เคยพูดหลายหนแล้วว่า ท่านอโศกเอาศัพท์แสงของเขามาแล้วมโนความหมายเอาเอง เชื่อยังล่ะ นี่แหละธรรมปฏิรูป

กลับไปใคร่ครวญ ทบทวน พิจารณาเทียบกับสภาวธรรมจริงๆดูให้ดีๆ นี่จะทำให้รู้ว่าการแปลความหมายของคำว่าวิปัสสนาภาวนาซึ่งเป็นวิชาหลักสำคัญของชาวพุทธอย่างที่อโศกะแปลให้ฟังนี้ มันลึกซึ้งถึงสภาวะจริงๆเลย

นี่จะทำให้รู้ว่าการแปลความหมายของคำว่าวิปัสสนาภาวนาซึ่งเป็นวิชาหลักสำคัญของชาวพุทธอย่างที่อโศกะแปลให้ฟังนี้ มันลึกซึ้งถึงสภาวะจริงๆเลย

ชัดเจน ว่าด้นเดาเอาเอง คิกๆๆ

เพราะความเป็นแต่นักทฤษฎีวิชาการไม่ชำนาญด้านการปฏิบัติไม่สัมผัสสภาวธรรมในกายในใจจริงๆจึงคิดว่าอโศกะด้นเอาเอง

แต่จะบอกให้ทราบไว้ว่าที่อโศกะสรุปความหมายของวิปัสสนาภาวนาออกมาอย่างที่ได้เห็นนี้เป็นการสรุปจากผลการปฏิบัติจริงซึ่งเมื่เทียบสภาวธรรมแล้วมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
วิเคราะห์ วิจัยและพิจารณาใหม่

วิปัสสนาภาวนา =การเจริญการดู เห็น รู้และสังเกตพิจารณา สิ่งวิเศษ คือปรมัตถธรรมหรืออนัตตาธรรมที่เกิดขึ้นในกายและจิตจนเห็นความจริงทิ้งความเห็นผิดยึดผิดในรูปนามกายใจเสียได้

ประเด็นคำที่นอกความคาดหมายของนักวิชาการอย่างกรัชกายคือคำว่า "วิ"

วิ...วิเศษ.....พิเศษ = เหนือกว่าธรรมดา หรือเหนือกว่าที่คนธรรมดาที่ไม่ได้รับการแนะนำฝึกหัดมาจะเห็นหรือรู้ได้

ความจริงแล้วมันก็เป็นเรื่องธรรมดาๆนั่นแหละแต่มุมมองของคนธรรมดาทั่วไปเขามองผิดเห็นผิดไปจากความจริงที่ธรรมนั้นเป็น

สิ่งวิเศษที่ว่านี้อโศกะเรียกว่าอนัตตาธรรม

ุอโสกะครับ...วิปัสสนภาวนา....วิ...ที่อโสกะแปล..แปลว่า..วิเศษ..รึคับ..

งั้น...วิภวตัณหา...ยังจะแปลว่า...วิเศษ..อยู่อีกมั้ยคับ????

ช่างเอามุขนี้มาเล่นได้ ...

วิ ตัวเดียว แปลความหมายได้หลายอย่างตามคำที่เอามาสนธิหรือสมาสตามหลัง

วิ=วิเศษ ก็ได้
วิ=ไม่ ก็ได้ อย่างวิภวตัณหา ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเอา
วิ=เพิกถอนก็ได้ เช่น วิสังขาร=เพิกถอนการปรุงแต่ง
วิ=ค้นลึกเข้าไปก็ได้ เช่น วิจารณ์=แยกแยะรายละเอียดลึกเข้าไป
วิ=โต้กลับหรือย้อนก็ได้ เช่น วิวาทะ = คำพูดโต้กลับหรือย้อนแย้ง

งงไหมกรัชกาย อาจหาไม่เจอในตำราแต่มีในประวัติและกำเนิดรากศัพท์บัญญัติ ต้องรู้ด้วยใจคนปฏิบัติธรรมจริงๆเท่านั้น

วิเศษ....เป็นคำที่..วิ....ไปสนธิ..กับคำว่า..เศษ..มั้ยคับอโสกะ..???

วิเศษ....เป็นคำที่..วิ....ไปสนธิ..กับคำว่า..เศษ..มั้ยคับอโสกะ..???

เป็นไปได้ครับ


สนธิ สมาสหรือร่วม

เป็นไปได้ครับ
แต่ผมแก้ไขคำพูดตอนต้นอีกนิดหนึ่งแล้วว่า

สนธิ สมาสหรือร่วม

คำว่า "วิเศษ" ต่อมาก็กลายเป็น "พิเศษ"ซึ่งมีความหมายหนักเบาลึกตื้นต่างกันไปอีกนิดหนึ่งคือ

วิเศษ นี้ทำให้เข้าใจค่อนไปทางมีอิทธิปาฏิหารย์มาช่วยทำให้เกิดสิ่งที่เหนือมนุษย์ธรรมดาจะทำได้

พิเศษ นี้หมายความว่ามีความสามารถสูงมากกว่าคนอื่นโดยไม่เกี่ยวกับอิทธิปาฏิหารย์

ต้นรากของการเกิดคำว่า "วิ" นั้นมาจากการที่คนไทยหรือแขกไปเห็นอะไรที่มันน่าอัศจรรย์ ลึกลับ ไม่น่าเชื่อ ยั่วให้ค้นหาความจริง จึงเปล่งอุทานคำว่า วิๆๆๆๆ ออกมา พูดกันบ่อยๆจึงบัญญัติคำว่า"วิ"ขึ้นมาใช้ร่วมกับคำอื่นเพื่อให้เกิดความหมายดังที่ผมได้ว่าไว้ข้างต้น

ให้นึกถึงการเกิดคำว่า

อ้อ!........อ๋อ!......โอ้!.....โอ้ย!.......ไอ้หยา!....อ้า!....โอม.......

เหล่านี้ล้วนเป็นความรู้สึกตรงจากใจเปล่งออกมาเป็นเสียงทางลำคอ นี่คือธรรมชาติการเกิดของภาษามนุษย์ ซึ่งจะเป็นไปตามลักษณะ สภาพกายใจ สิ่งแวดล้อมของแต่ละเชื้อชาติ