วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 03:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2018, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:


http://walkingsuccess.com/wp-content/up ... 5/07/1.jpg

อ้างคำพูด:
การวัดการทำงานของสมองด้วยเครื่อง Electro encephalograms (EEG) หลังการปฏิบัติสมาธิ

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทำสมาธิตามระยะเวลาที่กำหนดของทั้งสองกลุ่ม Davidson ทำการตรวจคลื่นรังสีแกรมม่าในสมองโดยใช้เครื่อง Electro encephalograms (EEG) เป็นตัวช่วย คลื่นรังสีที่พบนี้จะมีความเชื่อมโยงกับสมาธิ สติและการเรียนรู้ภายใต้ความสงบ

ผลลัพธ์ที่ได้ก่อนการนั่งสมาธิสำหรับกลุ่มพระภิกษุทิเบตคือปริมาณคลื่นแกรมม่ามีสูงมากกว่าเมื่อเทียบกับเหล่านักศึกษา ส่วนภายหลังจากการนั่งสมาธิและทำการตรวจสอบอีกรอบความเข้มข้นของรังสีของพระภิกษุทิเบตยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างยิ่งยวด ในขณะที่เหล่านักศึกษาก็มีการเปลี่ยนแปลงของระบบสมองไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่ด้วย “ระยะเวลา” ซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง คือตัวชี้วัดว่ายิ่งการปฏิบัติสมาธิมายาวนานและต่อเนื่องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบสมองได้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงวัยใดก็ตาม



http://walkingsuccess.com/wp-content/up ... 5/07/5.jpg

อ้างคำพูด:
การประยุกต์ใช้สมาธิกับการรักษาโรคและพัฒนาตนเอง

ผลการทดลองนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงระบบการเปลี่ยนแปลงของสมองที่น่าสนใจ การนั่งสมาธิหลากหลายรูปแบบ โดยมีพื้นฐานอยู่ที่การช่วยยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้นและมีความสุขมากขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้ปัญหามากมายจะยังคงอยู่ แต่สมาธิจะช่วยให้สมองเรียงลำดับการแก้ปัญหาอย่างไม่ทุกข์ร้อน

ชาวตะวันตกเริ่มหันมาสนใจการนั่งสมาธิมากขึ้นจากเดิมกว่า 2 เท่าตัว และเป็นการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ บางมหาวิทยาลัยยังมีการจัดให้สมาธิเป็นหนึ่งในคอร์สที่ควรมีก่อนการเริ่มต้นเรียนในคาบแรก หลังจากการนั่งสมาธิพบว่านักศึกษาสามารถเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น แถมยังมีคะแนนการสอบสูงกว่าเดิมอย่างน่าพึงพอใจ


http://walkingsuccess.com/the-science-of-meditation/



กายหายไป...แต่ไม่ได้อะไรเลยนี้..ก็น่าเสียดายนะ..


จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้


ได้อีกกระทู้หนึ่งแล้ว

คุณโรสกำลังปฏิเสธว่าพระอรหันต์ไม่มี เพราะอะไร ? เพราะว่าพระอรหันต์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น กำจัดกิเลส ตัณหา อุปาทาน ราคะ โทสะ โมหะได้หมดสิ้นแล้ว แต่คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะกลับพูดว่าไม่มีใครเอากิเลสออกได้ อิอิ หนึ่งล่ะ

สอง ในขณะเดียวกัน ก็ปฏิเสธินิพพานอีก เพราะอะไร ? เพราะผู้กำจัดกิเลสได้หมดสิ้นแล้วนั่นแหละจิตใจท่านเย็นแล้ว นี่ก็เป็นลักษณะนิพพาน ดูคุณโรสพูดดิ

อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอน ว่าไม่กลับมาบอก
คุณโรสพูดอะไร นิพพานไม่กลับมาบอก คิกๆๆ ฮง ยิ่งพูดยิ่งฮง

จบข่าวขอรับโผม ไม่ไหวจะเคลียร์ :b32:

อ้าวนี่อีก
อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
อะไรของเขานะ

Kiss
:b32:
นี่แหละกิเลสคนเราไม่รู้แล้วยังไม่รอบคอบใส่ความคิดเห็นลงไปโดยไม่ละเอียด
ที่มีจริงๆน่ะมีคำตถาคตที่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว1เดียวในจักรวาลอย่างอื่นไม่มี
หมายถึงความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่มีใครรู้ความจริงได้ทั้งหมดไงล่ะคะ
เพราะผู้ที่เป็นสาวกแล้วบรรลุตามได้(บรรลุ ตาม)ไม่ใช่ไปทำเองต้องคิดตาม
เข้าใจถูกตามคือปัญญาเกิดพอหยุดฟังคิดต่อเองคือคิดเองตามเห็นผิดไงคะ
และถ้าไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตทีละคำแสดงว่าความจริงของตนเกิดอวิชชา
ไม่เข้าใจความจริงเดี๋ยวนี้จะไปเข้าใจตอนไหนคะอดีตและอนาคตรู้ไม่ได้ไง
ต้องรู้ตรงปัจจุบันขณะตาม...เข้าใจคำว่ารู้ตามไหมคะ...เช่น...เห็น...เข้าใจ
ว่าเห็นก็คือเห็นไม่มีอะไรปนเลยแม้แต่อย่างเดียวคือจิตเห็นดับแล้วไม่รู้ไง
ว่าแค่เห็นสิ่งที่ปรากฏแล้วก็ไม่มีแล้วไงคะแล้วจะทำอะไรกะเห็นที่ดับได้ไหม
มันดับแล้วเอาเห็นที่ดับแล้วนั้นกลับมาถอนออกตอนไหนค๊ะคิดทันไหมคะ
:b32: :b32:


ถามคุณโรส พระอรหันต์ยังมีกิเลสไหม

1. ยังมีกิเลส
2. ไม่มีกิเลสแล้ว

ข้อไหน 1 หรือ 2

คนที่ศึกษาคำสอนใครๆเขาก็รู้ว่าพระอรหันต์หมดกิเลสทั้งนั้นแหละ
แล้วตนน่ะรู้หรือว่าใครคือพระอรหันต์ :b32: ตถาคตบอกให้รู้ที่กายใจตนเองน๊า
จะรู้ว่าใครบรรลุธรรมระดับไหนแล้วต้องมีปัญญาเท่ากันมิใช่หรือคะคุณกรัชกาย
คุณหลงเข้าใจผิดว่ารู้จักตัวตนพระอรหันต์หรือคะตถาคตบอกว่าทุกอย่างรู้ที่กายใจตน
:b32: :b32:


ก็นั่นน่าซิ แล้วทำไมคุณโรสจึงบอกว่า ไม่มีใครเอากิเลสออกได้ล่ะ

:b11: ใครเห็นชวนะ7อย่างตถาคตแล้วหยิบออกได้มั่งอิอิ :b32:
พระพุทธเจ้าแสดงคือกล่าวสิ่งที่พระองค์รู้แล้วให้คนที่ตั้งใจฟังรู้ตามได้นะ
คนที่ไม่ฟังย่อมคิดไม่ออกไงว่าทรงตรัสอย่างไรทำไมทั้งคนเทวดาพรหมบรรลุธรรมฟังบ้างนะ



ไปชวนะอีก อิอิ คุณโรสกรัชกายว่าคุณเพ้อเจ้อขอรับ จริงๆนะไม่ใช่แกล้งว่า :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2018, 10:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:


http://walkingsuccess.com/wp-content/up ... 5/07/1.jpg

อ้างคำพูด:
การวัดการทำงานของสมองด้วยเครื่อง Electro encephalograms (EEG) หลังการปฏิบัติสมาธิ

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทำสมาธิตามระยะเวลาที่กำหนดของทั้งสองกลุ่ม Davidson ทำการตรวจคลื่นรังสีแกรมม่าในสมองโดยใช้เครื่อง Electro encephalograms (EEG) เป็นตัวช่วย คลื่นรังสีที่พบนี้จะมีความเชื่อมโยงกับสมาธิ สติและการเรียนรู้ภายใต้ความสงบ

ผลลัพธ์ที่ได้ก่อนการนั่งสมาธิสำหรับกลุ่มพระภิกษุทิเบตคือปริมาณคลื่นแกรมม่ามีสูงมากกว่าเมื่อเทียบกับเหล่านักศึกษา ส่วนภายหลังจากการนั่งสมาธิและทำการตรวจสอบอีกรอบความเข้มข้นของรังสีของพระภิกษุทิเบตยิ่งเพิ่มปริมาณมากขึ้นอย่างยิ่งยวด ในขณะที่เหล่านักศึกษาก็มีการเปลี่ยนแปลงของระบบสมองไปด้วยเช่นเดียวกัน แต่ด้วย “ระยะเวลา” ซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง คือตัวชี้วัดว่ายิ่งการปฏิบัติสมาธิมายาวนานและต่อเนื่องมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบสมองได้ทั้งสิ้นไม่ว่าจะมีอายุอยู่ในช่วงวัยใดก็ตาม



http://walkingsuccess.com/wp-content/up ... 5/07/5.jpg

อ้างคำพูด:
การประยุกต์ใช้สมาธิกับการรักษาโรคและพัฒนาตนเอง

ผลการทดลองนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงระบบการเปลี่ยนแปลงของสมองที่น่าสนใจ การนั่งสมาธิหลากหลายรูปแบบ โดยมีพื้นฐานอยู่ที่การช่วยยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้นและมีความสุขมากขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้ปัญหามากมายจะยังคงอยู่ แต่สมาธิจะช่วยให้สมองเรียงลำดับการแก้ปัญหาอย่างไม่ทุกข์ร้อน

ชาวตะวันตกเริ่มหันมาสนใจการนั่งสมาธิมากขึ้นจากเดิมกว่า 2 เท่าตัว และเป็นการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ บางมหาวิทยาลัยยังมีการจัดให้สมาธิเป็นหนึ่งในคอร์สที่ควรมีก่อนการเริ่มต้นเรียนในคาบแรก หลังจากการนั่งสมาธิพบว่านักศึกษาสามารถเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น แถมยังมีคะแนนการสอบสูงกว่าเดิมอย่างน่าพึงพอใจ


http://walkingsuccess.com/the-science-of-meditation/



กายหายไป...แต่ไม่ได้อะไรเลยนี้..ก็น่าเสียดายนะ..


จะเอาอะไรมิทราบคะทุกอย่างมันดับหมดแล้วนี่
ไปได้แต่กิเลส/กรรม/วิบากคือจิต+เจตสิก+รูปพาเกิด
ของเก่าที่คิดว่าทำได้นั้นไม่มีเพราะสัพเพ ธัมมา อนัตตา
นิพพานไม่เกิดเพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอนว่าไม่กลับมาบอก
แต่คำตถาคตที่กำลังมีคนอื่นกล่าวให้เข้าใจความจริงคือสิ่งที่กำลังมี
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้มีแต่ต้องเพียรรู้แต่ละคำตามคำสอนก่อนตาย
เพราะสิ่งที่กำลังมีกำลังทำตามๆกันด้วยความไม่รู้คือกิเลสกรรมวิบาก
พาเวียนว่ายตายเกิดไม่หยุดที่ทำมาแล้วแก้ไขไม่ได้มีแต่ต้องฟังเพื่อ
เข้าใจทุกข์ที่ทุกข์เพราะไม่รู้ที่หายทุกข์เพราะรู้ความจริงถูกตามได้
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ


อ้างคำพูด:
ไม่มีใครเอากิเลสออกได้


ได้อีกกระทู้หนึ่งแล้ว

คุณโรสกำลังปฏิเสธว่าพระอรหันต์ไม่มี เพราะอะไร ? เพราะว่าพระอรหันต์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น กำจัดกิเลส ตัณหา อุปาทาน ราคะ โทสะ โมหะได้หมดสิ้นแล้ว แต่คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะกลับพูดว่าไม่มีใครเอากิเลสออกได้ อิอิ หนึ่งล่ะ

สอง ในขณะเดียวกัน ก็ปฏิเสธินิพพานอีก เพราะอะไร ? เพราะผู้กำจัดกิเลสได้หมดสิ้นแล้วนั่นแหละจิตใจท่านเย็นแล้ว นี่ก็เป็นลักษณะนิพพาน ดูคุณโรสพูดดิ

อ้างคำพูด:
นิพพานไม่เกิด เพราะนิพพานเที่ยงแท้แน่นอน ว่าไม่กลับมาบอก
คุณโรสพูดอะไร นิพพานไม่กลับมาบอก คิกๆๆ ฮง ยิ่งพูดยิ่งฮง

จบข่าวขอรับโผม ไม่ไหวจะเคลียร์ :b32:

อ้าวนี่อีก
อ้างคำพูด:
สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ คือ ทั้งหมดที่ทำมาแล้วเอาไปไม่ได้ไงคะ
อะไรของเขานะ

Kiss
:b32:
นี่แหละกิเลสคนเราไม่รู้แล้วยังไม่รอบคอบใส่ความคิดเห็นลงไปโดยไม่ละเอียด
ที่มีจริงๆน่ะมีคำตถาคตที่พระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว1เดียวในจักรวาลอย่างอื่นไม่มี
หมายถึงความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่มีใครรู้ความจริงได้ทั้งหมดไงล่ะคะ
เพราะผู้ที่เป็นสาวกแล้วบรรลุตามได้(บรรลุ ตาม)ไม่ใช่ไปทำเองต้องคิดตาม
เข้าใจถูกตามคือปัญญาเกิดพอหยุดฟังคิดต่อเองคือคิดเองตามเห็นผิดไงคะ
และถ้าไม่พึ่งคิดตามคำตถาคตทีละคำแสดงว่าความจริงของตนเกิดอวิชชา
ไม่เข้าใจความจริงเดี๋ยวนี้จะไปเข้าใจตอนไหนคะอดีตและอนาคตรู้ไม่ได้ไง
ต้องรู้ตรงปัจจุบันขณะตาม...เข้าใจคำว่ารู้ตามไหมคะ...เช่น...เห็น...เข้าใจ
ว่าเห็นก็คือเห็นไม่มีอะไรปนเลยแม้แต่อย่างเดียวคือจิตเห็นดับแล้วไม่รู้ไง
ว่าแค่เห็นสิ่งที่ปรากฏแล้วก็ไม่มีแล้วไงคะแล้วจะทำอะไรกะเห็นที่ดับได้ไหม
มันดับแล้วเอาเห็นที่ดับแล้วนั้นกลับมาถอนออกตอนไหนค๊ะคิดทันไหมคะ
:b32: :b32:


ถามคุณโรส พระอรหันต์ยังมีกิเลสไหม

1. ยังมีกิเลส
2. ไม่มีกิเลสแล้ว

ข้อไหน 1 หรือ 2

คนที่ศึกษาคำสอนใครๆเขาก็รู้ว่าพระอรหันต์หมดกิเลสทั้งนั้นแหละ
แล้วตนน่ะรู้หรือว่าใครคือพระอรหันต์ :b32: ตถาคตบอกให้รู้ที่กายใจตนเองน๊า
จะรู้ว่าใครบรรลุธรรมระดับไหนแล้วต้องมีปัญญาเท่ากันมิใช่หรือคะคุณกรัชกาย
คุณหลงเข้าใจผิดว่ารู้จักตัวตนพระอรหันต์หรือคะตถาคตบอกว่าทุกอย่างรู้ที่กายใจตน
:b32: :b32:


ก็นั่นน่าซิ แล้วทำไมคุณโรสจึงบอกว่า ไม่มีใครเอากิเลสออกได้ล่ะ

:b11: ใครเห็นชวนะ7อย่างตถาคตแล้วหยิบออกได้มั่งอิอิ :b32:
พระพุทธเจ้าแสดงคือกล่าวสิ่งที่พระองค์รู้แล้วให้คนที่ตั้งใจฟังรู้ตามได้นะ
คนที่ไม่ฟังย่อมคิดไม่ออกไงว่าทรงตรัสอย่างไรทำไมทั้งคนเทวดาพรหมบรรลุธรรมฟังบ้างนะ



ไปชวนะอีก อิอิ คุณโรสกรัชกายว่าคุณเพ้อเจ้อขอรับ จริงๆนะไม่ใช่แกล้งว่า :b13:

tongue
ไม่ต้องอ้อมค้อมนะคิดให้ตรงจริงๆคือเดี๋ยวนี้
คุณกรัชกายขาคุณมีตาหูจมูกลิ้นกายใจครบ
แค่จิตเห็นอย่างเดียวมี7ชวนะคูณ6ทางเท่ากับ
42ชวนะแต่ละ1ชวนะคุณรู้จักแต่ชื่อไงคะ555
ทำได้แค่ฟังให้เข้าใจว่าตถาคตบอกว่ามียังงี้นะ
พระองค์ไม่ให้ใครไปจำชื่อจร้าไม่ใช่ให้เชื่อไงคะ
กาลามสูตร10ไงต้องกำลังมีรู้ไหมว่าทรงสอนต่าง
จากบุคคลอื่นที่เอาคำตถาคตไปใช้ไม่บอกเรื่องจริง
จิตเกิดดับ1ขณะสะสมชวนะ7แยกฝ่ายกุศลและอกุศล
และแยกอัพยากตาคือมันแยกรูปนามละเอียดตามปกตินี่
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2018, 14:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

ไม่ต้องอ้อมค้อมนะคิดให้ตรงจริงๆคือเดี๋ยวนี้
คุณกรัชกายขาคุณมีตาหูจมูกลิ้นกายใจครบ
แค่จิตเห็นอย่างเดียวมี7ชวนะคูณ6ทางเท่ากับ
42ชวนะแต่ละ1ชวนะคุณรู้จักแต่ชื่อไงคะ555
ทำได้แค่ฟังให้เข้าใจว่าตถาคตบอกว่ามียังงี้นะ
พระองค์ไม่ให้ใครไปจำชื่อจร้าไม่ใช่ให้เชื่อไงคะ
กาลามสูตร10ไงต้องกำลังมีรู้ไหมว่าทรงสอนต่าง
จากบุคคลอื่นที่เอาคำตถาคตไปใช้ไม่บอกเรื่องจริง
จิตเกิดดับ1ขณะสะสมชวนะ7แยกฝ่ายกุศลและอกุศล
และแยกอัพยากตาคือมันแยกรูปนามละเอียดตามปกตินี่



อ้าวจากชวนะ ๗ ขณะ ไปยายกะตามั่ง คิดมันไม่ตรงหรอก มันต้องทำ ทำแล้วเกิดอันหยังขึ้นแล้วตนรู้จักปรับใจเข้าธรรมชาติได้ นั่นแหละคิดตรง ไม่ใช่มโนว่าคิดให้ตรงโดยไม่ได้ทำอะไรเลย

อ้างคำพูด:
นั่งทำสมาธิแล้วนึกกลัว

คือ ว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริ่มเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก

วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2018, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชัดๆคือฟุ้งซ่านธรรม

รูปภาพ


ธรรม ธรรม ธรรม :b35:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 31 ก.ค. 2018, 20:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ชัดๆคือฟุ้งซ่านธรรม

รูปภาพ


ธรรม ธรรม ธรรม :b35:

:b12:
หิริกะเจตสิก โอตตัปปะเจตสิก สติเจตสิก ปัญญาเจตสิก คนละสภาพธรรมไม่เกิดขณะจิตเป็นอกุศล
เวลาอกุศลเกิดขาดสติขณะรับเงินเป็นงี้นะมีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมกันมากกว่า1ประภทคือ
อหิริกะเจตสิก/อโนตตัปปะเจตสิก/สมาธิเจตสิกมีโลภะ+โมหะแปลว่าโลภมากค่ะ
ลืมระลึกตามคำสอนแล้วว่าตนเป็นภิกษุแล้วรับเงินไม่ได้ถูกไหมคะทุศีลแล้ว
ส่วนชาวบ้านรับเงินเป็นอกุศลแต่ไม่มีอาบัติกำกับไงคะจึงไม่มีโทษอบายภูมิ
ถ้ามีนิสัยรับเงินจึงบวชไม่ได้ไงเข้าใจไหมคะเพราะภิกษุรับเงินคือทุศีลค่ะ
เอาชัดๆปฏิญาณตนขออนุญาตมาขัดเกลากิเลสจำวัดไม่ทำแบบชาวบ้าน
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2018, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ชัดๆคือฟุ้งซ่านธรรม

รูปภาพ


ธรรม ธรรม ธรรม :b35:

:b12:
หิริกะเจตสิก โอตตัปปะเจตสิก สติเจตสิก ปัญญาเจตสิก คนละสภาพธรรมไม่เกิดขณะจิตเป็นอกุศล
เวลาอกุศลเกิดขาดสติขณะรับเงินเป็นงี้นะมีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมกันมากกว่า1ประภทคือ
อหิริกะเจตสิก/อโนตตัปปะเจตสิก/สมาธิเจตสิกมีโลภะ+โมหะแปลว่าโลภมากค่ะ
ลืมระลึกตามคำสอนแล้วว่าตนเป็นภิกษุแล้วรับเงินไม่ได้ถูกไหมคะทุศีลแล้ว
ส่วนชาวบ้านรับเงินเป็นอกุศลแต่ไม่มีอาบัติกำกับไงคะจึงไม่มีโทษอบายภูมิ
ถ้ามีนิสัยรับเงินจึงบวชไม่ได้ไงเข้าใจไหมคะเพราะภิกษุรับเงินคือทุศีลค่ะ
เอาชัดๆปฏิญาณตนขออนุญาตมาขัดเกลากิเลสจำวัดไม่ทำแบบชาวบ้าน



คุณโรสและบ้านธัมมะมั่วได้ใจจริงๆ :b32: เละเทะไปหมด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 07:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ชัดๆคือฟุ้งซ่านธรรม

รูปภาพ


ธรรม ธรรม ธรรม :b35:

:b12:
หิริกะเจตสิก โอตตัปปะเจตสิก สติเจตสิก ปัญญาเจตสิก คนละสภาพธรรมไม่เกิดขณะจิตเป็นอกุศล
เวลาอกุศลเกิดขาดสติขณะรับเงินเป็นงี้นะมีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมกันมากกว่า1ประภทคือ
อหิริกะเจตสิก/อโนตตัปปะเจตสิก/สมาธิเจตสิกมีโลภะ+โมหะแปลว่าโลภมากค่ะ
ลืมระลึกตามคำสอนแล้วว่าตนเป็นภิกษุแล้วรับเงินไม่ได้ถูกไหมคะทุศีลแล้ว
ส่วนชาวบ้านรับเงินเป็นอกุศลแต่ไม่มีอาบัติกำกับไงคะจึงไม่มีโทษอบายภูมิ
ถ้ามีนิสัยรับเงินจึงบวชไม่ได้ไงเข้าใจไหมคะเพราะภิกษุรับเงินคือทุศีลค่ะ
เอาชัดๆปฏิญาณตนขออนุญาตมาขัดเกลากิเลสจำวัดไม่ทำแบบชาวบ้าน



คุณโรสและบ้านธัมมะมั่วได้ใจจริงๆ :b32: เละเทะไปหมด

cool
ตถาคตแสดงสภาพธรรมโดยละเอียดถึงชวนะ7
ไม่ได้บอกให้ไปทำเพื่อรู้ถึงชวนะ7คริคริคริ
ไม่รู้หรือคะว่ามีทศพลบารมีทศพลญาณ
เมื่อถึงชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าค่ะ
คือไม่ต้องฟังจากใครในชาติสุดท้าย
ตั้งแต่เริ่มปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า
จนถึงได้รับพยากรณ์แล้วเกิดต่อ
อีก4อสงไขยกับแสนมหากัปป์
พระพุทธเจ้าได้ฟังพระพุทธพจน์
จากพระพุทธเจ้าเกิน5แสนพระองค์
ปรารถนารวมถึง20อสงไขยกับแสนมหากัปป์
ได้รับพยากรณ์ครั้งแรกจากพระทีปังกรพุทธเจ้าอสงไขยที่16
พระองค์ไม่ได้มาบัญญัติคำให้ทุกคนท่องจำเอาไปทำเพื่อถึงอย่างพระองค์
แต่ทรงบอกให้ฟังโดยใช้กาลามสูตร10จนกว่าจะเข้าใจจึงจะทิ้งสิ่งที่ไปทำตามเคยชินไงคะ
เพราะเมื่อสติปัญญารู้ชัดว่ามีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตามที่ทรงตรัสไว้ดีแล้วจึงทำได้แค่ฟังความจริง
แล้วรู้จักตนเองตามปกติเป็นปกติเข้าใจตามได้จะไปทำให้รู้ชื่อชวนะ7ทีละชื่ออย่างตถาคตนั้นเป็นไปไม่ได้
ฟังให้เข้าใจวางทุกสิ่งที่เคยจำมาลงแล้วเริ่มฟังพระพุทธพจน์โดยไม่เชื่อใครไม่ทำตามใครแต่ให้เพียรฟัง
เพราะรู้ว่าคิดเองมันผิดต้องรู้ความจริงตามปกติว่าพึ่งตถาคตได้ตอนกำลังฟังอยู่เท่านั้นทำตามอยากก็ไม่รู้
:b32:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2018, 07:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ชัดๆคือฟุ้งซ่านธรรม

รูปภาพ


ธรรม ธรรม ธรรม :b35:

:b12:
หิริกะเจตสิก โอตตัปปะเจตสิก สติเจตสิก ปัญญาเจตสิก คนละสภาพธรรมไม่เกิดขณะจิตเป็นอกุศล
เวลาอกุศลเกิดขาดสติขณะรับเงินเป็นงี้นะมีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมกันมากกว่า1ประภทคือ
อหิริกะเจตสิก/อโนตตัปปะเจตสิก/สมาธิเจตสิกมีโลภะ+โมหะแปลว่าโลภมากค่ะ
ลืมระลึกตามคำสอนแล้วว่าตนเป็นภิกษุแล้วรับเงินไม่ได้ถูกไหมคะทุศีลแล้ว
ส่วนชาวบ้านรับเงินเป็นอกุศลแต่ไม่มีอาบัติกำกับไงคะจึงไม่มีโทษอบายภูมิ
ถ้ามีนิสัยรับเงินจึงบวชไม่ได้ไงเข้าใจไหมคะเพราะภิกษุรับเงินคือทุศีลค่ะ
เอาชัดๆปฏิญาณตนขออนุญาตมาขัดเกลากิเลสจำวัดไม่ทำแบบชาวบ้าน



คุณโรสและบ้านธัมมะมั่วได้ใจจริงๆ :b32: เละเทะไปหมด

cool
ตถาคตแสดงสภาพธรรมโดยละเอียดถึงชวนะ7
ไม่ได้บอกให้ไปทำเพื่อรู้ถึงชวนะ7คริคริคริ
ไม่รู้หรือคะว่ามีทศพลบารมีทศพลญาณ
เมื่อถึงชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าค่ะ
คือไม่ต้องฟังจากใครในชาติสุดท้าย
ตั้งแต่เริ่มปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า
จนถึงได้รับพยากรณ์แล้วเกิดต่อ
อีก4อสงไขยกับแสนมหากัปป์
พระพุทธเจ้าได้ฟังพระพุทธพจน์
จากพระพุทธเจ้าเกิน5แสนพระองค์
ปรารถนารวมถึง20อสงไขยกับแสนมหากัปป์
ได้รับพยากรณ์ครั้งแรกจากพระทีปังกรพุทธเจ้าอสงไขยที่16
พระองค์ไม่ได้มาบัญญัติคำให้ทุกคนท่องจำเอาไปทำเพื่อถึงอย่างพระองค์
แต่ทรงบอกให้ฟังโดยใช้กาลามสูตร10จนกว่าจะเข้าใจจึงจะทิ้งสิ่งที่ไปทำตามเคยชินไงคะ
เพราะเมื่อสติปัญญารู้ชัดว่ามีแต่จิตเจตสิกรูปนิพพานตรงตามที่ทรงตรัสไว้ดีแล้วจึงทำได้แค่ฟังความจริง
แล้วรู้จักตนเองตามปกติเป็นปกติเข้าใจตามได้จะไปทำให้รู้ชื่อชวนะ7ทีละชื่ออย่างตถาคตนั้นเป็นไปไม่ได้
ฟังให้เข้าใจวางทุกสิ่งที่เคยจำมาลงแล้วเริ่มฟังพระพุทธพจน์โดยไม่เชื่อใครไม่ทำตามใครแต่ให้เพียรฟัง
เพราะรู้ว่าคิดเองมันผิดต้องรู้ความจริงตามปกติว่าพึ่งตถาคตได้ตอนกำลังฟังอยู่เท่านั้นทำตามอยากก็ไม่รู้
:b32:
:b4: :b4:



คุณโรสศิษย์บ้านธัมมะเพ้อได้ใจจริงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2018, 20:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้วที่แบรนด์เสื้อผ้าชุดกีฬาชื่อดังจากแคนาดา"Lululemon"ออกแคมเปญ "Meditation Bus" รถประจำทางเพื่อการนั่งสมาธิกลางกรุงลอนดอนเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนเดินทางไปทำงานอย่างผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อลดความเครียดจากการเดินทาง


ปีนี้มหานครนิวยอร์กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ "ไม่เคยหลับใหล"ในอเมริกาก็มีสตูดิโอเคลื่อนที่สำหรับนั่งสมาธิแล้วซึ่งจะช่วยให้ผู้คนในมหานครนี้มีช่วงเวลาของความสงบและผ่อนคลายได้ง่ายขึ้นโดยการนำเสนอการนั่งสมาธิเป็นเวลา 30 นาที

สตูดิโอสำหรับนั่งสมาธินี้มีชื่อว่า "Be Time"ซึ่งเปิดบริการให้ผู้คนได้หยุดพักจากวันที่วุ่นวายในพื้นที่ที่แสนสบายโดยใช้เวลาช่วงละ 30 นาที ทั้งนี้ครูผู้สอนสมาธิจะแนะนำการนั่งสมาธิในหัวข้อที่แตกต่างกันเช่นนั่งสมาธิเพื่อความตั้งใจมั่นของใจ นั่งสมาธิเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์หรือเพิ่มพลังหรือนั่งสมาธิเพื่อลดระดับความเครียด

รูปภาพ


https://siampongsnews.blogspot.com/2018/08/be-time.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ส.ค. 2018, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เห็นเป็นวิบากกรรม
รู้หรือคะว่าเป็นผลกรรม
จากชาติไหนที่ทำให้เห็นอยู่
โดยเลือกไม่ได้ว่าจะเห็นกองขยะหรือเห็นสาวสวยคริคริคริเป็นกิเลสทั้ง2แบบเลยจร้า
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2018, 13:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
เห็นเป็นวิบากกรรม
รู้หรือคะว่าเป็นผลกรรม
จากชาติไหนที่ทำให้เห็นอยู่
โดยเลือกไม่ได้ว่าจะเห็นกองขยะหรือเห็นสาวสวยคริคริคริเป็นกิเลสทั้ง2แบบเลยจร้า

ไม่อยากเป็นกิเลส ก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งแทงตาให้บอดดิ จะได้ไม่เป็นกิเลส

เห็นความเลอะเทอะสำนักบ้านธัมมะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2018, 19:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ชัดๆคือฟุ้งซ่านธรรม

รูปภาพ


ธรรม ธรรม ธรรม :b35:

:b12:
หิริกะเจตสิก โอตตัปปะเจตสิก สติเจตสิก ปัญญาเจตสิก คนละสภาพธรรมไม่เกิดขณะจิตเป็นอกุศล
เวลาอกุศลเกิดขาดสติขณะรับเงินเป็นงี้นะมีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมกันมากกว่า1ประภทคือ
อหิริกะเจตสิก/อโนตตัปปะเจตสิก/สมาธิเจตสิกมีโลภะ+โมหะแปลว่าโลภมากค่ะ
ลืมระลึกตามคำสอนแล้วว่าตนเป็นภิกษุแล้วรับเงินไม่ได้ถูกไหมคะทุศีลแล้ว
ส่วนชาวบ้านรับเงินเป็นอกุศลแต่ไม่มีอาบัติกำกับไงคะจึงไม่มีโทษอบายภูมิ
ถ้ามีนิสัยรับเงินจึงบวชไม่ได้ไงเข้าใจไหมคะเพราะภิกษุรับเงินคือทุศีลค่ะ
เอาชัดๆปฏิญาณตนขออนุญาตมาขัดเกลากิเลสจำวัดไม่ทำแบบชาวบ้าน
:b13:
:b32: :b32:


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 188&Z=1233
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต

โรหิตัสสวรรคที่ ๕
สมาธิสูตร


[๔๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนา ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ
สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบันมีอยู่ ๑
สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อได้เฉพาะซึ่งญาณทัสสนะมีอยู่ ๑
สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะมีอยู่ ๑
สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะมีอยู่ ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็น
ไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบันเป็นไฉน


ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจาก อกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร
มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกอยู่ บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่
มีอุเบกขามีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยนามกายเพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระ
อริยะสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข บรรลุจตุตถฌาน
ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้
มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนานี้ อันบุคคล
เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็น
ไปเพื่อได้เฉพาะซึ่งญาณทัสสนะเป็นไฉน


ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มนสิการอาโลก-
*สัญญา อธิษฐานทิวาสัญญา ๑- ว่า กลางคืนเหมือนกลางวัน กลางวันเหมือน
กลางคืน มีใจอันสงัด ปราศจากเครื่องรัดรึง อบรมจิตให้มีความสว่างอยู่ ดูกร-
*ภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนานี้ อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็น
ไปเพื่อได้ญาณทัสสนะ
@๑. ความสำคัญหมายว่ากลางวัน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว
ย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะเป็นไฉน


ภิกษุในธรรมวินัยนี้รู้แจ้งเวทนาที่เกิดขึ้น รู้แจ้งเวทนาที่ตั้งอยู่ รู้แจ้งเวทนาที่ดับไป
รู้แจ้งสัญญาที่เกิดขึ้น รู้แจ้งสัญญาที่ตั้งอยู่ รู้แจ้งสัญญาที่ดับไป รู้แจ้งวิตกที่เกิดขึ้น
รู้แจ้งวิตกที่ตั้งอยู่ รู้แจ้งวิตกที่ดับไป ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนานี้ อันบุคคล
เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ

ดูกรภิกษุทั้งหลายก็สมาธิภาวนาอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้น
อาสวะเป็นไฉน


ภิกษุในธรรมวินัยนี้ มีปรกติพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความ
เสื่อมไปในอุปาทานขันธ์ ๕ อยู่ว่า รูปเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งรูปเป็นดังนี้
ความดับแห่งรูปเป็นดังนี้ เวทนาเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งเวทนาเป็นดังนี้ ความ
ดับแห่งเวทนาเป็นดังนี้ สัญญาเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งสัญญาเป็นดังนี้
ความดับแห่งสัญญาเป็นดังนี้ สังขารเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งสังขารเป็นดังนี้
ความดับแห่งสังขารเป็นดังนี้ วิญญาณเป็นดังนี้ ความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณเป็นดังนี้
ความดับแห่งวิญญาณเป็นดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนานี้ อันบุคคล
เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะ


ดูกรภิกษุทั้งหลายสมาธิภาวนา ๔ ประการนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง คำต่อไปนี้ เรากล่าวแล้ว
ในปุณณปัญหาในปรายนวรรค หมายเอาข้อความนี้ว่า

ความหวั่นไหวไม่มีแก่บุคคลใด ในโลกไหนๆ เพราะรู้ความ
สูงต่ำในโลก บุคคลนั้นเป็นผู้สงบปราศจากควันคือความโกรธ
เป็นผู้ไม่มีความคับแค้น เป็นผู้หมดหวัง เรากล่าวว่า ข้าม
ชาติและชราได้แล้ว ฯ


จบสูตรที่ ๑


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2018, 21:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เห็นเป็นวิบากกรรม
รู้หรือคะว่าเป็นผลกรรม
จากชาติไหนที่ทำให้เห็นอยู่
โดยเลือกไม่ได้ว่าจะเห็นกองขยะหรือเห็นสาวสวยคริคริคริเป็นกิเลสทั้ง2แบบเลยจร้า

ไม่อยากเป็นกิเลส ก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งแทงตาให้บอดดิ จะได้ไม่เป็นกิเลส

เห็นความเลอะเทอะสำนักบ้านธัมมะ

:b2:
จำทั้งอรรถและธรรมไว้ว่าเป็นเราคิดพูดทำมานานมาก
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตรงคำตรงขณะ
ไม่ไหลไปตามอรรถและสัทบัญญัติที่จำแต่ชื่อและเรื่องราว
ไม่เคยจำคำสอนถูกตรงตามที่จิตตนรู้แจ้งชัดตรง1ปรมัตถสัจจะ
ไม่มีใครเลยสักคนมีแต่จิตที่สะสมทีละ1แต่ละ1หลากหลายไม่กลับมา
:b20:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ส.ค. 2018, 22:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้วที่แบรนด์เสื้อผ้าชุดกีฬาชื่อดังจากแคนาดา"Lululemon"ออกแคมเปญ "Meditation Bus" รถประจำทางเพื่อการนั่งสมาธิกลางกรุงลอนดอนเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนเดินทางไปทำงานอย่างผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อลดความเครียดจากการเดินทาง


ปีนี้มหานครนิวยอร์กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ "ไม่เคยหลับใหล"ในอเมริกาก็มีสตูดิโอเคลื่อนที่สำหรับนั่งสมาธิแล้วซึ่งจะช่วยให้ผู้คนในมหานครนี้มีช่วงเวลาของความสงบและผ่อนคลายได้ง่ายขึ้นโดยการนำเสนอการนั่งสมาธิเป็นเวลา 30 นาที

สตูดิโอสำหรับนั่งสมาธินี้มีชื่อว่า "Be Time"ซึ่งเปิดบริการให้ผู้คนได้หยุดพักจากวันที่วุ่นวายในพื้นที่ที่แสนสบายโดยใช้เวลาช่วงละ 30 นาที ทั้งนี้ครูผู้สอนสมาธิจะแนะนำการนั่งสมาธิในหัวข้อที่แตกต่างกันเช่นนั่งสมาธิเพื่อความตั้งใจมั่นของใจ นั่งสมาธิเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์หรือเพิ่มพลังหรือนั่งสมาธิเพื่อลดระดับความเครียด

รูปภาพ


https://siampongsnews.blogspot.com/2018/08/be-time.html


:b1: :b1: :b1:

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2018, 17:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
เห็นเป็นวิบากกรรม
รู้หรือคะว่าเป็นผลกรรม
จากชาติไหนที่ทำให้เห็นอยู่
โดยเลือกไม่ได้ว่าจะเห็นกองขยะหรือเห็นสาวสวยคริคริคริเป็นกิเลสทั้ง2แบบเลยจร้า

ไม่อยากเป็นกิเลส ก็เอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งแทงตาให้บอดดิ จะได้ไม่เป็นกิเลส

เห็นความเลอะเทอะสำนักบ้านธัมมะ

:b2:
จำทั้งอรรถและธรรมไว้ว่าเป็นเราคิดพูดทำมานานมาก
เมื่อไหร่จะเริ่มฟังเพื่อให้จิตคิดถูกตามได้ตรงคำตรงขณะ
ไม่ไหลไปตามอรรถและสัทบัญญัติที่จำแต่ชื่อและเรื่องราว
ไม่เคยจำคำสอนถูกตรงตามที่จิตตนรู้แจ้งชัดตรง1ปรมัตถสัจจะ
ไม่มีใครเลยสักคนมีแต่จิตที่สะสมทีละ1แต่ละ1หลากหลายไม่กลับมา
:b20:
:b4: :b4:


จะให้ฟังใครเล่าขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 120 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร