วันเวลาปัจจุบัน 17 ก.ค. 2025, 00:37  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 08:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 16:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


รูปภาพ

:b32:
ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 05:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 07:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง
คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย
ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ
ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 07:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
พึ่งพระรัตนตรัยสูงสุดคือพึ่งคำสอนเพื่อให้คิดถูกตามได้ตรงสัจจะ1คำตรงความจริงที่กำลังมีของตนค่ะ
เช่นเห็นข้างหน้าดับข้างหลังก็ไม่มี มองซ้ายขวาก็ดับหมดแล้ว ไม่รู้สัจจะตรง1คือไม่รู้ทั้งหมดที่มีแล้ว
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 08:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย

ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ

ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี



เอาความคิดความเห็นของตน เช่น สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดเห็นของตนแล้วก็เอาความคิดตนนั้นไปใส่ปากพระพุทธเจ้า เหมือนกับแม่สุจิน เอาไปใส่ปากตถาคตฉะนั้นแล

ถ้ายังงั้น จะถามความหมายนะขอรับ สะ หมายถึงอะไร ติ หมายถึงอะไร นิพ หมายถึงอะไร พาน หมายถึงอะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 10:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พึ่งพระรัตนตรัยสูงสุดคือพึ่งคำสอนเพื่อให้คิดถูกตามได้ตรงสัจจะ1คำตรงความจริงที่กำลังมีของตนค่ะ
เช่นเห็นข้างหน้าดับข้างหลังก็ไม่มี มองซ้ายขวาก็ดับหมดแล้ว ไม่รู้สัจจะตรง1คือไม่รู้ทั้งหมดที่มีแล้ว


คุณโรสจับความได้ไหม เขาว่ายังไง



รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2018, 00:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย

ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ

ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี



เอาความคิดความเห็นของตน เช่น สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดเห็นของตนแล้วก็เอาความคิดตนนั้นไปใส่ปากพระพุทธเจ้า เหมือนกับแม่สุจิน เอาไปใส่ปากตถาคตฉะนั้นแล

ถ้ายังงั้น จะถามความหมายนะขอรับ สะ หมายถึงอะไร ติ หมายถึงอะไร นิพ หมายถึงอะไร พาน หมายถึงอะไร

:b32:
คิดให้ตรงคือเดี๋ยวนี้
:b12:
สติคือระลึกตามคำสอนได้(ถูกตัวตนว่ากำลังรู้ตรงสัจจะทางไหนได้แค่1ทางดับคนทั้งตัวหายหมดอิอิ)
:b32:
นิพพานคือหมดอยาก(ยังอยากได้เงินอยากได้ทองอยากได้ลาภอยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ไปนิพพานไม่ได้)
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ส.ค. 2018, 08:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย

ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ

ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี



เอาความคิดความเห็นของตน เช่น สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดเห็นของตนแล้วก็เอาความคิดตนนั้นไปใส่ปากพระพุทธเจ้า เหมือนกับแม่สุจิน เอาไปใส่ปากตถาคตฉะนั้นแล

ถ้ายังงั้น จะถามความหมายนะขอรับ สะ หมายถึงอะไร ติ หมายถึงอะไร นิพ หมายถึงอะไร พาน หมายถึงอะไร

:b32:
คิดให้ตรงคือเดี๋ยวนี้
:b12:
สติคือระลึกตามคำสอนได้(ถูกตัวตนว่ากำลังรู้ตรงสัจจะทางไหนได้แค่1ทางดับคนทั้งตัวหายหมดอิอิ)
:b32:
นิพพานคือหมดอยาก(ยังอยากได้เงินอยากได้ทองอยากได้ลาภอยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ไปนิพพานไม่ได้)
:b4: :b4:



เงินปิดกั้นนิพพานอีก

คุณโรสขอรับ ทำตามที่ไอ้เรืองแนะนำเุถอะ ฟอร์แมตความจำเดิมๆออกให้หมดแล้วลงโปรแกรมใหม่ สร้างสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นก่อน อย่างที่เคยแนะนำหลายเทื่อแล้วนะขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2018, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย

ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ

ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี



เอาความคิดความเห็นของตน เช่น สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดเห็นของตนแล้วก็เอาความคิดตนนั้นไปใส่ปากพระพุทธเจ้า เหมือนกับแม่สุจิน เอาไปใส่ปากตถาคตฉะนั้นแล

ถ้ายังงั้น จะถามความหมายนะขอรับ สะ หมายถึงอะไร ติ หมายถึงอะไร นิพ หมายถึงอะไร พาน หมายถึงอะไร

:b32:
คิดให้ตรงคือเดี๋ยวนี้
:b12:
สติคือระลึกตามคำสอนได้(ถูกตัวตนว่ากำลังรู้ตรงสัจจะทางไหนได้แค่1ทางดับคนทั้งตัวหายหมดอิอิ)
:b32:
นิพพานคือหมดอยาก(ยังอยากได้เงินอยากได้ทองอยากได้ลาภอยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ไปนิพพานไม่ได้)
:b4: :b4:



เงินปิดกั้นนิพพานอีก

คุณโรสขอรับ ทำตามที่ไอ้เรืองแนะนำเุถอะ ฟอร์แมตความจำเดิมๆออกให้หมดแล้วลงโปรแกรมใหม่ สร้างสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นก่อน อย่างที่เคยแนะนำหลายเทื่อแล้วนะขอรับ

rolleyes
บอกแล้วไม่ฟังทุกคนเลยนะคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าคือเดี๋ยวนี้
การกระทำต้องตรงเหตุผลเข้าใจไหม
ฟังคำสอนก็คือต้องกำลังฟังจริงๆเดี๋ยวนี้
ทุกคนมีการคิดพูดทำตามปกติในชีวิตทุกวัน
โดยเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังคิดถูกตรงๆตามคำสอนอยู่
แปลว่ากำลังคิดไปตามใจตามที่เห็นไม่ได้กำลังตามคำสอน
เดี๋ยวนี้เลยตามคือตามฟังตรงจริงที่ตามฟังเสียงทีละคำให้เข้าใจ
ตรงจริงคือทำฟังจึงจะเริ่มสะสมปัญญาแรกคือสัมมาทิฏฐิคิดเห็นถูกตาม
จนกว่าสติปัญญาที่เพิ่มจากการฟังนั้นทำกิจหน้าที่เองไม่มีเราไปบังคับทำอะไร
นอกจากฟังเข้าใจไหมคะปัญญาต้องเจริญตามลำดับข้ามสุตะปัญญาเกิดไม่ได้เพราะ
เมื่อสติปัญญาล้นจากฟังคือเจริญขึ้นมาเป็นจินตามยปัญญาเองและฟังจนเจริญเป็นภาวนาถูกตรงคร่า
คิดให้มันตรงปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้ยอมรับความจริงให้มันตรงความจริงว่าตนขาดการฟังคำสอนตรงมาก
ไม่ทำฟังตรงจริงแต่อ่านแล้วท่องจำได้นั่นเป็นการเรียนวิชาการทางโลกเอาไปทำข้อสอบค่ะแต่คำสอน
ของพระพุทธเจ้าทุกคำทำให้รู้จักกิเลสตนตามเป็นจริงจากการฟังเพื่อไตร่ตรองความจริงที่ตนไม่มีปัญญารู้
จะคิดเองไปตามความชอบใจก็คือกิเลสตนเองพาทำผิดรับเงินก็รับเงินจริงๆตรงๆไม่ผิดปกติแต่เป็นเพศไหน
บรรพชิตน่ะรับเงินไม่ได้ไม่ต้องใช้เลยตลอดชีวิตของการบวชแต่ชาวบ้านทำมาหากินเลี้ยงชีพจับจ่ายปกติ
แต่ภิกษุในธรรมวินัยนี้บิณฑบาตด้วยปลีแข้ง1บาตรฉันได้ไม่เกินเที่ยงไม่มีกิจทำสังคมสงเคราะห์ตรงมากๆ
จะทำสังคมสงเคราะห์ต้องใช้เงินเป็นหน้าที่คฤหัสถ์เป็นบรรพชิตไม่เป็นผู้ตรงโกงก้อนข้าวของชาวบ้านน๊า
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2018, 09:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย

ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ

ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี



เอาความคิดความเห็นของตน เช่น สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดเห็นของตนแล้วก็เอาความคิดตนนั้นไปใส่ปากพระพุทธเจ้า เหมือนกับแม่สุจิน เอาไปใส่ปากตถาคตฉะนั้นแล

ถ้ายังงั้น จะถามความหมายนะขอรับ สะ หมายถึงอะไร ติ หมายถึงอะไร นิพ หมายถึงอะไร พาน หมายถึงอะไร

:b32:
คิดให้ตรงคือเดี๋ยวนี้
:b12:
สติคือระลึกตามคำสอนได้(ถูกตัวตนว่ากำลังรู้ตรงสัจจะทางไหนได้แค่1ทางดับคนทั้งตัวหายหมดอิอิ)
:b32:
นิพพานคือหมดอยาก(ยังอยากได้เงินอยากได้ทองอยากได้ลาภอยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ไปนิพพานไม่ได้)
:b4: :b4:



เงินปิดกั้นนิพพานอีก

คุณโรสขอรับ ทำตามที่ไอ้เรืองแนะนำเุถอะ ฟอร์แมตความจำเดิมๆออกให้หมดแล้วลงโปรแกรมใหม่ สร้างสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นก่อน อย่างที่เคยแนะนำหลายเทื่อแล้วนะขอรับ

rolleyes
บอกแล้วไม่ฟังทุกคนเลยนะคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าคือเดี๋ยวนี้
การกระทำต้องตรงเหตุผลเข้าใจไหม
ฟังคำสอนก็คือต้องกำลังฟังจริงๆเดี๋ยวนี้
ทุกคนมีการคิดพูดทำตามปกติในชีวิตทุกวัน
โดยเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังคิดถูกตรงๆตามคำสอนอยู่
แปลว่ากำลังคิดไปตามใจตามที่เห็นไม่ได้กำลังตามคำสอน
เดี๋ยวนี้เลยตามคือตามฟังตรงจริงที่ตามฟังเสียงทีละคำให้เข้าใจ
ตรงจริงคือทำฟังจึงจะเริ่มสะสมปัญญาแรกคือสัมมาทิฏฐิคิดเห็นถูกตาม
จนกว่าสติปัญญาที่เพิ่มจากการฟังนั้นทำกิจหน้าที่เองไม่มีเราไปบังคับทำอะไร
นอกจากฟังเข้าใจไหมคะปัญญาต้องเจริญตามลำดับข้ามสุตะปัญญาเกิดไม่ได้เพราะ
เมื่อสติปัญญาล้นจากฟังคือเจริญขึ้นมาเป็นจินตามยปัญญาเองและฟังจนเจริญเป็นภาวนาถูกตรงคร่า
คิดให้มันตรงปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้ยอมรับความจริงให้มันตรงความจริงว่าตนขาดการฟังคำสอนตรงมาก
ไม่ทำฟังตรงจริงแต่อ่านแล้วท่องจำได้นั่นเป็นการเรียนวิชาการทางโลกเอาไปทำข้อสอบค่ะแต่คำสอน
ของพระพุทธเจ้าทุกคำทำให้รู้จักกิเลสตนตามเป็นจริงจากการฟังเพื่อไตร่ตรองความจริงที่ตนไม่มีปัญญารู้
จะคิดเองไปตามความชอบใจก็คือกิเลสตนเองพาทำผิดรับเงินก็รับเงินจริงๆตรงๆไม่ผิดปกติแต่เป็นเพศไหน
บรรพชิตน่ะรับเงินไม่ได้ไม่ต้องใช้เลยตลอดชีวิตของการบวชแต่ชาวบ้านทำมาหากินเลี้ยงชีพจับจ่ายปกติ
แต่ภิกษุในธรรมวินัยนี้บิณฑบาตด้วยปลีแข้ง1บาตรฉันได้ไม่เกินเที่ยงไม่มีกิจทำสังคมสงเคราะห์ตรงมากๆ
จะทำสังคมสงเคราะห์ต้องใช้เงินเป็นหน้าที่คฤหัสถ์เป็นบรรพชิตไม่เป็นผู้ตรงโกงก้อนข้าวของชาวบ้านน๊า
:b12:
:b32: :b32:



เอาตามที่สบายใจ อยากสุตะๆอยากสุตมยปัญญาอะไรก็เอา แต่ค้านนิด นั่นแม่สุจินนะ ไม่ใช่ตถาคต :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2018, 09:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ทรงตรัสรู้ความจริงแล้วและแยกรายละเอียดจนเป็นเหมือนกองฝุ่น
เข้าใจไหมคะไม่มีอะไรเลยเกิดแล้วดับทันทีไม่กลับมาเกิดให้รู้อีก
เกิดสิ่งใหม่ตลอดเลยเดี๋ยวนี้ที่กะพริบตาแล้วเป็นอวิชชาแล้วบอกไม่ฟัง
ไม่ได้ทรงแสดงความจริงเพื่อให้ไปเลือกเอามาทำแต่ทรงเมตตาบอกให้ฟัง


https://www.matichon.co.th/wp-content/u ... %B8%87.jpg

ปัญญาตถาคตเท่ามหาสมุทร
ปัญญาสาวกเท่าจงอยปากยุงจุ่ม
ลงมหาสมุทรคือจุ่มถูกตรงขณะตามได้
ตามคำตถาคตเท่าที่ตนมีปัญญาคิดตามได้ตรงทีละคำ



คืนชีพอีกแระทีละคำ สติ ส คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง ไปไม่รอดพุทธเมืองไทย พูดจริงๆนะไม่ใช่พูดเล่น

:b32:
ถ้าคิดไม่ตรงจะทราบได้อย่างไรว่าคิดตรงหรือยัง

คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริงเพื่อเข้าใจความหมาย

ในภาษาที่คนแต่ละชาติใช้ตามปกติตรงความจริงที่กายใจกำลังเป็นไปตรงๆ

ตามที่ทรงตรัสรู้และทรงแสดงเป็นคำวาจาสัจจะตรงคำตรงความจริงที่รู้สึกตามได้ตรงตามเสียง
ตรงขณะที่กำลังปรากฏไม่ใช่การจำบัญญัติคำได้แต่เป็นการเข้าใจและเข้าถึงความจริงที่กายใจตรงขณะ
ก่อนดับเข้าใจไหมคะว่าเวลาเกิดดับมันเร็วเหมือนทุกอย่างเกิดพร้อมกันแต่จริงๆเกิดดับทีละ1ขณะตรงๆค่ะ
ดูความจริงที่ตรงฐานกายตามปกติที่คิดตรงและรู้สึกกระทบตรง1คำตามวิสยรูป7ที่กายใจตนก่อนไม่มีจิต
และให้ทราบว่าความเร็วของจิตที่มีการเกิดดับนั้นตถาคตรู้ความจริงและเรียงลำดับได้หมดว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนสาวกนั้นมีหน้าที่ฟังเสียงที่มาสู่คลองของหูคือมีเสียงมากระทบโสตปสาทะรูปเข้าใจถูกตามตรงสัจจะ
เพราะอะไรที่ไม่ปรากฏก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเวลาที่คิดตามได้อะไรที่คิดไม่ได้ก็ดับไปหมดแล้วเกิดจิตใหม่
จิตเป็นขณะใหม่หมดเป็นการปรากฏของนิมิตสมมุติบัญญัติปกปิดความจริงที่ตรงปรมัตถสัจจะฟังให้รู้ไง
เพราะรู้คือเข้าใจถูกตามคำได้นั้นเองที่สังขารขันธ์เริ่มปรุงแต่งจิตให้ดีตามเสียงเพื่อขัดเกลาความไม่รู้ที่มี



เอาความคิดความเห็นของตน เช่น สติ สะ คำหนึ่ง ติ คำหนึ่ง นิพพาน นิพ คำหนึ่ง พาน คำหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งเป็นความคิดเห็นของตนแล้วก็เอาความคิดตนนั้นไปใส่ปากพระพุทธเจ้า เหมือนกับแม่สุจิน เอาไปใส่ปากตถาคตฉะนั้นแล

ถ้ายังงั้น จะถามความหมายนะขอรับ สะ หมายถึงอะไร ติ หมายถึงอะไร นิพ หมายถึงอะไร พาน หมายถึงอะไร

:b32:
คิดให้ตรงคือเดี๋ยวนี้
:b12:
สติคือระลึกตามคำสอนได้(ถูกตัวตนว่ากำลังรู้ตรงสัจจะทางไหนได้แค่1ทางดับคนทั้งตัวหายหมดอิอิ)
:b32:
นิพพานคือหมดอยาก(ยังอยากได้เงินอยากได้ทองอยากได้ลาภอยากได้ยศฐาบรรดาศักดิ์ไปนิพพานไม่ได้)
:b4: :b4:



เงินปิดกั้นนิพพานอีก

คุณโรสขอรับ ทำตามที่ไอ้เรืองแนะนำเุถอะ ฟอร์แมตความจำเดิมๆออกให้หมดแล้วลงโปรแกรมใหม่ สร้างสัมมาทิฏฐิเบื้องต้นก่อน อย่างที่เคยแนะนำหลายเทื่อแล้วนะขอรับ

rolleyes
บอกแล้วไม่ฟังทุกคนเลยนะคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าคือเดี๋ยวนี้
การกระทำต้องตรงเหตุผลเข้าใจไหม
ฟังคำสอนก็คือต้องกำลังฟังจริงๆเดี๋ยวนี้
ทุกคนมีการคิดพูดทำตามปกติในชีวิตทุกวัน
โดยเดี๋ยวนี้ไม่ได้กำลังคิดถูกตรงๆตามคำสอนอยู่
แปลว่ากำลังคิดไปตามใจตามที่เห็นไม่ได้กำลังตามคำสอน
เดี๋ยวนี้เลยตามคือตามฟังตรงจริงที่ตามฟังเสียงทีละคำให้เข้าใจ
ตรงจริงคือทำฟังจึงจะเริ่มสะสมปัญญาแรกคือสัมมาทิฏฐิคิดเห็นถูกตาม
จนกว่าสติปัญญาที่เพิ่มจากการฟังนั้นทำกิจหน้าที่เองไม่มีเราไปบังคับทำอะไร
นอกจากฟังเข้าใจไหมคะปัญญาต้องเจริญตามลำดับข้ามสุตะปัญญาเกิดไม่ได้เพราะ
เมื่อสติปัญญาล้นจากฟังคือเจริญขึ้นมาเป็นจินตามยปัญญาเองและฟังจนเจริญเป็นภาวนาถูกตรงคร่า
คิดให้มันตรงปัจจุบันคือเดี๋ยวนี้ยอมรับความจริงให้มันตรงความจริงว่าตนขาดการฟังคำสอนตรงมาก
ไม่ทำฟังตรงจริงแต่อ่านแล้วท่องจำได้นั่นเป็นการเรียนวิชาการทางโลกเอาไปทำข้อสอบค่ะแต่คำสอน
ของพระพุทธเจ้าทุกคำทำให้รู้จักกิเลสตนตามเป็นจริงจากการฟังเพื่อไตร่ตรองความจริงที่ตนไม่มีปัญญารู้
จะคิดเองไปตามความชอบใจก็คือกิเลสตนเองพาทำผิดรับเงินก็รับเงินจริงๆตรงๆไม่ผิดปกติแต่เป็นเพศไหน
บรรพชิตน่ะรับเงินไม่ได้ไม่ต้องใช้เลยตลอดชีวิตของการบวชแต่ชาวบ้านทำมาหากินเลี้ยงชีพจับจ่ายปกติ
แต่ภิกษุในธรรมวินัยนี้บิณฑบาตด้วยปลีแข้ง1บาตรฉันได้ไม่เกินเที่ยงไม่มีกิจทำสังคมสงเคราะห์ตรงมากๆ
จะทำสังคมสงเคราะห์ต้องใช้เงินเป็นหน้าที่คฤหัสถ์เป็นบรรพชิตไม่เป็นผู้ตรงโกงก้อนข้าวของชาวบ้านน๊า
:b12:
:b32: :b32:



เอาตามที่สบายใจ อยากสุตะๆอยากสุตมยปัญญาอะไรก็เอา แต่ค้านนิด นั่นแม่สุจินนะ ไม่ใช่ตถาคต :b32:

ตถาคตสั่งสอนไว้ว่าให้ใช้หลักกาลามสูตรจึงจะรู้ได้ว่าคำที่ฟังเป็นคำจริงของตถาคต
พระองค์จึงตรัสแสดงกาลามสูตร10คุณก็พิจารณาด้วยตนเองสิคะฟังว่าใครพูดถูกจริงๆ
ว่าใครบอกให้คุณเข้าใจความจริงของสิ่งที่คุณกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงภาษาที่ตนใช้ในชีวิตปกติ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2018, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:


ตถาคตสั่งสอนไว้ว่าให้ใช้หลักกาลามสูตรจึงจะรู้ได้ว่าคำที่ฟังเป็นคำจริงของตถาคต
พระองค์จึงตรัสแสดงกาลามสูตร10คุณก็พิจารณาด้วยตนเองสิคะฟังว่าใครพูดถูกจริงๆ
ว่าใครบอกให้คุณเข้าใจความจริงของสิ่งที่คุณกำลังมีเดี๋ยวนี้ตรงภาษาที่ตนใช้ในชีวิตปกติ



มาอีกแระกาลามสูตร อิอิ จากขี้เหม็นเป็นกิเลส จนถึงกาลามสูตร

คุณโรสขอรับ เลิกฟังแม่สุจินสักระยะหนึ่ง แล้วไปเรียนไปศึกษาจากสำนักเรียนที่เขามีการสอนการสอบมั่งเถอะขอรับ เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะนะ :b32:

จริงๆเห็นแล้วอ่อนใจ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2018, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่พันทิพก็มีกระทู้สนทนากัน ตัวอย่าง เช่น


อ้างคำพูด:
การปฏิบัติธรรม ตามแนวของ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างไรครับ

ฟังดูเป็นวิชาการ ที่ต้องพิจารณาตามอย่างละเอียด

แต่ส่วนตัวรู้สึกแห้งแล้ง ขาดความสดชื่นและอิ่มเอม แม้สิ่งที่อาจารย์สุจินต์สอน จะเป็นข้อเท็จจริงหลายๆอย่างที่ชาวพุทธควรรู้ ควรตระหนัก

อีกด้านหนึ่ง จากที่ฟังๆ มา เข้าใจว่า แนวของ อาจารย์สุจินต์ ไม่มีกรรมฐาน เหมือนแนวทางอื่นๆ เช่นวัดป่า ที่เน้น กรรมฐานมากๆ

https://pantip.com/topic/38001354



คคห.ที่ 1 บอกว่า

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน


เขาพูดถูกไม่ผิดหรอก :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2018, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ที่พันทิพก็มีกระทู้สนทนากัน ตัวอย่าง เช่น


อ้างคำพูด:
การปฏิบัติธรรม ตามแนวของ อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างไรครับ

ฟังดูเป็นวิชาการ ที่ต้องพิจารณาตามอย่างละเอียด

แต่ส่วนตัวรู้สึกแห้งแล้ง ขาดความสดชื่นและอิ่มเอม แม้สิ่งที่อาจารย์สุจินต์สอน จะเป็นข้อเท็จจริงหลายๆอย่างที่ชาวพุทธควรรู้ ควรตระหนัก

อีกด้านหนึ่ง จากที่ฟังๆ มา เข้าใจว่า แนวของ อาจารย์สุจินต์ ไม่มีกรรมฐาน เหมือนแนวทางอื่นๆ เช่นวัดป่า ที่เน้น กรรมฐานมากๆ

https://pantip.com/topic/38001354



คคห.ที่ 1 บอกว่า

อ้างคำพูด:
บอกเลยว่ามโนอย่างแท้จริง
เพราะมโนไปอนาคตธรรม
ยกตัวอย่างเช่น
ให้รู้ว่าตนไม่ใช่คน สัตว์ สิ่งของ
สิ่งนี้เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์
ให้ตนไปรู้รสนิพพาน
ตนไม่ได้พระอริยะจะไปรู้รสนิพพานไม่ได้
เป็นโสดาบันจึงจะรู้รสนิพพาน
เขาสอนเหมือนตนเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว
คนที่ฟังก็มโนตาม แต่ปฏิบัติตามไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมโนไป
ใครมีกามราคะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครมีโทสะมากก็มโนไปอีกทาง
ใครที่โลภมากก็มโนไปอีกทาง
ใครโมหะมากก็มโนไปอีกทาง
การปฏิบัติสมาธิพร้อมเจริญสติปัฏฐาน เป็นการแก้ไขการมโน แก้การฟุ้งซ่าน


เขาพูดถูกไม่ผิดหรอก :b9:

มโนคือเดี๋ยวนี้เลยที่อ่านพระไตรปิฎกจำคำและเรื่องราว
โดยขาดการฟังเพื่อไตร่ตรองตามปกติตามเป็นจริง
ทุกคำที่กำลังตั้งใจฟังไม่มีใครคิดคำได้ล่วงหน้า
เป็นการคิดตามตรงเสียงไม่มีตัวอักษรให้จำ
แต่เป็นความจริงที่คิดตามเข้าใจตามจริงๆ
แม้เดี๋ยวนี้ก็อ่านจำตัวอักษรหลังเห็นดับ
ไม่เคยรู้ตรงคำที่ส่องถึงเดี๋ยวนี้เลย
ว่าอะไรที่กำลังปรากฏว่ามีจริงๆ
ไม่ใช่ตัวอักษรแต่เป็นสัจจะ
ที่ตนไม่เคยคิดตรงเลย
เพราะขาดการฟังน๊า
ต้องกำลังมีเสียง
ให้เข้าใจทันที
ไม่มีก็อวิชชา
ของตนเกิด
ก็ไม่รู้555
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร