วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 151 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2018, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
การเห็นการทำงานของ อายตนะภายใน-ภายนอก เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งแห่งการปรากฎการรู้

เป็นการพิจารณาเห็นธรรมในส่วนหนึ่ง ที่นำไปสู่การตรัสรู้

กระนั้น พระองค์ก็ยังคงพิจารณาเห็นธรรมในอีกหลาย ๆ ส่วนที่เป็นปัจจัยนำไปสู่
การเห็นไตรลักษณ์

การพิจารณาเห็นอ่อน แข็ง การพิจารณาการได้ยินเสียง การเห็นสี
ก็เป็นการทีจิตเข้าไปคลุกเคล้าอยู่กับอารมณ์ธรรมหนึ่ง
และยังคงไม่ยอมละจากอารมณ์ธรรมนั้น ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...

ซึ่งต้องมีสักกาลหนึ่งล่ะ ที่จิตจะคลายจากการเข้าไปคลุกอยู่กับอารมณ์ธรรมนั้น

ก็ยังไงมันต้อง คลาย สักวัน

จิตจะคลาย ไปเรื่อย ๆ

เพื่อพ้นจากการพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล

เพราะสุดท้ายสภาวะธรรม อันเป็นจิต มันเป็นเช่นนั้น

ธรรมสุดท้าย ก็ ธรรม คือ จิต นั่นล่ะ


พี่เอก้อนขา

แบบนี้ใช่มั๊ยคะ

ปรากฎการรู้ของวิญญาน ทีหลายๆคน หลงไปจริงๆจังๆ

ว่า เห็นๆนะ ได้ยินๆนะ ได้กลื่นๆนะ โรสๆนะ สัมผัสๆนะ และปัญญาๆ นะ คือผู้รู้

การพิจารณาเห็นธรรมส่วนนึง ส่วนนั้นคือ กุศลา อกุศลา อัพพยากตา

และพิจารณาลงต่อด้วย อนิจจะ ทุกขะ อนัตตะ

และเพราะอวิชชา จึงเป็นเหตุให้จิตคลุกเคล้าไปกับเจตสิกสังขารอย่างไม่ลดละจนเป็นเนื้อเดียวกัน

กระนั้น ยังมีเวลาปรากฎ แม้จะเป็นปัจจุบันเวลา

จนกว่า จะพ้นจากเวลาทั้งสามกาล

เหลือแต่ ดวงใจของพ่อ หรอคะ พี่เอก้อน ?

สาธุๆๆ นะคะ
เมไปหละ บ๊ายบาย

จะส่งข่าวไปแสนโกฎโลกธาตุให้ค่ะ




โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ย. 2018, 23:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
การเห็นการทำงานของ อายตนะภายใน-ภายนอก เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งแห่งการปรากฎการรู้

เป็นการพิจารณาเห็นธรรมในส่วนหนึ่ง ที่นำไปสู่การตรัสรู้

กระนั้น พระองค์ก็ยังคงพิจารณาเห็นธรรมในอีกหลาย ๆ ส่วนที่เป็นปัจจัยนำไปสู่
การเห็นไตรลักษณ์

การพิจารณาเห็นอ่อน แข็ง การพิจารณาการได้ยินเสียง การเห็นสี
ก็เป็นการทีจิตเข้าไปคลุกเคล้าอยู่กับอารมณ์ธรรมหนึ่ง
และยังคงไม่ยอมละจากอารมณ์ธรรมนั้น ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...

ซึ่งต้องมีสักกาลหนึ่งล่ะ ที่จิตจะคลายจากการเข้าไปคลุกอยู่กับอารมณ์ธรรมนั้น

ก็ยังไงมันต้อง คลาย สักวัน

จิตจะคลาย ไปเรื่อย ๆ

เพื่อพ้นจากการพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล

เพราะสุดท้ายสภาวะธรรม อันเป็นจิต มันเป็นเช่นนั้น

ธรรมสุดท้าย ก็ ธรรม คือ จิต นั่นล่ะ


พี่เอก้อนขา

แบบนี้ใช่มั๊ยคะ

ปรากฎการรู้ของวิญญาน ทีหลายๆคน หลงไปจริงๆจังๆ

ว่า เห็นๆนะ ได้ยินๆนะ ได้กลื่นๆนะ โรสๆนะ สัมผัสๆนะ และปัญญาๆ นะ คือผู้รู้

การพิจารณาเห็นธรรมส่วนนึง ส่วนนั้นคือ กุศลา อกุศลา อัพพยากตา

และพิจารณาลงต่อด้วย อนิจจะ ทุกขะ อนัตตะ

และเพราะอวิชชา จึงเป็นเหตุให้จิตคลุกเคล้าไปกับเจตสิกสังขารอย่างไม่ลดละจนเป็นเนื้อเดียวกัน

กระนั้น ยังมีเวลาปรากฎ แม้จะเป็นปัจจุบันเวลา

จนกว่า จะพ้นจากเวลาทั้งสามกาล

เหลือแต่ ดวงใจของพ่อ หรอคะ พี่เอก้อน ?

สาธุๆๆ นะคะ
เมไปหละ บ๊ายบาย

จะส่งข่าวไปแสนโกฎโลกธาตุให้ค่ะ




ขอบคุณค่ะ :b8: :b1:

ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ

:b1:

ดวงใจของพ่อ

มีน้อยคนที่จะใช้คำพูดประโยคนี้ ...

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2018, 03:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
การเห็นการทำงานของ อายตนะภายใน-ภายนอก เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งแห่งการปรากฎการรู้

เป็นการพิจารณาเห็นธรรมในส่วนหนึ่ง ที่นำไปสู่การตรัสรู้

กระนั้น พระองค์ก็ยังคงพิจารณาเห็นธรรมในอีกหลาย ๆ ส่วนที่เป็นปัจจัยนำไปสู่
การเห็นไตรลักษณ์

การพิจารณาเห็นอ่อน แข็ง การพิจารณาการได้ยินเสียง การเห็นสี
ก็เป็นการทีจิตเข้าไปคลุกเคล้าอยู่กับอารมณ์ธรรมหนึ่ง
และยังคงไม่ยอมละจากอารมณ์ธรรมนั้น ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...

ซึ่งต้องมีสักกาลหนึ่งล่ะ ที่จิตจะคลายจากการเข้าไปคลุกอยู่กับอารมณ์ธรรมนั้น

ก็ยังไงมันต้อง คลาย สักวัน

จิตจะคลาย ไปเรื่อย ๆ

เพื่อพ้นจากการพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล

เพราะสุดท้ายสภาวะธรรม อันเป็นจิต มันเป็นเช่นนั้น

ธรรมสุดท้าย ก็ ธรรม คือ จิต นั่นล่ะ


พี่เอก้อนขา

แบบนี้ใช่มั๊ยคะ

ปรากฎการรู้ของวิญญาน ทีหลายๆคน หลงไปจริงๆจังๆ

ว่า เห็นๆนะ ได้ยินๆนะ ได้กลื่นๆนะ โรสๆนะ สัมผัสๆนะ และปัญญาๆ นะ คือผู้รู้

การพิจารณาเห็นธรรมส่วนนึง ส่วนนั้นคือ กุศลา อกุศลา อัพพยากตา

และพิจารณาลงต่อด้วย อนิจจะ ทุกขะ อนัตตะ

และเพราะอวิชชา จึงเป็นเหตุให้จิตคลุกเคล้าไปกับเจตสิกสังขารอย่างไม่ลดละจนเป็นเนื้อเดียวกัน

กระนั้น ยังมีเวลาปรากฎ แม้จะเป็นปัจจุบันเวลา

จนกว่า จะพ้นจากเวลาทั้งสามกาล

เหลือแต่ ดวงใจของพ่อ หรอคะ พี่เอก้อน ?

สาธุๆๆ นะคะ
เมไปหละ บ๊ายบาย

จะส่งข่าวไปแสนโกฎโลกธาตุให้ค่ะ




ขอบคุณค่ะ :b8: :b1:

ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ

:b1:

ดวงใจของพ่อ

มีน้อยคนที่จะใช้คำพูดประโยคนี้ ...

:b1:


เมก็ว่านะ

"ดวงใจของพ่อ" คำนี้คงมีความหมายสำคัญที่สุด สำหรับพี่เอก้อน

เม เรยไปเลือกเอาคำว่า "ดวงใจของพ่อ" มาจากตลาดนัดมาฝากค่ะ คิคิ


อุปทานและการปล่อยตัวให้ตกอยู่ภายไต้อำนาจของอายตนะ
จึงพากัน เฝ้ามอง จดจ่อ ติดตาม ตามเรียน ตามรู้ อยู่แต่ในกระบวนการหลอกลวงของวิญญาน
เคลิบเคลิ้มสุขใจไปกับ การเห็น ธรรมชาติของการเกิดดับ เกิดดับๆๆ อยู่ร่ำไป อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นั่นเป็นเพียงธรรมชาติที่แท้จริงของภพภูมิสัตตาวาส

เพิกถอนและปลดปล่อย ถอยห่าง ละวาง เลิกยึดมั่น และออกจากความหลงในภาระหน้าที่ทำแบบนั้น

แสงสว่างรุ่งเรืองธรรมฝ่ายจิต ก็จะสว่างส่องนำทางเปิดให้เห็น
ธรรมชาติอันบริสุทธิ์แท้จริง ที่ไม่เคยได้พบมาเรยตลอดการเดินทางในสังสารวัฎ

บ๊ายบายค่ะ



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ย. 2018, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
โลกสวย เขียน:
eragon_joe เขียน:
การเห็นการทำงานของ อายตนะภายใน-ภายนอก เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งแห่งการปรากฎการรู้

เป็นการพิจารณาเห็นธรรมในส่วนหนึ่ง ที่นำไปสู่การตรัสรู้

กระนั้น พระองค์ก็ยังคงพิจารณาเห็นธรรมในอีกหลาย ๆ ส่วนที่เป็นปัจจัยนำไปสู่
การเห็นไตรลักษณ์

การพิจารณาเห็นอ่อน แข็ง การพิจารณาการได้ยินเสียง การเห็นสี
ก็เป็นการทีจิตเข้าไปคลุกเคล้าอยู่กับอารมณ์ธรรมหนึ่ง
และยังคงไม่ยอมละจากอารมณ์ธรรมนั้น ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...

ซึ่งต้องมีสักกาลหนึ่งล่ะ ที่จิตจะคลายจากการเข้าไปคลุกอยู่กับอารมณ์ธรรมนั้น

ก็ยังไงมันต้อง คลาย สักวัน

จิตจะคลาย ไปเรื่อย ๆ

เพื่อพ้นจากการพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล

เพราะสุดท้ายสภาวะธรรม อันเป็นจิต มันเป็นเช่นนั้น

ธรรมสุดท้าย ก็ ธรรม คือ จิต นั่นล่ะ


พี่เอก้อนขา

แบบนี้ใช่มั๊ยคะ

ปรากฎการรู้ของวิญญาน ทีหลายๆคน หลงไปจริงๆจังๆ

ว่า เห็นๆนะ ได้ยินๆนะ ได้กลื่นๆนะ โรสๆนะ สัมผัสๆนะ และปัญญาๆ นะ คือผู้รู้

การพิจารณาเห็นธรรมส่วนนึง ส่วนนั้นคือ กุศลา อกุศลา อัพพยากตา

และพิจารณาลงต่อด้วย อนิจจะ ทุกขะ อนัตตะ

และเพราะอวิชชา จึงเป็นเหตุให้จิตคลุกเคล้าไปกับเจตสิกสังขารอย่างไม่ลดละจนเป็นเนื้อเดียวกัน

กระนั้น ยังมีเวลาปรากฎ แม้จะเป็นปัจจุบันเวลา

จนกว่า จะพ้นจากเวลาทั้งสามกาล

เหลือแต่ ดวงใจของพ่อ หรอคะ พี่เอก้อน ?

สาธุๆๆ นะคะ
เมไปหละ บ๊ายบาย

จะส่งข่าวไปแสนโกฎโลกธาตุให้ค่ะ




ขอบคุณค่ะ :b8: :b1:

ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ ดวงใจของพ่อ

:b1:

ดวงใจของพ่อ

มีน้อยคนที่จะใช้คำพูดประโยคนี้ ...

:b1:


เมก็ว่านะ

"ดวงใจของพ่อ" คำนี้คงมีความหมายสำคัญที่สุด สำหรับพี่เอก้อน

เม เรยไปเลือกเอาคำว่า "ดวงใจของพ่อ" มาจากตลาดนัดมาฝากค่ะ คิคิ


อุปทานและการปล่อยตัวให้ตกอยู่ภายไต้อำนาจของอายตนะ
จึงพากัน เฝ้ามอง จดจ่อ ติดตาม ตามเรียน ตามรู้ อยู่แต่ในกระบวนการหลอกลวงของวิญญาน
เคลิบเคลิ้มสุขใจไปกับ การเห็น ธรรมชาติของการเกิดดับ เกิดดับๆๆ อยู่ร่ำไป อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นั่นเป็นเพียงธรรมชาติที่แท้จริงของภพภูมิสัตตาวาส

เพิกถอนและปลดปล่อย ถอยห่าง ละวาง เลิกยึดมั่น และออกจากความหลงในภาระหน้าที่ทำแบบนั้น

แสงสว่างรุ่งเรืองธรรมฝ่ายจิต ก็จะสว่างส่องนำทางเปิดให้เห็น
ธรรมชาติอันบริสุทธิ์แท้จริง ที่ไม่เคยได้พบมาเรยตลอดการเดินทางในสังสารวัฎ

บ๊ายบายค่ะ



ใช่ คำนี้เป็นคำที่มีความหมายสำคัญที่สุดสำหรับพี่เอกอนจริง ๆ :b16: :b16:

ต้องยอมรับว่า น้องเม รู้ใจพี่เอกอน :b1:

ไปเลือกหยิบ ดวงใจของพ่อ มาจากตลาดนัดได้

ทั้ง ๆ ที่ในตลาดนัด มีคำมากมาย ...

แต่ก็เลือกหยิบคำนี้ คำที่ดูจะไม่เกี่ยวกับธรรม ไม่เกี่ยวกับจิต เลย

แต่คำนี้เป็นคำที่พี่เอกอนรู้สึกถึง และ มีความทรงจำกับคำนี้

ความทรงจำเกี่ยวกับสภาวะธรรมของ พ่อ

พี่เอกอนรู้สึกถึงสิ่งนั้นว่า พ่อ

ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครนะ แต่น้องเมอ่านใจได้... :b1:

...

:b1: ... จริง ๆ ... :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 00:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
ความเข้าใจความจริงตามคำสอน
เกิดจากการฟังและไตร่ตรองจนรู้
ความจริงที่กำลังมีที่กายจิตตนมี
การส่งไปรู้นอกกายใจคือกิเลส
เพราะปัญญารู้ชัดสิ่งที่กำลังมี
ขณะที่ส่งออกไปกว้านอกุศล
ภายนอกเข้าไปทับถมกิเลส
ของตนให้มีกำลังแรงขึ้น
แก้ยากขึ้นละไม่รู้ไม่ได้
เกิดอีกนานเพราะรู้คือ
เข้าใจจิตตรงสัจจะ
ที่ตนกำลังมีเท่านั้น
และต้องขณะฟังอยู่
จึงชื่อว่าเป็นผู้รู้ตามจนตรงจริงๆ
ตามเสียงเพื่อตามรู้ความจริงเป็นปกติ
แต่ละทางจนตรงรู้อารมณ์ทุกอย่างตามปกติ
ที่ตนกำลังมีทั่ว6ทางตามรู้วิสยรูปที่ปรากฏก่อนดับ
:b12:
:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 08:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ่านแตกก็จะเข้าใจสภาพธัมมะ ๔ ประการ

อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒานปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.

ธรรมะ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติกราบไหว้อ่อนน้อมต่อท่านผู้เจริญเป็นนิตย์.

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ่านแตกก็จะเข้าใจสภาพธัมมะ ๔ ประการ

อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒานปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.

ธรรมะ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติกราบไหว้อ่อนน้อมต่อท่านผู้เจริญเป็นนิตย์.

onion
ปัญญาที่เพิ่มขึ้นทำให้จิตอ่อนน้อมไปใน
คำตถาคตคือรู้ความจริงตามเสียงได้น๊า
รู้จักความเป็นปกติตามปกติภพภูมิไหม
คิดได้ทีละคำจึงต้องเพียรเข้าใจทีละคำ
ตามปกติลืมตาเห็นอะไรก็ปกติภพภูมินั้นๆ
เพราะสิ่งต่างๆเนรมิตไปตามกรรมที่ทำจริงๆ
นรกสวรรค์พรหมโลกก็ไม่มีตามปรมัตถสัจจะ
แต่สมมุติสัจจะมีตามบัญญัติคำต่างๆให้เรียกถูก
ความจริงที่กำลังมีจริงๆตามคำสอนไม่ใช่สัตว์วัตถุ
แล้วมีอะไรก็มีสัจจะธัมมะคือจิตเจตสิกรูปนิพพานไง
เป็นแต่ละ1ทีละ1หลากหลายไม่ซ้ำดับไม่กลับมาอีกจนกว่า
จะถึงนิพพานจึงเป็นความจริงที่เที่ยงแท้แน่นอนอย่างอื่นไม่มี
ตถาคตรู้ความจริงทั้งหมดนั้นแล้วโดยละเอียดมาก่อนจะแสดงน๊า
เพราะทรงตรัสรู้ในชาติสุดท้ายเท่านั้นที่ไม่ต้องฟังจากใครทำมาเยอะ
ฟังบ้างนะก่อนจะไม่มีโอกาสฟังเพราะความจริงตามคำสอนต้องรู้ตามปัญญาที่เพิ่มขึ้นเริ่มต้นที่ฟังทุกครั้ง
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
การเห็นการทำงานของ อายตนะภายใน-ภายนอก เป็นเพียงกระบวนการหนึ่งแห่งการปรากฎการรู้

เป็นการพิจารณาเห็นธรรมในส่วนหนึ่ง ที่นำไปสู่การตรัสรู้

กระนั้น พระองค์ก็ยังคงพิจารณาเห็นธรรมในอีกหลาย ๆ ส่วนที่เป็นปัจจัยนำไปสู่
การเห็นไตรลักษณ์

การพิจารณาเห็นอ่อน แข็ง การพิจารณาการได้ยินเสียง การเห็นสี
ก็เป็นการทีจิตเข้าไปคลุกเคล้าอยู่กับอารมณ์ธรรมหนึ่ง
และยังคงไม่ยอมละจากอารมณ์ธรรมนั้น ๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ...

ซึ่งต้องมีสักกาลหนึ่งล่ะ ที่จิตจะคลายจากการเข้าไปคลุกอยู่กับอารมณ์ธรรมนั้น

ก็ยังไงมันต้อง คลาย สักวัน

จิตจะคลาย ไปเรื่อย ๆ

เพื่อพ้นจากการพิจารณาทั้งหมดทั้งมวล

เพราะสุดท้ายสภาวะธรรม อันเป็นจิต มันเป็นเช่นนั้น

ธรรมสุดท้าย ก็ ธรรม คือ จิต นั่นล่ะ

สภาพธรรมที่กำลังเกิดดับทำงานภายในนั้นมีแล้วตลอดเวลา
ความไม่รู้ตรงความจริงตามภพภูมินั่นแหละคือกิเลสแปลว่าไม่รู้
ปกติเป็นมนุษย์พูดทีละ1คำคือเริ่มจากพยาวงค์แรกก่อนนะคะ
และการจะฟังเป็นประโยคและเรื่องราวนั้นเป็นจิตคิดนึกจำหลายคำ
ถ้าคิดพูดทำด้วยตนเองตลอดเวลาคือขาดสุตมยปัญญาตามคำสอนกิเลสไหลแล้วเชื่อไหมคะ
ตถาคตบอกแบบนี้นะฟังเพื่อรู้ตามได้คือเป็นสาวกที่รู้ความจริงตามตรงคำตรงปัจจุบันจนกว่าจะรู้ตรงจริงน๊า
แต่ทรงกำกับอีกว่าไม่ใช่ให้เชื่อแต่ให้ฟังเพื่อปัญญาปรากฏว่ารู้ชัดทีละ1สัจจะไม่ใช่คิดเอาเองทุกคำไม่ตามนะ
เอาชัดๆยังหิวข้าวยังอยากเห็นยังปรุงรสอาหารอยู่ยังชอบใจในกามคุณ5อยู่ยังไม่ตรงสัจจะคือไม่คิดตามไง
เพราะคิดตามคำสอนต้องตรงตามเสียงจากฟังเดี๋ยวนี้คือกิเลสตนไหลตามคิดเองไงคะลืมแล้วไม่ได้กำลังฟังนี่
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 09:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ่านแตกก็จะเข้าใจสภาพธัมมะ ๔ ประการ

อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒานปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.

ธรรมะ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติกราบไหว้อ่อนน้อมต่อท่านผู้เจริญเป็นนิตย์.

onion
ปัญญาที่เพิ่มขึ้นทำให้จิตอ่อนน้อมไปใน
คำตถาคตคือรู้ความจริงตามเสียงได้น๊า
รู้จักความเป็นปกติตามปกติภพภูมิไหม
คิดได้ทีละคำจึงต้องเพียรเข้าใจทีละคำ
ตามปกติลืมตาเห็นอะไรก็ปกติภพภูมินั้นๆ
เพราะสิ่งต่างๆเนรมิตไปตามกรรมที่ทำจริงๆ
นรกสวรรค์พรหมโลกก็ไม่มีตามปรมัตถสัจจะ
แต่สมมุติสัจจะมีตามบัญญัติคำต่างๆให้เรียกถูก
ความจริงที่กำลังมีจริงๆตามคำสอนไม่ใช่สัตว์วัตถุ
แล้วมีอะไรก็มีสัจจะธัมมะคือจิตเจตสิกรูปนิพพานไง
เป็นแต่ละ1ทีละ1หลากหลายไม่ซ้ำดับไม่กลับมาอีกจนกว่า
จะถึงนิพพานจึงเป็นความจริงที่เที่ยงแท้แน่นอนอย่างอื่นไม่มี
ตถาคตรู้ความจริงทั้งหมดนั้นแล้วโดยละเอียดมาก่อนจะแสดงน๊า
เพราะทรงตรัสรู้ในชาติสุดท้ายเท่านั้นที่ไม่ต้องฟังจากใครทำมาเยอะ
ฟังบ้างนะก่อนจะไม่มีโอกาสฟังเพราะความจริงตามคำสอนต้องรู้ตามปัญญาที่เพิ่มขึ้นเริ่มต้นที่ฟังทุกครั้ง


ผสมกันเหมือนอะไรน้า ที่เขาใส่รวมกันหลายๆอย่าง อันนั้นแหละ ฉันใด อิอิ คุณโรสก็ฉันนั้น เอานั่นนิดนี่หน่อยผสมกัน เช่น คำตถาคต,เสียง,ภพภูมิ,ลืมตา,เนรมิต,ตามกรรม,นรก,สวรรค์,พรหมโลก,ปรมัตถสัจจะ,สมมติสัจจะ,บัญญัติ,สัตว์วัตถุ,จิต, เจตสิก,รูป,นิพพาน,ชาติสุดท้าย เริ่มต้นที่ฟัง คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 10:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
...
ถ้าคิดพูดทำด้วยตนเองตลอดเวลาคือขาดสุตมยปัญญาตามคำสอนกิเลสไหลแล้วเชื่อไหมคะ
...
:b12:
:b32: :b32:


eragon_joe เขียน:
...
...
...
ความทรงจำเกี่ยวกับสภาวะธรรมของ พ่อ

พี่เอกอนรู้สึกถึงสิ่งนั้นว่า พ่อ

ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครนะ แต่น้องเมอ่านใจได้... :b1:

...

:b1: ... จริง ๆ ... :b1:


แล้วคุณ Rosarin เชื่อมั๊ย ว่าเบื้องหลังกลุ่มของน้องเม อ่านใจเอกอนได้ ... :b1: :b1:

ในวิถีของผู้ศึกษาปฏิบัติธรรม อย่ายึดกับอะไรมากเกินไปค่ะ

บางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ที่คิด ที่โนน่ นี่ นั่น

ภาษาบางอย่าง เป็นภาษาที่ส่งกันแบบ ใจถึงใจ จิตสู่จิต

คำบางคำนั้นสั้น แต่เรื่องราวมันอาจจะเป็น อภิมหากาพย์

เพราะ คำสั้น ๆ ที่คนสองคนที่อยู่กันต่างที่ ต่างไม่เคยพบไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จัก

แต่สื่อกันรู้เรื่อง ... เพราะ มันคือ เรื่องราวที่มีอยู่จริง ในแบบที่ยากที่คนทั่วไปเข้าใจ

...ซึ่ง อ.สุจินต์ คงนำมาสอนไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ประสบ...

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ่านแตกก็จะเข้าใจสภาพธัมมะ ๔ ประการ

อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒานปจายิโน
จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.

ธรรมะ ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติกราบไหว้อ่อนน้อมต่อท่านผู้เจริญเป็นนิตย์.

onion
ปัญญาที่เพิ่มขึ้นทำให้จิตอ่อนน้อมไปใน
คำตถาคตคือรู้ความจริงตามเสียงได้น๊า
รู้จักความเป็นปกติตามปกติภพภูมิไหม
คิดได้ทีละคำจึงต้องเพียรเข้าใจทีละคำ
ตามปกติลืมตาเห็นอะไรก็ปกติภพภูมินั้นๆ
เพราะสิ่งต่างๆเนรมิตไปตามกรรมที่ทำจริงๆ
นรกสวรรค์พรหมโลกก็ไม่มีตามปรมัตถสัจจะ
แต่สมมุติสัจจะมีตามบัญญัติคำต่างๆให้เรียกถูก
ความจริงที่กำลังมีจริงๆตามคำสอนไม่ใช่สัตว์วัตถุ
แล้วมีอะไรก็มีสัจจะธัมมะคือจิตเจตสิกรูปนิพพานไง
เป็นแต่ละ1ทีละ1หลากหลายไม่ซ้ำดับไม่กลับมาอีกจนกว่า
จะถึงนิพพานจึงเป็นความจริงที่เที่ยงแท้แน่นอนอย่างอื่นไม่มี
ตถาคตรู้ความจริงทั้งหมดนั้นแล้วโดยละเอียดมาก่อนจะแสดงน๊า
เพราะทรงตรัสรู้ในชาติสุดท้ายเท่านั้นที่ไม่ต้องฟังจากใครทำมาเยอะ
ฟังบ้างนะก่อนจะไม่มีโอกาสฟังเพราะความจริงตามคำสอนต้องรู้ตามปัญญาที่เพิ่มขึ้นเริ่มต้นที่ฟังทุกครั้ง


ผสมกันเหมือนอะไรน้า ที่เขาใส่รวมกันหลายๆอย่าง อันนั้นแหละ ฉันใด อิอิ คุณโรสก็ฉันนั้น เอานั่นนิดนี่หน่อยผสมกัน เช่น คำตถาคต,เสียง,ภพภูมิ,ลืมตา,เนรมิต,ตามกรรม,นรก,สวรรค์,พรหมโลก,ปรมัตถสัจจะ,สมมติสัจจะ,บัญญัติ,สัตว์วัตถุ,จิต, เจตสิก,รูป,นิพพาน,ชาติสุดท้าย เริ่มต้นที่ฟัง คิกๆๆ

Kiss
:b32:
ปัญญาคือตัวจริงของธัมมะที่กำลังปรากฏว่ามีตอนกำลังคิดตามเสียงตรงตามได้เดี๋ยวนี้ไม่ตรงแปลว่าไม่รู้
เพราะไม่รู้ตามภาษาบาลีใช้คำว่ามีกิเลสแปลว่ามีความไม่รู้ความจริงที่กำลังปรากฏว่าเกิดดับตามเหตุปัจจัย
มีแล้วแปลว่าเดี๋ยวนี้เลยอวิชชาเกิดแปลว่าความจริงกำลังเกิดดับอยู่มีแล้วกำลังมีด้วยกับอวิชชาคุณอยู่ค่ะ
:b32:
:b13: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 10:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
ที่ไม่มีคือปัญญาเพราะขาดสุตมยปัญญาคือสัจญาณคือปริยัติรอบรู้ตัวจริงธัมมะตรงตามเสียงค่ะ
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 11:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
:b12:
ที่ไม่มีคือปัญญาเพราะขาดสุตมยปัญญาคือสัจญาณคือปริยัติรอบรู้ตัวจริงธัมมะตรงตามเสียงค่ะ


จับแพะชนแกะกันไป เช่น ปัญญา, สุตมยปัญญา, สัจญาณ, ปริยัติ, ธัมมะ, เสียง :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 20:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:
...
ถ้าคิดพูดทำด้วยตนเองตลอดเวลาคือขาดสุตมยปัญญาตามคำสอนกิเลสไหลแล้วเชื่อไหมคะ
...
:b12:
:b32: :b32:


eragon_joe เขียน:
...
...
...
ความทรงจำเกี่ยวกับสภาวะธรรมของ พ่อ

พี่เอกอนรู้สึกถึงสิ่งนั้นว่า พ่อ

ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครนะ แต่น้องเมอ่านใจได้... :b1:

...

:b1: ... จริง ๆ ... :b1:


แล้วคุณ Rosarin เชื่อมั๊ย ว่าเบื้องหลังกลุ่มของน้องเม อ่านใจเอกอนได้ ... :b1: :b1:

ในวิถีของผู้ศึกษาปฏิบัติธรรม อย่ายึดกับอะไรมากเกินไปค่ะ

บางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ที่คิด ที่โนน่ นี่ นั่น

ภาษาบางอย่าง เป็นภาษาที่ส่งกันแบบ ใจถึงใจ จิตสู่จิต

คำบางคำนั้นสั้น แต่เรื่องราวมันอาจจะเป็น อภิมหากาพย์

เพราะ คำสั้น ๆ ที่คนสองคนที่อยู่กันต่างที่ ต่างไม่เคยพบไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จัก

แต่สื่อกันรู้เรื่อง ... เพราะ มันคือ เรื่องราวที่มีอยู่จริง ในแบบที่ยากที่คนทั่วไปเข้าใจ

...ซึ่ง อ.สุจินต์ คงนำมาสอนไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ประสบ...

:b1:

:b32:
อ่านตอนที่มีหมอดูตรวจกะโหลกแล้วรู้ว่าไปเกิดที่ไหนไหมคะ
ความจริงตรงสัจจะส่งออกไปรู้ที่กายใจคนอื่นรู้เรื่องคนอื่น
ไม่รู้จักกิเลสตนเองจะให้ว่าอย่างไรกรรมฐานรู้ที่ไหนคะ
กิเลสละเอียดส่งออกตลอดอยากรู้คนอื่นคิดยังไง
กว้านอกุศลของคนอื่นมาปรุงกิเลสตนเองไงคะ
ความจริงกรรมฐานรู้ที่กายใจผู้อื่นหรือค๊ะ
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2018, 20:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
eragon_joe เขียน:
Rosarin เขียน:
...
ถ้าคิดพูดทำด้วยตนเองตลอดเวลาคือขาดสุตมยปัญญาตามคำสอนกิเลสไหลแล้วเชื่อไหมคะ
...
:b12:
:b32: :b32:


eragon_joe เขียน:
...
...
...
ความทรงจำเกี่ยวกับสภาวะธรรมของ พ่อ

พี่เอกอนรู้สึกถึงสิ่งนั้นว่า พ่อ

ก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครนะ แต่น้องเมอ่านใจได้... :b1:

...

:b1: ... จริง ๆ ... :b1:


แล้วคุณ Rosarin เชื่อมั๊ย ว่าเบื้องหลังกลุ่มของน้องเม อ่านใจเอกอนได้ ... :b1: :b1:

ในวิถีของผู้ศึกษาปฏิบัติธรรม อย่ายึดกับอะไรมากเกินไปค่ะ

บางอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น ที่คิด ที่โนน่ นี่ นั่น

ภาษาบางอย่าง เป็นภาษาที่ส่งกันแบบ ใจถึงใจ จิตสู่จิต

คำบางคำนั้นสั้น แต่เรื่องราวมันอาจจะเป็น อภิมหากาพย์

เพราะ คำสั้น ๆ ที่คนสองคนที่อยู่กันต่างที่ ต่างไม่เคยพบไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จัก

แต่สื่อกันรู้เรื่อง ... เพราะ มันคือ เรื่องราวที่มีอยู่จริง ในแบบที่ยากที่คนทั่วไปเข้าใจ

...ซึ่ง อ.สุจินต์ คงนำมาสอนไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ประสบ...

:b1:

:b32:
อ่านตอนที่มีหมอดูตรวจกะโหลกแล้วรู้ว่าไปเกิดที่ไหนไหมคะ
ความจริงตรงสัจจะส่งออกไปรู้ที่กายใจคนอื่นรู้เรื่องคนอื่น
ไม่รู้จักกิเลสตนเองจะให้ว่าอย่างไรกรรมฐานรู้ที่ไหนคะ
กิเลสละเอียดส่งออกตลอดอยากรู้คนอื่นคิดยังไง
กว้านอกุศลของคนอื่นมาปรุงกิเลสตนเองไงคะ
ความจริงกรรมฐานรู้ที่กายใจผู้อื่นหรือค๊ะ



หมอดูไปตรวจกะโหลกใครอีกล่ะ โยงมั่วไปเรื่อย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 151 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร