สำนักใด...ทำลายพระพุทธศาสนาบ้าง..นั้นดูไม่ยากเลย..

ยกตัวอย่าง...เช่น

สำนักใด..ปลูกฝังคนมาฟังจนเกิดความรู้สึก..ดังข้างล่างนี้..

สำนักนั้น...ก็คล้ายๆ กับสำนักพระเทวทัตในสมัยพุทธกาล



เป็นการสร้างสัญญา...ผิด..ผิด..
ผิดไม่พอ...ทำให้เกิดความรู้สึกติดลบต่อผ้าเหลือง..ขนาดว่า..แค่เห็นผ้าเหลือง..ก็เดินหนี้..ซะแล้ว..เป็นต้น..

ก็คล้ายๆกับที่พระเทวทัต..ที่สร้างสัญญา..ผิด..ผิด..แก่บรรดาลูกศิษย์..ทำนองว่า."นักบวชต้องไม่กินเนื้อ..ใครกินเนื้อไม่ดี".. เป็นต้น...มีคนเดินตามต้อย..ต้อย..ต้อย...แยกสำนักไปนั่งฟังเทวทัต 500



สำนักใด..สอนคนจนมีความรู้..อหังการ..มานะตัวตนใหญ่โตขนาดนี้...
สำนักนั้น...ไม่ใช่แสงส่องทาง..ในมรรคผลนิพพานของบรมศาสดา



ระวังนะ..สำนักไหน..สอนคน..ว่าสำนักฉันดี..สำนักโน้นเลว...นี้...กำลังเลวเข้าให้แล้ว..

มีสำนักหนึ่ง.อยู่ใกล้ทางหลายแยก..จ้างคนไปแจกใบปลิว..โจมตีนักบวชเรื่องรับเงินรับทอง..อ้างบทบัญญัติธรรมวินัยอย่างถูกต้อง...(แต่ไม่ครบ)

แต่พอตัวเองคือตัวเจ้าสำนัก...ไปตุยคนขับรถ..กลับไม่เอาพระธรรมวินัยมาตัดสินปราชิกของตัวเอง..โดยอ้างว่าตอนนั้นฌาณไม่เสื่อมก็เลยคิดว่าไม่เป็นอาบัติปราชิก..จนลูกศิษย์หลายๆคนมาขับไล่..จึงยอม..โดยอ้างว่า..เพิ่งจะรู้ว่าปราชิกเพราะฌาณได้เสื่อมลงแล้ว...


ูนี้..ขนาดจะต้องสึก...ยังเอาความรู้สึกตัวเองมาวัด...ไม่เอาพระธรรมวินัยมาวัด..ซะเนี้ย..แต่เรื่องรับเงินรับทอง..อ้างธรรมวินัยเฉย..

คนประเภทนี้...เอาธรรมวินัยมาอ้าง..ก็เพื่อยกหางตัวเอง..แค่นั้นแหละ..นี้ละกิเลสคน

สำนักแปลว่าที่อยู่และที่อยู่ของคนบวชกับคนไม่บวชไม่อยู่รวมกันและไม่ร่วมกัน
คนบวชเอากิเลสตนเองดึงคนขนลาภสักการะเข้าไปประเคนถึงที่ไงคะหยาบไหม
บิณฑบาตด้วยปลีแข้ง1บาตรฉันได้ไม่เกินเที่ยงต้องทิ้งหมดไม่เอาไปเผื่อใครคร่าาา

กรุณาไปเอาสิกขาบทมาแสดงหน่อยค่ะชีพราหมณ์อยู่ตรงไหนคะอยากได้เงินก็ชวนคนไปนอนวัดไงคะ

อย่ามัวแต่ห่วง...ใครจะรับเงินเลยครับ...
ห่วงตัวเอง ..กิเลสกำลังพอกพูน..นั้นนะ..

ขนาดเห็นผ้าเหลือง..ยังอยากจะเดินหนี...นี้ก็หนักหนาสาหัสแล้ว...

มันแสดงให้เห็นชัดๆเลยว่า....ไม่ได้เห็นตามความเป็นจริง....เห็นแต่ความคิดตน..แล้วก็หลงไปยึดความคิดว่าเป็นจริง..จนอาการออกมาว่า" อยากจะเดินหนี" นั้นแหละ

ไอ้ที่ฝึกฟังมาที่ละคำให้เข้าใจ...นั้นนะ..มันไม่ได้เข้าใจจริงๆหรอก...ชีวิตจริงก็เห็นๆอยู่...หลงอุปทานจนอยากจะเดินหนีผ้าเหลือง..นั้นงัย..

สรุป....7-8 ปี....ฟังมา....ชีวิตจริงยังไม่ก้าวหน้า...

อาการต่างๆ หลายๆ อย่าง....มันชัดเจนว่า...ญาณรู้ยังไม่เกิด...

เมื่อญาณรู้..ยังไม่ปรากฏว่าเกิด...นั้นแสดงว่าเดินทางผิด..

ไม่ใช่มรรค...

เพียงแค่ฟังจนเป็นสัญญา
นึกว่า เกิดญาณหยั่งลงไตรลักษณ์ในรูปนาม
เท่านั้นเอง...

จิตเห็น...จิตได้ยิน...จิตได้กลิ่น...จิตรู้รส...จิตรับสัมผัส...จิตคิดนึก
กะพริบตาแถวบนนั้นดับหมด6ทางมีตัวธัมมะดับนับไม่ถ้วนทัน1สัจจะไหมคะ
ไม่รู้ทันตรง1ปรมัตถ์ทางหนึ่งทางใดใน6ทางนั้นน่ะแปลว่ากิเลสตัวเองนับไม่ถ้วนแล้ว
เอากิเลสที่ดับสะสมไหลไปในอารมณ์ที่จิตรู้ออกตอนไหนคะตรงน๊าไม่รู้1ที่กายคือ1ธัมมะไหน
แค่กะพริบตาเอาไม่ทันให้ตรงทีละคำก่อนแล้วก็ไม่มีทางตรงได้เลยเพราะความจริงปรากฏกับอวิชชาไงคะ

สิกขาคือศึกษาต้องฝึกคิดตรงทีละคำที่กำลังมีที่กายใจตนเองเดี๋ยวนี้ตรงตามที่กำลังฟังจริงๆค่ะ

เป็นความบังเอิญ...หรือจะเป็น..แผนของใครส่งมา..นารีพิฆาต...

https://www.thairath.co.th/content/1350753
สีกาแต่งตัวดี พูดเพราะ บุกวัดขอเงินพระยามวิกาล

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1350753

คุณโรสศิษย์สำนักบ้านธัมมะคิดผิดคิดสุดโต่งไปทางมิจฉาทิฏฐิ นี่



เอาไปทิ้ง กับ ให้คนที่เขาไม่มีจะกิน อย่างไหนเกิดประโยชน์กว่ากัน สำนักบ้านธัมมะก็คิดไม่เป็น

นี่ก็เช่นกันน



นี่สำนักบ้านธัมมะ จะแยกวัดออกจากพุทธศาสนิกชน เป็นมิจฉาทิฏฐิอย่างแรง

ตามคำสอนแยกแยะวัดกับบ้านชัดเจน
แต่คนที่มาบวชทำผิดจากคำสอนไงคะ
คนที่เข้าใจตามคำสอนแยกแยะถูกตรง
พยายามชี้ให้เห็นความไม่รู้ที่ทำตามๆกัน
โฮะๆๆๆมีรับปริญญาเอกของพระภิกษุอีก
555กิเลสไม่ถลอกเลยไม่รู้อะไรเลยจริงๆ
แค่โกนหัวห่มผ้าเหลืองใช้เงินเป็นนิสัยคฤหัสถ์
สิกขาให้ถูกต้องแล้วจะเห็นความโลภและความไม่รู้
ที่พยายามดึงคนเข้าวัดมากๆเพื่อกักตุนวัตถุลาภสักการะตรงไหม
ตาไม่บอดเห็นคนขนเงินวัตถุเข้าไปกองไว้ในกุฏิศาลาแล้วก็ให้สีกาเพ่นพ่านเต็มวัดไหมคริคริคริ

ชาวบ้านเขาสร้างวัด ก็เพื่อเป็นที่บำเพ็ญของเขา