56488.สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

student

เห็นตรงทีละหนึ่งขณะจิตอะไรน่ะนะ

เห็นไปจนตายมันก็ไม่จรรโลงโลก

เพราะไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอะไรเลย

โลกสวย

จะขำ หรือจะให้เศร้าใจแทนดีคะ

การรู้ความจริงตรงขณะ ตามวิสยโคจร รูป 7 ครบ 6 ทาง ยังไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นแค่สัจจะ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ไว้ท่องจำ

คนพูดคนสอน เห็นได้อย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นจริงตามที่พูด ไม่ต้องไปสรรหาแว่นมาไส่ แล้วหละค่ะ
ไม่ต้องหยอดหูแล้วหล่ะค่ะ

การรู้จริง ใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทางต่างหาก ที่จะเป็นชั้น มัธยมต้น

นี่ยังไม่รู้จัก เรย ว่า หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นไง เชื่อถือได้ขนาดไหน
ควรไปยึดมั่นถือมั่น ได้ใหม

แล้วสิ่งที่โคจรจากภายนอก มากระทบ แล้วเข้าข้างใน จะยิ่งน่ายึดมั่นจริงๆเหรอคะ

ตาเด็ก ตาคนหนุ่มสาว ตาคนชรา ตาฝ้าฟาง ที่ต้องไปไส่แว่น
หูเด็ก หูคนหนุ่มสาว หูคนชรา ที่ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

จะขึ้น มัธยมปลายได้ ก็ต้องมีพละอินทรีย์ ของตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก่อน ด้วยมหาสติปัฎฐาน การปฎิบัติ

และจะขึ้นปริญญาได้ ก็ต้อง รู้จริง รู้ตรง ว่า อายตนะ เหล่านั้น เชื่อถือได้แค่ไหน

นี่เรียกว่า ไม่รู้ตัว ไม่ทั่วพร้อม แต่เบี่ยงเบนประเด็นไป เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

เพราะไม่เข้าใจคำสอนพระพุทธองค์ค่ะ
ว่า สัจจะแบบอนุบาล แบบประถม หรือแบบปริญญา เป็นยังไง
หูตาจมูกลิ้นกายใจ ตัวของกาย ยังเชื่อไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้

แล้วจะไปเอาโคจรรูปจากภายนอก ที่มากระทบ มาเชื่อ มายึดมั่นถือมั่น หรอคะ

ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ต้องสอดคล้องกันค่ะ

Rosarin

โลกสวย เขียน:

จะขำ หรือจะให้เศร้าใจแทนดีคะ

การรู้ความจริงตรงขณะ ตามวิสยโคจร รูป 7 ครบ 6 ทาง ยังไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นแค่สัจจะ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ไว้ท่องจำ

คนพูดคนสอน เห็นได้อย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นจริงตามที่พูด ไม่ต้องไปสรรหาแว่นมาไส่ แล้วหละค่ะ
ไม่ต้องหยอดหูแล้วหล่ะค่ะ

การรู้จริง ใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทางต่างหาก ที่จะเป็นชั้น มัธยมต้น

นี่ยังไม่รู้จัก เรย ว่า หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นไง เชื่อถือได้ขนาดไหน
ควรไปยึดมั่นถือมั่น ได้ใหม

แล้วสิ่งที่โคจรจากภายนอก มากระทบ แล้วเข้าข้างใน จะยิ่งน่ายึดมั่นจริงๆเหรอคะ

ตาเด็ก ตาคนหนุ่มสาว ตาคนชรา ตาฝ้าฟาง ที่ต้องไปไส่แว่น
หูเด็ก หูคนหนุ่มสาว หูคนชรา ที่ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

จะขึ้น มัธยมปลายได้ ก็ต้องมีพละอินทรีย์ ของตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก่อน ด้วยมหาสติปัฎฐาน การปฎิบัติ

และจะขึ้นปริญญาได้ ก็ต้อง รู้จริง รู้ตรง ว่า อายตนะ เหล่านั้น เชื่อถือได้แค่ไหน

นี่เรียกว่า ไม่รู้ตัว ไม่ทั่วพร้อม แต่เบี่ยงเบนประเด็นไป เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

เพราะไม่เข้าใจคำสอนพระพุทธองค์ค่ะ
ว่า สัจจะแบบอนุบาล แบบประถม หรือแบบปริญญา เป็นยังไง
หูตาจมูกลิ้นกายใจ ตัวของกาย ยังเชื่อไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้

แล้วจะไปเอาโคจรรูปจากภายนอก ที่มากระทบ มาเชื่อ มายึดมั่นถือมั่น หรอคะ

ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ต้องสอดคล้องกันค่ะ

ยังส่องกระจกไหมคะ
เห็นคนในกระจกไหม
คือมิจฉาทิฏฐิไงคะทันได้พึ่งคำสอนไหมคะ
กิเลสตัวเองไม่รู้เพิ่มทุกเสี้ยววินาทีตัวตนเต็มๆตรงภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิค่ะไหนคะตรงคำว่าเห็นสีไหมคะ
ตาเนื้อคุณเห็นสีไหมถึงจะมาสอนผิดๆให้คนอื่นไปทำโดยไม่ฟังคำตถาคต
:b32:

Rosarin

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

จะขำ หรือจะให้เศร้าใจแทนดีคะ

การรู้ความจริงตรงขณะ ตามวิสยโคจร รูป 7 ครบ 6 ทาง ยังไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นแค่สัจจะ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ไว้ท่องจำ

คนพูดคนสอน เห็นได้อย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นจริงตามที่พูด ไม่ต้องไปสรรหาแว่นมาไส่ แล้วหละค่ะ
ไม่ต้องหยอดหูแล้วหล่ะค่ะ

การรู้จริง ใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทางต่างหาก ที่จะเป็นชั้น มัธยมต้น

นี่ยังไม่รู้จัก เรย ว่า หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นไง เชื่อถือได้ขนาดไหน
ควรไปยึดมั่นถือมั่น ได้ใหม

แล้วสิ่งที่โคจรจากภายนอก มากระทบ แล้วเข้าข้างใน จะยิ่งน่ายึดมั่นจริงๆเหรอคะ

ตาเด็ก ตาคนหนุ่มสาว ตาคนชรา ตาฝ้าฟาง ที่ต้องไปไส่แว่น
หูเด็ก หูคนหนุ่มสาว หูคนชรา ที่ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

จะขึ้น มัธยมปลายได้ ก็ต้องมีพละอินทรีย์ ของตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก่อน ด้วยมหาสติปัฎฐาน การปฎิบัติ

และจะขึ้นปริญญาได้ ก็ต้อง รู้จริง รู้ตรง ว่า อายตนะ เหล่านั้น เชื่อถือได้แค่ไหน

นี่เรียกว่า ไม่รู้ตัว ไม่ทั่วพร้อม แต่เบี่ยงเบนประเด็นไป เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

เพราะไม่เข้าใจคำสอนพระพุทธองค์ค่ะ
ว่า สัจจะแบบอนุบาล แบบประถม หรือแบบปริญญา เป็นยังไง
หูตาจมูกลิ้นกายใจ ตัวของกาย ยังเชื่อไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้

แล้วจะไปเอาโคจรรูปจากภายนอก ที่มากระทบ มาเชื่อ มายึดมั่นถือมั่น หรอคะ

ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ต้องสอดคล้องกันค่ะ

ยังส่องกระจกไหมคะ
เห็นคนในกระจกไหม
คือมิจฉาทิฏฐิไงคะทันได้พึ่งคำสอนไหมคะ
กิเลสตัวเองไม่รู้เพิ่มทุกเสี้ยววินาทีตัวตนเต็มๆตรงภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิค่ะไหนคะตรงคำว่าเห็นสีไหมคะ
ตาเนื้อคุณเห็นสีไหมถึงจะมาสอนผิดๆให้คนอื่นไปทำโดยไม่ฟังคำตถาคต
:b32:

ในจักรวาลนี้ตถาคตคนเดียวที่บอกความจริงเพียรฟังให้เข้าใจด้วยหูตนเองเพื่อดับเห็นผิดไงค๊ะะะะ555

Rosarin

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

จะขำ หรือจะให้เศร้าใจแทนดีคะ

การรู้ความจริงตรงขณะ ตามวิสยโคจร รูป 7 ครบ 6 ทาง ยังไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นแค่สัจจะ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ไว้ท่องจำ

คนพูดคนสอน เห็นได้อย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นจริงตามที่พูด ไม่ต้องไปสรรหาแว่นมาไส่ แล้วหละค่ะ
ไม่ต้องหยอดหูแล้วหล่ะค่ะ

การรู้จริง ใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทางต่างหาก ที่จะเป็นชั้น มัธยมต้น

นี่ยังไม่รู้จัก เรย ว่า หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นไง เชื่อถือได้ขนาดไหน
ควรไปยึดมั่นถือมั่น ได้ใหม

แล้วสิ่งที่โคจรจากภายนอก มากระทบ แล้วเข้าข้างใน จะยิ่งน่ายึดมั่นจริงๆเหรอคะ

ตาเด็ก ตาคนหนุ่มสาว ตาคนชรา ตาฝ้าฟาง ที่ต้องไปไส่แว่น
หูเด็ก หูคนหนุ่มสาว หูคนชรา ที่ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

จะขึ้น มัธยมปลายได้ ก็ต้องมีพละอินทรีย์ ของตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก่อน ด้วยมหาสติปัฎฐาน การปฎิบัติ

และจะขึ้นปริญญาได้ ก็ต้อง รู้จริง รู้ตรง ว่า อายตนะ เหล่านั้น เชื่อถือได้แค่ไหน

นี่เรียกว่า ไม่รู้ตัว ไม่ทั่วพร้อม แต่เบี่ยงเบนประเด็นไป เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

เพราะไม่เข้าใจคำสอนพระพุทธองค์ค่ะ
ว่า สัจจะแบบอนุบาล แบบประถม หรือแบบปริญญา เป็นยังไง
หูตาจมูกลิ้นกายใจ ตัวของกาย ยังเชื่อไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้

แล้วจะไปเอาโคจรรูปจากภายนอก ที่มากระทบ มาเชื่อ มายึดมั่นถือมั่น หรอคะ

ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ต้องสอดคล้องกันค่ะ

ยังส่องกระจกไหมคะ
เห็นคนในกระจกไหม
คือมิจฉาทิฏฐิไงคะทันได้พึ่งคำสอนไหมคะ
กิเลสตัวเองไม่รู้เพิ่มทุกเสี้ยววินาทีตัวตนเต็มๆตรงภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิค่ะไหนคะตรงคำว่าเห็นสีไหมคะ
ตาเนื้อคุณเห็นสีไหมถึงจะมาสอนผิดๆให้คนอื่นไปทำโดยไม่ฟังคำตถาคต
:b32:

ในจักรวาลนี้ตถาคตคนเดียวที่บอกความจริงเพียรฟังให้เข้าใจด้วยหูตนเองเพื่อดับเห็นผิดไงค๊ะะะะ555

รู้จักความเป็นผู้มีปกติลืมตาตื่นรู้ความจริงตามคำสอนทันทีไหมคะคือเดียวนี้ต้องรู้ตามตามตามตามตามได้
ตามรู้ความจริงตามเสียงปรโตโฆสะตลอดสายจะปล่อยกิเลสตนเองไหลไปเรื่อยๆเลยหรือก็
ตถาคตบอกว่าพระองค์เป็นแต่เพียงผู้บอกหน้าที่ฟังทำเป็นไหมคะ
https://youtu.be/A3rNJcFfUF4

Rosarin

student เขียน:

เห็นตรงทีละหนึ่งขณะจิตอะไรน่ะนะ

เห็นไปจนตายมันก็ไม่จรรโลงโลก

เพราะไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอะไรเลย

นี่ก็อีกคนส่องกระจกดูเงาตัวเองหน่อยสิฟังบ้างนะตายแล้วฟังไม่ได้เลย

ถ้ายังเห็นตัวคนคือมิจฉาจะเป็นสัมมาได้ตอนคิดตามตามตามตามตามคำสอนได้คร่าาาาาา
:b32:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

จะขำ หรือจะให้เศร้าใจแทนดีคะ

การรู้ความจริงตรงขณะ ตามวิสยโคจร รูป 7 ครบ 6 ทาง ยังไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นแค่สัจจะ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ไว้ท่องจำ

คนพูดคนสอน เห็นได้อย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นจริงตามที่พูด ไม่ต้องไปสรรหาแว่นมาไส่ แล้วหละค่ะ
ไม่ต้องหยอดหูแล้วหล่ะค่ะ

การรู้จริง ใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทางต่างหาก ที่จะเป็นชั้น มัธยมต้น

นี่ยังไม่รู้จัก เรย ว่า หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นไง เชื่อถือได้ขนาดไหน
ควรไปยึดมั่นถือมั่น ได้ใหม

แล้วสิ่งที่โคจรจากภายนอก มากระทบ แล้วเข้าข้างใน จะยิ่งน่ายึดมั่นจริงๆเหรอคะ

ตาเด็ก ตาคนหนุ่มสาว ตาคนชรา ตาฝ้าฟาง ที่ต้องไปไส่แว่น
หูเด็ก หูคนหนุ่มสาว หูคนชรา ที่ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

จะขึ้น มัธยมปลายได้ ก็ต้องมีพละอินทรีย์ ของตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก่อน ด้วยมหาสติปัฎฐาน การปฎิบัติ

และจะขึ้นปริญญาได้ ก็ต้อง รู้จริง รู้ตรง ว่า อายตนะ เหล่านั้น เชื่อถือได้แค่ไหน

นี่เรียกว่า ไม่รู้ตัว ไม่ทั่วพร้อม แต่เบี่ยงเบนประเด็นไป เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

เพราะไม่เข้าใจคำสอนพระพุทธองค์ค่ะ
ว่า สัจจะแบบอนุบาล แบบประถม หรือแบบปริญญา เป็นยังไง
หูตาจมูกลิ้นกายใจ ตัวของกาย ยังเชื่อไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้

แล้วจะไปเอาโคจรรูปจากภายนอก ที่มากระทบ มาเชื่อ มายึดมั่นถือมั่น หรอคะ

ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ต้องสอดคล้องกันค่ะ

ยังส่องกระจกไหมคะ
เห็นคนในกระจกไหม
คือมิจฉาทิฏฐิไงคะทันได้พึ่งคำสอนไหมคะ
กิเลสตัวเองไม่รู้เพิ่มทุกเสี้ยววินาทีตัวตนเต็มๆตรงภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิค่ะไหนคะตรงคำว่าเห็นสีไหมคะ
ตาเนื้อคุณเห็นสีไหมถึงจะมาสอนผิดๆให้คนอื่นไปทำโดยไม่ฟังคำตถาคต
:b32:

ในจักรวาลนี้ตถาคตคนเดียวที่บอกความจริงเพียรฟังให้เข้าใจด้วยหูตนเองเพื่อดับเห็นผิดไงค๊ะะะะ555

รู้จักความเป็นผู้มีปกติลืมตาตื่นรู้ความจริงตามคำสอนทันทีไหมคะคือเดียวนี้ต้องรู้ตามตามตามตามตามได้
ตามรู้ความจริงตามเสียงปรโตโฆสะตลอดสายจะปล่อยกิเลสตนเองไหลไปเรื่อยๆเลยหรือก็
ตถาคตบอกว่าพระองค์เป็นแต่เพียงผู้บอกหน้าที่ฟังทำเป็นไหมคะ
https://youtu.be/A3rNJcFfUF4

student

คุณโลกสวยเขาก็พูดได้ถูกต้องดีแล้ว

เหตุปัจจัยทั้งหลายล้วนเป็นทุกข์

คุณมีนิสัยชอบต่อต้าน ใครพูดอะไรขอต่อต้านไว้ก่อน

เพราะความเอียงของความคิด ก็จะเอียงซ้ายที ขวาที

เขาพูดถูกก็บอกมิจฉาทิฐิ

เพราะความโลเลสับสน จึงไม่สามารถต้านคลื่นพลังแห่งความถูกต้องได้

student

เข้ามาตอบทีก็ไม่สามารถฝากธรรมะให้คนเขาชื่นชม

มาทีก็เหมือนคนหลงประเด็น พูดเรื่องหนึ่ง ก็หลงไปอธิบายอีกเรื่อง

ไม่เคยตรง ไม่เคยตอบตรงประเด็น

เขาพูดเรื่อง เขาพูดเรื่องประเพณีพุทธศาสนา ก็หันไปตอบหูฟังสัจจะตรง

พอเขาพูดเรื่องธรรมมะการคบกัลยาณมิตร ก็หันไปตอบชาติเกิดนับครั้งไม่ถ้วน

พอเขาพูดเรื่องทุกข์ ทุกอย่างล้วนเป็นทุกข์ ก็หันไปชี้ว่าเขาเป็นมิจฉาทิฐิ

คือ ไม่มีความแน่ชัดในความเห็น คืออ่านไม่ตรง ตีความหมายไม่ตรง

student

ที่บอกว่าส่องกระจกแล้วเห็นตัวมิจฉาทิฐินี่ก็ยิ่งไปกันใหญ่

ส่องความคิดตนเองสิครับถึงจะเห็นมิจฉาทิฐิ

คิดว่าด่าว่าพระแล้วจะรอดจากเงื้อมมือมารอย่างนั้นเหรอครับ

เขากำลังยิ้มต้อนรับคุณอยู่ในมหาอเวจียังไม่รู้ตัวอีก

Rosarin

student เขียน:

ที่บอกว่าส่องกระจกแล้วเห็นตัวมิจฉาทิฐินี่ก็ยิ่งไปกันใหญ่

ส่องความคิดตนเองสิครับถึงจะเห็นมิจฉาทิฐิ

คิดว่าด่าว่าพระแล้วจะรอดจากเงื้อมมือมารอย่างนั้นเหรอครับ

เขากำลังยิ้มต้อนรับคุณอยู่ในมหาอเวจียังไม่รู้ตัวอีก

ย้ำอ่านไม่เข้าใจต้องไม่ข้ามไปทำอย่างอื่นนะคะบรรพชิตทุกท่าน
เห็นสีดับแล้วเห็นตัวตนตัวเองในกระจกคือมิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ
คำตถาคตบอกว่าภิกษุที่ขอบวชแต่รับเงินเป็นอลัชชีไม่ใช่พระเพราะพระแปลว่าประเสริฐ
บรรพชิตรับเงินใช้เงินอาบัติแปลว่าขาดจากสิกขาบทคือทุศีลไม่มีหิริโอตัปปะรับเงินทุกวัน
คือโจรปล้นศาสนา(คำสอน)แอบอ้างกล่าวคำตถาคตเพื่อรับเงินทองคือเศรษฐีหัวโล้นคือคำตถาคต
:b32:

โลกสวย

Rosarin เขียน:

student เขียน:

เห็นตรงทีละหนึ่งขณะจิตอะไรน่ะนะ

เห็นไปจนตายมันก็ไม่จรรโลงโลก

เพราะไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันอะไรเลย

นี่ก็อีกคนส่องกระจกดูเงาตัวเองหน่อยสิฟังบ้างนะตายแล้วฟังไม่ได้เลย

ถ้ายังเห็นตัวคนคือมิจฉาจะเป็นสัมมาได้ตอนคิดตามตามตามตามตามคำสอนได้คร่าาาาาา
:b32:

Rosarin เขียน:

โลกสวย เขียน:

จะขำ หรือจะให้เศร้าใจแทนดีคะ

การรู้ความจริงตรงขณะ ตามวิสยโคจร รูป 7 ครบ 6 ทาง ยังไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นแค่สัจจะ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ไว้ท่องจำ

คนพูดคนสอน เห็นได้อย่างนั้นจริงหรือเปล่า ถ้าเห็นจริงตามที่พูด ไม่ต้องไปสรรหาแว่นมาไส่ แล้วหละค่ะ
ไม่ต้องหยอดหูแล้วหล่ะค่ะ

การรู้จริง ใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ 6 ทางต่างหาก ที่จะเป็นชั้น มัธยมต้น

นี่ยังไม่รู้จัก เรย ว่า หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นไง เชื่อถือได้ขนาดไหน
ควรไปยึดมั่นถือมั่น ได้ใหม

แล้วสิ่งที่โคจรจากภายนอก มากระทบ แล้วเข้าข้างใน จะยิ่งน่ายึดมั่นจริงๆเหรอคะ

ตาเด็ก ตาคนหนุ่มสาว ตาคนชรา ตาฝ้าฟาง ที่ต้องไปไส่แว่น
หูเด็ก หูคนหนุ่มสาว หูคนชรา ที่ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง

จะขึ้น มัธยมปลายได้ ก็ต้องมีพละอินทรีย์ ของตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก่อน ด้วยมหาสติปัฎฐาน การปฎิบัติ

และจะขึ้นปริญญาได้ ก็ต้อง รู้จริง รู้ตรง ว่า อายตนะ เหล่านั้น เชื่อถือได้แค่ไหน

นี่เรียกว่า ไม่รู้ตัว ไม่ทั่วพร้อม แต่เบี่ยงเบนประเด็นไป เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก

เพราะไม่เข้าใจคำสอนพระพุทธองค์ค่ะ
ว่า สัจจะแบบอนุบาล แบบประถม หรือแบบปริญญา เป็นยังไง
หูตาจมูกลิ้นกายใจ ตัวของกาย ยังเชื่อไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้

แล้วจะไปเอาโคจรรูปจากภายนอก ที่มากระทบ มาเชื่อ มายึดมั่นถือมั่น หรอคะ

ปริยัติ ปฎิบัติ ปฎิเวธ ต้องสอดคล้องกันค่ะ

ยังส่องกระจกไหมคะ
เห็นคนในกระจกไหม
คือมิจฉาทิฏฐิไงคะทันได้พึ่งคำสอนไหมคะ
กิเลสตัวเองไม่รู้เพิ่มทุกเสี้ยววินาทีตัวตนเต็มๆตรงภาษาบาลีว่ามิจฉาทิฏฐิค่ะไหนคะตรงคำว่าเห็นสีไหมคะ
ตาเนื้อคุณเห็นสีไหมถึงจะมาสอนผิดๆให้คนอื่นไปทำโดยไม่ฟังคำตถาคต
:b32:

ในจักรวาลนี้ตถาคตคนเดียวที่บอกความจริงเพียรฟังให้เข้าใจด้วยหูตนเองเพื่อดับเห็นผิดไงค๊ะะะะ555

รู้จักความเป็นผู้มีปกติลืมตาตื่นรู้ความจริงตามคำสอนทันทีไหมคะคือเดียวนี้ต้องรู้ตามตามตามตามตามได้
ตามรู้ความจริงตามเสียงปรโตโฆสะตลอดสายจะปล่อยกิเลสตนเองไหลไปเรื่อยๆเลยหรือก็
ตถาคตบอกว่าพระองค์เป็นแต่เพียงผู้บอกหน้าที่ฟังทำเป็นไหมคะ
https://youtu.be/A3rNJcFfUF4

คุณยายโรส จ๋า

คุณยายแสดงความเขลา ออกมาอีกแล้วหละค่ะ

คุณยายเห็นแต่สี นั่นแหละมิจฉาทิฎฐิล้นพ้นค่ะ

คุณยายก็เรยตาบอด มองอย่างอื่นโดยสงเคาะห์ลงธรรมเหล่าอื่นที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ ไม่เห็น
ไม่เห็นบัญญัติ ไม่เห็นบุคคละ
ทั้งที่พระไตรปิฎก ไม่่ได้สอนแต่สีอย่างเดียว

เพราะคุณยายไม่เรียนพระปิฎกครบสาม
เรยแสดงความเขลาซ้ำซากออกมาอีกค่ะ

เมส่องกะจกนะ และก็ส่องทะลุออกไปนอกกระจกตาด้วยค่ะ
และส่องเข้าผ่านกระจกตามาในใจด้วย

เมไม่ได้เห็นแต่สี แบบคุณยายโรส โดยต้องไปตัดแว่นให้สีชัดขึ้นแบบคุณยายโรส และคนสอนในยูทูป
แต่ เมเห็น สัมมาสักกายะทิฎฐิของเม จากกระจก และกระจกตา
และเห็นส่วนที่ไม่ได้ไปยึดถือในรูปนาม ว่า เป็นนิจจะ อัตตะ สุขขะ

เมเห็น สัมมาวิจิกิจฉา ที่ไม่ได้ กังขา ในพระพุทธคุณ ธรรมคุณ อริยะสังฆคุณ และอื่นๆ...
และก็เห็นมิจฉาทิฎฐิ และความเขลา ที่คุณยายโรสไม่ได้เรียนพระอภิธรรม
ไม่ได้เรียนพระไตรปิฎกครบสามหมู่ ด้วย

และเมก็เห็น สัมมาศีลพตปรามาส ที่เม ไม่ได้ไปถือผิด ยึดมั่นผิด ปฎิบัติผิดทางแบบคุณยายโรส ผู้หลงผิด และคิดว่าตัวเองหลงถูก ด้วยค่ะ เพราะคุณยายโรสเขลาไม่ได้เรียนปัจจัย 52 ในพระอภิธรรม เรยสงเคาะห์ลงในพระธรรรมทุกหมวดในพระไตรปิฎกไม่เป็นค่ะ

คุณยายโรส จึงได้แต่ยกยูทูปเป็นศาสดา

นี่แหละ เม แยกมิจฉาทิฎฐิ ให้คุณยายโรสดู ชัดขึ้นมั๊ยคะ

คุณยายโรสเห็นแต่สี แต่ไม่รู้จัก ไตรลักษณ์ ไม่รุ้จักบัญญัติ ไม่รู้จักอรรถกถา ไม่รู้จักสังโยชน์
คุณยายโรส ก็ยังมิจฉาทิฎฐิ ล้นพ้นเรยหละค่ะ

เมแนะนำบทสวดให้คุณยายใหม่นะคะ ว่า ยูทูปสรณังคัจฉามิ ๆๆ

กรัชกาย

กระจกวิเศษบอกข้าเถิดใครงามเลิศในปฐพี :b13:

https://pbs.twimg.com/media/DWAJLUUV4AA5l4Y.jpg:large

โลกสวย

Rosarin เขียน:

student เขียน:

ที่บอกว่าส่องกระจกแล้วเห็นตัวมิจฉาทิฐินี่ก็ยิ่งไปกันใหญ่

ส่องความคิดตนเองสิครับถึงจะเห็นมิจฉาทิฐิ

คิดว่าด่าว่าพระแล้วจะรอดจากเงื้อมมือมารอย่างนั้นเหรอครับ

เขากำลังยิ้มต้อนรับคุณอยู่ในมหาอเวจียังไม่รู้ตัวอีก

ย้ำอ่านไม่เข้าใจต้องไม่ข้ามไปทำอย่างอื่นนะคะบรรพชิตทุกท่าน
เห็นสีดับแล้วเห็นตัวตนตัวเองในกระจกคือมิจฉาทิฏฐิ=ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ
คำตถาคตบอกว่าภิกษุที่ขอบวชแต่รับเงินเป็นอลัชชีไม่ใช่พระเพราะพระแปลว่าประเสริฐ
บรรพชิตรับเงินใช้เงินอาบัติแปลว่าขาดจากสิกขาบทคือทุศีลไม่มีหิริโอตัปปะรับเงินทุกวัน
คือโจรปล้นศาสนา(คำสอน)แอบอ้างกล่าวคำตถาคตเพื่อรับเงินทองคือเศรษฐีหัวโล้นคือคำตถาคต
:b32:

คุณยายโรสขา คุณยายเห็นสีได้ คนอื่นก็เห็นได้เหมือนกันค่ะ

เค้าก็เห็นแต่สีไงคะ ก็เรยรับแต่ สีเงิน สีทอง สีแดง สีม่วง สีเทา ไงคะ คริคริ

แต่ที่บอกมา นั่นคุณยายโรสยังเห็นเป็นเงินทอง อยู่นะค๊ะ

"ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ"

"ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ"

"ความเห็นผิดไม่ได้เห็นสีคริคริคริ"

กบนอกกะลา

เพื่อนๆครับ...อย่าเสียเวลากับ..สิ่งไม่มีประโยชน์เลยครับ..

ปล่อยเธอไปเถอะ.. :b9:

Rosarin

กบนอกกะลา เขียน:

เพื่อนๆครับ...อย่าเสียเวลากับ..สิ่งไม่มีประโยชน์เลยครับ..

ปล่อยเธอไปเถอะ.. :b9:

หนทางพิสูจน์ฝีเท้าม้า
กาลเวลาพิสูจน์ใจคน
แต่ความอดทนพิสูจน์การฟัง
พระพุทธเจ้าศรีอริยเมตตรัยฟังเกิน80อสงไขย
ชาติสุดท้ายจึงไม่ฟังจากใครนะคะกบนอกกะลา555
ชาตินี้กบนอกกะลานับได้ไหมว่าฟังวันละกี่ชม.ของโรสง่วงเป็นหลับขยับตื่นเป็นฟัง555พระพุทธพจน์แท้ๆน๊า
:b32:

56488.สำนักที่สามารถสั่งสอนธรรม

ผู้ใช้งานขณะนี้