วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 11:57  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2018, 08:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต


ทำสุตมยปัญญาคือเพิ่มปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามคำสอนจนรู้ชัดสิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะครบ6ทาง
เพราะจิตทั้ง6ทางเป็นวิบากและกริยาส่วนกุศลอกุศลอยู่ที่เจตสิกและจิต+เจตสิกเป็นคู่หูรู้อารมณ์เดียวกัน
https://youtu.be/GRNMpdllfm4


อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ และสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา" เกิดดับทีละ 1 ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะ ว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม (กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)


คุณโรสมิจฉาทิฏฐิเต็มสมอง อิอิ ว่า "กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ" มีข้อโต้แย้งมากมาย ถ้ายังงั้น ฟังก็ไม่มีกิเลสดิ ดมกลิ่น ก็ไม่มีกิเลสดิ ลิ้มรส ก็ไม่มีกิเลสดิ สัมผัสถูกต้องก็ไม่มีกิเลสใช่ไหม นอนหลับก็ไม่มีกิเลสใช่หรือเปล่า

อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ
นี่ก็โต้แย้งได้อีก พูดยังงี้ หลับตา ก็ไม่มีสติ ปัญญา เป็นต้น ใช่ไหม :b10:

คุณโรสที่รักของคนอื่นเค้า อิอิ ลืมตา หลับตา มันไม่ใช่เงื่อนไขที่จะให้มีไม่มีสิ่งที่คุณโรสพูดเลย คนละเรื่องละราวกันเลย พูดยังงั้น คนเราตั้งแต่เช้าตื่นนอน ยันเข้านอนตอนค่ำ ไม่ได้หลับตาเลยทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ก็มีสติปัญญา อหิริกะ อโนตตัปปะ สมาธิ มีอินทรีย์ 5 กันครบหมดทุกคนสิ :b13: :b32:

จบข่าว 7-8 ปี ฟังแม่สุจินมา เสียเวลาเปล่า คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2018, 09:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ดูเต็มๆบ่อยแล้ว เอาที่ต้องการเน้นให้ดูมั่ง เบื้องต้นเขาหลับตาภาวนาแล้วๆๆๆประสบสภาวธรรม จนหลับตาภาวนาไม่ไหว ต้องลืมตา จึงหาย ดู

อ้างคำพูด:
ผมก็นั่งตามลมหายใจพุทโธไป

วันแรกๆก็ไม่เป็นอะไร พอวันที่สาม นั่งไปซักพักประมาณสิบนาที เริ่มมีอาการเหวี่ยงแบบเหวี่ยงหมุนจน เวียนหัว จึงนั่งต่อไม่ได้ ลืมตาขึ้นมานั่งดูพระรูปอื่น เป็นอย่างนี้อยู่เกือบตลอด กลับมาที่กุฏิก่อนจะจำวัดก็นั่งก็เป็นอีก


ไอ้เรือง จะพูดย้อนแย้งคุณโรสก็ได้ว่า ลืมตาไม่ หลับตาเจอะ คือว่า สภาวธรรมมันละเอียด ต้องหลับตาเบาๆแล้วพินา อิอิ โดยมีฐานให้จิตทำงานแล้วหมั่นสังเกต เมื่อจิตอยู่กับฐานบ้างแล้ว นั่นแปลว่าสมาธิมีบ้างแล้ว ทีนี้ล่ะสภาพธรรมจะปรากฏให้เห็น แต่เห็นแล้วมันไม่ถูกใจไม่โดนใจคน ตนก็เลยเลี่ยงหนีกฏธรรมชาติ คิกๆๆ และนี่ก็เป็นเครื่องมือวัดคุณโรสด้วยว่า ไม่เคยทำ ไม่เคยปฏิบัติแล.

จบข่าว :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2018, 09:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เสริมอีกหน่อย

สิ่งที่ปิดบังไตรลักษณ์


ทั้งที่ความเป็นอนิจจัง ทุกข์ และอนัตตา นี้ เป็นลักษณะสามัญของสิ่งทั้งหลาย เป็นความจริงที่แสดงตัวของมันเองอยู่ตามธรรมดาตลอดทุกเวลา แต่คนทั่วไปก็มองไม่เห็น ทั้งนี้เพราะเป็นเหมือนมีสิ่งปิดบังคอยซ่อนคลุมไว้
ถ้าไม่มนสิการ คือ ไม่ใส่ใจพิจารณาอย่างถูกต้อง ก็มองไม่เห็น สิ่งที่เป็นเหมือนเครื่องปิดบังซ่อนคลุมเหล่านี้ คือ

1. สันตติ บังอนิจจลักษณะ
2. อิริยาบถ บังทุกขลักษณะ
3. ฆนะ บังอนัตตลักษณะ

ฯลฯ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2018, 14:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต


ทำสุตมยปัญญาคือเพิ่มปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามคำสอนจนรู้ชัดสิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะครบ6ทาง
เพราะจิตทั้ง6ทางเป็นวิบากและกริยาส่วนกุศลอกุศลอยู่ที่เจตสิกและจิต+เจตสิกเป็นคู่หูรู้อารมณ์เดียวกัน
https://youtu.be/GRNMpdllfm4


อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ และสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา" เกิดดับทีละ 1 ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะ ว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม (กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)


คุณโรสมิจฉาทิฏฐิเต็มสมอง อิอิ ว่า "กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ" มีข้อโต้แย้งมากมาย ถ้ายังงั้น ฟังก็ไม่มีกิเลสดิ ดมกลิ่น ก็ไม่มีกิเลสดิ ลิ้มรส ก็ไม่มีกิเลสดิ สัมผัสถูกต้องก็ไม่มีกิเลสใช่ไหม นอนหลับก็ไม่มีกิเลสใช่หรือเปล่า

อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ
นี่ก็โต้แย้งได้อีก พูดยังงี้ หลับตา ก็ไม่มีสติ ปัญญา เป็นต้น ใช่ไหม :b10:

คุณโรสที่รักของคนอื่นเค้า อิอิ ลืมตา หลับตา มันไม่ใช่เงื่อนไขที่จะให้มีไม่มีสิ่งที่คุณโรสพูดเลย คนละเรื่องละราวกันเลย พูดยังงั้น คนเราตั้งแต่เช้าตื่นนอน ยันเข้านอนตอนค่ำ ไม่ได้หลับตาเลยทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ก็มีสติปัญญา อหิริกะ อโนตตัปปะ สมาธิ มีอินทรีย์ 5 กันครบหมดทุกคนสิ :b13: :b32:

จบข่าว 7-8 ปี ฟังแม่สุจินมา เสียเวลาเปล่า คิกๆๆ

:b32:
โทษทีที่ทำให้เข้าใจผิดเขียนไม่ละเอียดมีต่อค่ะ
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูตอนกำลังฟังพระพุทธพจน์นะจ๊ะ
ส่วนผู้ที่ไม่ได้กำลังทำฟังแปลว่าทำตามใจไม่มีสติระลึกตามตรงความจริงที่ตนมีตรงตามคำสอนอยู่ยังไงล่ะ
อกุศลดื้อด้านอาจหาญทำตามที่คิดผิดเอาเองไม่ละอายว่าตนไม่รู้ไงถึงไปทำอย่างอื่นไม่พึ่งคิดตามคำสอน
https://youtu.be/GywAGNmrqyA
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ส.ค. 2018, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2018, 02:56
โพสต์: 2166

โฮมเพจ: maybe
แนวปฏิบัติ: สติปัฎฐาน
งานอดิเรก: กีฬา
สิ่งที่ชื่นชอบ: แบรนด์เเนม
ชื่อเล่น: เม
อายุ: 22
ที่อยู่: Bangkok Thailand

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต


ทำสุตมยปัญญาคือเพิ่มปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามคำสอนจนรู้ชัดสิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะครบ6ทาง
เพราะจิตทั้ง6ทางเป็นวิบากและกริยาส่วนกุศลอกุศลอยู่ที่เจตสิกและจิต+เจตสิกเป็นคู่หูรู้อารมณ์เดียวกัน
https://youtu.be/GRNMpdllfm4


อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ และสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา" เกิดดับทีละ 1 ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะ ว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม (กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)


คุณโรสมิจฉาทิฏฐิเต็มสมอง อิอิ ว่า "กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ" มีข้อโต้แย้งมากมาย ถ้ายังงั้น ฟังก็ไม่มีกิเลสดิ ดมกลิ่น ก็ไม่มีกิเลสดิ ลิ้มรส ก็ไม่มีกิเลสดิ สัมผัสถูกต้องก็ไม่มีกิเลสใช่ไหม นอนหลับก็ไม่มีกิเลสใช่หรือเปล่า

อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ
นี่ก็โต้แย้งได้อีก พูดยังงี้ หลับตา ก็ไม่มีสติ ปัญญา เป็นต้น ใช่ไหม :b10:

คุณโรสที่รักของคนอื่นเค้า อิอิ ลืมตา หลับตา มันไม่ใช่เงื่อนไขที่จะให้มีไม่มีสิ่งที่คุณโรสพูดเลย คนละเรื่องละราวกันเลย พูดยังงั้น คนเราตั้งแต่เช้าตื่นนอน ยันเข้านอนตอนค่ำ ไม่ได้หลับตาเลยทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ก็มีสติปัญญา อหิริกะ อโนตตัปปะ สมาธิ มีอินทรีย์ 5 กันครบหมดทุกคนสิ :b13: :b32:

จบข่าว 7-8 ปี ฟังแม่สุจินมา เสียเวลาเปล่า คิกๆๆ

:b32:
โทษทีที่ทำให้เข้าใจผิดเขียนไม่ละเอียดมีต่อค่ะ
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูตอนกำลังฟังพระพุทธพจน์นะจ๊ะ
ส่วนผู้ที่ไม่ได้กำลังทำฟังแปลว่าทำตามใจไม่มีสติระลึกตามตรงความจริงที่ตนมีตรงตามคำสอนอยู่ยังไงล่ะ
อกุศลดื้อด้านอาจหาญทำตามที่คิดผิดเอาเองไม่ละอายว่าตนไม่รู้ไงถึงไปทำอย่างอื่นไม่พึ่งคิดตามคำสอน
https://youtu.be/GywAGNmrqyA
:b32: :b32:


ขอบพระคุณค่ะ คุณยายโรส

เห็นค่ะเห็น เห็นทั้งปรมัตถ์ และบัญญัติ ตามพระไตรปิฎก

แล้วก็เห็น คนในยูทูป ไส่แว่นตาด้วยค่ะ

คงเพือให้เห็นสี ชัดขึ้น เพราะเห็นสีไม่ชัดถ้าไม่มีแว่นตา หรอคะ ?

เรยไปตัดแว่น ไส่แว่น เพื่อให้เห็นสี ชัดๆเจนขึ้น เต็มสองตา
ถ้าถอดแว่น สีจะเบลอไป ใช่มั๊ยคะ?

แต่ทำไม พระจักษุตาบอด ท่านไม่ต้องไปตัดแว่น เพราะท่านไม่จับเงินสามสิบบาทได้ทุกแว่น
เพราะท่านได้เห็นธรรมด้วยใจแล้ว จริงๆ หรือเปล่าคะ ?

หนูว่าแว่นนั้น แสดงถึงความไม่เข้าใจในธรรม ไม่รู้ถูกป่าวนะ

เพราะหนูไม่เคย เห็นพระอรหันตสักองค์เดียวในพระไตรปิฎก ที่ไส่แว่นค่ะ



อ่อ หนูจะไปช่วยเพิ่ม ยอดวิว ในยูทูปให้นะคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2018, 18:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต


ทำสุตมยปัญญาคือเพิ่มปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามคำสอนจนรู้ชัดสิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะครบ6ทาง
เพราะจิตทั้ง6ทางเป็นวิบากและกริยาส่วนกุศลอกุศลอยู่ที่เจตสิกและจิต+เจตสิกเป็นคู่หูรู้อารมณ์เดียวกัน
https://youtu.be/GRNMpdllfm4


อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ และสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา" เกิดดับทีละ 1 ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะ ว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม (กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)


คุณโรสมิจฉาทิฏฐิเต็มสมอง อิอิ ว่า "กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ" มีข้อโต้แย้งมากมาย ถ้ายังงั้น ฟังก็ไม่มีกิเลสดิ ดมกลิ่น ก็ไม่มีกิเลสดิ ลิ้มรส ก็ไม่มีกิเลสดิ สัมผัสถูกต้องก็ไม่มีกิเลสใช่ไหม นอนหลับก็ไม่มีกิเลสใช่หรือเปล่า

อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ
นี่ก็โต้แย้งได้อีก พูดยังงี้ หลับตา ก็ไม่มีสติ ปัญญา เป็นต้น ใช่ไหม :b10:

คุณโรสที่รักของคนอื่นเค้า อิอิ ลืมตา หลับตา มันไม่ใช่เงื่อนไขที่จะให้มีไม่มีสิ่งที่คุณโรสพูดเลย คนละเรื่องละราวกันเลย พูดยังงั้น คนเราตั้งแต่เช้าตื่นนอน ยันเข้านอนตอนค่ำ ไม่ได้หลับตาเลยทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ก็มีสติปัญญา อหิริกะ อโนตตัปปะ สมาธิ มีอินทรีย์ 5 กันครบหมดทุกคนสิ :b13: :b32:

จบข่าว 7-8 ปี ฟังแม่สุจินมา เสียเวลาเปล่า คิกๆๆ


โทษทีที่ทำให้เข้าใจผิดเขียนไม่ละเอียดมีต่อค่ะ
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูตอนกำลังฟังพระพุทธพจน์นะจ๊ะ
ส่วนผู้ที่ไม่ได้กำลังทำฟังแปลว่าทำตามใจไม่มีสติระลึกตามตรงความจริงที่ตนมีตรงตามคำสอนอยู่ยังไงล่ะ
อกุศลดื้อด้านอาจหาญทำตามที่คิดผิดเอาเองไม่ละอายว่าตนไม่รู้ไงถึงไปทำอย่างอื่นไม่พึ่งคิดตามคำสอน
https://youtu.be/GywAGNmrqyA


็ก็เท่าเดิม เพิ่มมาแค่ลืมตาฟังพุทธพจน์แค่นั้นเอง แต่ก็อย่างที่บอกแล้วว่า นั่นฟังแม่สุจินพูด ไม่ใช่พุทธพจน์ เออ บอกไม่จำ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2018, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เปลี่ยนชื่อกระทู้ใหม่เป็นยังงั้นแหละ :b1: เพราะแย้งกับบ้านธัมมะได้ เกี่ยวกับลมหายใจเข้า-ออกด้วยกัน

:b12:
กระทู้เก่าชื่ออะไรคะ
ทำไมไม่ตั้งชื่อใหม่
แล้วอ้างกระทู้เดิมๆ
แบบที่เคยทำล่ะคะ
:b32:
ปกติก็หายใจเข้าและออก
มีแล้วไม่ใช่คนตายนี่คะ
สติเกิดกับกุศลจิต
ที่ระลึกคำสัจจะ
ตรงความจริง
ถ้ายังมีกิเลส
จะถึงสติหรือ
สติแปลให้ตรงคือ
ระลึกตามคำสอนได้
อ่านทบทวนหลายๆครั้ง
กิเลสคือคิดตามความเข้าใจผิด
ปัญญาคือเข้าใจถูกตามเป็นจริงบ่อยๆค่อยๆเพียรรู้ทีละน้อยจนมากขึ้น
ระลึกตามคำสอนได้ตรงจริงตามเสียงก่อนดับคือตามรู้สิ่งที่เกิดแล้วก่อนดับค่ะ
แล้วที่ไปทำกำหนดลมแล้วรู้คิดถูกตามคำสอนตรงเสียงคำสัจจะไหนที่ตนกำลังมีคะตรงปรมัตถะสัจจะน๊า
:b16: :b16: :b16:


เมื่อไม่เคยฟังคำสอน หรืออ่านพระไตรปิฎกมาจึงไม่อาจระลึกตรงตามคำสอนได้จริงๆ
อานาปานสติภาวนา เจริญให้มากทำให้มาก จะได้วิปัสสนาอย่างลึกซึ้ง จนสิ้นกิเลสได้

ไปฟังแต่ ป้ามโนเอา ไม่รู้เรื่องสมถะวิปัสสนา พร่ำบอกแต่ทุกสิ่งเป็นธรรมะ อยู่นั่นล่ะ จึงมีความเข้าใจไม่ตรงตามพุทธพจน์ เช่นนั้นออกมา

onion
ผิดค่ะเช่นนั้น
ทำไมไม่ไตร่ตรอง
ศึกษาผิดอ่านไม่ตรงทางรู้คือปัญญาเกิดไม่ข้ามสุตมยปัญญาทุกครั้งคร่าาา
ศีล.สมาธิ.ปัญญา.สติ.สัมปชัญญะ.หิริ.โอตัปปะ.ฯลฯเป็นเจตสิกมีถึง52ประเภท
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยมากกว่า1เจตสิก(เวทนา.สัญญา.สังขารเป็น3ขันธ์)
เอาแค่ปัญญาแรกก่อนให้ถึงสัจญาณเพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงถ้าไม่ฟังจะเกิดปัญญาเจตสิกไม่ได้
เพราะการนั่งสมาธิหลับตารู้อารมณ์สมาธิเจตสิกอย่างเดียวทื่อๆไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยคือสมถภาวนาไงคะ
ส่วนวิปัสสนาภาวนาคือการฟังคำสอนแล้วไตร่ตรองความจริงตอนทำสมาธิลืมตาดูโลกตามปกติทำให้รู้แยก
วิคือรู้แยกแยะเหมือนทำงานวิจัยจิตไงคะต้องรู้แยกแยะย่อยละเอียดเป็นแต่ละ1ขณะจิตตรงทางตามการฟัง
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย5มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะและสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา"
เกิดดับทีละ1ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม(กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)
เข้าใจไหมคะในการจะเกิดปัญญานั้นเกิดตอนมีวิถีจิตค่ะและวิถีจิตครบ6ทางต้องตื่นรู้เบิกบานในธรรมที่ตนมี
ถ้าไม่ฟังให้เกิดปัญญาดับกิเลสคือดับความไม่รู้สิ่งที่ตนกำลังมีจะรู้อะไรเพราะจิตเกิดดับทีละ1ขณะแค่1ทาง
และวิปัสสนาต้องรู้อารมณ์ของจิตครบ6ทางอายตนะต้องมีจักขุนทรีย์ลืมตาเห็นจึงสะสมวิบากและกิริยาจิต


ทำสุตมยปัญญาคือเพิ่มปัญญาคือคิดถูกเข้าใจถูกตามคำสอนจนรู้ชัดสิ่งที่กำลังปรากฏตรงขณะครบ6ทาง
เพราะจิตทั้ง6ทางเป็นวิบากและกริยาส่วนกุศลอกุศลอยู่ที่เจตสิกและจิต+เจตสิกเป็นคู่หูรู้อารมณ์เดียวกัน
https://youtu.be/GRNMpdllfm4


อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ และสมาธิเจตสิกชื่อว่า"เอกัคตา" เกิดดับทีละ 1 ขณะพร้อมจิตไม่ทราบหรือคะ ว่านั่งสมาธิหลับตาไม่มีจักขุนทรีย์ทำไม่รู้ไหม (กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ)


คุณโรสมิจฉาทิฏฐิเต็มสมอง อิอิ ว่า "กิเลสมีเมื่อเห็นค่ะ" มีข้อโต้แย้งมากมาย ถ้ายังงั้น ฟังก็ไม่มีกิเลสดิ ดมกลิ่น ก็ไม่มีกิเลสดิ ลิ้มรส ก็ไม่มีกิเลสดิ สัมผัสถูกต้องก็ไม่มีกิเลสใช่ไหม นอนหลับก็ไม่มีกิเลสใช่หรือเปล่า

อ้างคำพูด:
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูนะจ๊ะ
นี่ก็โต้แย้งได้อีก พูดยังงี้ หลับตา ก็ไม่มีสติ ปัญญา เป็นต้น ใช่ไหม :b10:

คุณโรสที่รักของคนอื่นเค้า อิอิ ลืมตา หลับตา มันไม่ใช่เงื่อนไขที่จะให้มีไม่มีสิ่งที่คุณโรสพูดเลย คนละเรื่องละราวกันเลย พูดยังงั้น คนเราตั้งแต่เช้าตื่นนอน ยันเข้านอนตอนค่ำ ไม่ได้หลับตาเลยทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต ก็มีสติปัญญา อหิริกะ อโนตตัปปะ สมาธิ มีอินทรีย์ 5 กันครบหมดทุกคนสิ :b13: :b32:

จบข่าว 7-8 ปี ฟังแม่สุจินมา เสียเวลาเปล่า คิกๆๆ


โทษทีที่ทำให้เข้าใจผิดเขียนไม่ละเอียดมีต่อค่ะ
เพราะสติ+ปัญญา+อหิริกะ+อโนตัปปะ+สมาธิ+อินทรีย 5 มีตอนลืมตาดูตอนกำลังฟังพระพุทธพจน์นะจ๊ะ
ส่วนผู้ที่ไม่ได้กำลังทำฟังแปลว่าทำตามใจไม่มีสติระลึกตามตรงความจริงที่ตนมีตรงตามคำสอนอยู่ยังไงล่ะ
อกุศลดื้อด้านอาจหาญทำตามที่คิดผิดเอาเองไม่ละอายว่าตนไม่รู้ไงถึงไปทำอย่างอื่นไม่พึ่งคิดตามคำสอน
https://youtu.be/GywAGNmrqyA


็ก็เท่าเดิม เพิ่มมาแค่ลืมตาฟังพุทธพจน์แค่นั้นเอง แต่ก็อย่างที่บอกแล้วว่า นั่นฟังแม่สุจินพูด ไม่ใช่พุทธพจน์ เออ บอกไม่จำ

cool
ทราบไหมคะคำจริงของตถาคตที่อาศัยปรโตโฆษะทำให้รู้
ตื้นลึกหนาบางของกิเลสและเห็นกิเลสบรรพชิตชัดเจน
เห็นจริงชัดจริงแจ่มแจ้งจริงๆด้วยตาเนื้อเห็นๆจริงๆจร้า
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ย. 2018, 19:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


ทราบไหมคะคำจริงของตถาคตที่อาศัยปรโตโฆษะทำให้รู้
ตื้นลึกหนาบางของกิเลสและเห็นกิเลสบรรพชิตชัดเจน
เห็นจริงชัดจริงแจ่มแจ้งจริงๆด้วยตาเนื้อเห็นๆจริงๆจร้า


อ้าวนี้เพิ่มปรโตโฆสะมา อะไรครับเนี่ยะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร