วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 215 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 08:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

ใครทำพระธรรมบิดเบือนไป..ก็เป็นกรรมของคนๆนั้น...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 15:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"อย่าทำใจให้อึดอัด ฝึกหัดปล่อยวางเสียบ้าง จิตใจจักได้ไม่เครียด แล้วให้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน อย่าไปแบกกรรมของบุคคลอื่น อย่าให้อารมณ์เบื่อครอบงำจิตใจให้มากจนเกินไป จงหมั่นลงกฎของธรรมดาให้มาก จิตจักเป็นสุขและปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น และมีปัญหาอะไรให้ใช้ความใจเย็นแก้ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง งานที่ทำอยู่ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน ให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริงเหล่านี้เอาไว้เสมอ จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น"

:b8: :b8: :b8:

Kiss
ตถาคตไม่ได้กล่าวว่าให้ทำอะไรแม้แต่ปล่อยวางก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทุกคนปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างเท่านั้นดูที่กายใจตนเอง
เดี๋ยวนี้เลยคิดตามช้าๆพกกุญแจล็อคประตูบ้านประตูรถไหมคะ
แล้วผู้บวชพกกุญแจกุฏิศาลาโบสถวิหารประตูวัดไหมล่ะคะ555
นี่แหละคือกิเลสหลงสมมุติอยู่และคิดตามคำสอนไม่ได้แล้ว555
ปล่อยวางยังไงโมหะเต็มที่คิดผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุสิ่งของมีค่าอิอิ
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 15:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
การฟังพระพุทธพจน์เพื่อเข้าใจถูกตามได้เท่านั้นคือสิ่งที่ทำได้ใครไม่ฟังเสียชาติที่เกิดเจอคำสอนน๊า
คิดตามได้เข้าใจถูกตามได้ตอนกำลังฟังถ้าทำตามได้ก็มีศาสดาองค์ที่2ซึ่งอิมพอสซิเบิ้นเป็นไปไม่ได้เลย
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 19:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..

"เวลานี้อกุศลกรรมเข้ามาสิงจิต จึงทำให้เร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา
พึงทำใจให้เยือกเย็น ความฟุ้งซ่านที่เกิดขึ้นในเวลานี้ จักต้องระงับด้วยอานาปาเสียก่อน
หลังจากนั้นก็จักต้องใช้ปัญญาพิจารณา รูปมันเป็นของใครหรือ หรือเป็นของเรา
ใครเป็นเจ้าของรูปได้บ้าง รูปของเราก็ยังไม่มีโอกาสครอบครองได้
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณก็พิจารณาเช่นเดียวกัน
โลกนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรเหลือ ฟังข่าวคนตายกะทันหัน ก็จงคิดว่าสักวันหนึ่งรูปของเราก็เป็นเช่นนั้น
รูปใครก็เป็นเช่นนั้น ในที่สุดตายหมด ทุกอย่างจักต้องหักล้างด้วยปัญญาตัวเดียวเท่านั้น
ความเร่าร้อนทำให้ปัญญาถอยหลัง
พึงทำจิตให้เยือกเย็นเสียก่อน จิตจึงจักมีปัญญาพิจารณาธรรมได้ตามความเป็นจริง
"


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 19:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ได้ฟังเสียงนกเสียงกาเลย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.ค. 2018, 20:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2018, 15:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"อย่าทำใจให้อึดอัด ฝึกหัดปล่อยวางเสียบ้าง จิตใจจักได้ไม่เครียด แล้วให้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน อย่าไปแบกกรรมของบุคคลอื่น อย่าให้อารมณ์เบื่อครอบงำจิตใจให้มากจนเกินไป จงหมั่นลงกฎของธรรมดาให้มาก จิตจักเป็นสุขและปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น และมีปัญหาอะไรให้ใช้ความใจเย็นแก้ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง งานที่ทำอยู่ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน ให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริงเหล่านี้เอาไว้เสมอ จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น"

:b8: :b8: :b8:

Kiss
ตถาคตไม่ได้กล่าวว่าให้ทำอะไรแม้แต่ปล่อยวางก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทุกคนปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างเท่านั้นดูที่กายใจตนเอง
เดี๋ยวนี้เลยคิดตามช้าๆพกกุญแจล็อคประตูบ้านประตูรถไหมคะ
แล้วผู้บวชพกกุญแจกุฏิศาลาโบสถวิหารประตูวัดไหมล่ะคะ555
นี่แหละคือกิเลสหลงสมมุติอยู่และคิดตามคำสอนไม่ได้แล้ว555
ปล่อยวางยังไงโมหะเต็มที่คิดผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุสิ่งของมีค่าอิอิ
:b32: :b32: :b32:

Kiss
ถ้าเป็นผู้ที่จริงใจต้องสละหมดเลย
บ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทองรับอีกไม่ได้
บวชครองจีวร3ผืนมีบาตร1และมีแค่อัฐบริขาร8
พระพุทธเจ้าให้สะดวกไม่มีอะไรต้องติดข้องแม้แต่น้อย
ให้รับเพียงปัจจัย4พอยังอัตภาพถูกไหมแล้วรับเงินมาทำอะไร
เงินไม่มีข้อห้ามของฆราวาสผู้ครองเรือนแต่บวชต้องทำตามข้อห้ามได้
ไม่ใช่เสนอหน้าออกตัวว่าขอบวชปฏิญาณตนว่าทำตามได้แล้วยังมาปลงอาบัติ
ไม่มีห้ามลาสิกขาและตัวจริงของผู้ทำลายคำสอนคือคนที่ไม่ทำตามสิกขาบทเป็นมิจฉาอาชีโว
:b13:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.ค. 2018, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"อย่าทำใจให้อึดอัด ฝึกหัดปล่อยวางเสียบ้าง จิตใจจักได้ไม่เครียด แล้วให้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน อย่าไปแบกกรรมของบุคคลอื่น อย่าให้อารมณ์เบื่อครอบงำจิตใจให้มากจนเกินไป จงหมั่นลงกฎของธรรมดาให้มาก จิตจักเป็นสุขและปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น และมีปัญหาอะไรให้ใช้ความใจเย็นแก้ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง งานที่ทำอยู่ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน ให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริงเหล่านี้เอาไว้เสมอ จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น"

:b8: :b8: :b8:

Kiss
ตถาคตไม่ได้กล่าวว่าให้ทำอะไรแม้แต่ปล่อยวางก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทุกคนปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างเท่านั้นดูที่กายใจตนเอง
เดี๋ยวนี้เลยคิดตามช้าๆพกกุญแจล็อคประตูบ้านประตูรถไหมคะ
แล้วผู้บวชพกกุญแจกุฏิศาลาโบสถวิหารประตูวัดไหมล่ะคะ555
นี่แหละคือกิเลสหลงสมมุติอยู่และคิดตามคำสอนไม่ได้แล้ว555
ปล่อยวางยังไงโมหะเต็มที่คิดผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุสิ่งของมีค่าอิอิ
:b32: :b32: :b32:

Kiss
ถ้าเป็นผู้ที่จริงใจต้องสละหมดเลย
บ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทองรับอีกไม่ได้
บวชครองจีวร3ผืนมีบาตร1และมีแค่อัฐบริขาร8
พระพุทธเจ้าให้สะดวกไม่มีอะไรต้องติดข้องแม้แต่น้อย
ให้รับเพียงปัจจัย4พอยังอัตภาพถูกไหมแล้วรับเงินมาทำอะไร
เงินไม่มีข้อห้ามของฆราวาสผู้ครองเรือนแต่บวชต้องทำตามข้อห้ามได้
ไม่ใช่เสนอหน้าออกตัวว่าขอบวชปฏิญาณตนว่าทำตามได้แล้วยังมาปลงอาบัติ
ไม่มีห้ามลาสิกขาและตัวจริงของผู้ทำลายคำสอนคือคนที่ไม่ทำตามสิกขาบทเป็นมิจฉาอาชีโว
:b13:
:b32: :b32:



ถ้าเขาบวช 15 วัน สละหมดบ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทอง สึกมาจะนอนที่ไหน จะกินอะไร ตอบชัดๆทีสิ

1. นอนใต้ทางด่วน

2. กินอาหารตามกองขยะ

3. ถูกทั้งสองข้อ

ตอบข้อไหน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 00:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"อย่าทำใจให้อึดอัด ฝึกหัดปล่อยวางเสียบ้าง จิตใจจักได้ไม่เครียด แล้วให้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน อย่าไปแบกกรรมของบุคคลอื่น อย่าให้อารมณ์เบื่อครอบงำจิตใจให้มากจนเกินไป จงหมั่นลงกฎของธรรมดาให้มาก จิตจักเป็นสุขและปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น และมีปัญหาอะไรให้ใช้ความใจเย็นแก้ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง งานที่ทำอยู่ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน ให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริงเหล่านี้เอาไว้เสมอ จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น"

:b8: :b8: :b8:

Kiss
ตถาคตไม่ได้กล่าวว่าให้ทำอะไรแม้แต่ปล่อยวางก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทุกคนปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างเท่านั้นดูที่กายใจตนเอง
เดี๋ยวนี้เลยคิดตามช้าๆพกกุญแจล็อคประตูบ้านประตูรถไหมคะ
แล้วผู้บวชพกกุญแจกุฏิศาลาโบสถวิหารประตูวัดไหมล่ะคะ555
นี่แหละคือกิเลสหลงสมมุติอยู่และคิดตามคำสอนไม่ได้แล้ว555
ปล่อยวางยังไงโมหะเต็มที่คิดผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุสิ่งของมีค่าอิอิ
:b32: :b32: :b32:

Kiss
ถ้าเป็นผู้ที่จริงใจต้องสละหมดเลย
บ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทองรับอีกไม่ได้
บวชครองจีวร3ผืนมีบาตร1และมีแค่อัฐบริขาร8
พระพุทธเจ้าให้สะดวกไม่มีอะไรต้องติดข้องแม้แต่น้อย
ให้รับเพียงปัจจัย4พอยังอัตภาพถูกไหมแล้วรับเงินมาทำอะไร
เงินไม่มีข้อห้ามของฆราวาสผู้ครองเรือนแต่บวชต้องทำตามข้อห้ามได้
ไม่ใช่เสนอหน้าออกตัวว่าขอบวชปฏิญาณตนว่าทำตามได้แล้วยังมาปลงอาบัติ
ไม่มีห้ามลาสิกขาและตัวจริงของผู้ทำลายคำสอนคือคนที่ไม่ทำตามสิกขาบทเป็นมิจฉาอาชีโว
:b13:
:b32: :b32:



ถ้าเขาบวช 15 วัน สละหมดบ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทอง สึกมาจะนอนที่ไหน จะกินอะไร ตอบชัดๆทีสิ

1. นอนใต้ทางด่วน

2. กินอาหารตามกองขยะ

3. ถูกทั้งสองข้อ

ตอบข้อไหน

Onion_L
ถามอีกแระปัญญามีไม่พอถึงคิดไม่ได้
ก็ถึงบอกไงว่าบวชไม่ได้ถ้าสละไม่ได้
บาปเพราะคิดเอาเองว่าถือศีลนับข้อ
ศีลเป็นเจตสิกเป็นปกติจิตตามที่สะสม
เจตสิกเกิดกับจิตทุกขณะไม่ขาดกัน
เมื่อมีความไม่รู้จึงเป็นอกุศลศีล
บาปนะบวชไม่ได้ถ้าไม่สละ
แค่โกนหัวโกนคิ้วนุ่งผ้าจีวร
กิเลสไม่ถลอกแถมรับเงิน
ต้องตกนรกก็อยากใช้เงิน
ก็ทำมาหากินอาชีพสุจริตซิ
บวชคือสละหมดการปลงอาบัติ
เป็นการสารภาพบาปว่าละอาย
จะไม่ทำอีกปลงอาบัติทุกวัน
กิเลสหนาระดับไหนคะ
ศีลนับข้อ227ข้อกับ
พระโสดาบันใครใจสูงกว่า
ประมาทคำสอนเกินไปแล้ว
ตถาคตแสดงว่ามิจฉาชีพ
ขโมยศาสนาคือคำสอน
ทำเพื่อลาภสักการะเป็น
มหาโจรเศรษฐีหัวโล้น
ไม่มีหิริโอตัปปะเข้าใจไหมค๊าาาาาา
:b11:
ฟังบ้างนะบวชรับเงินเป็นโจรตัวจริงน๊า
ความจริงไม่มีอ้อมค้อมตรงไปตรงมา
กิเลสผู้บวชจะรวมหัวกันแก้คำสอน
ให้รับเงินได้ต่ำช้าขนาดไหน
กล้าทำเตรียมตกนรกได้
:b8:
https://youtu.be/3aTfypVxq4Q


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"อย่าทำใจให้อึดอัด ฝึกหัดปล่อยวางเสียบ้าง จิตใจจักได้ไม่เครียด แล้วให้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน อย่าไปแบกกรรมของบุคคลอื่น อย่าให้อารมณ์เบื่อครอบงำจิตใจให้มากจนเกินไป จงหมั่นลงกฎของธรรมดาให้มาก จิตจักเป็นสุขและปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น และมีปัญหาอะไรให้ใช้ความใจเย็นแก้ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง งานที่ทำอยู่ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน ให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริงเหล่านี้เอาไว้เสมอ จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น"

:b8: :b8: :b8:

Kiss
ตถาคตไม่ได้กล่าวว่าให้ทำอะไรแม้แต่ปล่อยวางก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทุกคนปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างเท่านั้นดูที่กายใจตนเอง
เดี๋ยวนี้เลยคิดตามช้าๆพกกุญแจล็อคประตูบ้านประตูรถไหมคะ
แล้วผู้บวชพกกุญแจกุฏิศาลาโบสถวิหารประตูวัดไหมล่ะคะ555
นี่แหละคือกิเลสหลงสมมุติอยู่และคิดตามคำสอนไม่ได้แล้ว555
ปล่อยวางยังไงโมหะเต็มที่คิดผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุสิ่งของมีค่าอิอิ
:b32: :b32: :b32:

Kiss
ถ้าเป็นผู้ที่จริงใจต้องสละหมดเลย
บ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทองรับอีกไม่ได้
บวชครองจีวร3ผืนมีบาตร1และมีแค่อัฐบริขาร8
พระพุทธเจ้าให้สะดวกไม่มีอะไรต้องติดข้องแม้แต่น้อย
ให้รับเพียงปัจจัย4พอยังอัตภาพถูกไหมแล้วรับเงินมาทำอะไร
เงินไม่มีข้อห้ามของฆราวาสผู้ครองเรือนแต่บวชต้องทำตามข้อห้ามได้
ไม่ใช่เสนอหน้าออกตัวว่าขอบวชปฏิญาณตนว่าทำตามได้แล้วยังมาปลงอาบัติ
ไม่มีห้ามลาสิกขาและตัวจริงของผู้ทำลายคำสอนคือคนที่ไม่ทำตามสิกขาบทเป็นมิจฉาอาชีโว
:b13:
:b32: :b32:



ถ้าเขาบวช 15 วัน สละหมดบ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทอง สึกมาจะนอนที่ไหน จะกินอะไร ตอบชัดๆทีสิ

1. นอนใต้ทางด่วน

2. กินอาหารตามกองขยะ

3. ถูกทั้งสองข้อ

ตอบข้อไหน

Onion_L
ถามอีกแระปัญญามีไม่พอถึงคิดไม่ได้
ก็ถึงบอกไงว่าบวชไม่ได้ถ้าสละไม่ได้
บาปเพราะคิดเอาเองว่าถือศีลนับข้อ
ศีลเป็นเจตสิกเป็นปกติจิตตามที่สะสม
เจตสิกเกิดกับจิตทุกขณะไม่ขาดกัน
เมื่อมีความไม่รู้จึงเป็นอกุศลศีล
บาปนะบวชไม่ได้ถ้าไม่สละ
แค่โกนหัวโกนคิ้วนุ่งผ้าจีวร
กิเลสไม่ถลอกแถมรับเงิน
ต้องตกนรกก็อยากใช้เงิน
ก็ทำมาหากินอาชีพสุจริตซิ
บวชคือสละหมดการปลงอาบัติ
เป็นการสารภาพบาปว่าละอาย
จะไม่ทำอีกปลงอาบัติทุกวัน
กิเลสหนาระดับไหนคะ
ศีลนับข้อ227ข้อกับ
พระโสดาบันใครใจสูงกว่า
ประมาทคำสอนเกินไปแล้ว
ตถาคตแสดงว่ามิจฉาชีพ
ขโมยศาสนาคือคำสอน
ทำเพื่อลาภสักการะเป็น
มหาโจรเศรษฐีหัวโล้น
ไม่มีหิริโอตัปปะเข้าใจไหมค๊าาาาาา
:b11:
ฟังบ้างนะบวชรับเงินเป็นโจรตัวจริงน๊า
ความจริงไม่มีอ้อมค้อมตรงไปตรงมา
กิเลสผู้บวชจะรวมหัวกันแก้คำสอน
ให้รับเงินได้ต่ำช้าขนาดไหน
กล้าทำเตรียมตกนรกได้
:b8:
https://youtu.be/3aTfypVxq4Q



ถ้าเขาบวช 15 วัน สละหมดบ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทอง สึกมาจะนอนที่ไหน จะกินอะไร ตอบชัดๆทีสิ

1. นอนใต้ทางด่วน

2. กินอาหารตามกองขยะ

3. ถูกทั้งสองข้อ

คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 10:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เวลาเกิดเรียกปฏิสนธิจิต
เวลาตายเรียกจุติจิต
แต่ละชาติจิตเกิดดับทีละ1ขณะ
1ขณะสุดท้ายของชาติก่อนคือจุติจิต1ขณะจิตดับเรียกว่าตาย
สืบต่อผ่านภวังคจิตมาปฏิสนธิจิต1ขณะจิตเรียกว่าเกิดคือจิตเจตสิกรูปพาเกิด
จุติจิต ปฏิสนธิจิต................จุติจิต ปฏิสนธิจิต..............จุติจิต ปฏิสนธิ...
เวลาตายแล้วเกิดเข้าร่างใหม่ไปแบบไม่รู้สึกตัวทุกภพภูมิแบบกะพริบตา
เข้าร่างใหม่ทันทีตามกรรมไม่มีวิญญาณคือจิตล่องลอยไปไหน
งานศพเห็นพฤติกรรมคนเคาะโลงเรียกศพกินข้าวฟังธรรมไหม
เขาไปเกิดเข้าร่างใหม่ไปแล้วคนจัดงานร้องไห้คร่ำครวญเพราะไม่รู้
:b12:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 11:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาเกิดเรียกปฏิสนธิจิต
เวลาตายเรียกจุติจิต
แต่ละชาติจิตเกิดดับทีละ1ขณะ
1ขณะสุดท้ายของชาติก่อนคือจุติจิต1ขณะจิตดับเรียกว่าตาย
สืบต่อผ่านภวังคจิตมาปฏิสนธิจิต1ขณะจิตเรียกว่าเกิดคือจิตเจตสิกรูปพาเกิด
จุติจิต ปฏิสนธิจิต................จุติจิต ปฏิสนธิจิต..............จุติจิต ปฏิสนธิ...
เวลาตายแล้วเกิดเข้าร่างใหม่ไปแบบไม่รู้สึกตัวทุกภพภูมิแบบกะพริบตา
เข้าร่างใหม่ทันทีตามกรรมไม่มีวิญญาณคือจิตล่องลอยไปไหน
งานศพเห็นพฤติกรรมคนเคาะโลงเรียกศพกินข้าวฟังธรรมไหม
เขาไปเกิดเข้าร่างใหม่ไปแล้วคนจัดงานร้องไห้คร่ำครวญเพราะไม่รู้
:b12:
:b44: :b44:



เอ้า ไปปฏิสนธิจิต จุติจิตแระ เฮ้อ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 16:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"อย่าทำใจให้อึดอัด ฝึกหัดปล่อยวางเสียบ้าง จิตใจจักได้ไม่เครียด แล้วให้ถือว่ากรรมใครกรรมมัน อย่าไปแบกกรรมของบุคคลอื่น อย่าให้อารมณ์เบื่อครอบงำจิตใจให้มากจนเกินไป จงหมั่นลงกฎของธรรมดาให้มาก จิตจักเป็นสุขและปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างมากขึ้น และมีปัญหาอะไรให้ใช้ความใจเย็นแก้ ไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรม ร่างกายเป็นของไม่เที่ยง งานที่ทำอยู่ก็ไม่เที่ยงเช่นกัน ให้ยอมรับนับถือกฎของความเป็นจริงเหล่านี้เอาไว้เสมอ จิตจักได้มีความสงบเยือกเย็น"

:b8: :b8: :b8:

Kiss
ตถาคตไม่ได้กล่าวว่าให้ทำอะไรแม้แต่ปล่อยวางก็ทำไม่ได้ค่ะ
ทุกคนปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างเท่านั้นดูที่กายใจตนเอง
เดี๋ยวนี้เลยคิดตามช้าๆพกกุญแจล็อคประตูบ้านประตูรถไหมคะ
แล้วผู้บวชพกกุญแจกุฏิศาลาโบสถวิหารประตูวัดไหมล่ะคะ555
นี่แหละคือกิเลสหลงสมมุติอยู่และคิดตามคำสอนไม่ได้แล้ว555
ปล่อยวางยังไงโมหะเต็มที่คิดผิดว่ามีคนสัตว์วัตถุสิ่งของมีค่าอิอิ
:b32: :b32: :b32:

Kiss
ถ้าเป็นผู้ที่จริงใจต้องสละหมดเลย
บ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทองรับอีกไม่ได้
บวชครองจีวร3ผืนมีบาตร1และมีแค่อัฐบริขาร8
พระพุทธเจ้าให้สะดวกไม่มีอะไรต้องติดข้องแม้แต่น้อย
ให้รับเพียงปัจจัย4พอยังอัตภาพถูกไหมแล้วรับเงินมาทำอะไร
เงินไม่มีข้อห้ามของฆราวาสผู้ครองเรือนแต่บวชต้องทำตามข้อห้ามได้
ไม่ใช่เสนอหน้าออกตัวว่าขอบวชปฏิญาณตนว่าทำตามได้แล้วยังมาปลงอาบัติ
ไม่มีห้ามลาสิกขาและตัวจริงของผู้ทำลายคำสอนคือคนที่ไม่ทำตามสิกขาบทเป็นมิจฉาอาชีโว
:b13:
:b32: :b32:



ถ้าเขาบวช 15 วัน สละหมดบ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทอง สึกมาจะนอนที่ไหน จะกินอะไร ตอบชัดๆทีสิ

1. นอนใต้ทางด่วน

2. กินอาหารตามกองขยะ

3. ถูกทั้งสองข้อ

ตอบข้อไหน

Onion_L
ถามอีกแระปัญญามีไม่พอถึงคิดไม่ได้
ก็ถึงบอกไงว่าบวชไม่ได้ถ้าสละไม่ได้
บาปเพราะคิดเอาเองว่าถือศีลนับข้อ
ศีลเป็นเจตสิกเป็นปกติจิตตามที่สะสม
เจตสิกเกิดกับจิตทุกขณะไม่ขาดกัน
เมื่อมีความไม่รู้จึงเป็นอกุศลศีล
บาปนะบวชไม่ได้ถ้าไม่สละ
แค่โกนหัวโกนคิ้วนุ่งผ้าจีวร
กิเลสไม่ถลอกแถมรับเงิน
ต้องตกนรกก็อยากใช้เงิน
ก็ทำมาหากินอาชีพสุจริตซิ
บวชคือสละหมดการปลงอาบัติ
เป็นการสารภาพบาปว่าละอาย
จะไม่ทำอีกปลงอาบัติทุกวัน
กิเลสหนาระดับไหนคะ
ศีลนับข้อ227ข้อกับ
พระโสดาบันใครใจสูงกว่า
ประมาทคำสอนเกินไปแล้ว
ตถาคตแสดงว่ามิจฉาชีพ
ขโมยศาสนาคือคำสอน
ทำเพื่อลาภสักการะเป็น
มหาโจรเศรษฐีหัวโล้น
ไม่มีหิริโอตัปปะเข้าใจไหมค๊าาาาาา
:b11:
ฟังบ้างนะบวชรับเงินเป็นโจรตัวจริงน๊า
ความจริงไม่มีอ้อมค้อมตรงไปตรงมา
กิเลสผู้บวชจะรวมหัวกันแก้คำสอน
ให้รับเงินได้ต่ำช้าขนาดไหน
กล้าทำเตรียมตกนรกได้
:b8:
https://youtu.be/3aTfypVxq4Q



ถ้าเขาบวช 15 วัน สละหมดบ้านที่ดินทรัพย์สินเงินทอง สึกมาจะนอนที่ไหน จะกินอะไร ตอบชัดๆทีสิ

1. นอนใต้ทางด่วน

2. กินอาหารตามกองขยะ

3. ถูกทั้งสองข้อ

คิกๆๆ

:b32:
บวชเพราะไม่รู้แค่คิดเอาเองว่าเป็นบุญหวังให้พ่อแม่เกาะชายผ้าเหลืองอิอิ
บวชเสร็จถวายเงินรับเงินทันทีส่งกันไปตกนรกยังจะคิดว่าได้บุญอีกหรือ
เวลาเห็นเงินคือวิบากกรรมคือผลกรรมเก่าเห็นลาภสักการะแต่บวชแล้ว
รับเงินทำกรรมใหม่ที่รอให้ผลไปอบายภูมิลาสิกขาพ้นโทษทันทีแต่ถ้า
เข้าไปบวชอีกอะไรๆที่เคยทำไว้ตอนบวชไม่ว่าชาติไหนจะกลับมาอีก
เป็นชาวบ้านจะจับเงินทองรับเช็คทำมาหากินซื้อข้าวกินไม่ผิดวินัย
ประมาทอย่างหนักที่คิดว่ารู้แล้วเพราะรู้แล้วคือตถาคตและรู้ตาม
ถูกจนบรรลุตามได้ดับกิเลสได้แล้วคือพระอรหันต์ผ้ากาสาวพัตร
สำหรับเพศบรรพชิตที่บรรลุอรหันต์เพราะไม่บวชต้องตายค่ะ
ส่วนอนาคามีชาวบ้านบรรลุเยอะแยะเลยสมัยพุทธกาลน่ะ
ใจเขาสูงแล้วดูบวชสมัยนี้มีบัญชีอ้างไม่ได้ว่าไม่รับเงิน
โทษคืออบายภูมิปลงอาบัติทุกวันทำเป็นอุปะนิสะยะ
เป็นนิสัยถาวรตายลงตกนรกทันทีแบบไม่รู้ตัวดูผังสิ
จิตเกิดดับทีละ1ขณะมีช่องว่าง.............................
แต่ละขณะจากไม่มีมามีนิดนึงแล้วดับทันทีเลย
เอากิเลสออกตอนไหนมันดับสะสมที่จิตแล้ว
กิเลสตนทำร้ายจิตตนด้วยความไม่รู้ของตน
เพราะไม่มีกาลามสูตร10และไม่ฟังคำสอน
:b32: :b32:
Rosarin เขียน:
Kiss
เวลาเกิดเรียกปฏิสนธิจิต
เวลาตายเรียกจุติจิต
แต่ละชาติจิตเกิดดับทีละ1ขณะ
1ขณะสุดท้ายของชาติก่อนคือจุติจิต1ขณะจิตดับเรียกว่าตาย
สืบต่อผ่านภวังคจิตมาปฏิสนธิจิต1ขณะจิตเรียกว่าเกิดคือจิตเจตสิกรูปพาเกิด
จุติจิต ปฏิสนธิจิต................จุติจิต ปฏิสนธิจิต..............จุติจิต ปฏิสนธิ...
เวลาตายแล้วเกิดเข้าร่างใหม่ไปแบบไม่รู้สึกตัวทุกภพภูมิแบบกะพริบตา
เข้าร่างใหม่ทันทีตามกรรมไม่มีวิญญาณคือจิตล่องลอยไปไหน
งานศพเห็นพฤติกรรมคนเคาะโลงเรียกศพกินข้าวฟังธรรมไหม
เขาไปเกิดเข้าร่างใหม่ไปแล้วคนจัดงานร้องไห้คร่ำครวญเพราะไม่รู้
:b12:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 16:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโรสนี่เขาบวชอีกแระ :b12:

โอ อนุชิต บวชทดแทนคุณบิดามารดา

https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_1302166

แสดงคคห.หน่อยดิขอรับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ค. 2018, 16:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณโรสนี่เขาบวชอีกแระ :b12:

โอ อนุชิต บวชทดแทนคุณบิดามารดา

https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_1302166

แสดงคคห.หน่อยดิขอรับ

Kiss
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
สมัยพุทธกาลมีแต่ลูกเศรษฐี
ลูกพระมหากษัตริย์ที่บวช
พ่อแม่เขาเข้าใจคำสอน
เขาไม่ให้ลูกบวชน๊า
เกิดมาตายเปล่า
เพราะมีกิเลส
:b32: :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 215 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร