค่ะ
ถ้าคุณไม่ฟังให้เกิดปัญญาก็เป็นโอกาสที่กิเลสเล่นงานคุณเองเพราะกิเลสเกิดที่จิตคุณกำลังคิดพูดทำเดี๋ยวนี้
ตถาคตตรัสไว้ล่วงหน้าว่าพันปีที่3ไม่มีสาวกบรรลุถึงอรหันต์แล้วค่ะและอริยบุคคลที่รู้จริงบวชจะไม่รับเงินน๊า
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 08:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงที่ไม่มีใครรู้เองได้เข้าใจไหมคะ
ไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่กล่าวความจริงตามคำของพระองค์ให้คุณรู้สึกตัว
แปลว่าเขาก็ไม่ได้รู้ตามคำที่เขาพูดเพราะผู้รู้ตามคำสอนรู้จากตามฟังคำสัจจะ
คนที่เขาเอาคำตถาคตมากล่าวไม่ได้บอกให้คุณรู้สึกตัวว่าคุณไม่รู้เพราะเขาก็ไม่รู้ไงคะ
เขาถึงบอกให้คุณทำแล้วจะรู้เอง...ได้ยังไงคะคุณเชื่อและทำตามคำสั่งที่เขาบอกให้คุณทำทั้งหมดบร้าไหมล่ะ
:b32:
คนที่ไม่คิดตามคำสอนจะไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองกำลังมีกิเลสค่ะ
เพราะไม่เข้าใจว่ากิเลสเกิดตั้งแต่จิตเกิดดับยังไม่ครบ6ทางแล้วตั้งแต่ขณะที่3ดับ
เดี๋ยวนี้ที่คุณกำลังมีจิตกำลังมีการเกิดดับอย่างรวดเร็วกะพริบตาไม่คิดตามคำตถาคต
แปลว่าตนเองน่ะคิดเองตามความคิดของตนที่เห็นคนสัตว์วัตถุเอาเองไม่รู้ว่าเห็นดับนานแล้ว
มีกิเลสใหม่ดับสะสมแล้วจร้าบร้าแล้วจร้าจิตวิปลาสคลาดเคลื่อนจากเห็นที่กำลังเห็นรู้ตัวไหมคะว่าขาดแค่ฟัง
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 10:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b12: เรื่องนี้พี่เอกอนขอออกความเห็นเท่าที่พอจะปลอบขวัญชาวโลกนะ :b12:

กลัวชาวโลกจะ อกอีแป้นแตก หัวใจวาย เป็นลม 18 ตลบ

เพราะคำว่า โมฆะ เป็นคำที่ออกแนว ล้างบาง อย่างมาก :b32:

และเป็นคำที่แสลงหู

แต่ผู้ปฏิบัติที่ยึดมั่นในพระธรรมคำสอน ยึดมั่นในความทรงจำอันเป็นประเพณีแห่งการศึกษาปฏิบัติอันดี

ก็ให้ยึดไปเถอะ ยึดไปจนถึงวันที่ทุกอย่างเป็น "โมฆะ" จะปรากฏ

ซึ่งคำว่า โมฆะ ในนัยยะนี้ ไม่ใช่อะไรที่หยามต่อคำสอนของพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว

แยกให้ออก จิต กับ คำสอน

จิต ของจริง อยู่เหนือ ภาษา อักขระ บันทึกธรรมทั้งหมดทั้งมวล

เมื่อของจริง แสดงตัว ของจริงจะชำระของปลอมทุกอย่างออกทั้งหมด

ของที่เคยรักแค่ไหน ยังไงก็ไม่รอด

ไม่มีของปลอม ของลอกเลียนแบบ ของแอบแฝง สิ่งของทดแทน

สิ่งของใช้แทนอะไรทนแขวนอยู่กับของจริงได้

:b1:


หลายคนเรียนธรรมะ เพื่อไปเปิดสำนัก เปิดยูทูป ให้ไปกดไลค์
เพื่อเอาเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัว

แต่น้อยคน เรียนธรรมะ เพื่อจะนำมาใช้พาตัวเอง ให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ ของภพภูมิ ค่ะ






:b32:
โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยไม่เกิดตอนไม่รู้ตรงสัจจะตามคำสอนนะคะ
สติเจตสิก+ปัญญาเจตสิก=สัมมาทิฏฐิคือมรรคแรกตามคำสอนเกิดได้เมื่อเริ่มคิดถูกตามการฟังคำสอน
คือความคิดเห็นถูกความเข้าใจถูกตามคำสอนทีละ1คำตรงขณะตอนที่ฟังแล้วคิดตรงสัจจะที่ตนมีตามได้
คิดเองตามเห็นผิดคือความเห็นผิดเป็นมิจฉามรรคไม่ฟังคำวาจาสัจจะแปลว่ากำลังมีความไม่รู้+ไม่ใช่สาวก
:b32: :b32:


:b21: ...

คุณโรสลองอธิบาย
การเกิด และ ลักษณะการเกิด โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย
เมื่อเกิดแล้ว รู้ได้อย่างไรกว่าเกิด และการเกิดส่งผลต่อองค์ประกอบร่วมอย่างไร
ออกมาอย่างละเอียดให้ เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับชมได้มั๊ยคะ

เอาแบบชัด ๆ นะคะ อย่างเป็นลำดับ อย่าสะเปะสะปะ
แบบลอกตำรามาไม่เอานะ ...

จะว่าไปเรื่องนี้ ไม่ต้องไปลอกในตำราก็ได้
เพราะตำรามีแต่ความหมาย ไม่ได้มีการอธิบายกริยาแบบครบองค์ประกอบ

ถ้าจะให้น่ารัก ก็อธิบายถึงการได้มาซึ่งจิตโสภณด้วยนะคะ
อะไรเป็นปัจจัยให้จิตเข้าสู่วิถีอันมีองค์ประกอบของโสภณ อยู่ได้ และทรงตัวอยู่ได้ อย่างไร

:b1:

คงไม่ใช่คำถามที่ยากไป...ใช่มั๊ยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
เมไม่ได้มาขายความรู้ ไม่ได้มาชวนใครให้ไปกดไลค์ ไปฟังในยูทูป

แต่ เม เอาความรู้ ในปฎิจจสมุปาท มาแจกฟรีๆนะคะ

อุปทานเป็นปัจจัยให้เกิดภพภูมิ

ความแท้จริงของสภาพธรรม คือ

พระตถาคตบังเกิดขึ้นในภพภูมิ ทรงแสดงคำสอนอยู่ในภพภูมิ

คนรู้จริง รู้แจ้ง ประจักษ์แก่ใจ ในสัจธรรมข้อนี้ จึงรู้ว่า

ไม่มีธรรมอันใดเรย ในภพภูมินี้ ที่ไม่เป็นโมฆะค่ะ



:b1: น้องเมชอบมีเรื่องราวมาให้ชาวโลก ตะเตือนไต ทุกทีเลย :b1:

:b12: เรื่องนี้พี่เอกอนขอออกความเห็นเท่าที่พอจะปลอบขวัญชาวโลกนะ :b12:

กลัวชาวโลกจะ อกอีแป้นแตก หัวใจวาย เป็นลม 18 ตลบ

เพราะคำว่า โมฆะ เป็นคำที่ออกแนว ล้างบาง อย่างมาก :b32:

และเป็นคำที่แสลงหู

แต่ผู้ปฏิบัติที่ยึดมั่นในพระธรรมคำสอน ยึดมั่นในความทรงจำอันเป็นประเพณีแห่งการศึกษาปฏิบัติอันดี

ก็ให้ยึดไปเถอะ ยึดไปจนถึงวันที่ทุกอย่างเป็น "โมฆะ" จะปรากฏ

ซึ่งคำว่า โมฆะ ในนัยยะนี้ ไม่ใช่อะไรที่หยามต่อคำสอนของพุทธเลยแม้แต่นิดเดียว

แยกให้ออก จิต กับ คำสอน

จิต ของจริง อยู่เหนือ ภาษา อักขระ บันทึกธรรมทั้งหมดทั้งมวล

เมื่อของจริง แสดงตัว ของจริงจะชำระของปลอมทุกอย่างออกทั้งหมด

ของที่เคยรักแค่ไหน ยังไงก็ไม่รอด

ไม่มีของปลอม ของลอกเลียนแบบ ของแอบแฝง สิ่งของทดแทน

สิ่งของใช้แทนอะไรทนแขวนอยู่กับของจริงได้

:b1:


หลายคนเรียนธรรมะ เพื่อไปเปิดสำนัก เปิดยูทูป ให้ไปกดไลค์
เพื่อเอาเป็นเสบียงไว้เลี้ยงตัว

แต่น้อยคน เรียนธรรมะ เพื่อจะนำมาใช้พาตัวเอง ให้รอดพ้นจากการเป็นเหยื่อ ของภพภูมิ ค่ะ






:b32:
โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยไม่เกิดตอนไม่รู้ตรงสัจจะตามคำสอนนะคะ
สติเจตสิก+ปัญญาเจตสิก=สัมมาทิฏฐิคือมรรคแรกตามคำสอนเกิดได้เมื่อเริ่มคิดถูกตามการฟังคำสอน
คือความคิดเห็นถูกความเข้าใจถูกตามคำสอนทีละ1คำตรงขณะตอนที่ฟังแล้วคิดตรงสัจจะที่ตนมีตามได้
คิดเองตามเห็นผิดคือความเห็นผิดเป็นมิจฉามรรคไม่ฟังคำวาจาสัจจะแปลว่ากำลังมีความไม่รู้+ไม่ใช่สาวก
:b32: :b32:


:b21: ...

คุณโรสลองอธิบาย
การเกิด และ ลักษณะการเกิด โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย
เมื่อเกิดแล้ว รู้ได้อย่างไรกว่าเกิด และการเกิดส่งผลต่อองค์ประกอบร่วมอย่างไร
ออกมาอย่างละเอียดให้ เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับชมได้มั๊ยคะ

เอาแบบชัด ๆ นะคะ อย่างเป็นลำดับ อย่าสะเปะสะปะ
แบบลอกตำรามาไม่เอานะ ...

จะว่าไปเรื่องนี้ ไม่ต้องไปลอกในตำราก็ได้
เพราะตำรามีแต่ความหมาย ไม่ได้มีการอธิบายกริยาแบบครบองค์ประกอบ

ถ้าจะให้น่ารัก ก็อธิบายถึงการได้มาซึ่งจิตโสภณด้วยนะคะ
อะไรเป็นปัจจัยให้จิตเข้าสู่วิถีอันมีองค์ประกอบของโสภณ อยู่ได้ และทรงตัวอยู่ได้ อย่างไร

:b1:

คงไม่ใช่คำถามที่ยากไป...ใช่มั๊ยคะ

:b12:
อ่านทบทวนหลายๆรอบสิคะ
คุณจะรู้สภาวะตามเป็นจริง
เมื่อคุณกำลังทำฟังตามปกติ
ใช้ตาคุณเองดูคลิปใช้หูฟัง
เพราะคลิปไม่ใช่สภาพรู้ค่ะ
ดูความประพฤติตนเองว่ามี
ความรู้สึกนึกคิดอย่างไรนะคะ
ความเข้าใจเกิดตอนที่กำลังฟัง
ไม่ใช่มาคิดนึกถามแล้วมาตามอ่านทีหลัง
ฟังแล้วไตร่ตรองต้องใช้เวลาไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
คลิปเดิมคุณลองฟังสักร้อยรอบดูสิว่ากิเลสคุณอดทนฟังได้แค่ไหน
คนที่เขาสนทนากันในคลิปไม่รู้หรอกว่าคุณคิดอะไรตอนเขาคุยกันมีแต่คุณรู้ว่าคุณคิดอะไรที่ดูคลิป
https://youtu.be/4xjWVUcVbWE
:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2018, 22:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:

:b32:
โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยไม่เกิดตอนไม่รู้ตรงสัจจะตามคำสอนนะคะ
สติเจตสิก+ปัญญาเจตสิก=สัมมาทิฏฐิคือมรรคแรกตามคำสอนเกิดได้เมื่อเริ่มคิดถูกตามการฟังคำสอน
คือความคิดเห็นถูกความเข้าใจถูกตามคำสอนทีละ1คำตรงขณะตอนที่ฟังแล้วคิดตรงสัจจะที่ตนมีตามได้
คิดเองตามเห็นผิดคือความเห็นผิดเป็นมิจฉามรรคไม่ฟังคำวาจาสัจจะแปลว่ากำลังมีความไม่รู้+ไม่ใช่สาวก
:b32: :b32:


:b21: ...

คุณโรสลองอธิบาย
การเกิด และ ลักษณะการเกิด โสภณเจตสิกที่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย
เมื่อเกิดแล้ว รู้ได้อย่างไรกว่าเกิด และการเกิดส่งผลต่อองค์ประกอบร่วมอย่างไร
ออกมาอย่างละเอียดให้ เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับชมได้มั๊ยคะ

เอาแบบชัด ๆ นะคะ อย่างเป็นลำดับ อย่าสะเปะสะปะ
แบบลอกตำรามาไม่เอานะ ...

จะว่าไปเรื่องนี้ ไม่ต้องไปลอกในตำราก็ได้
เพราะตำรามีแต่ความหมาย ไม่ได้มีการอธิบายกริยาแบบครบองค์ประกอบ

ถ้าจะให้น่ารัก ก็อธิบายถึงการได้มาซึ่งจิตโสภณด้วยนะคะ
อะไรเป็นปัจจัยให้จิตเข้าสู่วิถีอันมีองค์ประกอบของโสภณ อยู่ได้ และทรงตัวอยู่ได้ อย่างไร

:b1:

คงไม่ใช่คำถามที่ยากไป...ใช่มั๊ยคะ

:b12:
อ่านทบทวนหลายๆรอบสิคะ
คุณจะรู้สภาวะตามเป็นจริง
เมื่อคุณกำลังทำฟังตามปกติ
ใช้ตาคุณเองดูคลิปใช้หูฟัง
เพราะคลิปไม่ใช่สภาพรู้ค่ะ
ดูความประพฤติตนเองว่ามี
ความรู้สึกนึกคิดอย่างไรนะคะ
ความเข้าใจเกิดตอนที่กำลังฟัง
ไม่ใช่มาคิดนึกถามแล้วมาตามอ่านทีหลัง
ฟังแล้วไตร่ตรองต้องใช้เวลาไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
คลิปเดิมคุณลองฟังสักร้อยรอบดูสิว่ากิเลสคุณอดทนฟังได้แค่ไหน
คนที่เขาสนทนากันในคลิปไม่รู้หรอกว่าคุณคิดอะไรตอนเขาคุยกันมีแต่คุณรู้ว่าคุณคิดอะไรที่ดูคลิป
https://youtu.be/4xjWVUcVbWE
:b17: :b17:


:b1:

งั๊นคุณโรสช่วยอธิบายอีกรอบ
ว่าที่คุณโรสตอบมา มันเกี่ยวข้องกับโสภณเจตสิกยังไง ...

:b1:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 151 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร