วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 22:54  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 09:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:

มันต้องตื่นเพราะ มันมีปัญหา ไงลุง มันต้องกินเพราะมันมีปัญหาไงลุง มันต้องขี้เพราะมันมีปัญหาไงลุง มันต้องแปลงฟัน ก็เพราะมันมีปัญหาไงลุง ลุงพอเข้าใจใช่มั่ยว่ามันคือปัญหา ถ้าไม่ใช่ปัญหาก็ไม่ต้องแก้ สรุปชีวิตคือปัญหาตั้งแต่ลืมตา ลุงไม่เคยรู้เหรอ ผมถึงว่าลุงเอื่ยๆเฉื่อยๆ แบบนี้ถึง ไม่เคยเห็นอายตนะมันดับไปโลกมันดับไปเป็นอย่างไรสักที



ผมถึงว่าลุงเอื่ยๆเฉื่อยๆ แบบนี้ถึง ไม่เคยเห็นอายตนะมันดับไป โลกมันดับไป เป็นอย่างไรสักที

มาแระอายตนะ อิอิ ถามหลานหน่อย อะไรอายตนะ ไม่เข้าใจ
ลุงเคยได้ยินคำว่า รู้รอบใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ บ่อ


มันยังไงหรอหลาน อธิบายชัดๆดิ
ลุงเคยปวดหางมั้ย



ลุงไม่ใช่แมว จะมีหาง คิกๆๆ ถามงัวตอบควายนะหลาน
ก็ถูกแล้ว ที่ไม่ปวดหาง เพราะเราไม่มีมีหาง แต่ถ้าถามว่า เคยปวดหัวมั้ย ลุงก็คงตอบว่าก็ต้องเคยปวดหัว มันก็เป็นธรรมดาที่ต้องปวดหัวเพราะว่าเรามีหัว ฉะนั้นการรู้รอบใน หูตา จมูกลิ้น กายใจ ก็คือ รู้ว่ามีอะไรมันก็ทุกกับสิ่งนั้น ถ้าเราสามารถดับสิ่งนั้นได้ถาวร เราจะมีทุกข์อะไรได้อ่ะ พอเข้าใจนะลุง และการที่เราสามารถดับอายตนะภายในได้เราก็จะรู้รสของคำว่า ดับสนิท มันเป็นจังได๋


ไหนลองอธิบายอายตนะชัดๆสิ
ลุงยังไม่เข้าอีกเหรอ สงสัยต้องติวอีกนาน



บอกให้อธิบาย อิอิ
ลุงลองนั่งดูลมหายใจนะ หายใจเจ้า จิตหนึ่งดวงรู้ หายใจออกจิตอีกหนึ่งดวงรู้ และรู้ว่าหายใจเข้าออกจิตคนล่ะดวงกันนี่ก็จิตอีกดวงหนึ่ง และจิตอีกดวงหนึ่งเห็นว่ามีจิตสามดวงดับไป ลุงจะเห็นจิต ทำไปแบบนี้ไปเรื่อยๆลุงจะเห็นทุกอย่างตามจริง และเมื่อถึงที่สุดอะไรๆก็ไม่มีเหลือ


นี่เขาเป็นอะไร เหลืออะไร

ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนาแนวทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้า คือนั่งดูลมหายใจเข้าออกเฉยๆ ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะเหมือนมีเข็มเป็น ร้อยๆเล่มอยู่ในหัว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ

อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บาง อาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอด เวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมี ตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง

ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:

มันต้องตื่นเพราะ มันมีปัญหา ไงลุง มันต้องกินเพราะมันมีปัญหาไงลุง มันต้องขี้เพราะมันมีปัญหาไงลุง มันต้องแปลงฟัน ก็เพราะมันมีปัญหาไงลุง ลุงพอเข้าใจใช่มั่ยว่ามันคือปัญหา ถ้าไม่ใช่ปัญหาก็ไม่ต้องแก้ สรุปชีวิตคือปัญหาตั้งแต่ลืมตา ลุงไม่เคยรู้เหรอ ผมถึงว่าลุงเอื่ยๆเฉื่อยๆ แบบนี้ถึง ไม่เคยเห็นอายตนะมันดับไปโลกมันดับไปเป็นอย่างไรสักที



ผมถึงว่าลุงเอื่ยๆเฉื่อยๆ แบบนี้ถึง ไม่เคยเห็นอายตนะมันดับไป โลกมันดับไป เป็นอย่างไรสักที

มาแระอายตนะ อิอิ ถามหลานหน่อย อะไรอายตนะ ไม่เข้าใจ
ลุงเคยได้ยินคำว่า รู้รอบใน หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ บ่อ


มันยังไงหรอหลาน อธิบายชัดๆดิ
ลุงเคยปวดหางมั้ย



ลุงไม่ใช่แมว จะมีหาง คิกๆๆ ถามงัวตอบควายนะหลาน
ก็ถูกแล้ว ที่ไม่ปวดหาง เพราะเราไม่มีมีหาง แต่ถ้าถามว่า เคยปวดหัวมั้ย ลุงก็คงตอบว่าก็ต้องเคยปวดหัว มันก็เป็นธรรมดาที่ต้องปวดหัวเพราะว่าเรามีหัว ฉะนั้นการรู้รอบใน หูตา จมูกลิ้น กายใจ ก็คือ รู้ว่ามีอะไรมันก็ทุกกับสิ่งนั้น ถ้าเราสามารถดับสิ่งนั้นได้ถาวร เราจะมีทุกข์อะไรได้อ่ะ พอเข้าใจนะลุง และการที่เราสามารถดับอายตนะภายในได้เราก็จะรู้รสของคำว่า ดับสนิท มันเป็นจังได๋
มาอีกแล้ว

ไหนลองอธิบายอายตนะชัดๆสิ
ลุงยังไม่เข้าอีกเหรอ สงสัยต้องติวอีกนาน



บอกให้อธิบาย อิอิ
ลุงลองนั่งดูลมหายใจนะ หายใจเจ้า จิตหนึ่งดวงรู้ หายใจออกจิตอีกหนึ่งดวงรู้ และรู้ว่าหายใจเข้าออกจิตคนล่ะดวงกันนี่ก็จิตอีกดวงหนึ่ง และจิตอีกดวงหนึ่งเห็นว่ามีจิตสามดวงดับไป ลุงจะเห็นจิต ทำไปแบบนี้ไปเรื่อยๆลุงจะเห็นทุกอย่างตามจริง และเมื่อถึงที่สุดอะไรๆก็ไม่มีเหลือ


นี่เขาเป็นอะไร เหลืออะไร

ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนาแนวทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้า คือนั่งดูลมหายใจเข้าออกเฉยๆ ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะเหมือนมีเข็มเป็น ร้อยๆเล่มอยู่ในหัว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ

อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บาง อาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอด เวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมี ตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง

ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ
มาอีกแล้ว

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


https://www.facebook.com/groups/293486284380476/permalink/458356611226775/

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 09:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:

ลุงลองนั่งดูลมหายใจนะ หายใจเจ้า จิตหนึ่งดวงรู้ หายใจออกจิตอีกหนึ่งดวงรู้ และรู้ว่าหายใจเข้าออกจิตคนล่ะดวงกันนี่ก็จิตอีกดวงหนึ่ง และจิตอีกดวงหนึ่งเห็นว่ามีจิตสามดวงดับไป ลุงจะเห็นจิต ทำไปแบบนี้ไปเรื่อยๆลุงจะเห็นทุกอย่างตามจริง และเมื่อถึงที่สุดอะไรๆก็ไม่มีเหลือ


นี่เขาเป็นอะไร เหลืออะไร

อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนาแนวทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้า คือนั่งดูลมหายใจเข้าออกเฉยๆ ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะเหมือนมีเข็มเป็น ร้อยๆเล่มอยู่ในหัว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ

อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บาง อาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอด เวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมี ตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง

ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

มาอีกแล้ว


เป็นไง คิกๆๆ ทำกับพูดนะมันต่างกัน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 09:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:


หลานทู่ นี่อีกตย.หนึ่ง

ดิฉันเคยไปฝึกปฏิบัติธรรม ในสายโคเอ็นก้าที่ พิษณุโลก หลักสูตร 10 วันเต็ม การพิจารณาวิปัสสนา ตามหลักสูตร เป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง และรู้สึกเหมือนกับว่าการพิจารณาจะเป็นไปตามที่ครูอาจารย์แนะนำในหลักสูตร เมื่อปี 53 ที่ผ่านมา ผ่านมาหลายปีแล้ว กลับมาแรกๆก้อปฏิบัติวันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมงตลอด
ช่วงหลังห่างไม่ได้ปฏิบัติอีก มีเรื่องราวมากมายเข้ามาในชีวิตเป็นไปตามเหตุและปัจจัย แต่
ดิฉันยังรู้สึกว่า เสียงที่รู้สึกได้ในจิตยังส่งเสียงอยู่ตลอดเวลา คล้ายๆกับคนสวดมนต์หรือดนตรีอะไรแว่วๆอยู่ในจิตตลอดเวลา เหมือนสัญญาณเตือนว่าให้กลับไปเส้นทางนี้ ไม่ทราบว่าเป็นการอุปาทานเองไปมั๊ย เคยปรึกษาพี่ที่เป็นเสมือนญาติธรรมกัน ท่านว่าเป็นสัญญาณความทรงจำเก่าจากอดีตชาติอย่าไปยึดติด แต่ทุกครั้งที่จิตว่างๆ จากการงานธุระ หรือไม่มีเรื่องให้คิด เสียงนี้จะผุดขึ้นมาตลอดเวลา
ขอความอนุเคราะห์ผู้รู้ทั้งหลายในลานธรรมช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 09:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลานบิ๊กทู่ อยู่ในช่วงฟุ้งซ่านธรรม ที่พระอรรถกถาจารย์เรียก วิปัสสนูปกิเลส คือ ตัวเองหลงอยู่ในดงอุปกิเลสนี้ วนไปวนมา หาทางออกไม่เจอะ คิกๆๆ ปล่อยไว้หนักเข้าๆ น้ำท่าไม่อาบ ข้าวปลาไม่กิน การงานไม่ทำ นอนยิ้มถึงอนาคาอยู่บนที่นอน ไม่ไปไหน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 10:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 17:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย



แสดงถึงไม่เข้าใจเรื่องภาวนา ไม่รู้ไม่เข้าใจสภาวะที่ปรากฏ ไม่รู้ไม่เข้าใจวิธีออกจากสภาวะนั้นๆ จึงเป็นทุกข์เพราะมันนั่นแหละ

สรุปคือหลานทู่ ขาดปัญญา ลุยถั่วเอาทื่อๆ คิกๆๆ


ปล. ตย. ที่หลานทู่อ้างอิงมานี่แบบนิ่มๆ ถ้าเป็นแบบสองตย.ก่อนหน้า หลานทู่จะเป็นฉันใด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 18:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย


เน้นประเด็นสำคัญไว้ เพราะผู้ปฏิบัติธรรมบ้านเราร้อยทั้งร้อย เมื่อสภาวธรรมอะไรๆปรากฏแก่ตนแล้วไปไม่เป็น ไม่รู้จะเอาอิท่าไหน บ้างก็โทษนั่นโทษนี่ บ้างแก้ปัญหาด้วยวิธี เป็นต้น นี่

อ้างคำพูด:
ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย


บอกให้เลยว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นอกจากการกำหนดรู้ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็นของมัน เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดจิตยังงั้น ทุกๆขณะที่รู้สึก

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 19:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย



แสดงถึงไม่เข้าใจเรื่องภาวนา ไม่รู้ไม่เข้าใจสภาวะที่ปรากฏ ไม่รู้ไม่เข้าใจวิธีออกจากสภาวะนั้นๆ จึงเป็นทุกข์เพราะมันนั่นแหละ

สรุปคือหลานทู่ ขาดปัญญา ลุยถั่วเอาทื่อๆ คิกๆๆ


ปล. ตย. ที่หลานทู่อ้างอิงมานี่แบบนิ่มๆ ถ้าเป็นแบบสองตย.ก่อนหน้า หลานทู่จะเป็นฉันใด
ขาดเหรอครับ ก็ยังขาดอยู่นะ เพราะยังไม่ใช่อรหันต์ จะว่าไม่ขาดก็ไม่ถูก แต่อสุจิไม่เคลื่อนมานาน ก็พอตัวแล้วล่ะครับ นั่งสมาธิก็สงบดี สบายใจดีนะลุง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย


เน้นประเด็นสำคัญไว้ เพราะผู้ปฏิบัติธรรมบ้านเราร้อยทั้งร้อย เมื่อสภาวธรรมอะไรๆปรากฏแก่ตนแล้วไปไม่เป็น ไม่รู้จะเอาอิท่าไหน บ้างก็โทษนั่นโทษนี่ บ้างแก้ปัญหาด้วยวิธี เป็นต้น นี่

อ้างคำพูด:
ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย


บอกให้เลยว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นอกจากการกำหนดรู้ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็นของมัน เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดจิตยังงั้น ทุกๆขณะที่รู้สึก
ตามเห็นการเกิดดับของรูปและนามกิจอื่นให้ทำยิ่งขึ้นไปกว่านี้ไม่มีพอเข้าใจนะลุง ผมไม่ได้โง่เท่าไหร่นะลุง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย


เน้นประเด็นสำคัญไว้ เพราะผู้ปฏิบัติธรรมบ้านเราร้อยทั้งร้อย เมื่อสภาวธรรมอะไรๆปรากฏแก่ตนแล้วไปไม่เป็น ไม่รู้จะเอาอิท่าไหน บ้างก็โทษนั่นโทษนี่ บ้างแก้ปัญหาด้วยวิธี เป็นต้น นี่

อ้างคำพูด:
ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย


บอกให้เลยว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นอกจากการกำหนดรู้ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็นของมัน เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดจิตยังงั้น ทุกๆขณะที่รู้สึก


ตามเห็นการเกิดดับของรูปและนามกิจอื่นให้ทำยิ่งขึ้นไปกว่านี้ไม่มีพอเข้าใจนะลุง ผมไม่ได้โง่เท่าไหร่นะลุง



มาอีกแระ รูปนาม

อะไรรูป อะไรนาม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 19:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย


เน้นประเด็นสำคัญไว้ เพราะผู้ปฏิบัติธรรมบ้านเราร้อยทั้งร้อย เมื่อสภาวธรรมอะไรๆปรากฏแก่ตนแล้วไปไม่เป็น ไม่รู้จะเอาอิท่าไหน บ้างก็โทษนั่นโทษนี่ บ้างแก้ปัญหาด้วยวิธี เป็นต้น นี่

อ้างคำพูด:
ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย


บอกให้เลยว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นอกจากการกำหนดรู้ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็นของมัน เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดจิตยังงั้น ทุกๆขณะที่รู้สึก


ตามเห็นการเกิดดับของรูปและนามกิจอื่นให้ทำยิ่งขึ้นไปกว่านี้ไม่มีพอเข้าใจนะลุง ผมไม่ได้โง่เท่าไหร่นะลุง



มาอีกแระ รูปนาม

อะไรรูป อะไรนาม
ลุง คงไม่เคยได้ยินพระสูตรนี้มั้ง เลย งง มาถาม อะไรรูปนาม

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 พ.ย. 2017, 19:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:
กรัชกาย เขียน:
bigtoo เขียน:


อีกตัวอย่างหนึ่ง


ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง ?


ขอเท้าความหน่อยนะครับ ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรมธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า

ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว
ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตา ผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้าง ทำๆ หยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สอง ที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และกลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลย เข้ามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง

จากนั้น ก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไป เหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรก ความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้ จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ
ช่วงวันหลังๆแค่หลับตา จะนอนก็เห็นเลยครับ
วันสุดท้าย ก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ ผมมีความรู้สึกดันๆ ตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆ ผมคิดว่ามันก็ดี เป็นเหมือนการบ้าน ให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง...
ปีนึงผ่านไป ก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิ มันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก
พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลัง ก็ให้หมอ หู คอ จมูก ส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อน นั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ
ลัง กัช คงไม่รู้ซินะครับว่าการเรียนรู้ย่อมมีต่อไปอีก มันธรรมดาคนยังเข้าไม่ถึงอริยะก็ต้องมีความรังเรสงสัยเป็นธรรมดา ผมไม่เห็นสงสัยอะไรเลย


เน้นประเด็นสำคัญไว้ เพราะผู้ปฏิบัติธรรมบ้านเราร้อยทั้งร้อย เมื่อสภาวธรรมอะไรๆปรากฏแก่ตนแล้วไปไม่เป็น ไม่รู้จะเอาอิท่าไหน บ้างก็โทษนั่นโทษนี่ บ้างแก้ปัญหาด้วยวิธี เป็นต้น นี่

อ้างคำพูด:
ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศล ก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย


บอกให้เลยว่าไม่มีทางแก้ปัญหาได้ นอกจากการกำหนดรู้ตามเป็นจริง หรือตามที่มันเป็นของมัน เป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดจิตยังงั้น ทุกๆขณะที่รู้สึก


ตามเห็นการเกิดดับของรูปและนามกิจอื่นให้ทำยิ่งขึ้นไปกว่านี้ไม่มีพอเข้าใจนะลุง ผมไม่ได้โง่เท่าไหร่นะลุง



มาอีกแระ รูปนาม

อะไรรูป อะไรนาม
ลุง คงไม่เคยได้ยินพระสูตรนี้มั้ง เลย งง มาถาม อะไรรูปนาม


ถามว่าอะไร ? เออ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 111 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร