วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 21:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย


ตามนี้เลยครับ

ความเป็นกระดูก เนื้อ หนัง

ความเป็นช่องว่าง

ความเป็นเลือด เหงื่อ

ความเป็นอุณหภูมิ

การเห็น

การได้ยิน

การลิ้มรส

การสัมผัส

การได้กลิ่น

อารมณ์

ความจำ

ความรู้สึก

จิตวิญญาน

ร่างกาย

ไม่ตรงสัจจะยังมีตัวไง
:b32:
ความจริงตรงสัจจะทีละ1ไม่ปนกันไม่ซ้ำเดิม
เป็นปรมัตถธรรมจิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังมี
และกำลังเป็นไปเดี๋ยวนี้ครบแล้วแต่ตนไม่รู้1สัจจะนี่เรียกว่ามีกิเลสไงคะ
:b32:
จิต89ประเภทคือที่ตนกำลังมีคือวิญาณขันธ์แค่1ประเภท
และจิตแต่ละประเภทมีเจตสิกที่ตนต้องระลึกรู้ตรง1สัจจะ
เจตสิกมี52ประเภทเป็นเวทนาขันธ์1ประเภทเป็นสัญญาขันธ์1ประเภทและเป็นสังขารขันธ์50รู้จริงแค่1ที่มี
รูปมี28ประเภทก็ต้องรู้ตรง1ตรงขณะเดี๋ยวนี้ไม่รู้คือมีกิเลสไงคะถ้ารู้นิพพานก็คือนิพพาน1ไม่มีอื่นปนไง
สติต้องกำลังระลึกได้ตรงที่มีจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานทีละ1ประเภทที่ตนมีตรงสัจจะไม่มีตัวตน
มีแต่ตัวจริงของธัมมะที่ระลึกถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทีละ1ลักษณะตรงจริงไม่ปนกันเลยนะคะนะ
อะไรที่ตนกำลังมีตรง1สัจจะเป็นจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานต้องรู้ตรงจริงที่กำลังปรากฏไม่รู้คือไม่รู้
:b12:
:b4: :b4:

:b12:
ไม่ทันวิสยรูป7ตรง1สัจจะที่กำลังมีแปลว่าความจริงกำลังปรากฏกับอวิชชาของตนไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
การรู้ธาตุตรงสัจจะที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันมีแค่3ธาตุนะคะคือ
กระทบธาตุอะไรก็รู้ได้ทีละ1ลักษณะก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวตนอยู่แล้วน๊า
แต่มีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวตนไงรู้ตัวไหมคะ
ธาตุดินรู้ได้2ลักษณะคือแข็งหรืออ่อนก็รู้ชัดตรงที่กระทบทีละ1ไม่มีคน
onion onion onion


มั่วเลอะเทอะ

:b32:
วิปัสสนาภาวนาของจริงไม่มั่วมีแก้ไขนะคะ
Rosarin เขียน:
:b32:
การรู้ธาตุตรงสัจจะที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันมีแค่3ธาตุนะคะคือ
กระทบธาตุอะไรก็รู้ได้ทีละ1ลักษณะก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวตนอยู่แล้วน๊า
แต่มีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวตนไงรู้ตัวไหมคะ
ธาตุดินรู้ได้2ลักษณะคือแข็งหรืออ่อนก็รู้ชัดตรงที่กระทบทีละ1ไม่มีคน
ธาตุไฟแค่รู้สึกร้อนหรือเย็นธาตุลมแค่รู้สึกตึงๆไหวๆไม่มีตัวคนธาตน้ำยึดธาตุทั้ง3ไม่ให้แตกทำลายไงคะ
ตอนรู้ตรงทีละ1สัจจะตรงจริงนั่นแหละคือวิปัสสนาคือรู้แยกแยะตรงสัจจะตามเป็นจริงแ1ปรมัตถสัจจะจริง
onion onion onion

:b12:
:b32: :b32:



ไปวิปัสสนาอีกแระ วิปัสสนาตามที่คุณโรสว่า หมายถึงยังไงอ่ะ

รู้ตรงขณะทีละ1ลักษณะตอนตั้งอยู่ก่อนดับตรงจริงคือปัญญาจริงของตนทำสุตมยปัญญาเพื่อรู้ตรงสัจจะ
คือพึ่งคิดตามคำสอนตรงสัจจะตรงสิ่งที่กำลังปรากฏว่ากำลังมีก่อนดับเป็นธัมมะแต่ละ1หลากหลายจริงๆ
:b16: :b16:



อ้อ วิปัสสนาคุณโรสมันเป็นยังงี้นี่เอง :b4:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 09:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย


ตามนี้เลยครับ

ความเป็นกระดูก เนื้อ หนัง

ความเป็นช่องว่าง

ความเป็นเลือด เหงื่อ

ความเป็นอุณหภูมิ

การเห็น

การได้ยิน

การลิ้มรส

การสัมผัส

การได้กลิ่น

อารมณ์

ความจำ

ความรู้สึก

จิตวิญญาน

ร่างกาย

ไม่ตรงสัจจะยังมีตัวไง
:b32:
ความจริงตรงสัจจะทีละ1ไม่ปนกันไม่ซ้ำเดิม
เป็นปรมัตถธรรมจิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังมี
และกำลังเป็นไปเดี๋ยวนี้ครบแล้วแต่ตนไม่รู้1สัจจะนี่เรียกว่ามีกิเลสไงคะ
:b32:
จิต89ประเภทคือที่ตนกำลังมีคือวิญาณขันธ์แค่1ประเภท
และจิตแต่ละประเภทมีเจตสิกที่ตนต้องระลึกรู้ตรง1สัจจะ
เจตสิกมี52ประเภทเป็นเวทนาขันธ์1ประเภทเป็นสัญญาขันธ์1ประเภทและเป็นสังขารขันธ์50รู้จริงแค่1ที่มี
รูปมี28ประเภทก็ต้องรู้ตรง1ตรงขณะเดี๋ยวนี้ไม่รู้คือมีกิเลสไงคะถ้ารู้นิพพานก็คือนิพพาน1ไม่มีอื่นปนไง
สติต้องกำลังระลึกได้ตรงที่มีจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานทีละ1ประเภทที่ตนมีตรงสัจจะไม่มีตัวตน
มีแต่ตัวจริงของธัมมะที่ระลึกถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทีละ1ลักษณะตรงจริงไม่ปนกันเลยนะคะนะ
อะไรที่ตนกำลังมีตรง1สัจจะเป็นจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานต้องรู้ตรงจริงที่กำลังปรากฏไม่รู้คือไม่รู้


ไม่ทันวิสยรูป7ตรง1สัจจะที่กำลังมีแปลว่าความจริงกำลังปรากฏกับอวิชชาของตนไงคะ


บอกความหมาย ของ วิสยรูป 7 อย่าง กับ 1 สัจจะ กับ อวิชชา ตามความคิดคุณโรสิขอรับ ว่ามันคืออะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 10:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
คุณกรัธกายพูดได้ดีมากเลยครับ


kkk ครับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 10:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
:b32:
การรู้ธาตุตรงสัจจะที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันมีแค่3ธาตุนะคะคือ
กระทบธาตุอะไรก็รู้ได้ทีละ1ลักษณะก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวตนอยู่แล้วน๊า
แต่มีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวตนไงรู้ตัวไหมคะ
ธาตุดินรู้ได้2ลักษณะคือแข็งหรืออ่อนก็รู้ชัดตรงที่กระทบทีละ1ไม่มีคน
ธาตุไฟแค่รู้สึกร้อนหรือเย็นธาตุลมแค่รู้สึกตึงๆไหวๆไม่มีตัวคนธาตน้ำยึดธาตุทั้ง3ไม่ให้แตกทำลายไงคะ
ตอนรู้ตรงทีละ1สัจจะตรงจริงนั่นแหละคือวิปัสสนาคือรู้แยกแยะตรงสัจจะตามเป็นจริง1ปรมัตถสัจจะจริง
onion onion onion


ตกลงยอมรับว่าตนเองมีอุปาทานขันธ์

ก็แค่นี้แหละครับ ถึงได้บอกว่าธรรมะที่ออกมาจากการพยายามอธิบาย

มันขัดแย้งกันไปหมด

สัจจะที่แท้จริงคือการพูด รักษาคำพูด พูดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์

ไม่พูดให้คนอื่นเสียหาย

ทำตรงนี้ให้ได้ก่อนนะครับ

ยิ่งคุณพยายามอธิบายธรรมมากเท่าไหร่

มันก็ยิ่งย้อนให้เห็นความสับสนของคุณ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย

:b12:
ฟังเพื่อรู้ตรงความจริงที่กำลังมีเพื่อละไม่รู้ทีละขณะจากการฟังคำสอน
ไม่ใช่การจำคำสอนเอาไปทำมันเลยปัจจุบันขณะไม่เข้าใจหรือคะ
กำลังฟังว่าเป็นธัมมะที่กำลังมีจริงๆที่ระลึกตรงจริงที่กำลังมี
ไม่ทัน1สัจจะเดี๋ยวนี้แปลว่าสะสมกิเลสแล้วเข้าใจไหมคะ
ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะเห็นดับแค่3ขณะยังไม่ครบ6
ยังไม่ครบ6ทางแค่จิตขณะที่3ดับเกิดกิเลสแล้ว
เดี๋ยวนี้กะพริบตาแล้วมันเกิน6ขณะอายตนะ
เดี๋ยวนี้เลยเอากิเลสที่ดับออกยังไงคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย

:b12:
ฟังเพื่อรู้ตรงความจริงที่กำลังมีเพื่อละไม่รู้ทีละขณะจากการฟังคำสอน
ไม่ใช่การจำคำสอนเอาไปทำมันเลยปัจจุบันขณะไม่เข้าใจหรือคะ
กำลังฟังว่าเป็นธัมมะที่กำลังมีจริงๆที่ระลึกตรงจริงที่กำลังมี
ไม่ทัน1สัจจะเดี๋ยวนี้แปลว่าสะสมกิเลสแล้วเข้าใจไหมคะ
ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะเห็นดับแค่3ขณะยังไม่ครบ6
ยังไม่ครบ6ทางแค่จิตขณะที่3ดับเกิดกิเลสแล้ว
เดี๋ยวนี้กะพริบตาแล้วมันเกิน6ขณะอายตนะ
เดี๋ยวนี้เลยเอากิเลสที่ดับออกยังไงคะ
:b32: :b32:

มีแต่ต้องอดทนเพียรฟังเพื่อรู้ตามคำสอนทีละคำน๊า
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 11:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย

:b12:
ฟังเพื่อรู้ตรงความจริงที่กำลังมีเพื่อละไม่รู้ทีละขณะจากการฟังคำสอน
ไม่ใช่การจำคำสอนเอาไปทำมันเลยปัจจุบันขณะไม่เข้าใจหรือคะ
กำลังฟังว่าเป็นธัมมะที่กำลังมีจริงๆที่ระลึกตรงจริงที่กำลังมี
ไม่ทัน1สัจจะเดี๋ยวนี้แปลว่าสะสมกิเลสแล้วเข้าใจไหมคะ
ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะเห็นดับแค่3ขณะยังไม่ครบ6
ยังไม่ครบ6ทางแค่จิตขณะที่3ดับเกิดกิเลสแล้ว
เดี๋ยวนี้กะพริบตาแล้วมันเกิน6ขณะอายตนะ
เดี๋ยวนี้เลยเอากิเลสที่ดับออกยังไงคะ
:b32: :b32:

มีแต่ต้องอดทนเพียรฟังเพื่อรู้ตามคำสอนทีละคำน๊า
:b32: :b32:

ชัดไหมเดี๋ยวนี้มีแล้วจิตครบ6ทางคือ6ขณะ/ทุกขณะที่ไม่พึ่งฟังคำตถาคต
แค่จิตเห็นดับเพียง3ขณะกิเลสไหลไปในอารมณ์ที่จิตรู้ครบ6ทางเลย
:b20:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 11:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย


ตามนี้เลยครับ

ความเป็นกระดูก เนื้อ หนัง

ความเป็นช่องว่าง

ความเป็นเลือด เหงื่อ

ความเป็นอุณหภูมิ

การเห็น

การได้ยิน

การลิ้มรส

การสัมผัส

การได้กลิ่น

อารมณ์

ความจำ

ความรู้สึก

จิตวิญญาน

ร่างกาย

ไม่ตรงสัจจะยังมีตัวไง
:b32:
ความจริงตรงสัจจะทีละ1ไม่ปนกันไม่ซ้ำเดิม
เป็นปรมัตถธรรมจิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังมี
และกำลังเป็นไปเดี๋ยวนี้ครบแล้วแต่ตนไม่รู้1สัจจะนี่เรียกว่ามีกิเลสไงคะ
:b32:
จิต89ประเภทคือที่ตนกำลังมีคือวิญาณขันธ์แค่1ประเภท
และจิตแต่ละประเภทมีเจตสิกที่ตนต้องระลึกรู้ตรง1สัจจะ
เจตสิกมี52ประเภทเป็นเวทนาขันธ์1ประเภทเป็นสัญญาขันธ์1ประเภทและเป็นสังขารขันธ์50รู้จริงแค่1ที่มี
รูปมี28ประเภทก็ต้องรู้ตรง1ตรงขณะเดี๋ยวนี้ไม่รู้คือมีกิเลสไงคะถ้ารู้นิพพานก็คือนิพพาน1ไม่มีอื่นปนไง
สติต้องกำลังระลึกได้ตรงที่มีจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานทีละ1ประเภทที่ตนมีตรงสัจจะไม่มีตัวตน
มีแต่ตัวจริงของธัมมะที่ระลึกถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทีละ1ลักษณะตรงจริงไม่ปนกันเลยนะคะนะ
อะไรที่ตนกำลังมีตรง1สัจจะเป็นจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานต้องรู้ตรงจริงที่กำลังปรากฏไม่รู้คือไม่รู้


ไม่ทันวิสยรูป7ตรง1สัจจะที่กำลังมีแปลว่าความจริงกำลังปรากฏกับอวิชชาของตนไงคะ


บอกความหมาย ของ วิสยรูป 7 อย่าง กับ 1 สัจจะ กับ อวิชชา ตามความคิดคุณโรสิขอรับ ว่ามันคืออะไร

ก็อ่านไปสิคะกระทู้วิสยรูป7
viewtopic.php?f=1&t=56203
Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือเดี๋ยวนี้กำลังมี
ต้องรู้ความจริงที่กายใจตน
คือกรรมฐานตอนฟัง
เพื่อคิดถูกตรงคำ
ตรงจริงทันที
:b1:
มีแต่ความคิดผิดไปทำตามสิ่งที่เห็น
คือเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุ
มีแต่ทำตามๆกันลืม
ว่าต้องคิดตาม
คำสอน
:b16:
ขาดการฟังจึงไม่มีปัญญาเพิ่ม
การมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งมี
ตอนคิดตามฟังคำจริงเท่านั้น
:b20:
พึ่งคิดตามคำสัจจะคือ
ฝึกระลึกตามคำตถาคต
แยกนาม_รูปตามวิสยรูป7
คือสิ่งที่ปรากฏให้รู้ได้
ตามปกติประจำวัน
ตอนลืมตาตื่นรู้
1เห็น_แสงสี
2ยิน_เสียง
3ดม_กลิ่น
4ลิ้ม_รส
กายปสาทะอีก3ธาตุ
ธาตุน้ำไม่ปรากฏกระทบ
แต่ทำให้ดินไฟลมเกาะกลุ่ม
5อ่อน_แข็งคือธาตุดิน2ลักษณะ
6เย็น_ร้อนคือธาตุไฟ2ลักษณะ
7ตึง_ไหวคือธาตุลม2ลักษณะ
รู้ชัดทีละ1คำตรงจริง
ที่รู้สึกที่กายจิตตน
ผ่านอายตนะ6ตอนตื่น
คือวิปัสสนาภาวนาของจริงระลึกที่กายจิตตน
:b12:
:b4: :b4:

รู้รูปที่กำลังปรากฏตรงจริงก็ดับคนทั้งตัวแล้วตัวตนนั้นไม่มีอยู่แล้วบอกไม่รู้จักทำสุตมยปัญญาตรงขณะน๊า
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ลุงหมาน เขียน:
student เขียน:
ธาตุ4
ขันธ์5
อายตนะ6

เป็นธรรมะหลักที่พุทธทุกคนต้องศึกษาครับ
ไม่ต้องไปถามลุงหมานผมก็พิจารณาเ งได้


ถ้าขยายให้ฟังสักหน่อยก็จะดีซิครับ


มันก็คนนี่แหละ แต่ภาษาธัมมะเรียก ขันธ์ อายตนะ ธาตุ ที่พวกเราเอาไปว่ากันเรื่อยเปื่อย


ตามนี้เลยครับ

ความเป็นกระดูก เนื้อ หนัง

ความเป็นช่องว่าง

ความเป็นเลือด เหงื่อ

ความเป็นอุณหภูมิ

การเห็น

การได้ยิน

การลิ้มรส

การสัมผัส

การได้กลิ่น

อารมณ์

ความจำ

ความรู้สึก

จิตวิญญาน

ร่างกาย

ไม่ตรงสัจจะยังมีตัวไง
:b32:
ความจริงตรงสัจจะทีละ1ไม่ปนกันไม่ซ้ำเดิม
เป็นปรมัตถธรรมจิตเจตสิกรูปนิพพานกำลังมี
และกำลังเป็นไปเดี๋ยวนี้ครบแล้วแต่ตนไม่รู้1สัจจะนี่เรียกว่ามีกิเลสไงคะ
:b32:
จิต89ประเภทคือที่ตนกำลังมีคือวิญาณขันธ์แค่1ประเภท
และจิตแต่ละประเภทมีเจตสิกที่ตนต้องระลึกรู้ตรง1สัจจะ
เจตสิกมี52ประเภทเป็นเวทนาขันธ์1ประเภทเป็นสัญญาขันธ์1ประเภทและเป็นสังขารขันธ์50รู้จริงแค่1ที่มี
รูปมี28ประเภทก็ต้องรู้ตรง1ตรงขณะเดี๋ยวนี้ไม่รู้คือมีกิเลสไงคะถ้ารู้นิพพานก็คือนิพพาน1ไม่มีอื่นปนไง
สติต้องกำลังระลึกได้ตรงที่มีจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานทีละ1ประเภทที่ตนมีตรงสัจจะไม่มีตัวตน
มีแต่ตัวจริงของธัมมะที่ระลึกถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าทีละ1ลักษณะตรงจริงไม่ปนกันเลยนะคะนะ
อะไรที่ตนกำลังมีตรง1สัจจะเป็นจิตหรือเจตสิกหรือรูปหรือนิพพานต้องรู้ตรงจริงที่กำลังปรากฏไม่รู้คือไม่รู้


ไม่ทันวิสยรูป7ตรง1สัจจะที่กำลังมีแปลว่าความจริงกำลังปรากฏกับอวิชชาของตนไงคะ


บอกความหมาย ของ วิสยรูป 7 อย่าง กับ 1 สัจจะ กับ อวิชชา ตามความคิดคุณโรสิขอรับ ว่ามันคืออะไร

ก็อ่านไปสิคะกระทู้วิสยรูป7
viewtopic.php?f=1&t=56203
Rosarin เขียน:
Kiss
ทุกคำในพระไตรปิฎกคือเดี๋ยวนี้กำลังมี
ต้องรู้ความจริงที่กายใจตน
คือกรรมฐานตอนฟัง
เพื่อคิดถูกตรงคำ
ตรงจริงทันที
:b1:
มีแต่ความคิดผิดไปทำตามสิ่งที่เห็น
คือเห็นผิดเป็นคนสัตว์วัตถุ
มีแต่ทำตามๆกันลืม
ว่าต้องคิดตาม
คำสอน
:b16:
ขาดการฟังจึงไม่มีปัญญาเพิ่ม
การมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งมี
ตอนคิดตามฟังคำจริงเท่านั้น
:b20:
พึ่งคิดตามคำสัจจะคือ
ฝึกระลึกตามคำตถาคต
แยกนาม_รูปตามวิสยรูป7
คือสิ่งที่ปรากฏให้รู้ได้
ตามปกติประจำวัน
ตอนลืมตาตื่นรู้
1เห็น_แสงสี
2ยิน_เสียง
3ดม_กลิ่น
4ลิ้ม_รส
กายปสาทะอีก3ธาตุ
ธาตุน้ำไม่ปรากฏกระทบ
แต่ทำให้ดินไฟลมเกาะกลุ่ม
5อ่อน_แข็งคือธาตุดิน2ลักษณะ
6เย็น_ร้อนคือธาตุไฟ2ลักษณะ
7ตึง_ไหวคือธาตุลม2ลักษณะ
รู้ชัดทีละ1คำตรงจริง
ที่รู้สึกที่กายจิตตน
ผ่านอายตนะ6ตอนตื่น
คือวิปัสสนาภาวนาของจริงระลึกที่กายจิตตน
:b12:
:b4: :b4:

รู้รูปที่กำลังปรากฏตรงจริงก็ดับคนทั้งตัวแล้วตัวตนนั้นไม่มีอยู่แล้วบอกไม่รู้จักทำสุตมยปัญญาตรงขณะน๊า
:b16: :b16:

ฟังเพื่อคิดตามตรงคำคือพึ่งคิดตามคำจริงของตถาคตให้ปัญญาแทรกเข้าไปในจิตแทนกิเลสน๊า
https://youtu.be/101cfbifuF4
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 16:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:



รู้รูปที่กำลังปรากฏตรงจริงก็ดับคนทั้งตัวแล้วตัวตนนั้นไม่มีอยู่แล้วบอกไม่รู้จักทำสุตมยปัญญาตรงขณะน๊า

ฟังเพื่อคิดตามตรงคำคือพึ่งคิดตามคำจริงของตถาคตให้ปัญญาแทรกเข้าไปในจิตแทนกิเลสน๊า
https://youtu.be/101cfbifuF4


คุณโรสขอรับ ก็ในเมื่อคนไม่มี มีแต่จิ เจ รุ นิ อย่างว่า แล้วจะเอาคนที่ไหนมาดับเล่าขอรับ

แล้วกิเลสมันไปไหนเล่าขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ก.ย. 2018, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
การรู้ธาตุตรงสัจจะที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันมีแค่3ธาตุนะคะคือ
กระทบธาตุอะไรก็รู้ได้ทีละ1ลักษณะก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวตนอยู่แล้วน๊า
แต่มีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวตนไงรู้ตัวไหมคะ
ธาตุดินรู้ได้2ลักษณะคือแข็งหรืออ่อนก็รู้ชัดตรงที่กระทบทีละ1ไม่มีคน
ธาตุไฟแค่รู้สึกร้อนหรือเย็นธาตุลมแค่รู้สึกตึงๆไหวๆไม่มีตัวคนธาตน้ำยึดธาตุทั้ง3ไม่ให้แตกทำลายไงคะ
ตอนรู้ตรงทีละ1สัจจะตรงจริงนั่นแหละคือวิปัสสนาคือรู้แยกแยะตรงสัจจะตามเป็นจริง1ปรมัตถสัจจะจริง
onion onion onion


ตกลงยอมรับว่าตนเองมีอุปาทานขันธ์

ก็แค่นี้แหละครับ ถึงได้บอกว่าธรรมะที่ออกมาจากการพยายามอธิบาย

มันขัดแย้งกันไปหมด

สัจจะที่แท้จริงคือการพูด รักษาคำพูด พูดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์

ไม่พูดให้คนอื่นเสียหาย

ทำตรงนี้ให้ได้ก่อนนะครับ

ยิ่งคุณพยายามอธิบายธรรมมากเท่าไหร่

มันก็ยิ่งย้อนให้เห็นความสับสนของคุณ

:b32:
การรู้ตรงสัจจะไม่ใช่การคิดไม่ใช่การพูดและไม่ใช่การทำ
แต่เป็นกำลังของสติปัญญาที่ระลึกรู้สึกความจริงตรงขณะ
ตอนมีตัวจริงธัมมะตรงวิสยรูป7ครบ6ทางเป็นความรู้ชัดจริงๆ
ก่อนกะพริบตารู้ไม่ครบ6ทางตามวิสยรูป7แปลว่ายังไม่เป็นสติปัฏฐานะไงคะ
เวลาอธิบายเขียนยาวแต่เวลารู้ความจริงทันและตรงทุกขณะต้องรู้ทั่วตัวก่อนกะพริบตาไม่รู้ก็คืออวิชชาไง
:b16:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 08:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
student เขียน:
Rosarin เขียน:
:b32:
การรู้ธาตุตรงสัจจะที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวันมีแค่3ธาตุนะคะคือ
กระทบธาตุอะไรก็รู้ได้ทีละ1ลักษณะก็ดับคนทั้งตัวไม่มีตัวตนอยู่แล้วน๊า
แต่มีอุปาทานขันธ์ยึดถือขันธ์ที่กำลังเกิดดับว่าเป็นตัวตนไงรู้ตัวไหมคะ
ธาตุดินรู้ได้2ลักษณะคือแข็งหรืออ่อนก็รู้ชัดตรงที่กระทบทีละ1ไม่มีคน
ธาตุไฟแค่รู้สึกร้อนหรือเย็นธาตุลมแค่รู้สึกตึงๆไหวๆไม่มีตัวคนธาตน้ำยึดธาตุทั้ง3ไม่ให้แตกทำลายไงคะ
ตอนรู้ตรงทีละ1สัจจะตรงจริงนั่นแหละคือวิปัสสนาคือรู้แยกแยะตรงสัจจะตามเป็นจริง1ปรมัตถสัจจะจริง
onion onion onion


ตกลงยอมรับว่าตนเองมีอุปาทานขันธ์

ก็แค่นี้แหละครับ ถึงได้บอกว่าธรรมะที่ออกมาจากการพยายามอธิบาย

มันขัดแย้งกันไปหมด

สัจจะที่แท้จริงคือการพูด รักษาคำพูด พูดแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์

ไม่พูดให้คนอื่นเสียหาย

ทำตรงนี้ให้ได้ก่อนนะครับ

ยิ่งคุณพยายามอธิบายธรรมมากเท่าไหร่

มันก็ยิ่งย้อนให้เห็นความสับสนของคุณ

:b32:
การรู้ตรงสัจจะไม่ใช่การคิดไม่ใช่การพูดและไม่ใช่การทำ
แต่เป็นกำลังของสติปัญญาที่ระลึกรู้สึกความจริงตรงขณะ
ตอนมีตัวจริงธัมมะตรงวิสยรูป7ครบ6ทางเป็นความรู้ชัดจริงๆ
ก่อนกะพริบตารู้ไม่ครบ6ทางตามวิสยรูป7แปลว่ายังไม่เป็นสติปัฏฐานะไงคะ
เวลาอธิบายเขียนยาวแต่เวลารู้ความจริงทันและตรงทุกขณะต้องรู้ทั่วตัวก่อนกะพริบตาไม่รู้ก็คืออวิชชาไง
:b16:
:b4: :b4:



มโนไปเรื่อย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 21:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างว่าล่ะครับ

ถ้าไม่แตกฉานในวิชา

ไม่เริ่มต้นใช้ธรรมะในชีวิต

ก็จะมโน ธรรมะไม่รู้จัก

ที่บอกไม้รู้จักคือ ธรรมะง่ายๆยังทำไม่ได้ เช่น คบกัลยาณมิตร ง่ายๆก็ยังทำไม่ได้ อย่าหวังธรรมชั้นสูงเลยครับ

ธรรมะเบื้องต้นยังไปไม้รอด เดี๋ยวคนพาลก็กอดคอกันไปสู่ทุคติ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2018, 21:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าอยากจะอวดธรรม

ขอนำเสนอให้อวดธรรมะครับ

อย่าเอาเจตนากรรม มาอวด

มันเป็นธรรมะของคนพาล

เขาแค่เอาคุณเป็นอุทาหรณ์ ว่าอย่าเป็นคนแบบนี้ อย่าคบคนพาลพวกนี้

้พราะมันมีแต่พาไปหาผิด

เอาธรรมะมาอวดเลยครับ
วันนี้พาพ่อแม่ไปกินข้าวนอกบ้าน
เก็บเงินที่ทำงานกับสามีไปฝากไว้ใช้ยามเดือดร้อน
ให้เงินพ่อแม่ใช้บ้าง

อวดเลยครับ ธรรมะชั้นสูงแบบนี้อวดได้เลย คนอ่านก็พลอยเบิกบานใจไปด้วย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร