วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 03:12  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 19:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สำนักใดทำลายพระพุทธศาสนา..ดูได้ไม่ยาก

Rosarin เขียน:
มูลนิธิ..............................
เขาเผยแพร่กี่ภาษาและผู้ที่ฟังคำสอนดั้งเดิมจนเกิดปัญญา
มองเห็นแล้วประกาศคำสอนของพระศาสดาให้เปิดเผย
คนเขาตาสว่างกันแล้วจะปิดกันให้แซดอีกต่อไปหรือคะ
ทนได้ทนไปจะประกาศคำตถาคตทุกวันจนกว่าจะสึกไปให้หมด
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ
แต่เห็นขอทานรีบแบ่งของให้เลยประมาทการฟังคำสอนมากกันนัก
onion onion onion


กบนอกกะลา เขียน:
สำนักใด...ทำลายพระพุทธศาสนาบ้าง..นั้นดูไม่ยากเลย..

ยกตัวอย่าง...เช่น

สำนักใด..ปลูกฝังคนมาฟังจนเกิดความรู้สึก..ดังข้างล่างนี้..

สำนักนั้น...ก็คล้ายๆ กับสำนักพระเทวทัตในสมัยพุทธกาล



เป็นการสร้างสัญญา...ผิด..ผิด..
ผิดไม่พอ...ทำให้เกิดความรู้สึกติดลบต่อผ้าเหลือง..ขนาดว่า..แค่เห็นผ้าเหลือง..ก็เดินหนี้..ซะแล้ว..เป็นต้น..

ก็คล้ายๆกับที่พระเทวทัต..ที่สร้างสัญญา..ผิด..ผิด..แก่บรรดาลูกศิษย์..ทำนองว่า."นักบวชต้องไม่กินเนื้อ..ใครกินเนื้อไม่ดี".. เป็นต้น...มีคนเดินตามต้อย..ต้อย..ต้อย...แยกสำนักไปนั่งฟังเทวทัต 500

อ้างคำพูด:
มูลนิธิ..............................
เขาเผยแพร่กี่ภาษาและผู้ที่ฟังคำสอนดั้งเดิมจนเกิดปัญญา
มองเห็นแล้วประกาศคำสอนของพระศาสดาให้เปิดเผย
คนเขาตาสว่างกันแล้วจะปิดกันให้แซดอีกต่อไปหรือคะ
.....
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุ............
.......................



สำนักใด..สอนคนจนมีความรู้..อหังการ..มานะตัวตนใหญ่โตขนาดนี้...
สำนักนั้น...ไม่ใช่แสงส่องทาง..ในมรรคผลนิพพานของบรมศาสดา


huh huh huh

ระวังนะ..สำนักไหน..สอนคน..ว่าสำนักฉันดี..สำนักโน้นเลว...นี้...กำลังเลวเข้าให้แล้ว..


Rosarin เขียน:
:b12:
สำนักแปลว่าที่อยู่และที่อยู่ของคนบวชกับคนไม่บวชไม่อยู่รวมกันและไม่ร่วมกัน
คนบวชเอากิเลสตนเองดึงคนขนลาภสักการะเข้าไปประเคนถึงที่ไงคะหยาบไหม
บิณฑบาตด้วยปลีแข้ง1บาตรฉันได้ไม่เกินเที่ยงต้องทิ้งหมดไม่เอาไปเผื่อใครคร่าาา


Rosarin เขียน:

ต้องทิ้งหมดไม่เอาไปเผื่อใครคร่าาา


กรัชกาย เขียน:

เอาไปทิ้ง กับ ให้คนที่เขาไม่มีจะกิน อย่างไหนเกิดประโยชน์กว่ากัน สำนักบ้านธัมมะก็คิดไม่เป็น

นี่ก็เช่นกันน

อ้างคำพูด:
คนบวชเอากิเลสตนเองดึงคนขนลาภสักการะเข้าไปประเคนถึงที่ไงคะหยาบไหม


นี่สำนักบ้านธัมมะ จะแยกวัดออกจากพุทธศาสนิกชน เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างแรง



Rosarin เขียน:

ตามคำสอนแยกแยะวัดกับบ้านชัดเจน
แต่คนที่มาบวชทำผิดจากคำสอนไงคะ
คนที่เข้าใจตามคำสอนแยกแยะถูกตรง
พยายามชี้ให้เห็นความไม่รู้ที่ทำตามๆกัน
โฮะๆๆๆมีรับปริญญาเอกของพระภิกษุอีก
555กิเลสไม่ถลอกเลยไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
แค่โกนหัวห่มผ้าเหลืองใช้เงินเป็นนิสัยคฤหัสถ์
สิกขาให้ถูกต้องแล้วจะเห็นความโลภและความไม่รู้
ที่พยายามดึงคนเข้าวัดมากๆเพื่อกักตุนวัตถุลาภสักการะตรงไหม
ตาไม่บอดเห็นคนขนเงินวัตถุเข้าไปกองไว้ในกุฏิศาลาแล้วก็ให้สีกาเพ่นพ่านเต็มวัดไหมคริคริคริ
:b32: :b32:


Rosarin เขียน:
:b12:
ขออนุญาตบุพการีที่บ้านมาบวช
เพื่อทำตามบุพการีสูงสุดคือคำสอนค่ะ
ก็ภิกษุหัวหน้าพุทธบริษัทโง่ไงคะ
สอนตัวเองไม่ได้ไงถึงรับเงินทอง
กรรมคือการกระทำเหตุตรงกับผล
คำว่ารับเงินนั้น/รับจริงๆเหมือนเวลา
จะซื้อของก็เตรียมเงินไปหยิบของมา
จ่ายเงินให้ผู้ขายซื้อจริงๆไม่หลอกตัวเอง
และผู้ไม่บวชมีปกติรับจ้างได้เงินเดือนค่าจ้าง
เพื่อจับจ่ายใช้สอยเอาไปฝากครอบครัวและเพื่อนได้
แต่ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้สละครอบครัวเพื่อทำตามสิกขาบท
สิกขาบทข้อที่8โกสิยะวรรคห้ามรับเงินทองและรูปิยะ(สิ่งที่ใช้แทนเงิน)
บวชวันแรกรับเงินเลยทุศีลเลยทำอุปนิสัยเดิมตอนเป็นคฤหัสถ์เข้าใจไหมคะ
ว่าพุทธบริษัททั้ง4เลือกเพศตนเองจะเป็นนักบวชก็ถูกต้องตามอัธยาศัยตนเองจริงๆ
เพราะภิกษุในธรรมวินัยสละสัมบัติครอบครัวไม่เลี้ยงดูใครอีกต่อไปมาเป็นผู้ขอโดยชอบ
ตามที่ขออนุญาตพร้อมปฏิญาณตนว่าหูไม่หนวกตาไม่บอดไม่พิการจะทำตามสิกขาบทมักน้อยสันโดษ
เป็นผู้ขอโดยบิณฑบาตเป็นวัตรตกลงว่ารับเงินและใช้สมมุติเงินทำตามเพศเดิมไม่ใช่ภิกษุไงคะคริคริคริ
แค่โกนหัวโกนคิ้วห่มผ้ากาสาวพัตรของเพศพระอรหันต์บริโภคอย่างโจรมิจฉาชีพหลอกตัวเองและชาวบ้าน
:b32: :b32:
:b32: :b32: :b32:


Kiss
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักการประมาณตน
มีอัธยาศัยเป็นเพศใดคือบวชหรือไม่บวช
ไม่บวชน่ะต้องทำมาหากินเลี้ยงตนและครอบครัว
ส่วนบวชน่ะไม่ต้องทำมาหากินมาขออาศัยนอนวัด
ไม่เลี้ยงดูใครเพราะตนเป็นผู้ขอและไม่ต้องเลี้ยงดูใคร
จึงไม่มีการรับเงินทองสิ่งของเกินที่ตนฉันได้ไม่เกินเที่ยง
ถ้ารับมามากๆเอาไปแจกจึงไม่ใช่วิสัยของผู้รู้จักประมาณตน
ไม่รู้ว่าตนโลภมากแล้วสละญาติพี่น้องหมดแล้วจึงไม่ทำสังคมสงเคราะห์
เห็นความไม่รู้จักกิเลสของผู้บวชไหมคะการเอาของไปแจกคืออวดกิเลสเพื่อให้คนเอามาให้เพิ่ม
ถ้ารู้จักการประมาณตนก็ต้องสอนชาวบ้านว่าควรเอาไปทำโรงทานแจกตามโรงพยาบาลสถานสงเคราะห์
ม่ใช่เอาภาระมาให้พระสงฆ์แจกเพราะพระพุทธเจ้าไม่ให้มาใช้งานพระสงฆ์ให้ไปทำสังคมสงเคราะห์เลย


ยามปกติพุทธศาสนิกชนก็อุปถัมภ์บำรุงพระสงฆ์องค์เณรด้วยปัจจัยสี่ ถึงคราวยามยากพุทธศาสนิกชนประสบภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมบ้าน ไฟไหม้บ้าน วัดมีเครื่องอุปโภคบริโภคก็นำไปให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนตรงนั้นบ้าง เท่ากับว่าบ้านกับวัดผลัดกันช่วยก็อวยชัย มันเสียหายอะไรนักหนาหรือศิษย์แม่สุจินแห่งบ้านธัมมะ คิกๆๆ

:b12:
ที่รับเงินใช้เงินเดินทางจับจ่ายใช้สอยเหมือนคฤหัสถ์
คือไม่ประมาณตนไงก็เสียสละตนเองไม่ใช่หรือคะ
ขอมาอยู่จำวัดแล้วเดินทางไปไหนกันคะมีกิจไหน
ไม่ได้ประกอบอาชีพไม่มีธุรกิจต้องติดต่อค้าขาย
มีมือถือเน็ตเฟสบุ๊คไว้สังคมหรือคะก็สละสังคม
เพื่อมาเลียนแบบพระพุทธเจ้าเพราะมาอยู่จำวัด
ไม่เป็นผู้เร่ร่อนไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนแล้วนี่
มีความประมาณในตนเองไหมคะว่าทำเหมือนเดิม
แบบครั้งเป็นชาวบ้านประกอบอาชีพไม่ได้แล้วจริงไหมคะ
ถ้ายังรับเงินใช้เงินยินดีอยากได้เพิ่มอยู่มันขาดจากวินัยแล้วค่ะ
แค่ครองผ้ากาสาวพัตรที่ตนไม่มีสิทธิ์หลอกตัวเองว่ายังบริสุทธิ์โง่ค่ะ
กินเหล็กถ่านแดงร้อนๆลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักตายแค่อัตภาพนี้เท่านั้น
ถ้าจริงใจต่อการบวชและประเมินได้ว่าตนยังพอใจใช้เงินก็ต้องลาสิกขาเพราะทำตามไม่ได้แล้ว
บวชแล้วทำตามสิกขาบทไม่ได้อันตรายประมาณมิได้ตถาคตมาบอกเล่นๆหรือถึงทำเป็นเล่นๆที่บวชนั้นน่ะ


คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 20:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สำนักใดทำลายพระพุทธศาสนา..ดูได้ไม่ยาก

Rosarin เขียน:
มูลนิธิ..............................
เขาเผยแพร่กี่ภาษาและผู้ที่ฟังคำสอนดั้งเดิมจนเกิดปัญญา
มองเห็นแล้วประกาศคำสอนของพระศาสดาให้เปิดเผย
คนเขาตาสว่างกันแล้วจะปิดกันให้แซดอีกต่อไปหรือคะ
ทนได้ทนไปจะประกาศคำตถาคตทุกวันจนกว่าจะสึกไปให้หมด
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุใครจะกราบลงเห็นผ้าเหลืองเดินหนีค่ะ
แต่เห็นขอทานรีบแบ่งของให้เลยประมาทการฟังคำสอนมากกันนัก
onion onion onion


กบนอกกะลา เขียน:
สำนักใด...ทำลายพระพุทธศาสนาบ้าง..นั้นดูไม่ยากเลย..

ยกตัวอย่าง...เช่น

สำนักใด..ปลูกฝังคนมาฟังจนเกิดความรู้สึก..ดังข้างล่างนี้..

สำนักนั้น...ก็คล้ายๆ กับสำนักพระเทวทัตในสมัยพุทธกาล



เป็นการสร้างสัญญา...ผิด..ผิด..
ผิดไม่พอ...ทำให้เกิดความรู้สึกติดลบต่อผ้าเหลือง..ขนาดว่า..แค่เห็นผ้าเหลือง..ก็เดินหนี้..ซะแล้ว..เป็นต้น..

ก็คล้ายๆกับที่พระเทวทัต..ที่สร้างสัญญา..ผิด..ผิด..แก่บรรดาลูกศิษย์..ทำนองว่า."นักบวชต้องไม่กินเนื้อ..ใครกินเนื้อไม่ดี".. เป็นต้น...มีคนเดินตามต้อย..ต้อย..ต้อย...แยกสำนักไปนั่งฟังเทวทัต 500

อ้างคำพูด:
มูลนิธิ..............................
เขาเผยแพร่กี่ภาษาและผู้ที่ฟังคำสอนดั้งเดิมจนเกิดปัญญา
มองเห็นแล้วประกาศคำสอนของพระศาสดาให้เปิดเผย
คนเขาตาสว่างกันแล้วจะปิดกันให้แซดอีกต่อไปหรือคะ
.....
ภิกษุณีไม่มีได้ก็ไม่ต้องมีภิกษุ............
.......................



สำนักใด..สอนคนจนมีความรู้..อหังการ..มานะตัวตนใหญ่โตขนาดนี้...
สำนักนั้น...ไม่ใช่แสงส่องทาง..ในมรรคผลนิพพานของบรมศาสดา


huh huh huh

ระวังนะ..สำนักไหน..สอนคน..ว่าสำนักฉันดี..สำนักโน้นเลว...นี้...กำลังเลวเข้าให้แล้ว..


Rosarin เขียน:
:b12:
สำนักแปลว่าที่อยู่และที่อยู่ของคนบวชกับคนไม่บวชไม่อยู่รวมกันและไม่ร่วมกัน
คนบวชเอากิเลสตนเองดึงคนขนลาภสักการะเข้าไปประเคนถึงที่ไงคะหยาบไหม
บิณฑบาตด้วยปลีแข้ง1บาตรฉันได้ไม่เกินเที่ยงต้องทิ้งหมดไม่เอาไปเผื่อใครคร่าาา


Rosarin เขียน:

ต้องทิ้งหมดไม่เอาไปเผื่อใครคร่าาา


กรัชกาย เขียน:

เอาไปทิ้ง กับ ให้คนที่เขาไม่มีจะกิน อย่างไหนเกิดประโยชน์กว่ากัน สำนักบ้านธัมมะก็คิดไม่เป็น

นี่ก็เช่นกันน

อ้างคำพูด:
คนบวชเอากิเลสตนเองดึงคนขนลาภสักการะเข้าไปประเคนถึงที่ไงคะหยาบไหม


นี่สำนักบ้านธัมมะ จะแยกวัดออกจากพุทธศาสนิกชน เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างแรง



Rosarin เขียน:

ตามคำสอนแยกแยะวัดกับบ้านชัดเจน
แต่คนที่มาบวชทำผิดจากคำสอนไงคะ
คนที่เข้าใจตามคำสอนแยกแยะถูกตรง
พยายามชี้ให้เห็นความไม่รู้ที่ทำตามๆกัน
โฮะๆๆๆมีรับปริญญาเอกของพระภิกษุอีก
555กิเลสไม่ถลอกเลยไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
แค่โกนหัวห่มผ้าเหลืองใช้เงินเป็นนิสัยคฤหัสถ์
สิกขาให้ถูกต้องแล้วจะเห็นความโลภและความไม่รู้
ที่พยายามดึงคนเข้าวัดมากๆเพื่อกักตุนวัตถุลาภสักการะตรงไหม
ตาไม่บอดเห็นคนขนเงินวัตถุเข้าไปกองไว้ในกุฏิศาลาแล้วก็ให้สีกาเพ่นพ่านเต็มวัดไหมคริคริคริ
:b32: :b32:


Rosarin เขียน:
:b12:
ขออนุญาตบุพการีที่บ้านมาบวช
เพื่อทำตามบุพการีสูงสุดคือคำสอนค่ะ
ก็ภิกษุหัวหน้าพุทธบริษัทโง่ไงคะ
สอนตัวเองไม่ได้ไงถึงรับเงินทอง
กรรมคือการกระทำเหตุตรงกับผล
คำว่ารับเงินนั้น/รับจริงๆเหมือนเวลา
จะซื้อของก็เตรียมเงินไปหยิบของมา
จ่ายเงินให้ผู้ขายซื้อจริงๆไม่หลอกตัวเอง
และผู้ไม่บวชมีปกติรับจ้างได้เงินเดือนค่าจ้าง
เพื่อจับจ่ายใช้สอยเอาไปฝากครอบครัวและเพื่อนได้
แต่ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้สละครอบครัวเพื่อทำตามสิกขาบท
สิกขาบทข้อที่8โกสิยะวรรคห้ามรับเงินทองและรูปิยะ(สิ่งที่ใช้แทนเงิน)
บวชวันแรกรับเงินเลยทุศีลเลยทำอุปนิสัยเดิมตอนเป็นคฤหัสถ์เข้าใจไหมคะ
ว่าพุทธบริษัททั้ง4เลือกเพศตนเองจะเป็นนักบวชก็ถูกต้องตามอัธยาศัยตนเองจริงๆ
เพราะภิกษุในธรรมวินัยสละสัมบัติครอบครัวไม่เลี้ยงดูใครอีกต่อไปมาเป็นผู้ขอโดยชอบ
ตามที่ขออนุญาตพร้อมปฏิญาณตนว่าหูไม่หนวกตาไม่บอดไม่พิการจะทำตามสิกขาบทมักน้อยสันโดษ
เป็นผู้ขอโดยบิณฑบาตเป็นวัตรตกลงว่ารับเงินและใช้สมมุติเงินทำตามเพศเดิมไม่ใช่ภิกษุไงคะคริคริคริ
แค่โกนหัวโกนคิ้วห่มผ้ากาสาวพัตรของเพศพระอรหันต์บริโภคอย่างโจรมิจฉาชีพหลอกตัวเองและชาวบ้าน
:b32: :b32:
:b32: :b32: :b32:


Kiss
พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักการประมาณตน
มีอัธยาศัยเป็นเพศใดคือบวชหรือไม่บวช
ไม่บวชน่ะต้องทำมาหากินเลี้ยงตนและครอบครัว
ส่วนบวชน่ะไม่ต้องทำมาหากินมาขออาศัยนอนวัด
ไม่เลี้ยงดูใครเพราะตนเป็นผู้ขอและไม่ต้องเลี้ยงดูใคร
จึงไม่มีการรับเงินทองสิ่งของเกินที่ตนฉันได้ไม่เกินเที่ยง
ถ้ารับมามากๆเอาไปแจกจึงไม่ใช่วิสัยของผู้รู้จักประมาณตน
ไม่รู้ว่าตนโลภมากแล้วสละญาติพี่น้องหมดแล้วจึงไม่ทำสังคมสงเคราะห์
เห็นความไม่รู้จักกิเลสของผู้บวชไหมคะการเอาของไปแจกคืออวดกิเลสเพื่อให้คนเอามาให้เพิ่ม
ถ้ารู้จักการประมาณตนก็ต้องสอนชาวบ้านว่าควรเอาไปทำโรงทานแจกตามโรงพยาบาลสถานสงเคราะห์
ม่ใช่เอาภาระมาให้พระสงฆ์แจกเพราะพระพุทธเจ้าไม่ให้มาใช้งานพระสงฆ์ให้ไปทำสังคมสงเคราะห์เลย


ยามปกติพุทธศาสนิกชนก็อุปถัมภ์บำรุงพระสงฆ์องค์เณรด้วยปัจจัยสี่ ถึงคราวยามยากพุทธศาสนิกชนประสบภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วมบ้าน ไฟไหม้บ้าน วัดมีเครื่องอุปโภคบริโภคก็นำไปให้ญาติโยมพุทธศาสนิกชนตรงนั้นบ้าง เท่ากับว่าบ้านกับวัดผลัดกันช่วยก็อวยชัย มันเสียหายอะไรนักหนาหรือศิษย์แม่สุจินแห่งบ้านธัมมะ คิกๆๆ

:b12:
ที่รับเงินใช้เงินเดินทางจับจ่ายใช้สอยเหมือนคฤหัสถ์
คือไม่ประมาณตนไงก็เสียสละตนเองไม่ใช่หรือคะ
ขอมาอยู่จำวัดแล้วเดินทางไปไหนกันคะมีกิจไหน
ไม่ได้ประกอบอาชีพไม่มีธุรกิจต้องติดต่อค้าขาย
มีมือถือเน็ตเฟสบุ๊คไว้สังคมหรือคะก็สละสังคม
เพื่อมาเลียนแบบพระพุทธเจ้าเพราะมาอยู่จำวัด
ไม่เป็นผู้เร่ร่อนไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนแล้วนี่
มีความประมาณในตนเองไหมคะว่าทำเหมือนเดิม
แบบครั้งเป็นชาวบ้านประกอบอาชีพไม่ได้แล้วจริงไหมคะ
ถ้ายังรับเงินใช้เงินยินดีอยากได้เพิ่มอยู่มันขาดจากวินัยแล้วค่ะ
แค่ครองผ้ากาสาวพัตรที่ตนไม่มีสิทธิ์หลอกตัวเองว่ายังบริสุทธิ์โง่ค่ะ
กินเหล็กถ่านแดงร้อนๆลวกตั้งแต่ปากถึงทวารหนักตายแค่อัตภาพนี้เท่านั้น
ถ้าจริงใจต่อการบวชและประเมินได้ว่าตนยังพอใจใช้เงินก็ต้องลาสิกขาเพราะทำตามไม่ได้แล้ว
บวชแล้วทำตามสิกขาบทไม่ได้อันตรายประมาณมิได้ตถาคตมาบอกเล่นๆหรือถึงทำเป็นเล่นๆที่บวชนั้นน่ะ


คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ :b32:

:b32:
ศึกษาคำสอนมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่าความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยู่ที่ป่าเขาแม่น้ำสถานที่ที่ไปเลยรู้ความจริงที่กายใจตนเองแล้วกายใจอยู่ไหน
กายกับใจของผู้บวชไม่ได้ใช้เงินซื้ออาหารนี่คะใช้เดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้งไม่ใช่หรือคะ
ก้อนหินก็ไม่ต้องแบกไปให้มันหนักเมื่อบิณฑบาตเสร็จก็เดินกลับวัดอยู่จำวัดเรียนธรรมที่กายใจ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 21:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
กรัชกาย
คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ


อ้างคำพูด:
Rosarin
ศึกษาคำสอนมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่าความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยู่ที่ป่าเขาแม่น้ำสถานที่ที่ไปเลยรู้ความจริงที่กายใจตนเองแล้วกายใจอยู่ไหน
กายกับใจของผู้บวชไม่ได้ใช้เงินซื้ออาหารนี่คะใช้เดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้งไม่ใช่หรือคะ
ก้อนหินก็ไม่ต้องแบกไปให้มันหนัก เมื่อบิณฑบาตเสร็จก็เดินกลับวัดอยู่จำวัดเรียนธรรมที่กายใจ


ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยแม่สุจิน มีแต่ความคิดสุดโต่งตกขอบทั้งนั้นทั้งเพ

ยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องเดินทางไปนั่นมานี่บ้าง คนเขามีพ่อมีแม่ ขณะเดินทางก็ต้องกิน มีศิษย์ไปด้วยก็ให้ศิษย์ซื้อให้นี่ใช้เงินซื้อนะ มีคนซื้อให้ แต่เดินทางคนเดียวก็ต้องเอาก้อนหินไปแลกอาหารกิน คิกๆๆ ไม่มีเงิน

ยังไม่ตายก็ต้องมีเรียนธรรมวินัย (ปริยัติ) เรียนก็ต้องมีสมุดปากกาหนังสือ ก็เอาก้อนหินไปแลกเครื่องเรียนเขียนอ่านอีก คิกๆๆ ไม่มีเงิน :b32: อ้าวจะให้พระเณรทำไง มีแต่ก้อนหินเอาป่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ส.ค. 2018, 22:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เขาตั้งกท.ถาม/ตอบกันที่พันทิพ

อ้างคำพูด:
อยากรู้เกี่ยวกับครูบาแสนจนค่ะ

ท่านเป็นใครมาจากไหน เคยมีอาชีพหรือผลงานอะไรมาบ้างคะ ท่านบวชมานานเท่าไหร่แล้ว ทำไมท่านถึงบวช... ท่านอยู่วัดไหน สอนปฏิบัติหรือเปล่าคะ สอนแนวไหน?? และ/หรือข้อมูลอื่นๆอะไรก็ได้ค่ะที่เกี่ยวกับท่าน

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

Sorry
ใน google หาไปหลายหน้า ไม่มีบทความ
พบแต่ วีดิโอ ล้วนๆ
เหมือน เจตนา ปิดบัง

https://pantip.com/topic/37952077





ตั้งชื่อครูบาแสนจน จนอีหลีอีหลอ :b32:

https://www.facebook.com/search/top/?q= ... 5%E0%B8%AD

จัดฉากบินทะบาดไม่รับเฮิน

ดูๆแล้วว๊าย พวกเดียวกับพะออระหันปะติสำพิทานี่ :b32:

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5C0DF29E

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5BCD0AD1

https://scontent.fbkk5-3.fna.fbcdn.net/ ... e=5BCC6DE8

http://g-picture2.wunjun.com/6/full/29d ... ?s=779x537

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 05:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ


อ้างคำพูด:
Rosarin
ศึกษาคำสอนมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่าความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยู่ที่ป่าเขาแม่น้ำสถานที่ที่ไปเลยรู้ความจริงที่กายใจตนเองแล้วกายใจอยู่ไหน
กายกับใจของผู้บวชไม่ได้ใช้เงินซื้ออาหารนี่คะใช้เดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้งไม่ใช่หรือคะ
ก้อนหินก็ไม่ต้องแบกไปให้มันหนัก เมื่อบิณฑบาตเสร็จก็เดินกลับวัดอยู่จำวัดเรียนธรรมที่กายใจ


ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยแม่สุจิน มีแต่ความคิดสุดโต่งตกขอบทั้งนั้นทั้งเพ

ยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องเดินทางไปนั่นมานี่บ้าง คนเขามีพ่อมีแม่ ขณะเดินทางก็ต้องกิน มีศิษย์ไปด้วยก็ให้ศิษย์ซื้อให้นี่ใช้เงินซื้อนะ มีคนซื้อให้ แต่เดินทางคนเดียวก็ต้องเอาก้อนหินไปแลกอาหารกิน คิกๆๆ ไม่มีเงิน

ยังไม่ตายก็ต้องมีเรียนธรรมวินัย (ปริยัติ) เรียนก็ต้องมีสมุดปากกาหนังสือ ก็เอาก้อนหินไปแลกเครื่องเรียนเขียนอ่านอีก คิกๆๆ ไม่มีเงิน :b32: อ้าวจะให้พระเณรทำไง มีแต่ก้อนหินเอาป่ะ

Kiss
อย่าดีแต่อ้างเหตุผลที่ไม่สมควรเข้าข้างการทำผิดวินัยเลย
ตลกบริโภคเหลือเกินไม่รู้เลยหรือเป็นผู้สละแล้ว
ซึ่งเรือนสมบัติเงินทองไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกเมีย
เพื่อหาเงินอีกแล้วและไม่ต้องเลี้ยงดูใครขอมาอยู่จำวัด
เพื่อทำตามสิกขาบทขัดเกลากิเลสไม่ทำกิจอย่างชาวบ้าน
คนที่บรรพชาได้ต้องมีอัธยาศัยใหญ่แท้จริงไม่เบียดเบียนขอ
สละการดูแลบุพการีที่บ้านออกบวชเพื่อทำตามบุพการีสูงสุด
ทราบไหมคะบุพการีหมายถึงอะไรบุพการีแปลว่าผู้ให้ก่อนและ
ทุกคนที่เป็นชาวพุทธกราบไหว้พระพุทธเจ้าและพุทธบุตรเพราะ
เขามีศรัทธาเลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบมีปัญญาเข้าใจ
ถ้าบวชแล้วยังทำตัวเป็นลูกแหง่555ใจเสาะแบบนั้นลาสิกขาไปเถอะ
รับเงินครองได้แต่ผ้าที่นุ่งห่มใจลงไปรอในนรกแล้วเพราะไม่สละอะไรเลย
จะมีอะไรยิ่งใหญ่เหนือกรรมที่ทำเป็นไม่มีถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ก็ลาสิกขา
พุทธบริษัททั้ง4มีความเข้าใจในคำตถาคตคำสอนคือศาสนาก็อยู่ในจิตใจของผู้ที่เข้าใจนั้น
พระพุทธศาสนาจะอันตรธานแน่นอนถ้ายังไม่สะสมการฟังชาตินั้นก็ไม่มีคำสอนเป็นที่พึ่งไงคะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 10:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ


อ้างคำพูด:
Rosarin
ศึกษาคำสอนมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่าความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยู่ที่ป่าเขาแม่น้ำสถานที่ที่ไปเลยรู้ความจริงที่กายใจตนเองแล้วกายใจอยู่ไหน
กายกับใจของผู้บวชไม่ได้ใช้เงินซื้ออาหารนี่คะใช้เดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้งไม่ใช่หรือคะ
ก้อนหินก็ไม่ต้องแบกไปให้มันหนัก เมื่อบิณฑบาตเสร็จก็เดินกลับวัดอยู่จำวัดเรียนธรรมที่กายใจ


ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยแม่สุจิน มีแต่ความคิดสุดโต่งตกขอบทั้งนั้นทั้งเพ

ยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องเดินทางไปนั่นมานี่บ้าง คนเขามีพ่อมีแม่ ขณะเดินทางก็ต้องกิน มีศิษย์ไปด้วยก็ให้ศิษย์ซื้อให้นี่ใช้เงินซื้อนะ มีคนซื้อให้ แต่เดินทางคนเดียวก็ต้องเอาก้อนหินไปแลกอาหารกิน คิกๆๆ ไม่มีเงิน

ยังไม่ตายก็ต้องมีเรียนธรรมวินัย (ปริยัติ) เรียนก็ต้องมีสมุดปากกาหนังสือ ก็เอาก้อนหินไปแลกเครื่องเรียนเขียนอ่านอีก คิกๆๆ ไม่มีเงิน :b32: อ้าวจะให้พระเณรทำไง มีแต่ก้อนหินเอาป่ะ

Kiss
อย่าดีแต่อ้างเหตุผลที่ไม่สมควรเข้าข้างการทำผิดวินัยเลย
ตลกบริโภคเหลือเกินไม่รู้เลยหรือเป็นผู้สละแล้ว
ซึ่งเรือนสมบัติเงินทองไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกเมีย
เพื่อหาเงินอีกแล้วและไม่ต้องเลี้ยงดูใครขอมาอยู่จำวัด
เพื่อทำตามสิกขาบทขัดเกลากิเลสไม่ทำกิจอย่างชาวบ้าน
คนที่บรรพชาได้ต้องมีอัธยาศัยใหญ่แท้จริงไม่เบียดเบียนขอ
สละการดูแลบุพการีที่บ้านออกบวชเพื่อทำตามบุพการีสูงสุด
ทราบไหมคะบุพการีหมายถึงอะไรบุพการีแปลว่าผู้ให้ก่อนและ
ทุกคนที่เป็นชาวพุทธกราบไหว้พระพุทธเจ้าและพุทธบุตรเพราะ
เขามีศรัทธาเลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบมีปัญญาเข้าใจ
ถ้าบวชแล้วยังทำตัวเป็นลูกแหง่555ใจเสาะแบบนั้นลาสิกขาไปเถอะ
รับเงินครองได้แต่ผ้าที่นุ่งห่มใจลงไปรอในนรกแล้วเพราะไม่สละอะไรเลย
จะมีอะไรยิ่งใหญ่เหนือกรรมที่ทำเป็นไม่มีถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ก็ลาสิกขา
พุทธบริษัททั้ง4มีความเข้าใจในคำตถาคตคำสอนคือศาสนาก็อยู่ในจิตใจของผู้ที่เข้าใจนั้น
พระพุทธศาสนาจะอันตรธานแน่นอนถ้ายังไม่สะสมการฟังชาตินั้นก็ไม่มีคำสอนเป็นที่พึ่งไงคะ


สำนักบ้านธัมมะโดยแม่สุจิน เพิ่งเกิดเมื่อนี่ พระพุทธศาสนาอุบัติมา 2600 กว่าปีแล้ว ยังอยู่มาได้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 14:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ


อ้างคำพูด:
Rosarin
ศึกษาคำสอนมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่าความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยู่ที่ป่าเขาแม่น้ำสถานที่ที่ไปเลยรู้ความจริงที่กายใจตนเองแล้วกายใจอยู่ไหน
กายกับใจของผู้บวชไม่ได้ใช้เงินซื้ออาหารนี่คะใช้เดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้งไม่ใช่หรือคะ
ก้อนหินก็ไม่ต้องแบกไปให้มันหนัก เมื่อบิณฑบาตเสร็จก็เดินกลับวัดอยู่จำวัดเรียนธรรมที่กายใจ


ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยแม่สุจิน มีแต่ความคิดสุดโต่งตกขอบทั้งนั้นทั้งเพ

ยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องเดินทางไปนั่นมานี่บ้าง คนเขามีพ่อมีแม่ ขณะเดินทางก็ต้องกิน มีศิษย์ไปด้วยก็ให้ศิษย์ซื้อให้นี่ใช้เงินซื้อนะ มีคนซื้อให้ แต่เดินทางคนเดียวก็ต้องเอาก้อนหินไปแลกอาหารกิน คิกๆๆ ไม่มีเงิน

ยังไม่ตายก็ต้องมีเรียนธรรมวินัย (ปริยัติ) เรียนก็ต้องมีสมุดปากกาหนังสือ ก็เอาก้อนหินไปแลกเครื่องเรียนเขียนอ่านอีก คิกๆๆ ไม่มีเงิน :b32: อ้าวจะให้พระเณรทำไง มีแต่ก้อนหินเอาป่ะ

Kiss
อย่าดีแต่อ้างเหตุผลที่ไม่สมควรเข้าข้างการทำผิดวินัยเลย
ตลกบริโภคเหลือเกินไม่รู้เลยหรือเป็นผู้สละแล้ว
ซึ่งเรือนสมบัติเงินทองไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกเมีย
เพื่อหาเงินอีกแล้วและไม่ต้องเลี้ยงดูใครขอมาอยู่จำวัด
เพื่อทำตามสิกขาบทขัดเกลากิเลสไม่ทำกิจอย่างชาวบ้าน
คนที่บรรพชาได้ต้องมีอัธยาศัยใหญ่แท้จริงไม่เบียดเบียนขอ
สละการดูแลบุพการีที่บ้านออกบวชเพื่อทำตามบุพการีสูงสุด
ทราบไหมคะบุพการีหมายถึงอะไรบุพการีแปลว่าผู้ให้ก่อนและ
ทุกคนที่เป็นชาวพุทธกราบไหว้พระพุทธเจ้าและพุทธบุตรเพราะ
เขามีศรัทธาเลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบมีปัญญาเข้าใจ
ถ้าบวชแล้วยังทำตัวเป็นลูกแหง่555ใจเสาะแบบนั้นลาสิกขาไปเถอะ
รับเงินครองได้แต่ผ้าที่นุ่งห่มใจลงไปรอในนรกแล้วเพราะไม่สละอะไรเลย
จะมีอะไรยิ่งใหญ่เหนือกรรมที่ทำเป็นไม่มีถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ก็ลาสิกขา
พุทธบริษัททั้ง4มีความเข้าใจในคำตถาคตคำสอนคือศาสนาก็อยู่ในจิตใจของผู้ที่เข้าใจนั้น
พระพุทธศาสนาจะอันตรธานแน่นอนถ้ายังไม่สะสมการฟังชาตินั้นก็ไม่มีคำสอนเป็นที่พึ่งไงคะ


สำนักบ้านธัมมะโดยแม่สุจิน เพิ่งเกิดเมื่อนี่ พระพุทธศาสนาอุบัติมา 2600 กว่าปีแล้ว ยังอยู่มาได้

Kiss
:b12:
ชาวบ้านน่ะเขาไม่รู้ไม่เคยฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
ว่าภิกษุที่บวชรับเงินทองและยินดีรับเงินและทองแม้ไม่จับ
จิตที่ยินดีรับนั่นแหละคืออวิชชาที่โลภอยากได้เอามาทำอะไรคะ
บวชคือบรรพชาคือบรรพชิตคือผู้ชนะพิชิตบรรพบุรุษที่มีกิเลสมากไงคะ
ขออนุญาตบุพการีบรรพบุรุษที่บ้านมาเพื่อทำตามแบบอย่างบุพการีสูงสุดคือพระพุทธเจ้า
แต่ไม่เคารพพระศาสดาเพราะศาสดาทรงยกพระธรรมและพระวินัยขึ้นเป็นศาสดาแทนตัวพระองค์
ถามชาวบ้านดูสิมีกี่คนที่รู้ว่าถวายเงินพระภิกษุคือการส่งภิกษุไปนรกเคยรู้ไหมเกิดมาก็เห็นกฐินผ้าป่ารับเงิน
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
กรัชกาย
คิกๆๆ ไม่ให้ใช้เงิน จะให้ใช้ก้อนหินแทนเรอะ เช่น จะเดินไปต่างจังหวัดพกก้อนหินไปแลกตั๋ว ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยสุจินตกขอบ


อ้างคำพูด:
Rosarin
ศึกษาคำสอนมาตั้งนานยังไม่รู้อีกหรือว่าความจริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ได้อยู่ที่ป่าเขาแม่น้ำสถานที่ที่ไปเลยรู้ความจริงที่กายใจตนเองแล้วกายใจอยู่ไหน
กายกับใจของผู้บวชไม่ได้ใช้เงินซื้ออาหารนี่คะใช้เดินบิณฑบาตด้วยปลีแข้งไม่ใช่หรือคะ
ก้อนหินก็ไม่ต้องแบกไปให้มันหนัก เมื่อบิณฑบาตเสร็จก็เดินกลับวัดอยู่จำวัดเรียนธรรมที่กายใจ


ศิษย์บ้านธัมมะนำโดยแม่สุจิน มีแต่ความคิดสุดโต่งตกขอบทั้งนั้นทั้งเพ

ยังไม่ตาย ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องเดินทางไปนั่นมานี่บ้าง คนเขามีพ่อมีแม่ ขณะเดินทางก็ต้องกิน มีศิษย์ไปด้วยก็ให้ศิษย์ซื้อให้นี่ใช้เงินซื้อนะ มีคนซื้อให้ แต่เดินทางคนเดียวก็ต้องเอาก้อนหินไปแลกอาหารกิน คิกๆๆ ไม่มีเงิน

ยังไม่ตายก็ต้องมีเรียนธรรมวินัย (ปริยัติ) เรียนก็ต้องมีสมุดปากกาหนังสือ ก็เอาก้อนหินไปแลกเครื่องเรียนเขียนอ่านอีก คิกๆๆ ไม่มีเงิน :b32: อ้าวจะให้พระเณรทำไง มีแต่ก้อนหินเอาป่ะ

Kiss
อย่าดีแต่อ้างเหตุผลที่ไม่สมควรเข้าข้างการทำผิดวินัยเลย
ตลกบริโภคเหลือเกินไม่รู้เลยหรือเป็นผู้สละแล้ว
ซึ่งเรือนสมบัติเงินทองไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องลูกเมีย
เพื่อหาเงินอีกแล้วและไม่ต้องเลี้ยงดูใครขอมาอยู่จำวัด
เพื่อทำตามสิกขาบทขัดเกลากิเลสไม่ทำกิจอย่างชาวบ้าน
คนที่บรรพชาได้ต้องมีอัธยาศัยใหญ่แท้จริงไม่เบียดเบียนขอ
สละการดูแลบุพการีที่บ้านออกบวชเพื่อทำตามบุพการีสูงสุด
ทราบไหมคะบุพการีหมายถึงอะไรบุพการีแปลว่าผู้ให้ก่อนและ
ทุกคนที่เป็นชาวพุทธกราบไหว้พระพุทธเจ้าและพุทธบุตรเพราะ
เขามีศรัทธาเลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบมีปัญญาเข้าใจ
ถ้าบวชแล้วยังทำตัวเป็นลูกแหง่555ใจเสาะแบบนั้นลาสิกขาไปเถอะ
รับเงินครองได้แต่ผ้าที่นุ่งห่มใจลงไปรอในนรกแล้วเพราะไม่สละอะไรเลย
จะมีอะไรยิ่งใหญ่เหนือกรรมที่ทำเป็นไม่มีถ้าทำตามสิกขาบทไม่ได้ก็ลาสิกขา
พุทธบริษัททั้ง4มีความเข้าใจในคำตถาคตคำสอนคือศาสนาก็อยู่ในจิตใจของผู้ที่เข้าใจนั้น
พระพุทธศาสนาจะอันตรธานแน่นอนถ้ายังไม่สะสมการฟังชาตินั้นก็ไม่มีคำสอนเป็นที่พึ่งไงคะ


สำนักบ้านธัมมะโดยแม่สุจิน เพิ่งเกิดเมื่อนี่ พระพุทธศาสนาอุบัติมา 2600 กว่าปีแล้ว ยังอยู่มาได้

Kiss
:b12:
ชาวบ้านน่ะเขาไม่รู้ไม่เคยฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
ว่าภิกษุที่บวชรับเงินทองและยินดีรับเงินและทองแม้ไม่จับ
จิตที่ยินดีรับนั่นแหละคืออวิชชาที่โลภอยากได้เอามาทำอะไรคะ
บวชคือบรรพชาคือบรรพชิตคือผู้ชนะพิชิตบรรพบุรุษที่มีกิเลสมากไงคะ
ขออนุญาตบุพการีบรรพบุรุษที่บ้านมาเพื่อทำตามแบบอย่างบุพการีสูงสุดคือพระพุทธเจ้า
แต่ไม่เคารพพระศาสดาเพราะศาสดาทรงยกพระธรรมและพระวินัยขึ้นเป็นศาสดาแทนตัวพระองค์
ถามชาวบ้านดูสิมีกี่คนที่รู้ว่าถวายเงินพระภิกษุคือการส่งภิกษุไปนรกเคยรู้ไหมเกิดมาก็เห็นกฐินผ้าป่ารับเงิน


เพ้อไปเรื่อย :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร