วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 05:11  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 07:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว




20180615_062530.jpg
20180615_062530.jpg [ 247.87 KiB | เปิดดู 4802 ครั้ง ]
ธรรมชาติของ ตัณหา คือความอยากได้ และเป็นเหตุให้ อุปาทาน เกิดขึ้น
และก็หมุนไปให้กัมมภวะเกิดขึ้น และเป็นให้ชาติเกิดขึ้น
ฉะนั้นจึงป็นเหตุให้เกิดกองทุกข์ทั้งมวล คือ ชาติ เมื่อชาติเกิดขึ้น ชรา มรณะ
โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสสะ อุปายาสะ ก็เกิดขึ้น

ก็นัยเดียวกัน ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ อุปายาสะ เกิดขึ้นได้
เพราะอาศัย ชาติ ให้เกิดขึ้น เป็นอันว่ากองทุกข์ ทั้งมวลอาศัยชาติเกิดขึ้น
เมื่อชาติ เกิดขึ้น ชรา มรณะ ก็เป็นธรรมที่อาศัยชาติ เมื่อ ชรา มรณะ ดับลง
ธรรมเหล่านี้ก็จะหมุนหา อวิชชา สังขาร ต่อไปอีก โดยอาศัย กามาสวะ เป็นอาหาร
จากภพนี้ที่ยังไม่ได้ละ เป็นตัวเชื่อมตัวหมุนเข้าหา อวิชขา สังขาร

ดังนั้นที่กล่าวว่า ไม่มีใคนเกิดใครตายนั้น มันเกิดจากธรรมล้วนๆ ที่อิงอาศัยกันตลอดสาย
เกิดตาย ตายเกิด เป็นไปอย่างนี้ตามสังสารวัฏฏ์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน ...
เคยไปร่วมงานศพใครไหม
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุงป้า น้า อา พี่น้อง เพื่อนฝูง
ยังอยู่ครบไม๊ .....

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 12:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


การจะกล่าวว่าคนนั้นตาย คนนี้ตาย สัตว์ตายทีเข้าใจเช่นนั้น มันการตายโดยสมมุติกันขึ้นมา เมื่อพระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ จึงมากล่าวสอนให้รู้ธรรมตามความเป็นจริงให้รู้ธรรมชาติล้วนๆ ได้แก่รูปธรรม นามธรรมที่เป็นความจริง และธรรมชาติล้วนๆ นี้ ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน. ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล มันเป็นไป คือมันเปลี่ยนแปลงไปตามอำนาจของ กฏอิทัปปัจจยตา เป็นต้น ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล แล้วมันก็ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเกิด

ถ้ารู้พุทธศาสนาอย่างเด็กๆ ก็จะรู้ว่า มีคนตายมีคนเกิด ถ้ารู้พุทธศาสนาอย่างเป็นผู้ใหญ่ที่พอศึกษาคำสอนมาบ้างอย่างพอสมควรแล้ว ก็จะเห็นตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า มันไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มันก็ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเกิด มีแต่กิริยาแห่งการเปลี่ยนแปลงของสังขารที่ เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุตามปัจจัย ที่เป็นธาตุบ้าง สังขารบ้าง

และที่กำลังดำรงอยู่นี้ก็ด้วย เหตุปัจจัย ที่ไม่ใช่คนใช่สัตว์มันอยู่อย่างอาการที่ว่ามันปรุงแต่งกันอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ถ้ามันจะปรุงแต่งในลักษณะที่ตาย มันก็เป็นการปรุงแต่งอยู่นั่นแหละ ไม่ใช่มีคนอยู่ที่นี่ หรือมีคนตาย หรือมีคนเกิด นี่คือ หลักของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่มิจฉาทิฎฐิ. จะเน้นให้เห็นความเป็นจริง
การที่บอกว่ามีแต่รวมตัวของธาตุ อิงอาศัยกันขึ้น มีการปรุงแต่งสังขาร ที่เป็นปัจจัยกัน ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา จึงถือว่าไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย นั้นจะไม่ชื่อวาาเป็นมิจฉาทิฎฐิ และยังได้ชื่อว่าเป็นพวกสัมมาทิฏฐิ อีกด้วย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 13:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามสั้นๆ
ตอบซะยาว
ลุงหมาน ไม่มี พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติมิตรสหาย ลุงป้า น้า อา สิครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศึกษาอภิธรรม ก็อย่าบ้าอภิธรรม

การเกิด การตาย ใครเกิด ใครตาย สัตว์ บุคคคล ตัวตน เรา เขา
พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติ พี่น้อง เพื่อนสหาย
เป็นทุกขสัจจ์ เท่านั้นเอง

ซึ่งการนำความจริงของ สภาวะธรรมของทุกขสัจจ์ มาพิจารณาเพื่อทำลายอุปาทานขันธ์ เป็นเครื่องมือเพื่อละสมุทัยสัจจ์ เพื่อความคลาย ความหน่าย ความสลัดคืนซึ่งความยึดมั่น

ไม่ใช่เพื่อความบ้านึกบ้าคิด ว่า ไม่มีใคร ไม่มีสัตว์บุคคล ไม่มีตัวตนเราเขา
หากบ้านึกบ้าคิดให้แผกแยกแตกต่างไปจากทุกขสัจจ์
การศึกษาอภิธรรม ก็จะกลายเป็นเพียงเรื่องในอุดมคติ ในมโนคติ

การศึกษาอภิธรรม อย่างเด็กๆ ศึกษากัน ก็จะคิดอย่างที่ตั้งหัวข้อจั่วหัวไว้นั่นล่ะ
ว่า "ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย"

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 14:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


เอาตามนั้นนะ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 21:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนา เมื่อลุงหมานเข้าใจครับ :b8: :b8:

Quote Tipitaka:
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่า
สัตว์
เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์โทมนัส เพื่อ
บรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔
ประการ ฉะนี้แล คำที่เรากล่าว ดังพรรณนามาฉะนี้ เราอาศัยเอกายนมรรคกล่าว
แล้ว


http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=10&A=6257&Z=6764&pagebreak=0

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 15 มิ.ย. 2018, 21:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ที่สุดคือ..ไม่มีใครเกิด..ไม่มีใครตาย..นั้นแหละถูกต้องที่สุดแล้ว

แต่ที่มีตาย...เพราะเราหลง...หลงยึดขันธ์..ว่า..นี้เป็นเรา..นั้นเป็นพ่อแม่พี่น้องพ้องญาติแลว่าขันธ์ทั้งหลายนั้นเป็นของสัตว์นั้น...

เมื่อเข้าใจที่สุด..ก็ไม่มีใครตาย..

แต่..ตายมั้ย?...ก็ต้องบอกว่า...ตาย..เพียงแต่ไม่มีใครตาย...


โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 04:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
อนุโมทนา เมื่อลุงหมานเข้าใจครับ :b8: :b8:

Quote Tipitaka:
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่า
สัตว์
เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์โทมนัส เพื่อ
บรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔
ประการ ฉะนี้แล คำที่เรากล่าว ดังพรรณนามาฉะนี้ เราอาศัยเอกายนมรรคกล่าว
แล้ว


http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=10&A=6257&Z=6764&pagebreak=0


เข้าใจครับ...เข้าใจว่าไม่รู้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลุงหมาน เขียน:
เช่นนั้น เขียน:
อนุโมทนา เมื่อลุงหมานเข้าใจครับ :b8: :b8:

Quote Tipitaka:
ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่า
สัตว์
เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์โทมนัส เพื่อ
บรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔
ประการ ฉะนี้แล คำที่เรากล่าว ดังพรรณนามาฉะนี้ เราอาศัยเอกายนมรรคกล่าว
แล้ว


http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=10&A=6257&Z=6764&pagebreak=0


เข้าใจครับ...เข้าใจว่าไม่รู้

เรียนใหม่นะครับลุงหมาน อย่าให้เสียเวลา ยี่สิบกว่าปีเลย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 17:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ที่สุดคือ..ไม่มีใครเกิด..ไม่มีใครตาย..นั้นแหละถูกต้องที่สุดแล้ว

แต่ที่มีตาย...เพราะเราหลง...หลงยึดขันธ์..ว่า..นี้เป็นเรา..นั้นเป็นพ่อแม่พี่น้องพ้องญาติแลว่าขันธ์ทั้งหลายนั้นเป็นของสัตว์นั้น...

เมื่อเข้าใจที่สุด..ก็ไม่มีใครตาย..

แต่..ตายมั้ย?...ก็ต้องบอกว่า...ตาย..เพียงแต่ไม่มีใครตาย...

หาก
พ่อ แม่ กบ ตาย
ก็ไม่ต้องจัดงาน ไม่ต้องเขียนป้ายชื่อนะครับ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว




20180601_050122.jpg
20180601_050122.jpg [ 476.5 KiB | เปิดดู 4693 ครั้ง ]
viewtopic.php?f=1&t=55941

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=10&A=1&w=%CA%D8%B7%E2%B8%B7%B9%D0

มหาปทาน

หากยอมรับว่า "ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย"

เท่ากับ เป็นการปฏิเสธ "บุพเพนิวาสนุสติญาณ" ไปโดยปริยาย

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 17:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว




paramathadhammaA.jpg
paramathadhammaA.jpg [ 213.23 KiB | เปิดดู 4688 ครั้ง ]
ในปรมัตถธรรม ๔ หาคนหาสัตว์เจอไหม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสต์ เมื่อ: 16 มิ.ย. 2018, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอปรารถนาหรือไม่
ที่จะฟังธรรมีกถาซึ่งเกี่ยวด้วยบุพเพนิวาส ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า ข้าแต่พระผู้มี-
พระภาค เป็นการสมควรแล้วที่พระผู้มีพระภาคจะพึงทรงกระทำธรรมีกถาซึ่งเกี่ยว
ด้วยบุพเพนิวาส ข้าแต่พระสุคต เป็นการสมควรแล้วที่พระผู้มีพระภาคจะพึงทรง
กระทำธรรมีกถาซึ่งเกี่ยวด้วยบุพเพนิวาส ภิกษุทั้งหลายได้ฟังพระดำรัสของพระผู้มี-
*พระภาคแล้ว จักได้ทรงจำไว้ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้า
อย่างนั้นพวกเธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดีเถิด เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับ
พระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพุทธพจน์นี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
นับแต่นี้ไป ๙๑ กัป พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าวิปัสสี
ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก นับแต่นี้ไป ๓๑ กัป พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมา-
*สัมพุทธเจ้า พระนามว่าสิขี ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ในกัปที่ ๓๑ นั่นเอง พระผู้มี-
*พระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า เวสสภู ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในภัททกัปนี้แหละ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระนามว่ากกุสันธะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ในภัททกัปนี้แหละ พระผู้มีพระภาค
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าโกนาคมนะ ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ใน
ภัททกัปนี้แหละ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่ากัสสปะ
ได้เสด็จอุบัติขึ้นในโลก ในภัททกัปนี้แหละ เราผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในบัดนี้อุบัติขึ้นแล้วในโลก ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=1&Z=1454&pagebreak=0

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร