วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 215 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 15  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"ปัญญาสูงสุดในพระพุทธศาสนา คืออริยสัจ ๔
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์และพระอรหันต์สาวกทุกองค์ ต่างก็บรรลุธรรมพ้นทุกข์ได้ด้วยอริยสัจด้วยกันทั้งสิ้น มีทางนี้ทางเดียว ทางอื่นไม่มี
หรือให้จำสั้น ๆ ว่า กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ คืออริยสัจ"


:b8: :b8: :b8:

cool
อริยสัจจ์สี่คือการรู้ความจริงถูกต้องคือ
มีปัญญารู้ละตัวตนเพราะฟังคำตถาคต
จนเข้าใจถูกตามมาก่อนจนปัญญาเพิ่ม
ทำให้ปล่อยวางตัวตนเพื่อรู้รูปปรมัตถ์
รูป28รูปไม่มีรูปนั่งรูปยืนรูปเดินรูปนอน
เพราะอิริยาบถปิดบังทุกข์จึงไม่รู้ทุกข์
สติปัญญารู้อริยสัจจ์4และอริยมรรค8
คือละสมุทัยเพื่อรู้ทุกข์จนเข้าถึงมรรค
ถึงผลถึงนิพพานตามลำดับปัญญาจร้า
และเวลาที่ปัญญาเกิดจะไม่ขาดสติเลย
ส่วนสตินั้นเกิดโดยไม่เกิดปัญญาได้ค่ะ
:b16:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 21:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"ปัญญาสูงสุดในพระพุทธศาสนา คืออริยสัจ ๔
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์และพระอรหันต์สาวกทุกองค์ ต่างก็บรรลุธรรมพ้นทุกข์ได้ด้วยอริยสัจด้วยกันทั้งสิ้น มีทางนี้ทางเดียว ทางอื่นไม่มี
หรือให้จำสั้น ๆ ว่า กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ คืออริยสัจ"


:b8: :b8: :b8:

cool
อริยสัจจ์สี่คือการรู้ความจริงถูกต้องคือ
มีปัญญารู้ละตัวตนเพราะฟังคำตถาคต
จนเข้าใจถูกตามมาก่อนจนปัญญาเพิ่ม
ทำให้ปล่อยวางตัวตนเพื่อรู้รูปปรมัตถ์
รูป28รูปไม่มีรูปนั่งรูปยืนรูปเดินรูปนอน
เพราะอิริยาบถปิดบังทุกข์จึงไม่รู้ทุกข์
สติปัญญารู้อริยสัจจ์4และอริยมรรค8
คือละสมุทัยเพื่อรู้ทุกข์จนเข้าถึงมรรค
ถึงผลถึงนิพพานตามลำดับปัญญาจร้า
และเวลาที่ปัญญาเกิดจะไม่ขาดสติเลย
ส่วนสตินั้นเกิดโดยไม่เกิดปัญญาได้ค่ะ
:b16:
:b4: :b4:


พระอรหันต์..มีกี่แบบครับ..?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..

"ปัญญาสูงสุดในพระพุทธศาสนา คืออริยสัจ ๔
พระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์และพระอรหันต์สาวกทุกองค์ ต่างก็บรรลุธรรมพ้นทุกข์ได้ด้วยอริยสัจด้วยกันทั้งสิ้น มีทางนี้ทางเดียว ทางอื่นไม่มี
หรือให้จำสั้น ๆ ว่า กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ คืออริยสัจ"


:b8: :b8: :b8:



กบบอกด้วย พระอะไรสอน :b10: พระกบเองป่าว

น่าจะเป็นพระเลอะเทอะนะ กรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ คือ อริยสัจ คิกๆๆ



กบมองไม่เห็นนี่อีก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 21:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กักกายไม่ชอบ...ไม่ถูกใจ...ในคำสอนที่เอามาแปะ...ก็มองผ่านๆไปซะ

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 21:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กักกายไม่ชอบ...ไม่ถูกใจ...ในคำสอนที่เอามาแปะ...ก็มองผ่านๆไปซะ

:b1: :b1: :b1:


ทำไมไม่บอกว่าเอามาจากไหนพระอะไร เดี๋ยวต่อไปคนก๊อปต่อก็ว่ากบนอกกะลาพูดหรอก เออ :b12: เป็นไงล่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 22:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กักกายไม่ชอบ...ไม่ถูกใจ...ในคำสอนที่เอามาแปะ...ก็มองผ่านๆไปซะ

:b1: :b1: :b1:


ทำไมไม่บอกว่าเอามาจากไหนพระอะไร เดี๋ยวต่อไปคนก๊อปต่อก็ว่ากบนอกกะลาพูดหรอก เออ :b12: เป็นไงล่ะ :b1:


ผมก็บอกชัดเจน..ว่าเป็นคำของคนอื่นชัดเจน..ทุกครั้ง..ทุกหน้า..

ไม่เหมือนกักกาย.. :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2018, 22:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..

"ต้องทำใจให้ยอมรับกฎของธรรมดา ถ้าจิตยอมรับกฎของธรรมดา จิตก็จักสุขสงบไม่ดิ้นรนฝืนกฎของกรรม เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกฎของธรรมดาทั้งหมด จงหมั่นชำระจิตที่ฝืนกฎของกรรม อย่าไปคิดแก้กรรมของใคร ให้แก้ไขจิตใจของตนเองเป็นสำคัญ แล้วจักล่วงทุกข์ด้วยประการทั้งปวง ค่อย ๆ ทำไป อย่ารีบร้อนจนเกินไป แล้วจักพบกับความเยือกเย็นของจิตได้ในที่สุด"

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 07:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำสอนพระ...

"พยายามเพียรทรงตัวไว้ทำใจว่าจะไม่ฝืนคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า แล้วก็เพียรทรงไว้แต่ความดี เพียรละความชั่วอยู่ตลอดเวลา กรรมอะไรก็ตาม อารมณ์ใดก็ตาม ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่าเป็นอารมณ์ของความชั่ว ต้องเพียรต่อต้านมันนะ แล้วก็ใช้ปัญญาพิจารณาหาความเป็นจริงให้พบ เมื่อพบความจริงแล้วก็เพียรถือมันเข้าไว้ คือทรงความเป็นจริงไว้ในใจ ยอมรับนับถือตามความเป็นจริง คิดไว้เสมอว่าไม่มีที่ใดที่จะดีไปกว่าพระนิพพานนะ"

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 07:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..

"เหนื่อยก็ให้ยอมรับกฎของกรรม การทำงานในโลกนี้ คำว่าไม่เหนื่อยไม่ทุกข์ไม่มี
ให้เห็นของธรรมดาเหล่านี้ให้มาก พร้อมกับทำงานตามหน้าที่อย่าเต็มความสามารถ
ในขณะเดียวกันให้วางจิตใจ ทำเป็นชาติสุดท้าย ตายเมื่อไหร่ก็เลิกกันทันที

มิใช่เลิกจากการทำงานเพียงอย่างเดียว ประการสำคัญคือเลิกจากขันธ์ ๕ อันเป็นบ่อเกิดของความทุกทั้งหมด
ตั้งใจเอาไว้อย่างนี้ให้ดี จึงจักมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคของการทำงาน
แต่การทำงานพึงคำนึงถึงสุขภาพของร่างกายและจิตใจเอาไว้ด้วย
อย่าเอาแต่ความอยากจักให้งานเสร็จมาเป็นที่ตั้งแต่เพียงอย่างเดียว
ก็จักเบียดเบียนทั้งร่างกายและจิตใจด้วยความรู้เท่าไม่ทันการณ์
อีกทั้งความใจร้อนทำให้ผลของงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร"


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 07:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..


"การตั้งอารมณ์พระนิพพานที่ถูก ต้องพิจารณาเข้าหาทุกข์ของการทำงานให้มาก
โดยเห็นโทษของการมีขันธ์ ๕ เป็นเหตุให้ต้องทำงาน จุดนี้จักทำให้เกิดนิพพิทาญาณในงาน ทำให้ละขันธ์ ๕ ได้ง่าย
ดังนั้นวิปัสสนาญาณ ๙ ต้องหมั่นทบทวนพิจารณาให้จิตรู้ความจริงแล้วยอมรับ
และให้คอยระวังอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ จักต้องลงตัวธรรมดาจนชิน เป็นสังขารุเบกขาญาณให้ได้


(หมายความว่า เห็นการทำงานทางโลกไม่เที่ยง ทำให้เกิดทุกข์ เป็นของธรรมดา
จิตพร้อมที่จะปล่อยวางงานทุกชนิดได้ทันทีเมื่อกายพัง จิตพร้อมไปนิพพานได้เสมอ
รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน คือทางลัดที่จำเป็นจะต้องซ้อมและพร้อมอยู่เสมอ)"


:b8: :b8: :b8:

การหมั่นพิจารณาในบทธรรม..โดยเฉพาะอารมณ์ในวิปัสสนาญาณ 9.(พิจารณาในอารมณ์ 9... เกิดอารมณ์ใน9 )..ก็เสมือนได้ฟังคำพระศาสดานั้นแหละคุณโรส...อย่ารอแค่ตอนฟังอย่างเดียว...หนึ่งวันคุณโรสจะฟังได้กี่ชั่วโมงกัน?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 09:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คำพระสอน..


"การตั้งอารมณ์พระนิพพานที่ถูก ต้องพิจารณาเข้าหาทุกข์ของการทำงานให้มาก
โดยเห็นโทษของการมีขันธ์ ๕ เป็นเหตุให้ต้องทำงาน จุดนี้จักทำให้เกิดนิพพิทาญาณในงาน ทำให้ละขันธ์ ๕ ได้ง่าย
ดังนั้นวิปัสสนาญาณ ๙ ต้องหมั่นทบทวนพิจารณาให้จิตรู้ความจริงแล้วยอมรับ
และให้คอยระวังอารมณ์เศร้าหมองหดหู่ จักต้องลงตัวธรรมดาจนชิน เป็นสังขารุเบกขาญาณให้ได้


(หมายความว่า เห็นการทำงานทางโลกไม่เที่ยง ทำให้เกิดทุกข์ เป็นของธรรมดา
จิตพร้อมที่จะปล่อยวางงานทุกชนิดได้ทันทีเมื่อกายพัง จิตพร้อมไปนิพพานได้เสมอ
รู้ลม รู้ตาย รู้นิพพาน คือทางลัดที่จำเป็นจะต้องซ้อมและพร้อมอยู่เสมอ)"


:b8: :b8: :b8:

การหมั่นพิจารณาในบทธรรม..โดยเฉพาะอารมณ์ในวิปัสสนาญาณ 9.(พิจารณาในอารมณ์ 9... เกิดอารมณ์ใน9 )..ก็เสมือนได้ฟังคำพระศาสดานั้นแหละคุณโรส...อย่ารอแค่ตอนฟังอย่างเดียว...หนึ่งวันคุณโรสจะฟังได้กี่ชั่วโมงกัน?


แหมๆ พูดไปสังขารุเบกขา อิอิ

ถามแค่นี้พอ คือ กบเอาบทความเขามาแล้ว ให้เครดิดพระนั่นด้วย

ถาม พระอะไรสอนไว้ ตอบ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
กักกายไม่ชอบ...ไม่ถูกใจ...ในคำสอนที่เอามาแปะ...ก็มองผ่านๆไปซะ

:b1: :b1: :b1:


ทำไมไม่บอกว่าเอามาจากไหนพระอะไร เดี๋ยวต่อไปคนก๊อปต่อก็ว่ากบนอกกะลาพูดหรอก เออ :b12: เป็นไงล่ะ :b1:




ผมก็บอกชัดเจน..ว่าเป็นคำของคนอื่นชัดเจน..ทุกครั้ง..ทุกหน้า..

ไม่เหมือนกักกาย.. :b32: :b32:



บอกชัดเจน คำพระสอนนะ ชัดเจน คำถามคือพระอะไร จะได้จัดการถูก อิอิ พระอะไร พระ ก. พระ ข. พระกบ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 19:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

ตัวเอง..ศีล...ยังไม่รอด..ดันสะเออะจะจัดการคนอื่น..

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 20:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน...

"ใจเย็น ๆ อย่าไปสนใจกับความไม่ดีของผู้อื่น ให้เห็นเป็นปกติของคนเหล่านั้น อย่าไปเดือดร้อนกับกรรมของเขา พยายามทำจิตให้ปล่อยวางกรรมใครกรรมมัน ให้พยายามลงกฎธรรมดาให้มาก แล้วจิตจักสงบเป็นสุข ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เป็นกฎของกรรมทั้งสิ้น พิจารณาอยู่เนือง ๆ แล้วจิตจักไม่ดิ้นรน หรือฝืนกฎของกรรมให้จิตต้องเร่าร้อนอีก แล้วอารมณ์ที่จักพิจารณากายคตากับอสุภกรรมฐาน จักต้องหมั่นคิดทบทวนให้บ่อย ๆ ธรรมข้อนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่จักทำให้เข้าถึงมรรคผลเบื้องสูงได้ง่าย การทบทวนขันธ์ ๕ จักต้องเห็นชัดว่านามก็อาศัยรูปอยู่ (เกิด) รูปก็อาศัยนามเกิด ทุกอย่างจักต้องอาศัยการอนุโลมปฏิโลม พิจารณาย้อนไปย้อนมาจึงจักเห็นผล"

:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2018, 23:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คำพระสอน..

"ทำงานให้พยายามอย่าเครียด พึงพิจารณาว่า อะไรเป็นสาเหตุของความเครียด แล้วใช้ปัญญาเข้าไปแก้ไขอารมณ์ให้สงบเยือกเย็นลง ไม่มีสิ่งใดสิ่งอื่นเข้ามาแก้ไขได้ นอกจากปัญญาที่รู้เห็นตามความเป็นจริง ประโยชน์ของงานกับประโยชน์ของจิตใจ ก็จักได้มีความราบรื่นเสมอพร้อมกัน แต่ถ้าหากทำด้วยความเครียด ก็จักเสียทั้งงานและเสียทั้งจิตใจ ดีไม่ดีก็จักทำให้ร่างกายป่วยไปด้วยได้โดยง่าย พึงพิจารณาคำนึงถึงข้อนี้ให้มาก ๆ วางจิตให้พอดีให้อยู่ในมัชฌิมาปฏิปทาทุกอย่าง แล้วจักสุขกายสบายใจ งานทั้งหมดก็ลุล่วงไปด้วยดี แต่จงอย่ายึดอย่าเกาะนะ เนื่องจากโลกนี้ไม่มีอะไรเหลือ ทุกอย่างพังหมดแม้แต่ร่างกายก็ยังพัง ให้ทำไปตามหน้าที่ เสร็จแล้วก็ให้เห็นกฎธรรมดา คือทุกสิ่งทุกอย่างย่อมตกอยู่ภายใต้อำนาจกฎไตรลักษณ์ มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีความเสื่อมเป็นที่ตั้ง มีความสลายตัวไปในที่สุด ทำเท่าที่จักทำได้ พังสลายไปเมื่อไหร่ก็ยอมรับนับถือกฎของธรรมดานี้ จิตใจก็จักเป็นสุข ไม่ดิ้นรนฝืนกฎของธรรมดา"

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 215 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 ... 15  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร