วันเวลาปัจจุบัน 14 ต.ค. 2025, 04:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 67 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 04 ก.พ. 2018, 20:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนไม่มีแม้ศีล....ก็อย่ามาพิมพ์ธรรมคำภีร์เลย....อายแทน..
:b15: :b15: :b15:


โพสต์ เมื่อ: 04 ก.พ. 2018, 20:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คนไม่มีแม้ศีล....ก็อย่ามาพิมพ์ธรรมคำภีร์เลย....อายแทน..
:b15: :b15: :b15:


ศีลเงินแต่งเมีย ศีลมีคนเอารถมาให้ ศีลมีคนเอาเสื้อผ้ามาให้ :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 04 ก.พ. 2018, 20:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


รำคาญกักกาย...ชอบทำคลื่นแทรกแบบไร้สาระ..

ชิว..ชิว...อย่ามายุ้ง.. :b32: :b32:

กบนอกกะลา เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
อ้างคำพูด:
ธรรมผุด...จะเกิดตอนเข้าฌานทุกครั้ง...เลยรึยังงัยครับ?

จากข้อความนี้...
ผมไม่แน่ใจว่า..ญาณของคุณสายน้ำเมย..กับ..ผม..จะเข้าใจตรงกันมั้ย?

อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:

เมื่อจิตหยุดนิ่งไปเรื่อยๆ จิตจะมีความละเอียดเข้าไปๆ.. 

ความละเอียดของจิตที่หยุดนิ่งนี้ สามารถเทียบเข้าลำดับของฌานได้ 

เราจึงสามารถพูดได้ว่า ญาณรู้เกิดจากการทำฌานสมาบัติ



ญาณ...ที่ผมเข้าใจ..ก็พวก..ญาณ9 ญาณ 16...
ญาณ..ของคุณสายน้ำเมย....เป็นแบบไหน...เหมือนกับที่ผมเข้าใจหรือเปล่าครับ?



จริงๆ..ในเชิงปฎิบัติ อุปจารสมาธิ ธรรมก็แจ้งแก่จิตได้แล้วคะ

แต่ที่แจ้งตรงอุปจารสมาธิได้ ก็เกิดจากการที่จิตสะสมกำลังจากการบ่มเพาะฌานมา...
.
.
แต่ในบัญญัติ ได้พูดไว้ชัดเจนว่า...เมื่อวิตกวิจารณ์ดับไป...จะมีธรรมผุดขึ้นกลางใจขึ้นมาได้

บ้านๆว่า ก็ตรงกับฌานสองพอดี ในนี้มีตำราบอกไว้ สามารถหาอ้างอิงได้
.
.
.ส่วนเรื่องญาณรู้...ในบทความนี้ พูดถึงสาเหตุของการเกิดของญาณ ว่าเกิดตรงจุดใด

ส่วนเรื่องญาน9และญาณ16 นั้น เป็นชื่อประเภทของญาณ

ว่าญาณที่เกิดจากเหตุการพิจารณาอย่างไร จึงเกิดญาณนั้นขึ้นมา

และเป็นลำดับการเกิดก่อนเกิดหลังของญาณ

ญาณข้อที่หนึ่งเกิดก่อนข้อที่สองสามสี่ห้า..อย่างนี้เป็นต้น

เมยพิจารณาได้อย่างนี้ :b8:


อ่านแล้ว..ก็ยังไม่รู้ว่า..คุณสายน้ำเมย..คิดอย่างไรกับที่ถามว่า...ธรรมผุดเกิดทุกครั้งที่เข้าฌานรึเปล่า?

แต่..ก็ไม่เป็นไร..ครับ

ส่วน...ที่คุณสายน้ำเมย..กล่าวว่า..
................
ว่าญาณที่เกิดจากเหตุการพิจารณาอย่างไร จึงเกิดญาณนั้นขึ้นมา

.................
จะมิขัดแย้งกับที่กล่าวใว้ตอนต้นหรือครับ..ที่กล่าวว่า..

สายน้ำเมย เขียน:
เมื่อเราฝึกจิตให้หยุดนิ่ง จิตที่หยุดนิ่งจากนิวรณ์ห้า เรียกว่าฌาน

เมื่อใดจิตเราหยุดนิ่งจากนิวรณ์ห้าได้

เมื่อนั้นจิตเราก็สามารถเข้าถึงฌานทันที

และเมื่อจิตเราหยุดนิ่งแล้ว จะมีข้อธรรมผุดขึ้นที่จิตตรงกลางใจของเรา

ข้อธรรมที่ผุดขึ้นหรือสิ่งที่ผุดขึ้นนี้ เรียกว่า ญาณรู้


มีอะไรจะชี้เพิ่มเติมมั้ยครับ?


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.พ. 2018, 09:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
รำคาญกักกาย...ชอบทำคลื่นแทรกแบบไร้สาระ..

ชิว..ชิว...อย่ามายุ้ง.. :b32: :b32:

กบนอกกะลา เขียน:
สายน้ำเมย เขียน:
อ้างคำพูด:
ธรรมผุด...จะเกิดตอนเข้าฌานทุกครั้ง...เลยรึยังงัยครับ?

จากข้อความนี้...
ผมไม่แน่ใจว่า..ญาณของคุณสายน้ำเมย..กับ..ผม..จะเข้าใจตรงกันมั้ย?

อ้างคำพูด:
อ้างคำพูด:

เมื่อจิตหยุดนิ่งไปเรื่อยๆ จิตจะมีความละเอียดเข้าไปๆ.. 

ความละเอียดของจิตที่หยุดนิ่งนี้ สามารถเทียบเข้าลำดับของฌานได้ 

เราจึงสามารถพูดได้ว่า ญาณรู้เกิดจากการทำฌานสมาบัติ



ญาณ...ที่ผมเข้าใจ..ก็พวก..ญาณ9 ญาณ 16...
ญาณ..ของคุณสายน้ำเมย....เป็นแบบไหน...เหมือนกับที่ผมเข้าใจหรือเปล่าครับ?



จริงๆ..ในเชิงปฎิบัติ อุปจารสมาธิ ธรรมก็แจ้งแก่จิตได้แล้วคะ

แต่ที่แจ้งตรงอุปจารสมาธิได้ ก็เกิดจากการที่จิตสะสมกำลังจากการบ่มเพาะฌานมา...
.
.
แต่ในบัญญัติ ได้พูดไว้ชัดเจนว่า...เมื่อวิตกวิจารณ์ดับไป...จะมีธรรมผุดขึ้นกลางใจขึ้นมาได้

บ้านๆว่า ก็ตรงกับฌานสองพอดี ในนี้มีตำราบอกไว้ สามารถหาอ้างอิงได้
.
.
.ส่วนเรื่องญาณรู้...ในบทความนี้ พูดถึงสาเหตุของการเกิดของญาณ ว่าเกิดตรงจุดใด

ส่วนเรื่องญาน9และญาณ16 นั้น เป็นชื่อประเภทของญาณ

ว่าญาณที่เกิดจากเหตุการพิจารณาอย่างไร จึงเกิดญาณนั้นขึ้นมา

และเป็นลำดับการเกิดก่อนเกิดหลังของญาณ

ญาณข้อที่หนึ่งเกิดก่อนข้อที่สองสามสี่ห้า..อย่างนี้เป็นต้น

เมยพิจารณาได้อย่างนี้ :b8:


อ่านแล้ว..ก็ยังไม่รู้ว่า..คุณสายน้ำเมย..คิดอย่างไรกับที่ถามว่า...ธรรมผุดเกิดทุกครั้งที่เข้าฌานรึเปล่า?

แต่..ก็ไม่เป็นไร..ครับ

ส่วน...ที่คุณสายน้ำเมย..กล่าวว่า..
................
ว่าญาณที่เกิดจากเหตุการพิจารณาอย่างไร จึงเกิดญาณนั้นขึ้นมา

.................
จะมิขัดแย้งกับที่กล่าวใว้ตอนต้นหรือครับ..ที่กล่าวว่า..

สายน้ำเมย เขียน:
เมื่อเราฝึกจิตให้หยุดนิ่ง จิตที่หยุดนิ่งจากนิวรณ์ห้า เรียกว่าฌาน

เมื่อใดจิตเราหยุดนิ่งจากนิวรณ์ห้าได้

เมื่อนั้นจิตเราก็สามารถเข้าถึงฌานทันที

และเมื่อจิตเราหยุดนิ่งแล้ว จะมีข้อธรรมผุดขึ้นที่จิตตรงกลางใจของเรา

ข้อธรรมที่ผุดขึ้นหรือสิ่งที่ผุดขึ้นนี้ เรียกว่า ญาณรู้


มีอะไรจะชี้เพิ่มเติมมั้ยครับ?



นี่แหละที่เขาเรียกว่าพูดเกินสภาวะของตนเอง พูดไปก็ไม่เข้าใจ

ตย. เช่น

ขณะสวดมนต์แล้วได้เอนตัวลงนอนอย่างมีสติ...ได้บริกรรมพอง กับ ยุบ ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดอะไร...จนหลับไปไม่รู้ตัว...ระยะหนึ่ง...จิตได้เกิดกลางดึก คือ มีสติรู้ขึ้นมาทันทีของการพองยุบของท้อง และรู้สึกว่ามีนิ้วมือมากดที่สะดือแรงมาก เวลาที่พองออก ท้องก็จะพองออกมาก มือที่กดก็จะแรงไปตามการพองและยุบ จนรู้สึกกลัวมากเหมือนไส้จะหลุดออกมา.. แต่ผมก็พยายามดึงสติให้อยู่กับคำบริกรรมพอง ยุบอีก แต่พยายามแล้วจิตก็ทนไม่ได้ จิตสั่นไปหมดเหมือนท้องจะแตก จิตคิดตอนนั้นครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.พ. 2018, 10:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ม.ค. 2018, 00:09
โพสต์: 203

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:

ส่วน...ที่คุณสายน้ำเมย..กล่าวว่า..
................
ว่าญาณที่เกิดจากเหตุการพิจารณาอย่างไร จึงเกิดญาณนั้นขึ้นมา

.................
จะมิขัดแย้งกับที่กล่าวใว้ตอนต้นหรือครับ..ที่กล่าวว่า..

สายน้ำเมย เขียน:
เมื่อเราฝึกจิตให้หยุดนิ่ง จิตที่หยุดนิ่งจากนิวรณ์ห้า เรียกว่าฌาน

เมื่อใดจิตเราหยุดนิ่งจากนิวรณ์ห้าได้

เมื่อนั้นจิตเราก็สามารถเข้าถึงฌานทันที

และเมื่อจิตเราหยุดนิ่งแล้ว จะมีข้อธรรมผุดขึ้นที่จิตตรงกลางใจของเรา

ข้อธรรมที่ผุดขึ้นหรือสิ่งที่ผุดขึ้นนี้ เรียกว่า ญาณรู้


มีอะไรจะชี้เพิ่มเติมมั้ยครับ?


ไม่ขัดแย้งคะ

ญาณรู้ สามารถเกิดได้จากการผุดขึ้นด้วยการเดินมรรคที่เต็มแล้ว

จะผุดขึ้นโดดๆ เมื่อจิตสงบจากนิวรณ์

เมื่อจิตสงบระงับจาก นิวรณ์ถือว่า เป็นฌาณทันที
.
.
.
กับ ญาณรู้ที่เกิดขึ้นกับการใช้สัญญาล่อ

เมื่อพิจารณาจากข้อธรรมที่เราอ่านมา แล้วพิจารณาทวนซ้ำไปซ้ำมา

ในรูปแบบอนุโลมและปฎิโลม

โดยการใช้สัญญาในภาวะที่จิตสงบนิ่ง

และแล่นไปในสัญญาที่พิจารณาได้อย่างเสถียร

เมื่ออนุโลมและปฎิโลมซ้ำไปซ้ำมา...ญาณรู้ก็เกิดขึ้นได้
.
.
.
ในวิปัสสนาญาณ9หรือวิปัสสนาญาณ16

เกิดจากการใช้สัญญาล่อให้เกิดขึ้นก็ได้

หรือ เกิดจากการเดินมรรคเต็มแล้วก็ได้

อยู่ที่นักปฎิบัติว่า เดินทางกันมาทางไหนในการเข้าถึง แค่นั้นเอง :b53:


โพสต์ เมื่อ: 05 ก.พ. 2018, 22:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เข้าใจพูดนะครับ....

"สัญญาล่อ"

:b17: :b17: :b17:

ส่วนตัวนะครับ...ธรรมผุด...จากสมาธิ..นี้นะ..กระผมไม่คิดว่าควรเรียกว่า..ญาณ...

แต่ความรู้สึก..หลังธรรมผุด..ต่างหาก..หากรู้สึกแล่นไปในญาณใดก็เรียกว่า..รู้ในญาณนั้น..แม้ธรรมผุดจะเหมือนกัน..แต่เจ้าความรู้สึกนี้..ก็ใช่ว่า..จะเกิดเหมือนกัน..

ธรรมผุดแล้ว...ไม่เกิดความรู้ในญาณใดใดเลย..ก็มี...

ธรรมผุดแล้ว..มีกิเลสตีความว่าตนเป็นนั้นเป็นนี้ก็มี

ธรรมผุด...ควรจัดอยู่ในฝ่าย..ของ..สมาธิ...
(พูดยากนะครับ...มันก็รู้เหมือนกัน..แต่ทำไมไม่จัดว่าเป็นญาณรู้...ผมสังเกตว่ามันมีลักษณะรู้..แต่รู้สั้นๆ..ไม่ไหลลื่น...ไม่ชุ่มชื่น..ไม่ซึมซาบใจ...นี้เราพูดถึงรู้ในญาณ9..หรือ..ญาณ16..นะครับ..ส่วนตัวผมเรียกว่าปัญญาของสมถะ)

ธรรมผุด...ของคนที่มีสมาธิ...ก็อยู่ระดับเดียวกันกับ.."สัญญาล่อ"..ของคนที่ทำแบบพิจารณา..นั้นแหละครับ


โพสต์ เมื่อ: 06 ก.พ. 2018, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เข้าใจพูดนะครับ....

"สัญญาล่อ"

:b17: :b17: :b17:

ส่วนตัวนะครับ...ธรรมผุด...จากสมาธิ..นี้นะ..กระผมไม่คิดว่าควรเรียกว่า..ญาณ...

แต่ความรู้สึก..หลังธรรมผุด..ต่างหาก..หากรู้สึกแล่นไปในญาณใดก็เรียกว่า..รู้ในญาณนั้น..แม้ธรรมผุดจะเหมือนกัน..แต่เจ้าความรู้สึกนี้..ก็ใช่ว่า..จะเกิดเหมือนกัน..

ธรรมผุดแล้ว...ไม่เกิดความรู้ในญาณใดใดเลย..ก็มี...

ธรรมผุดแล้ว..มีกิเลสตีความว่าตนเป็นนั้นเป็นนี้ก็มี

ธรรมผุด...ควรจัดอยู่ในฝ่าย..ของ..สมาธิ...
(พูดยากนะครับ...มันก็รู้เหมือนกัน..แต่ทำไมไม่จัดว่าเป็นญาณรู้...ผมสังเกตว่ามันมีลักษณะรู้..แต่รู้สั้นๆ..ไม่ไหลลื่น...ไม่ชุ่มชื่น..ไม่ซึมซาบใจ...นี้เราพูดถึงรู้ในญาณ9..หรือ..ญาณ16..นะครับ..ส่วนตัวผมเรียกว่าปัญญาของสมถะ)

ธรรมผุด...ของคนที่มีสมาธิ...ก็อยู่ระดับเดียวกันกับ.."สัญญาล่อ"..ของคนที่ทำแบบพิจารณา..นั้นแหละครับ



ถ้าไม่ทำไปปฏิบัติจริง ต่อให้เถียงกันจนลานธรรมจักรล่มแล้วล่มอีก อิอิ เสียเวลาเปล่า มีแต่จะสร้างความจำคือสัญญาผิดๆ (ปปัญจสัญญา) เปล่าๆปลี้ๆ เออนะ ถ้ายานยังงี้ว่าไปอย่าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 67 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron