วันเวลาปัจจุบัน 20 มิ.ย. 2025, 05:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 116 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 20:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
เรื่องของร่างกายอันเป็นรังของโรค
ร่างกายที่เป็นอยู่ในเวลานี้ก็ถือว่าเป็นการชดใช้เศษของกรรม
ให้ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา ทำใจให้สบาย
การเยียวยาจำเป็นต้องมีตามหน้าที่
อย่าไปเศร้าโสกเสียใจหรือหรือหวั่นไหวไปกับอาการป่วยไข้ไม่สบาย
สุขภาพไม่ดี ให้ระวังการทรุดโทรมของร่างกายเอาไว้ด้วย
การทำงานก็พึงทำแต่พอควร อย่าหักโหมให้มากจนเกินไป
ทำอะไรให้สบายใจเข้าไว้ อย่าทำด้วยความทุกข์ใจ


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ส.ค. 2018, 20:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
เรื่องการงาน อย่ารีบร้อนในการทำงาน
ให้รักษาอารมณ์ใจให้ดีและเยือกเย็น
การทำงานก็จักล่วงไปด้วยดี
อย่าไปห่วงร่างกายว่าไม่ดีด้วย
อย่าห่วงงานว่าจักทำไม่เสร็จด้วย

ให้ตั้งใจว่าทำไปได้แค่ไหนให้พอใจแค่นั้น
ความป่วยหรือความตายจักเข้ามาตัดรอน ก็เป็นเรื่องของมัน
ในเมื่อไม่สามารถห้ามปรามกฎของธรรมดาเหล่านี้ไปได้ ก็ปล่อยวาง
ทำงานไปเท่าที่จักทำได้ แต่ในใจคิดปล่อยวางอยู่ตลอดเวลา



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2018, 08:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
อย่าฝืนร่างกาย ร่างกายไม่ไหวจงอย่าฝืนร่างกาย
มีโอกาสสักเล็กน้อย ก็พึงพักผ่อนเพื่อคลายทุกขเวทนาของร่างกาย

เช้านี้แม้ตื่นสายก็จงอย่าใจร้อน ให้ทำจิตให้สบาย ๆ ทำกำลังใจไม่ท้อแท้
เห็นความเสื่อมของร่างกายเป็นของธรรมดา
อย่าฝืนความเป็นจริง ร่างกายมีปกติธรรมก็คือ
เกิดแล้วต้องพบกับความแก่ - ความป่วยเป็นธรรมดา
แล้วก็มีความตายไปในที่สุดเป็นของธรรมดา

จงอย่าฝืนความปกติของร่างกาย จงทำจิตให้ยอมรับความปกติ
แล้วทำใจให้สงบ อย่าไปดิ้นรนกับอาการป่วยให้มันมากนักจักขาดทุน

อย่าเห็นความเสื่อมของร่างกายแล้วเกิดความสลดใจ ให้เห็นเป็นปกติธรรมของร่างกาย
ทำจิตให้สบาย ๆ งานใดที่ทำไม่ได้ก็ให้วางไว้ก่อน อย่าไปไม่สบายใจ
ให้ทำใจยอมรับว่า สักวันหนึ่งอาจจักทำงานเหล่านี้ไปไม่ได้เลย
จิตใจก็ต้องยอมรับสภาพของร่างกาย อย่าไปดิ้นรนให้มันมาก





:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 20:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
อย่าสนใจร่างกายให้มากจนเกินไป
รักษาพยาบาลแล้วตามสมควร ถ้ามันไม่ดีก็วางจิตให้สบาย ๆ
ให้รู้ว่าวาระกรรมมันยังไม่สิ้นสุด การป่วยไข้ไม่สบายก็ยังจักไม่หาย

ให้จิตเป็นผู้รู้ รู้ว่ากรรมชั่วเป็นการส่งผลให้ป่วยไข้ไม่สบาย
แล้วเรานั่นแหละเป็นผู้กระทำมาแล้วในกาลก่อน
กฎของกรรมเหล่านี้ จึงปรากฏขึ้นมาในขันธ์ ๕ ต้องรับผล
ในกฎของกรรมตามที่ตรัสเอาไว้ว่า “กรรมทั้งหลายนั้นมาแต่เหตุ”
จงทำใจให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริง
ขันธ์ ๕ อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น อย่าให้จิตใจมันป่วยไปด้วย
สุขภาพร่างกายย่อมเป็นไปตามอำนาจของกฎของกรรม
จงอย่าประมาทในชีวิต
กรรมปาณาติบาตย่อมสามารถตัดรอนชีวิตได้ตลอดเวลา
ให้รักษาใจมั่น ยอมรับนับถือกฎของกรรมตามความเป็นจริง



อ้างคำพูด:
ทำอะไรให้เห็นทุกข์ให้มาก และให้เห็นโทษว่าการทำเหล่านี้
การทุกข์เหล่านี้เนื่องจากการมีขันธ์ ๕ เป็นปัจจัย
ถ้าไม่มีขันธ์ ๕ ก็ไม่ต้องมาทำ หรือมาทุกข์อย่างนี้อีก
ใจเย็น ๆ ทำอะไรให้พิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน จักได้ไม่ผิดพลาดไป
ส่วนใหญ่เป็นเพราะจิตไม่ละเอียดพอ
ขาดการพิจารณาใคร่ครวญในการทำงานทุกอย่าง
แล้วจงอย่าห่วงใยอนาคตให้มากจนเกินไป อยู่กับปัจจุบันให้มาก ๆ



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 21:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2018, 00:09
โพสต์: 203

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เคยคิดถึงคำนี้ไหมคะ :b8:
.
.
.
...เข็ดการเกิด...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 21:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สายน้ำเมย เขียน:
เคยคิดถึงคำนี้ไหมคะ :b8:
.
.
.
...เข็ดการเกิด...


เป็นคำที่...ไม่ได้มีใว้ให้นึกถึง..

แต่เป็นความรู้สึก...ที่ต้องทำให้เกิด..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 21:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2018, 00:09
โพสต์: 203

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
เคยคิดถึงคำนี้ไหมคะ :b8:
.
.
.
...เข็ดการเกิด...


เป็นคำที่...ไม่ได้มีใว้ให้นึกถึง..

แต่เป็นความรู้สึก...ที่ต้องทำให้เกิด..


แรกๆ มันรู้สึกไม่ได้หรอกคะ ต้องเอาสัญญาสอนจิต

โดยการมองการเห็นโทษในวัฎฎะสงสาร

มันจะค่อยๆผุดขึ้นมาทีละเรื่อง เรื่องโทษของการเกิด

สอนจิตไปเรื่อยๆจนผลเกิด :b8:

(สัญญาล่อญาน)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ส.ค. 2018, 22:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2018, 00:09
โพสต์: 203

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เราอาจทุกข์ยังไม่เพียงพอ จนไม่รู้สึกเข็ดการเกิด :b8:
.
.
.
เราอาจพิจารณาไม่รอบพอ ที่จะเห็นโทษของการเกิด :b8:
.
.
.
ฝากสองประโยค ให้ลองพิจารณาดูคะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 19:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
จงอย่าไว้ใจชีวิตของร่างกาย
ดูร่างกายเข้าไว้ เพื่อความไม่ประมาทของจิตที่จักสร้างความดี
แล้วจงพยายามแยกรูป - เวทนา - สัญญา - สังขาร - วิญญาณออกจากจิต
ด้วยการพิจารณาให้เห็นชัดว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา - เราไม่ใช่ขันธ์ ๕ -ขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา - เราไม่มีในขันธ์ ๕ ให้พยายามรักษาอารมณ์นี้ให้ทรงตัว จิตจักอยู่ได้อย่างเป็นสุข



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
จงอย่าไว้ใจชีวิตของร่างกาย
ดูร่างกายเข้าไว้ เพื่อความไม่ประมาทของจิตที่จักสร้างความดี
แล้วจงพยายามแยกรูป - เวทนา - สัญญา - สังขาร - วิญญาณออกจากจิต
ด้วยการพิจารณาให้เห็นชัดว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา - เราไม่ใช่ขันธ์ ๕ -ขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา - เราไม่มีในขันธ์ ๕ ให้พยายามรักษาอารมณ์นี้ให้ทรงตัว จิตจักอยู่ได้อย่างเป็นสุข



:b8: :b8: :b8:

:b32:
ยังไม่ไปไหนไม่ได้ไปทำอะไรเลยค่ะ
โรสก็จำถูกตามคำสอนว่าสังขารขันธ์
ไม่ใช่เราแน่นอนแล้วเพราะจำถูกตาม
ตอนสังขารขันธ์ปรุงความเข้าใจตรงๆ
ตามความจริงที่กำลังปรากฏตาดูหูฟัง
รู้ตามได้เพราะไม่มีเราทำเพราะกำลังฟัง
ไม่ได้ทำอะไรอื่นกำลังจงใจตั้งใจฟังเจตนาฟังคือสุตมยปัญญา
:b12:
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 20:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
ร่างกายไม่ใช่ของเราก็จริงแหล่ แต่ก็มีความจำเป็นที่จักต้องบำรุงรักษา
เพื่อความอยู่เป็นสุขของร่างกายที่จิตนี้ยังจำเป็นต้องอาศัยอยู่
เป็นการระงับทุกขเวทนาไม่ให้เบียดทั้งร่างกายและจิตใจ
แต่ทั้ง ๆ ที่บำรุงรักษาอยู่ก็ยังหนีไม่พ้นทุกขเวทนาเบียดเบียนไปได้
แต่เบียดเบียนได้น้อยลง อย่างนี้ให้เห็นเป็นกฎของธรรมดา

ให้ตั้งใจไว้ว่าทุกข์ทั้งหมดนี้อันมีได้ เพราะขันธ์ ๕ เรามี เป็นต้นเหตุ
ต่อไปคำว่ามีขันธ์ ๕ อย่างนี้เราจักไม่มีอีก
ความทุกข์ของขันธ์ ๕ อย่างนี้ เราจักไม่มีอีก เราไม่ต้องการ

การปรารถนาพระนิพพาน จักต้องฝึกฝนจิตให้เข้มแข็งเข้าไว้เสมอ
อย่าท้อแท้อ่อนแอ แพ้บ้างชนะบ้างเป็นของธรรมดา
อย่าละความตั้งใจในการปฏิบัติ ให้เข้มแข็งเข้าไว้
แม้ร่างกายไม่ดี จงรักษากำลังใจให้ดี
เห็นทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดาเสียทั้งหมด เหตุหนักใจก็จักไม่มี

ลงตัวทำธรรมดาตัวเดียวทุกอย่างก็สบายใจ
เพราะจิตไม่ดิ้นรนไปด้วยความเดือดร้อน
ให้พยายามประคองใจยอมรับกฎธรรมดาเข้าไว้
ด้วยการพิจารณากฎของธรรมดาเข้าไว้เสมอ ๆ จักเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยง่าย



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 20:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
จงอย่าไว้ใจชีวิตของร่างกาย
ดูร่างกายเข้าไว้ เพื่อความไม่ประมาทของจิตที่จักสร้างความดี
แล้วจงพยายามแยกรูป - เวทนา - สัญญา - สังขาร - วิญญาณออกจากจิต
ด้วยการพิจารณาให้เห็นชัดว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา - เราไม่ใช่ขันธ์ ๕ -ขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา - เราไม่มีในขันธ์ ๕ ให้พยายามรักษาอารมณ์นี้ให้ทรงตัว จิตจักอยู่ได้อย่างเป็นสุข



:b8: :b8: :b8:

:b32:
ยังไม่ไปไหนไม่ได้ไปทำอะไรเลยค่ะ
โรสก็จำถูกตามคำสอนว่าสังขารขันธ์
ไม่ใช่เราแน่นอนแล้วเพราะจำถูกตาม
ตอนสังขารขันธ์ปรุงความเข้าใจตรงๆ
ตามความจริงที่กำลังปรากฏตาดูหูฟัง
รู้ตามได้เพราะไม่มีเราทำเพราะกำลังฟัง
ไม่ได้ทำอะไรอื่นกำลังจงใจตั้งใจฟังเจตนาฟังคือสุตมยปัญญา
:b12:
:b16: :b16:

ถ้ายังไม่เริ่มฟังเพื่อรู้ชัดตามคำสอนไม่มีทางรู้จักกิเลสตนว่ามากแค่ไหน
หลงคิดว่ามีคนสัตว์วัตถุมารองรับอารมณ์ชอบใจไม่ชอบใจอยู่คือกิเลส
ตถาคตแสดงคำวาจาสัจจะตลอด45พรรษาเพื่อให้ผู้ที่ตั้งใจฟังเข้าใจ
สิ่งที่กำลังปรากฏตรงหน้าเวลาไปแสดงธรรมที่ริมฝั่งแม่น้ำก็อุปมา
เปรียบเทียบสิ่งที่สาวกกำลังมองดูริมฝั่งแม่น้ำเห็นขอนไม้จริงๆ
แต่เราน่ะไปอ่านแล้วนั่งมโนว่าเห็นขอนไม้ริมน้ำหรือคะคริคริคริ
พอเทศนาจบลงชนเป็นอันมากบรรลุธรรมขั้นต่างๆเรานั้นกำลัง
อ่านและจำแต่เรื่องราวไม่ได้เห็นขอนไม้จริงๆเข้าใจไหมคะว่า
ต้องเริ่มต้นฟังพระพุทธพจน์เพื่อดูกายใจตนตามเหตุปัจจัย
ที่กำลังมีตามสภาพสิ่งแวดล้อมตนเองไม่ใช่จำบัญญัติคำ
เพราะบัญญัติคำทั้งหมดคือปัญญาตถาคตทั้งมหาสมุทร
ตนนั้นฟังตรงขณะเท่าจงอยปากยุงจิ้มลงผิวมหาสมุทร
ปัญญาตนเองรู้ตรงขณะมันได้แค่นั้นจริงค่ะฟังตรงจริง
ตามที่ใช้หูตนเองเพียรฟังเพื่อคิดถูกตามคำสอนได้ค่ะ
:b11:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2018, 20:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน...

อ้างคำพูด:
จงอย่าไว้ใจชีวิตของร่างกาย
ดูร่างกายเข้าไว้ เพื่อความไม่ประมาทของจิตที่จักสร้างความดี
แล้วจงพยายามแยกรูป - เวทนา - สัญญา - สังขาร - วิญญาณออกจากจิต
ด้วยการพิจารณาให้เห็นชัดว่า ขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา - เราไม่ใช่ขันธ์ ๕ -ขันธ์ ๕ ไม่มีในเรา - เราไม่มีในขันธ์ ๕ ให้พยายามรักษาอารมณ์นี้ให้ทรงตัว จิตจักอยู่ได้อย่างเป็นสุข



:b8: :b8: :b8:

:b32:
ยังไม่ไปไหนไม่ได้ไปทำอะไรเลยค่ะ
โรสก็จำถูกตามคำสอนว่าสังขารขันธ์
ไม่ใช่เราแน่นอนแล้วเพราะจำถูกตาม
ตอนสังขารขันธ์ปรุงความเข้าใจตรงๆ
ตามความจริงที่กำลังปรากฏตาดูหูฟัง
รู้ตามได้เพราะไม่มีเราทำเพราะกำลังฟัง
ไม่ได้ทำอะไรอื่นกำลังจงใจตั้งใจฟังเจตนาฟังคือสุตมยปัญญา
:b12:
:b16: :b16:

ถ้ายังไม่เริ่มฟังเพื่อรู้ชัดตามคำสอนไม่มีทางรู้จักกิเลสตนว่ามากแค่ไหน
หลงคิดว่ามีคนสัตว์วัตถุมารองรับอารมณ์ชอบใจไม่ชอบใจอยู่คือกิเลส
ตถาคตแสดงคำวาจาสัจจะตลอด45พรรษาเพื่อให้ผู้ที่ตั้งใจฟังเข้าใจ
สิ่งที่กำลังปรากฏตรงหน้าเวลาไปแสดงธรรมที่ริมฝั่งแม่น้ำก็อุปมา
เปรียบเทียบสิ่งที่สาวกกำลังมองดูริมฝั่งแม่น้ำเห็นขอนไม้จริงๆ
แต่เราน่ะไปอ่านแล้วนั่งมโนว่าเห็นขอนไม้ริมน้ำหรือคะคริคริคริ
พอเทศนาจบลงชนเป็นอันมากบรรลุธรรมขั้นต่างๆเรานั้นกำลัง
อ่านและจำแต่เรื่องราวไม่ได้เห็นขอนไม้จริงๆเข้าใจไหมคะว่า
ต้องเริ่มต้นฟังพระพุทธพจน์เพื่อดูกายใจตนตามเหตุปัจจัย
ที่กำลังมีตามสภาพสิ่งแวดล้อมตนเองไม่ใช่จำบัญญัติคำ
เพราะบัญญัติคำทั้งหมดคือปัญญาตถาคตทั้งมหาสมุทร
ตนนั้นฟังตรงขณะเท่าจงอยปากยุงจิ้มลงผิวมหาสมุทร
ปัญญาตนเองรู้ตรงขณะมันได้แค่นั้นจริงค่ะฟังตรงจริง
ตามที่ใช้หูตนเองเพียรฟังเพื่อคิดถูกตามคำสอนได้ค่ะ
:b11:
:b4: :b4:

:b12:
เพียรฟังเพื่อให้รู้ที่กำลังรู้นั้นละไม่รู้ที่กำลังมีได้เองทีละน้อยค่ะ
https://youtu.be/1E4da5RUHxU
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ธ.ค. 2018, 20:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..

อ้างคำพูด:
เห็นทุกข์แล้ว ให้เห็นธรรมด้วย
ทุกข์กายเป็นของธรรมดาของการมีร่างกาย
การมีร่างกายหรือขันธ์ ๕ ทรงอยู่ จักต้องประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้ (ปวดท้องขี้ - ปวดท้องเยี่ยว และความหิวเป็นทุกข์อย่างยิ่ง)
จิตเป็นผู้รู้ จักต้องยอมรับสภาพทุกข์ทุกอย่างตามความเป็นจริง
แล้วจิตที่รู้สึกแต่เพียงว่ารู้ ไม่วิตก ไม่กังวลไปด้วยนั้นนั่นแหละ คือผู้ปล่อยวาง
ไม่มีความหนักใจ หรือมีตะกอนอะไรคั่งค้างอยู่ในจิตเลย นั่นแหละคือตัวปลดทุกข์อย่างแท้จริง
แต่ก็จงสังเกตลักษณะของการปล่อยวางของจิต ไม่ใช่เป็นการเก็บกดหรือบังคับจิต
ไม่ให้คิดถึงเรื่องเหล่านั้น
จิตยังมีการเสวยอารมณ์ แต่ปัญญาที่รู้เท่าทันว่าอารมณ์เบื่อ ที่เรียกว่าสังขารปรุงแต่งนั้นก็ไม่ใช่เรา
มันสักแต่ว่าเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปเท่านั้น
สักแต่ว่านี้เป็นการเกิด-ดับของสังขาร
จิตมีปัญญารู้เท่าทันจึงวางไป เป็นจิตเบา จิตสิ้นทุกข์



:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2018, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss .
:b12:
แต่ละวันสร้างภพชาติเกิดเป็นโกฏิๆขณะ
เลือกทำอะไรได้ไหมในเมื่อไม่รู้ตรงปัจจุบัน
ไม่รู้เลยว่าที่ผ่านไปแต่ละขณะได้เพียรรู้ตาม
ตรงกับคำไหนในพระไตรปิฎกที่เป็นสัจจะของตน
ก็ที่กำลังไม่รู้ว่าขณะนี้กำลังสะสมตัวจริงของธัมมะใด
แปลว่าความจริงปรากฏว่ากำลังเกิดดับตามเหตุตามปัจจัย
แต่ตนเองไม่ได้ตามคิดให้รู้ชัดถูกตรงตามคำสอนจากการฟัง
แสดงว่ากิเลสไหลไปไม่ขาดสายไม่มีปัญญารู้ตามแทรกเข้าแทนกิเลส
มีชีวิตอยู่ไปวันๆเดี๋ยวก็ตายจากไปเปล่าๆเดี๋ยวนี้ไม่รู้ตรงกับคำปรมัตถ์ไหนเลยแปลว่ามีอวิชชา
onion onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 116 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร