56020.คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองผิดทันที

Rosarin

กบนอกกะลา เขียน:

ให้พิจารณาที่เนื้อธรรมะ...จะดีกว่า..หากพิจารณาแล้วไม่เห็นสาระ..ก็ไม่ต้องจดจำ

ดีกว่า...มาพิจารณาว่าใครกล่าว

ปกติพกกุญแจบ้าน/ตู้เซฟ/รถหรือเปล่าคะพ้นกิเลสไปไหนไม่ได้แล้ว
รู้ตัวหรือเปล่าว่าเป็นกิเลสแล้วติดข้องว่ามีกุญแจมีคนมีของจริงๆป่ะ
และติดในสิ่งของตามที่เอากุญแจล็อคขังไว้กลัวหายไงคะ :b32:

มีปกติไม่ปล่อยวางอะไรทั้งนั้นลองทำกุญแจหายสิหาไม่เจอหัวเสียโทสะเกิดติดกุญแจโลภะ
ทุกคนนั่นแหละปล่อยวางได้ตอนจิตออกจากร่างค่ะตอนตายแล้วเท่านั้นไม่ว่าบวชหรือไม่บวช
แค่กะพริบตาไม่มีคนสัตว์วัตถุแล้วหลงผิดไหมทั้งวันตัวตนไม่หายเพราะขาดสุตมยปัญญาค่ะ
แล้วถ้ามีตัวตนไปนั่งหลับตาหาความรู้ใหญ่เลยเป็นมิจฉาสมาธิเพราะความจริงลืมตาดูปกติค่ะ

Rosarin

ธัมมะแปลว่าสิ่งที่กำลังมีจริงๆ
มีแล้วทุกขณะตรงตามทุกคำ
ในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้
แต่เราไม่รู้ขาดฟังจึงเป็น
มิจฉาสมาธิตลอดเวลา
จะเริ่มเกิดสัมมาตาม
ตอนกำลังคิดตรงๆ
ตามเสียงคำจริง
ของตถาคต
เพื่อเข้าใจ
ถูกตามได้
คือสัมมามรรคเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟังขาดฟังหลงผิดทันที
https://youtu.be/-s3MmUrCY-k
:b44:

กรัชกาย

กบนอกกะลา เขียน:

คำพระสอน..

"ให้เห็นการป่วยเจ็บเป็นเรื่องธรรมดา ใครก็ห้ามความแก่ ความเจ็บ ความตายไปไม่ได้ ทุกชีวิตเป็นไปตามกฎของกรรม แม้แต่พวกเจ้าเองก็หนีกฎของกรรมไปไม่พ้น เห็นคนแก่ตายก็ดี เห็นคนหนุ่มสาวตายก็ดี ให้พิจารณาว่า แม้แต่ร่างกายพวกเจ้าเองก็มีโอกาสตายได้ตลอดเวลา จักได้ไม่ประมาทในชีวิต ให้ทำใจปล่อยวางเอาไว้เสมอ โดยยอมรับกฎของกรรมที่เกิดขึ้น ให้เห็นร้ายก็ดี เหตุดีก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากความแก่ - ความเจ็บ - ความตายจักเกิดขึ้นกับพวกเจ้า จงพึงกำหนดรู้ว่านี่เป็นกฎธรรมดา แล้วหมั่นชำระจิตให้ผ่องใสยอมรับกฎของธรรมดานั้น ไม่เศร้าใจ - ไม่เสียใจ - ไม่ยินดี - ไม่ยินร้าย รักษาอารมณ์อุเบกขารมณ์ เอาไว้ให้ดี เฉยโดยการยอมรับกฎของธรรมดา จิตก็จักเป็นสุข ไม่ดิ้นรน ฝืนกฎของความเป็นจริง แล้วจิตนี้แหละเมื่อมีกำลังมั่นคงแล้ว ก็จักเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยง่าย"

:b8:

นี่แหละเขาเรียกว่ามโน คิดเลยความรู้ (มโนเลยปัญญา)

เห็นไหมอ่ะ คิดแป๊บเดียวถึงนิพพานแระ คิกๆๆ ไม่ทำห่ารัยเลยคิดเอาล้วนๆ เอางี้สิ ถึงนิพพานอย่างเดียวน้อยไป จบปฏิสัมภิทาด้วย หมดเรื่อง ปิดลาน อิอิ

เช่นนั้น

Rosarin เขียน:

Kiss
ธัมมะแปลว่าสิ่งที่กำลังมีจริงๆ
มีแล้วทุกขณะตรงตามทุกคำ
ในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้
แต่เราไม่รู้ขาดฟังจึงเป็น
มิจฉาสมาธิตลอดเวลา
จะเริ่มเกิดสัมมาตาม
ตอนกำลังคิดตรงๆ
ตามเสียงคำจริง
ของตถาคต
เพื่อเข้าใจ
ถูกตามได้
คือสัมมามรรคเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟังขาดฟังหลงผิดทันที
https://youtu.be/-s3MmUrCY-k
:b44:

"...ตอนกำลังคิดตรงๆตามเสียงคำจริง"
ใครคิด คนอื่นกำลังคิด หรือคนฟังกำลังคิด

กบนอกกะลา

กรัชกาย เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:

คำพระสอน..

"ให้เห็นการป่วยเจ็บเป็นเรื่องธรรมดา ใครก็ห้ามความแก่ ความเจ็บ ความตายไปไม่ได้ ทุกชีวิตเป็นไปตามกฎของกรรม แม้แต่พวกเจ้าเองก็หนีกฎของกรรมไปไม่พ้น เห็นคนแก่ตายก็ดี เห็นคนหนุ่มสาวตายก็ดี ให้พิจารณาว่า แม้แต่ร่างกายพวกเจ้าเองก็มีโอกาสตายได้ตลอดเวลา จักได้ไม่ประมาทในชีวิต ให้ทำใจปล่อยวางเอาไว้เสมอ โดยยอมรับกฎของกรรมที่เกิดขึ้น ให้เห็นร้ายก็ดี เหตุดีก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากความแก่ - ความเจ็บ - ความตายจักเกิดขึ้นกับพวกเจ้า จงพึงกำหนดรู้ว่านี่เป็นกฎธรรมดา แล้วหมั่นชำระจิตให้ผ่องใสยอมรับกฎของธรรมดานั้น ไม่เศร้าใจ - ไม่เสียใจ - ไม่ยินดี - ไม่ยินร้าย รักษาอารมณ์อุเบกขารมณ์ เอาไว้ให้ดี เฉยโดยการยอมรับกฎของธรรมดา จิตก็จักเป็นสุข ไม่ดิ้นรน ฝืนกฎของความเป็นจริง แล้วจิตนี้แหละเมื่อมีกำลังมั่นคงแล้ว ก็จักเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยง่าย"

:b8:

นี่แหละเขาเรียกว่ามโน คิดเลยความรู้ (มโนเลยปัญญา)

เห็นไหมอ่ะ คิดแป๊บเดียวถึงนิพพานแระ คิกๆๆ ไม่ทำห่ารัยเลยคิดเอาล้วนๆ เอางี้สิ ถึงนิพพานอย่างเดียวน้อยไป จบปฏิสัมภิทาด้วย หมดเรื่อง ปิดลาน อิอิ

เอามาฝาก..อีกสักดอก
:b16:

คำสอนพระ..

อ้างคำพูด:

"มรรคผลสำเร็จได้ด้วยความเพียร ขอเพียงอย่าท้อใจเท่านั้น ให้ขยันหมั่นคิดในทางที่ดี อย่าขยันคิดในทางที่ชั่ว ให้สังเกตอารมณ์ของจิตเอาไว้ให้ดี หมั่นแก้ไขอารมณ์ที่เหลวไหลอยู่ทุกวันนี้ เพราะไม่รู้จักตัวเองดีพอมีความประมาทมากเกินไป อย่าลืมว่าชีวิตมันสั้นลงทุกวัน ใกล้ความตายเข้าไปทุกที แล้วยังทำท่าทีเหลวไหลอีกอย่างนี้ ไม่มีใครช่วยใครได้ ทุกคนจักต้องทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้น จุดนี้ต้องสังวรกันเอาไว้ให้ดี ที่ตั้งใจจักเอาจริงก็จงทำให้ได้จริง ก็จักได้มรรคได้ผลจริง อย่าสักแต่ว่าตั้งใจแล้วก็ล้มเหลวไปขาดสัจจะบารมี"

Rosarin

เช่นนั้น เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
ธัมมะแปลว่าสิ่งที่กำลังมีจริงๆ
มีแล้วทุกขณะตรงตามทุกคำ
ในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้
แต่เราไม่รู้ขาดฟังจึงเป็น
มิจฉาสมาธิตลอดเวลา
จะเริ่มเกิดสัมมาตาม
ตอนกำลังคิดตรงๆ
ตามเสียงคำจริง
ของตถาคต
เพื่อเข้าใจ
ถูกตามได้
คือสัมมามรรคเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟังขาดฟังหลงผิดทันที
https://youtu.be/-s3MmUrCY-k
:b44:

"...ตอนกำลังคิดตรงๆตามเสียงคำจริง"
ใครคิด คนอื่นกำลังคิด หรือคนฟังกำลังคิด

ขี้สงสัยขนาดนี้แล้วจะฟังคำจริงเข้าใจตรงๆได้ไหมนี่ :b12:

การดูคลิปเนี่ยคลิปรู้อะไรไหมคะก็บอกให้ตาดูหูฟัง
ใครกำลังฟังกำลังดูก็คนนั้นสิคิดตามเสียงค่ะ
ก็ลองดูสิว่ามีสมาธิฟังแค่ไหนทะเลาะไหม
หมายถึงเวลาฟังมีอคติไหมคลิปไม่รู้น๊า
ถ้าจิตผู้ที่กำลังฟังวอกแวกไม่เข้าใจ
แปลว่าปัญญาของเดิมมันน้อย
ต้องขยันในการฟังด้วยนะ
คนอื่นไม่รู้หรอกค่ะว่า
คนฟังและดูคลิป
เข้าใจอะไรไหม
ถ้าเข้าใจก็เริ่มสะสมปัญญา
กิเลสสะสมนั้นสะสมอยู่แล้วทุกวัน
ส่วนปัญญาปกติไม่เกิดไปตามที่คิดเอา
แต่ปัญญาแรกตามคำสอนเริ่มที่สะสมฟัง
คำจริงที่กำลังเริ่มเข้าใจตามเสียง
แบบตั้งใจฟังทีละคำคือไตร่ตรอง
จนมีความคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
ถ้าฟังไม่เข้าใจก็สะสมกิเลสใหม่
สุตมยปัญญาไม่ทำปัญญาก็ไม่เกิดเพิ่ม
เพราะต้องกำลังมีปัญญาตามลำดับ
คือเข้าใจตรงคำตรงขณะเท่านั้น
ไม่มีคนเลยมีแต่เสียงที่ทำให้คิด
เข้าใจถูกตามได้คือหนทางเดียว
ที่จะสะสมปัญญาใหม่ทีละ1ขณะค่ะ
:b55:

Rosarin

กบนอกกะลา เขียน:

กรัชกาย เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:

คำพระสอน..

"ให้เห็นการป่วยเจ็บเป็นเรื่องธรรมดา ใครก็ห้ามความแก่ ความเจ็บ ความตายไปไม่ได้ ทุกชีวิตเป็นไปตามกฎของกรรม แม้แต่พวกเจ้าเองก็หนีกฎของกรรมไปไม่พ้น เห็นคนแก่ตายก็ดี เห็นคนหนุ่มสาวตายก็ดี ให้พิจารณาว่า แม้แต่ร่างกายพวกเจ้าเองก็มีโอกาสตายได้ตลอดเวลา จักได้ไม่ประมาทในชีวิต ให้ทำใจปล่อยวางเอาไว้เสมอ โดยยอมรับกฎของกรรมที่เกิดขึ้น ให้เห็นร้ายก็ดี เหตุดีก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากความแก่ - ความเจ็บ - ความตายจักเกิดขึ้นกับพวกเจ้า จงพึงกำหนดรู้ว่านี่เป็นกฎธรรมดา แล้วหมั่นชำระจิตให้ผ่องใสยอมรับกฎของธรรมดานั้น ไม่เศร้าใจ - ไม่เสียใจ - ไม่ยินดี - ไม่ยินร้าย รักษาอารมณ์อุเบกขารมณ์ เอาไว้ให้ดี เฉยโดยการยอมรับกฎของธรรมดา จิตก็จักเป็นสุข ไม่ดิ้นรน ฝืนกฎของความเป็นจริง แล้วจิตนี้แหละเมื่อมีกำลังมั่นคงแล้ว ก็จักเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้โดยง่าย"

:b8:

นี่แหละเขาเรียกว่ามโน คิดเลยความรู้ (มโนเลยปัญญา)

เห็นไหมอ่ะ คิดแป๊บเดียวถึงนิพพานแระ คิกๆๆ ไม่ทำห่ารัยเลยคิดเอาล้วนๆ เอางี้สิ ถึงนิพพานอย่างเดียวน้อยไป จบปฏิสัมภิทาด้วย หมดเรื่อง ปิดลาน อิอิ

เอามาฝาก..อีกสักดอก
:b16:

คำสอนพระ..

อ้างคำพูด:

"มรรคผลสำเร็จได้ด้วยความเพียร ขอเพียงอย่าท้อใจเท่านั้น ให้ขยันหมั่นคิดในทางที่ดี อย่าขยันคิดในทางที่ชั่ว ให้สังเกตอารมณ์ของจิตเอาไว้ให้ดี หมั่นแก้ไขอารมณ์ที่เหลวไหลอยู่ทุกวันนี้ เพราะไม่รู้จักตัวเองดีพอมีความประมาทมากเกินไป อย่าลืมว่าชีวิตมันสั้นลงทุกวัน ใกล้ความตายเข้าไปทุกที แล้วยังทำท่าทีเหลวไหลอีกอย่างนี้ ไม่มีใครช่วยใครได้ ทุกคนจักต้องทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้น จุดนี้ต้องสังวรกันเอาไว้ให้ดี ที่ตั้งใจจักเอาจริงก็จงทำให้ได้จริง ก็จักได้มรรคได้ผลจริง อย่าสักแต่ว่าตั้งใจแล้วก็ล้มเหลวไปขาดสัจจะบารมี"

แล้วชาตินี้รู้จักทำฟังคำตถาคตหรือยัง
เพราะต้องเริ่มฟังใหม่ทุกครั้งตรงขณะ
ทำสุตมยปัญญาตรงทีละคำได้บ้างยัง
เพราะปัญญาที่จะเพิ่มขึ้นค่ะต้องครบ
ตามลำดับขั้นทีละน้อยขณะฟังนะคะ
ปัญญาเพิ่มได้ตามลำดับตรงๆคืออุชุ
ถ้าไม่อุชุแปลว่าไม่ตรงขณะคือกิเลสเกิด
:b55:

เช่นนั้น

Rosarin เขียน:

เช่นนั้น เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
ธัมมะแปลว่าสิ่งที่กำลังมีจริงๆ
มีแล้วทุกขณะตรงตามทุกคำ
ในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้
แต่เราไม่รู้ขาดฟังจึงเป็น
มิจฉาสมาธิตลอดเวลา
จะเริ่มเกิดสัมมาตาม
ตอนกำลังคิดตรงๆ
ตามเสียงคำจริง
ของตถาคต
เพื่อเข้าใจ
ถูกตามได้
คือสัมมามรรคเริ่มเกิดเมื่อเริ่มฟังขาดฟังหลงผิดทันที
https://youtu.be/-s3MmUrCY-k
:b44:

"...ตอนกำลังคิดตรงๆตามเสียงคำจริง"
ใครคิด คนอื่นกำลังคิด หรือคนฟังกำลังคิด

ขี้สงสัยขนาดนี้แล้วจะฟังคำจริงเข้าใจตรงๆได้ไหมนี่ :b12:

การดูคลิปเนี่ยคลิปรู้อะไรไหมคะก็บอกให้ตาดูหูฟัง
ใครกำลังฟังกำลังดูก็คนนั้นสิคิดตามเสียงค่ะ
ก็ลองดูสิว่ามีสมาธิฟังแค่ไหนทะเลาะไหม
หมายถึงเวลาฟังมีอคติไหมคลิปไม่รู้น๊า
ถ้าจิตผู้ที่กำลังฟังวอกแวกไม่เข้าใจ
แปลว่าปัญญาของเดิมมันน้อย
ต้องขยันในการฟังด้วยนะ
คนอื่นไม่รู้หรอกค่ะว่า
คนฟังและดูคลิป
เข้าใจอะไรไหม
ถ้าเข้าใจก็เริ่มสะสมปัญญา
กิเลสสะสมนั้นสะสมอยู่แล้วทุกวัน
ส่วนปัญญาปกติไม่เกิดไปตามที่คิดเอา
แต่ปัญญาแรกตามคำสอนเริ่มที่สะสมฟัง
คำจริงที่กำลังเริ่มเข้าใจตามเสียง
แบบตั้งใจฟังทีละคำคือไตร่ตรอง
จนมีความคิดเห็นถูกตามได้ค่ะ
ถ้าฟังไม่เข้าใจก็สะสมกิเลสใหม่
สุตมยปัญญาไม่ทำปัญญาก็ไม่เกิดเพิ่ม
เพราะต้องกำลังมีปัญญาตามลำดับ
คือเข้าใจตรงคำตรงขณะเท่านั้น
ไม่มีคนเลยมีแต่เสียงที่ทำให้คิด
เข้าใจถูกตามได้คือหนทางเดียว
ที่จะสะสมปัญญาใหม่ทีละ1ขณะค่ะ
:b55:

แม้ฟังคำจริง แล้วให้คนอื่นคิดได้ไหม

Rosarin

เช่นนั้นกล่าวว่า...แม้ฟังคำจริง แล้วให้คนอื่นคิดได้ไหม
:b12:

ตอบว่า...ใครฟังคำจริงแล้วก็คิดถูกตามได้ก็เริ่มดีได้ค่ะ...
ก็ฟังคือจิตได้ยิน...คิดคือจิตคิดนึกจำหลังจิตเห็นดับ...
ฟังไม่ใช่คิด...ฟังไม่ใช่เสียง...ได้ยินไม่ใช่คิดนึก...
พูดคือคิดออกเสียง...พูดไม่มีเสียงคือคิดในใจ...
ฟังคือรู้เสียงแล้วจำคำแล้วเข้าใจความหมาย...
จิตเป็นประธานรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏใครใคร่ทำ...
อย่างไร...ตถาคตไม่เคยห้ามแต่ทรงบอก...
ความจริงให้เข้าใจเพื่อให้คิดถูกตามได้...
ชวนคนฟังนี่มันยากมากเพราะว่าผู้ที่...
จะตั้งใจฟังจริงๆมีไม่มากแปลว่า...
ไม่ใช่เหตุปัจจัยที่สะสมมาไงคะ...
:b13:

กรัชกาย

จขกท.ว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองผิดทันที" เห็นด้วย เหมือนจขกท.นี่แหละ คิดเองผิดทันที คิกๆๆ

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

จขกท.ว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองผิดทันที" เห็นด้วย เหมือนจขกท.นี่แหละ คิดเองผิดทันที คิกๆๆ

ที่คิดเองอยู่ตอนนี้คิดว่าความรู้เยอะนะ
แต่รู้เปล่าความสามารถคนปกติมีตามปกติ
ที่คิดได้ทีละ1คำพิสูจน์ได้ทันทีเช่นดีชั่ว2คำ
ลองคิดทั้ง2คำนั้นให้ได้ยินเสียงในหัวและในหู
ให้เป็นเสียงเดียวกันดูทีสิคะถ้าทำได้ก็ไม่ต้องฟัง
ดีตรงดีตรงไหม...ชั่วตรงชั่วถูกไหม...ดีตรงชั่วไม่ได้
ทุกคำในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้ตรงจริงรู้ได้ทีละ1คำ
:b16:

เช่นนั้น

Rosarin เขียน:

Kiss
เช่นนั้นกล่าวว่า...แม้ฟังคำจริง แล้วให้คนอื่นคิดได้ไหม
:b12:

ตอบว่า...ใครฟังคำจริงแล้วก็คิดถูกตามได้ก็เริ่มดีได้ค่ะ...
ก็ฟังคือจิตได้ยิน...คิดคือจิตคิดนึกจำหลังจิตเห็นดับ...
ฟังไม่ใช่คิด...ฟังไม่ใช่เสียง...ได้ยินไม่ใช่คิดนึก...
พูดคือคิดออกเสียง...พูดไม่มีเสียงคือคิดในใจ...
ฟังคือรู้เสียงแล้วจำคำแล้วเข้าใจความหมาย...
จิตเป็นประธานรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏใครใคร่ทำ...
อย่างไร...ตถาคตไม่เคยห้ามแต่ทรงบอก...
ความจริงให้เข้าใจเพื่อให้คิดถูกตามได้...
ชวนคนฟังนี่มันยากมากเพราะว่าผู้ที่...
จะตั้งใจฟังจริงๆมีไม่มากแปลว่า...
ไม่ใช่เหตุปัจจัยที่สะสมมาไงคะ...
:b13:

ตอบว่า...ใครฟังคำจริงแล้วก็คิดถูกตามได้ก็เริ่มดีได้ค่ะ.
V
นั่นไง ก็ยังต้องคิดเอง

กรัชกาย

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จขกท.ว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองผิดทันที" เห็นด้วย เหมือนจขกท.นี่แหละ คิดเองผิดทันที คิกๆๆ

ที่คิดเองอยู่ตอนนี้คิดว่าความรู้เยอะนะ
แต่รู้เปล่าความสามารถคนปกติมีตามปกติ
ที่คิดได้ทีละ1คำพิสูจน์ได้ทันทีเช่นดีชั่ว2คำ
ลองคิดทั้ง2คำนั้นให้ได้ยินเสียงในหัวและในหู
ให้เป็นเสียงเดียวกันดูทีสิคะถ้าทำได้ก็ไม่ต้องฟัง
ดีตรงดีตรงไหม...ชั่วตรงชั่วถูกไหม...ดีตรงชั่วไม่ได้
ทุกคำในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้ตรงจริงรู้ได้ทีละ1คำ
:b16:

คิดนะคิดได้ แต่มันจะตรงกับที่คิดไหม ?

Rosarin

กรัชกาย เขียน:

Rosarin เขียน:

กรัชกาย เขียน:

จขกท.ว่า "คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองผิดทันที" เห็นด้วย เหมือนจขกท.นี่แหละ คิดเองผิดทันที คิกๆๆ

ที่คิดเองอยู่ตอนนี้คิดว่าความรู้เยอะนะ
แต่รู้เปล่าความสามารถคนปกติมีตามปกติ
ที่คิดได้ทีละ1คำพิสูจน์ได้ทันทีเช่นดีชั่ว2คำ
ลองคิดทั้ง2คำนั้นให้ได้ยินเสียงในหัวและในหู
ให้เป็นเสียงเดียวกันดูทีสิคะถ้าทำได้ก็ไม่ต้องฟัง
ดีตรงดีตรงไหม...ชั่วตรงชั่วถูกไหม...ดีตรงชั่วไม่ได้
ทุกคำในพระไตรปิฎกที่ทรงตรัสรู้ตรงจริงรู้ได้ทีละ1คำ
:b16:

คิดนะคิดได้ แต่มันจะตรงกับที่คิดไหม ?

ก็คิดให้มันตรงสิคะว่าชาตินี้ที่ยังเกิดอยู่เพราะปัญญาไม่พอ
ที่เกิดมาแล้วรู้แล้วว่าเป็นคนแล้วได้พบคำสอนให้ได้ยินอยู่ค่ะ
เพิ่มปัญญาใหม่ในชาตินี้คือฟังตรงคำตรงขณะได้กี่คำต้องรู้นะ
ถ้าไม่เคยเรียนจากการฟังแสดงว่ายังไม่ทำเหตุเกิดที่มีปัญญาร่วม
:b13:

Rosarin

เช่นนั้น เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
เช่นนั้นกล่าวว่า...แม้ฟังคำจริง แล้วให้คนอื่นคิดได้ไหม
:b12:

ตอบว่า...ใครฟังคำจริงแล้วก็คิดถูกตามได้ก็เริ่มดีได้ค่ะ...
ก็ฟังคือจิตได้ยิน...คิดคือจิตคิดนึกจำหลังจิตเห็นดับ...
ฟังไม่ใช่คิด...ฟังไม่ใช่เสียง...ได้ยินไม่ใช่คิดนึก...
พูดคือคิดออกเสียง...พูดไม่มีเสียงคือคิดในใจ...
ฟังคือรู้เสียงแล้วจำคำแล้วเข้าใจความหมาย...
จิตเป็นประธานรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏใครใคร่ทำ...
อย่างไร...ตถาคตไม่เคยห้ามแต่ทรงบอก...
ความจริงให้เข้าใจเพื่อให้คิดถูกตามได้...
ชวนคนฟังนี่มันยากมากเพราะว่าผู้ที่...
จะตั้งใจฟังจริงๆมีไม่มากแปลว่า...
ไม่ใช่เหตุปัจจัยที่สะสมมาไงคะ...
:b13:

ตอบว่า...ใครฟังคำจริงแล้วก็คิดถูกตามได้ก็เริ่มดีได้ค่ะ.
V
นั่นไง ก็ยังต้องคิดเอง

ยืนยันว่าถ้าฟังคำสอนเข้าใจตรงคำจริงๆขณะนั้นไม่ได้คิดเอง
เป็นการคิดตามเสียงเข้าใจความหมายปรุงโสภณเจตสิกค่ะ
เพราะกำลังระลึกตามคำสอนได้ตรงคำไม่ใช่คิดเองนะคะ
การฟังคำจริงตถาคตไม่ใช่ฟังครั้งเดียวแล้วรู้เลยนะคะ
ปัญญาอาจแทรกได้ทีละนิดอาจแค่1ครั้ง/กิเลส50ไรงี้
แปลว่าปัญญาเกิดท่ามกลางอกุศลของตนขณะเข้าใจ
พิสูจน์ได้ว่าเพราะพึ่งคิดตามด้วยมีกาลามสูตร10ค่ะ
ไม่ใช่อ่านจับต้นชนปลายไม่ถูกตัวจริงของธัมมะ
แต่เป็นการประจักษ์ความจริงทีละ1ตรงคำตรง
ความจริงทีละ1ขณะจริงๆที่กำลังฟังตรงที่ตนมี
เพราะสติ+ปัญญาที่เกิดขณะกำลังเข้าใจรู้แจ้ง
สิ่งที่กำลังมีจริงๆตรงตามที่กำลังรู้ตามเสียงนั้น
:b4:

56020.คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองผิดทันที

ผู้ใช้งานขณะนี้