วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 04:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2017, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สภาพ, สภาวะ ความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเอง,ธรรมดา


สภาวธรรม หลักแห่งความเป็นเอง, สิ่งที่เป็นเองตามธรรมดาของเหตุปัจจัย


สภาวทุกข์ ทุกข์ที่เป็นเองตามคติแห่งธรรมดา ได้แก่ ทุกข์ประจำสังขาร คือ ชาติ ชรา มรณะ


อุปาทานขันธ์ ขันธ์อันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน, ขันธ์ที่ประกอบด้วยอุปาทาน ได้แก่ เบญจขันธ์ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่ประกอบด้วยอาสวะ


อุปาทิ 1. สภาพที่ถูกกรรมกิเลสถือครอง, สภาพที่ถูกอุปาทานยึดไว้มั่น, เบญจขันธ์ 2. กิเลสเป็นเหตุถือมั่น, ความยึดติดถือมั่น, อุปาทาน


อุปายาส ความคับแค้นใจ, ความสิ้นหวัง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2017, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิ ความมีใจตั้งมั่น, ความตั้งมั่นแห่งจิต, การทำให้ใจสงบแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน, ภาวะที่จิตตั้งเรียบแน่วอยู่ในอารมณ์ คือ สิ่งอันหนึ่งอันเดียว, มักใช้เป็นคำเรียกง่ายๆ สำหรับ อธิจิตตสิกขา


ปริญญา การกำหนดรู้, การทำความเข้าใจโดยครบถ้วน มี 3 คือ

1. ญาตปริญญา กำหนดรู้ขั้นรู้จัก

2. ตีรณปริญญา กำหนดรู้ขั้นพิจารณา

3. ปหานปริญญา กำหนดรู้ขั้นละได้


ปัจจัย 1. เหตุที่ให้ผลเป็นไป, เหตุเครื่องหนุนให้เกิด 2. ของสำหรับอาศัยใช้, เครื่องอาศัยของชีวิต, สิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต มี 4 อย่าง คือ เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย ยาบำบัดโรค


ปัญญา ความรู้ทั่ว, ปรีชาหยั่งรู้เหตุผล, ความรู้เข้าใจชัดเจน, ความรู้เข้าใจหยั่งแยกได้ในเหตุผล ดีชั่ว คุณโทษ ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ เป็นต้น และรู้ที่จะจัดแจง จัดสรร จัดการ ดำเนินการ ทำให้ลุผล ล่วงพ้นปัญหา, ความรอบรู้ในกองสังขารมองเห็นตามเป็นจริง ปัญญา ๓ คือ

๑. จินตามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการคิดพิจารณา (ปัญญาจากโยนิโสมนสิการที่ตั้งขึ้นในตนเอง)

๒. สุตมยปัญญา ปัญญาเกิดจากการสดับเล่าเรียน (ปัญญาจากปรโตโฆสะ)

๓. ภาวนามยปัญญา ปัญญาเกิดจากการปฏิบัติบำเพ็ญ (ญาณอันเกิดขึ้นแก่ผู้อาศัยจินตามยปัญญา หรือทั้งสุตมยปัญญา และจินตามยปัญญานั่นแหละ ขมักเขม้นมนสิการในสภาวธรรมทั้งหลาย)

ตามที่พูดกัน มักเรียงสุตมยปัญญาเป็นข้อแรก แต่ในที่นี้ เรียงลำดับตามพระบาลีในพระไตรปิฏก ทั้งในพระสูตร (ที.ปา.11/228/231) และอภิธรรม (อภิ.วิ.35/797/422) เรียงจินตามยปัญญาเป็นข้อแรก

การที่ท่านเรียงจินตามยปัญญาก่อน หรือสุตมยปัญญาก่อนนั้น พอจับได้ว่า ท่านมองที่บุคคลเป็นหลัก คือ ท่านเริ่มที่บุคคลพิเศษประเภทมหาบุรุษก่อน ว่าพระพุทธเจ้า (และพระปัจเจกพุทธเจ้า) ผู้ค้นพบและเปิดเผยความจริงขึ้นนั้น มิได้อาศัยปรโตโฆสะ คือ การฟังจากผู้อื่น แต่รู้จักโยนิโสมนสิการด้วยตนเอง ก็สามารถเรียงต่อไล่ตามประสบการณ์ทั้งหลายอย่างถึงทันทั่วรอบทะลุตลอดหยั่ง เห็นความจริงได้ ท่านจึงเริ่มด้วยจินตามยปัญญา แล้วต่อเข้าภาวนามยปัญญไปเลย แต่เมื่อมองที่บุคคลทั่วไป ท่านเริ่มด้วยสุตมยปัญญาเป็นข้อแรก โดยมีคำอธิบายตามลำดับว่า

บุคคลเล่าเรียนสดับฟังธรรมแล้วเกิดศรัทธา นำไปใคร่ครวญตรวจสอบพิจารณา เกิดเป็นสุตมยีปัญญา อาศัยสิ่งที่ได้เรียนสดับนั้นเป็นฐาน เขาตรวจสอบชั่งตรองเพ่งพินิจขบคิดลึกชัดลงไป เกิดเป็นจินตามยีปัญญา เมื่อเขาใช้ปัญญาทั้งสองนั้นขะมักเขม้นมนสิการในสภาวธรรมทั้งหลาย แล้วเกิดญาณเป็นมรรคที่จะให้เกิดผลขึ้น ก็เป็นภาวนามยีปัญญา, น่าสังเกตว่า

ในคัมภีร์วิภังค์แห่งอภิธรรมปิฎก ท่านอธิบายภาวนามยปัญญาว่า ได้แก่ "สมาปนฺนสฺส ปญฺญา" (ปัญญาของผู้เข้าสมาบัติ) แต่มีคำอธิบายของคัมภีร์ต่างๆ เช่น ปรมัตถมัญชุสา ว่า คำอธิบายดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงตัวอย่าง โดยสาระก็มุ่งเอาการเห็นแจ้งความจริงที่เป็นมัคคปัญญานั่นเอง

ปัญญา ๓ อีกหมวดหนึ่ง ที่น่ารู้ ได้แก่ ปัญญาที่มีชื่อว่า โกศล คือความฉลาด ๓ อย่าง

โกศล, โกสัลละ ความฉลาด, ความเชี่ยวชาญ มี ๓ คือ

๑. อายโกศล ความฉลาดในความเจริญ, รอบรู้ทางเจริญ และเหตุของความเจริญ

๒. อปายโกศล ความฉลาดในทางเสื่อม, รอบรู้ทางเสื่อม และเหตุของความความเสื่อม

๓. อุปายโกศล ความฉลาดในอุบาย, รอบรู้วิธีแก้ไขเหตุการณ์และวิธีที่จะทำให้สำเร็จ ทั้งในการป้องกันความเสื่อมและในการสร้างความเจริญ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2017, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิปลาส, วิปัลลาส กิริยาที่ถือโดยอาการวิปริตผิดจากความเป็นจริง, ความเห็นหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากสภาพที่เป็นจริง มีดังนี้

ก. วิปลาสด้วยอำนาจจิตต์และเจตสิก ๓ ประการ คือ

๑. วิปลาสด้วยอำนาจความสำคัญผิด เรียกว่า สัญญาวิปลาส

๒. วิปลาสด้วยอำนาจคิดผิด เรียกว่า จิตตวิปลาส

๓. วิปลาสด้วยอำนาจเห็นผิด เรียกว่า ทิฏฐิวิปลาส


ข. วิปลาสด้วยสามารถวัตถุเป็นที่ตั้ง ๔ ประการ คือ

๑. วิปลาสในของที่ไม่เที่ยง ว่าเที่ยง

๒. วิปลาสในของที่เป็นทุกข์ ว่าเป็นสุข

๓. วิปลาสในของทีไม่ใช่ตน ว่าเป็นตน

๔. วิปลาสในของทีไม่งาม ว่างาม

(เขียนว่า พิปลาส ก็มี)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2017, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กามตัณหา ความทะยานอยากในกาม, ความอยากได้กาม


ภวตัณหา ความอยากเป็นนั่นเป็นนี่หรืออยากเกิดอยากมีอยู่คงอยู่ตลอดไป, ความทะยานอยากที่ประกอบด้วยภวทิฏฐิ หรือสัสสตทิฏฐิ


วิภวตัณหา ความอยากในวิภพ คือความทะยานอยากในความไม่มีไม่เป็น อยากไม่เป็นนั่นไม่เป็นนี่ อยากตายเสีย อยากขาดสูญ อยากพรากพ้นไปจากภาวะที่ตนเกลียดชังไม่ปรารถนา, ความทะยานอยากที่ประกอบด้วยวิภวทิฏฐิหรืออุจเฉททิฏฐิ


กามคุณ ส่วนที่น่าปรารถนาน่าใคร่ มี 5 อย่าง คือ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ (สัมผัสทางกาย) ที่น่าใคร่น่าพอใจ


กามฉันท์, กามฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจมีรูปเป็นต้น, ความพอใจในกามคุณ 5 คือ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ


กามสุข สุขในทางกาม, สุขที่เกิดจากกามารมณ์


กามารมณ์ 1. อารมณ์ที่น่าใคร่ น่าปรารถนา หมายถึง รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ได้แก่ กามคุณ 5 นั่นเอง 2. ในภาษาไทย มักหมายถึงความรู้สึกทางกาม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2017, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นิมิต ๑. เครื่องหมาย ได้แก่ วัตถุอันเป็นเครื่องหมายแห่งสีมา, วัตถุที่ควรใช้เป็นนิมิตมี ๘ อย่าง ภูเขา ศิลา ป่าไม้ ต้นไม้ จอมปลวก หนทาง แม่น้ำ น้ำ ๒. (ในคำว่าทำนิมิต) ทำอาการเป็นเชิงชวนให้เขาถวาย, ขอเขาโดยวิธีให้รู้โดยนัย ไม่ขอตรงๆ ๓. เครื่องหมายสำหรับให้จิตกำหนดในการเจริญกรรมฐาน, ภาพที่เป็นอารมณ์กรรมฐานมี ๓. คือ

๑. บริกรรมนิมิต นิมิตแห่งบริกรรม หรือ นิมิตตระเตรียม ได้แก่ สิ่งที่เพ่ง หรือ กำหนดนึกเป็นอารมณ์กรรมฐาน

๒. อุคคหนิมิต นิมิตที่ใจเรียน หรือนิมิตติดตาติดใจ ได้แก่ สิ่งที่เพ่งหรือนึกนั้นเอง ที่แม่นในใจ จนหลับตามองเห็น

๓. ปฏิภาคนิมิต นิมิตเสมือน หรือนิมิตเทียบเคียง ได้แก่ อุคคหนิมิตนั้น เจนใจจนกลายเป็นภาพที่เกิดจากสัญญาเป็นของบริสุทธิ์ จะนึกขยายหรือย่อส่วนก็ได้ตามปรารถนา

๔. สิ่งที่พระโพธิสัตว์ทอดพระเนตรเห็นก่อนเสด็จออกบรรพชา ๔ อย่าง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2017, 20:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
asoka
สนใจอยากรู้ว่าอโศกะเคยทำภาวนาแบบไหน แล้วไปเกิดญาณ 16 จากการภาวนาแบบไหน เชนนั้นหรือ?

ถ้าสนใจก็จะเล่าให้ฟังคร่าวๆเป็นวิทยาทาน

ภาวนาที่อโศกะเคยทำมา

1.พองหนอยุบหนอ....หรือหนอให้ทันปัจจุบันอารมณ์

2.ท่องคาถาปลุกพระ ท่องคาถาหัวใจต่างๆเป็นคาบๆ

3.กำหนดต้นธรรม ตามแบบเจ้ามาวหลวง อ.อริยวังโส(ไทยใหญ่)

4.พิจารณาอนิจจัง ตามแบบหลวงพ่อพุทธวาที (พม่า)

5.สมาธิหมุน (พระอาจารย์รัตน์ รัตนยาโน)

6.พุทโธ (สายหนองป่าพง)

7.อนัตตา (หลวงพ่อธี)

8.กำหนดกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย (ท่านโกเอ็นก้า)

9.เจริญสติปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์(ตามภัทเทกรัตคาถา)
ใช้อยู่ประจำในปัจจุบัน

ตอนที่จะรู้ชัดญาณ 16 และปฏิจจสมุปบาทนั้นเป็นการเจริญภาวนาตามแบบที่ 9 โดยธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งท่า ไม่ได้เข้ากรรมฐาน มันเกิดขึ้น เจริญไปและไหลไปเองตามธรรมตอน
วันแรม 14 ค่ำหลังวิสาจะบูชาปี 2542 เริ่มประมาณตีสามกว่า
จบปัจจเวกตอนเกือบหกโมงเช้า

แค่นี้ก็พอละมั้งครับกรัชกาย


ท่านอโศกบอกว่าทำกรรมฐานมาแล้ว 9 อย่าง กรัชกายถามมาแล้ว 2 อย่าง ( 5 กับ 8) วิธีที่ 3 ถามแล้ว แต่เลี่ยงไม่ตอบ หลอกดาวอีกแล้ว :b32:

ทีนี้ จะถามวิธีที่ 1 (พองหนอ ยุบหนอ) คือ ท่านอโศกทำยังไง เล่าให้ฟังสิขอรับ แล้วไปถึงไหน

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2017, 08:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
5555
ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนเอาแต่ใจตัวเองไปได้ พออยากได้อะไร ไม่มีใครสนองให้ตามตัณหา ก็บ่นบ้าสารพัน ฟาดหัวฟาดหาง ว่านี่ว่านั่น คล้ายๆคนพาลเชียวนะกรัชกาย

วิธีที่ 3 การปฏิบัติภาวนาโดยค้นหาต้นธรรมนั้น เป็นเทคนิคปฏิบัติที่ค้นพบและนิยมกันในเมืองไทยใหญ่ตอนเหนือ มีอะไรดีๆเยอะเลย กะว่าจะเอามาพูดเป็นกระทู้ต่างหาก อดใจรอหน่อยสิอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งไปเอาเรื่อง หนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรัชกายไม่บริสุทธิ์ใจถาม เป็นการอยากถามเพื่อลองภูมิแล้วเทียบกับที่ตนเองเรียนมาว่าตรงกันหรือไม่
ถ้าดีกว่าก็จะอิจฉา
ถ้าด้อยกว่าก็จะได้ซ้ำเติมแดกดัน ตามประสาของกรัชกาย
จริงหรือเปล่า

:b13:
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2017, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
5555
[size=150]ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนเอาแต่ใจตัวเองไปได้ พออยากได้อะไร ไม่มีใครสนองให้ตามตัณหา ก็บ่นบ้าสารพัน ฟาดหัวฟาดหาง ว่านี่ว่านั่น คล้ายๆคนพาลเชียวนะกรัชกาย

วิธีที่ 3 การปฏิบัติภาวนาโดยค้นหาต้นธรรมนั้น เป็นเทคนิคปฏิบัติที่ค้นพบและนิยมกันในเมืองไทยใหญ่ตอนเหนือ มีอะไรดีๆเยอะเลย กะว่าจะเอามาพูดเป็นกระทู้ต่างหาก อดใจรอหน่อยสิอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งไปเอาเรื่อง หนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรัชกายไม่บริสุทธิ์ใจถาม เป็นการอยากถามเพื่อลองภูมิแล้วเทียบกับที่ตนเองเรียนมาว่าตรงกันหรือไม่
ถ้าดีกว่าก็จะอิจฉา
ถ้าด้อยกว่าก็จะได้ซ้ำเติมแดกดัน ตามประสาของกรัชกาย
จริงหรือเปล่า


ใจร้อน ไปตั้งกระทู้เลย ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกท.ค้นหาต้นธรรมอะไรที่ว่านะ เป็นเรื่อง :b33:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2017, 13:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
5555
[size=150]ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนเอาแต่ใจตัวเองไปได้ พออยากได้อะไร ไม่มีใครสนองให้ตามตัณหา ก็บ่นบ้าสารพัน ฟาดหัวฟาดหาง ว่านี่ว่านั่น คล้ายๆคนพาลเชียวนะกรัชกาย

วิธีที่ 3 การปฏิบัติภาวนาโดยค้นหาต้นธรรมนั้น เป็นเทคนิคปฏิบัติที่ค้นพบและนิยมกันในเมืองไทยใหญ่ตอนเหนือ มีอะไรดีๆเยอะเลย กะว่าจะเอามาพูดเป็นกระทู้ต่างหาก อดใจรอหน่อยสิอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งไปเอาเรื่อง หนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรัชกายไม่บริสุทธิ์ใจถาม เป็นการอยากถามเพื่อลองภูมิแล้วเทียบกับที่ตนเองเรียนมาว่าตรงกันหรือไม่
ถ้าดีกว่าก็จะอิจฉา
ถ้าด้อยกว่าก็จะได้ซ้ำเติมแดกดัน ตามประสาของกรัชกาย
จริงหรือเปล่า


ใจร้อน ไปตั้งกระทู้เลย ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกท.ค้นหาต้นธรรมอะไรที่ว่านะ เป็นเรื่อง :b33:

:b12:
แสดงอุปนิสัยเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้วกรัชกาย นี่บ่งบอกได้ดรนะว่า "กู" ยังไม่ตาย
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2017, 20:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
5555
[size=150]ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนเอาแต่ใจตัวเองไปได้ พออยากได้อะไร ไม่มีใครสนองให้ตามตัณหา ก็บ่นบ้าสารพัน ฟาดหัวฟาดหาง ว่านี่ว่านั่น คล้ายๆคนพาลเชียวนะกรัชกาย

วิธีที่ 3 การปฏิบัติภาวนาโดยค้นหาต้นธรรมนั้น เป็นเทคนิคปฏิบัติที่ค้นพบและนิยมกันในเมืองไทยใหญ่ตอนเหนือ มีอะไรดีๆเยอะเลย กะว่าจะเอามาพูดเป็นกระทู้ต่างหาก อดใจรอหน่อยสิอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งไปเอาเรื่อง หนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรัชกายไม่บริสุทธิ์ใจถาม เป็นการอยากถามเพื่อลองภูมิแล้วเทียบกับที่ตนเองเรียนมาว่าตรงกันหรือไม่
ถ้าดีกว่าก็จะอิจฉา
ถ้าด้อยกว่าก็จะได้ซ้ำเติมแดกดัน ตามประสาของกรัชกาย
จริงหรือเปล่า


ใจร้อน ไปตั้งกระทู้เลย ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกท.ค้นหาต้นธรรมอะไรที่ว่านะ เป็นเรื่อง


แสดงอุปนิสัยเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้วกรัชกาย นี่บ่งบอกได้ดรนะว่า "กู" ยังไม่ตาย



แสดงว่า ท่านอโศกนี่บ้าจี้ คิกๆๆ รีบร้อนตั้งลงถังเลย :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2017, 06:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
5555
[size=150]ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนเอาแต่ใจตัวเองไปได้ พออยากได้อะไร ไม่มีใครสนองให้ตามตัณหา ก็บ่นบ้าสารพัน ฟาดหัวฟาดหาง ว่านี่ว่านั่น คล้ายๆคนพาลเชียวนะกรัชกาย

วิธีที่ 3 การปฏิบัติภาวนาโดยค้นหาต้นธรรมนั้น เป็นเทคนิคปฏิบัติที่ค้นพบและนิยมกันในเมืองไทยใหญ่ตอนเหนือ มีอะไรดีๆเยอะเลย กะว่าจะเอามาพูดเป็นกระทู้ต่างหาก อดใจรอหน่อยสิอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งไปเอาเรื่อง หนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรัชกายไม่บริสุทธิ์ใจถาม เป็นการอยากถามเพื่อลองภูมิแล้วเทียบกับที่ตนเองเรียนมาว่าตรงกันหรือไม่
ถ้าดีกว่าก็จะอิจฉา
ถ้าด้อยกว่าก็จะได้ซ้ำเติมแดกดัน ตามประสาของกรัชกาย
จริงหรือเปล่า


ใจร้อน ไปตั้งกระทู้เลย ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกท.ค้นหาต้นธรรมอะไรที่ว่านะ เป็นเรื่อง


แสดงอุปนิสัยเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้วกรัชกาย นี่บ่งบอกได้ดรนะว่า "กู" ยังไม่ตาย



แสดงว่า ท่านอโศกนี่บ้าจี้ คิกๆๆ รีบร้อนตั้งลงถังเลย :b32:

:b2:
กระทู้ต้นธรรมถูกย้ายไปอยู่ห้องอื่นเสียแล้ว
น่าเสียดาย ต่อไปคงตั้งเป็นกระทู้ไม่ได้ ต้องแทรกตอบในกระทู้อื่นจึงจะได้อยู่ในกลุ่มนี้ เดี๋ยวจะตามไปก้อปมาให้นะกรัชกาย
:b1:
ผมไม่ใช่คนบ้าจี้ แต่ไม่เคยยอมให้ใครนวด
สักทีนอกจากตอนเผลอ เพราะ หัวเราก้ากทุกทีถ้ามีใครมาจับต้องสะเอว 5555555
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2017, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
5555
[size=150]ทำตัวเป็นหนุ่มเลือดร้อนเอาแต่ใจตัวเองไปได้ พออยากได้อะไร ไม่มีใครสนองให้ตามตัณหา ก็บ่นบ้าสารพัน ฟาดหัวฟาดหาง ว่านี่ว่านั่น คล้ายๆคนพาลเชียวนะกรัชกาย

วิธีที่ 3 การปฏิบัติภาวนาโดยค้นหาต้นธรรมนั้น เป็นเทคนิคปฏิบัติที่ค้นพบและนิยมกันในเมืองไทยใหญ่ตอนเหนือ มีอะไรดีๆเยอะเลย กะว่าจะเอามาพูดเป็นกระทู้ต่างหาก อดใจรอหน่อยสิอย่าใจร้อน อย่าเพิ่งไปเอาเรื่อง หนอ ซึ่งเป็นเรื่องที่กรัชกายไม่บริสุทธิ์ใจถาม เป็นการอยากถามเพื่อลองภูมิแล้วเทียบกับที่ตนเองเรียนมาว่าตรงกันหรือไม่
ถ้าดีกว่าก็จะอิจฉา
ถ้าด้อยกว่าก็จะได้ซ้ำเติมแดกดัน ตามประสาของกรัชกาย
จริงหรือเปล่า


ใจร้อน ไปตั้งกระทู้เลย ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกท.ค้นหาต้นธรรมอะไรที่ว่านะ เป็นเรื่อง


แสดงอุปนิสัยเอาแต่ใจตัวเองอีกแล้วกรัชกาย นี่บ่งบอกได้ดรนะว่า "กู" ยังไม่ตาย



แสดงว่า ท่านอโศกนี่บ้าจี้ คิกๆๆ รีบร้อนตั้งลงถังเลย :b32:

:b2:
กระทู้ต้นธรรมถูกย้ายไปอยู่ห้องอื่นเสียแล้ว
น่าเสียดาย ต่อไปคงตั้งเป็นกระทู้ไม่ได้ ต้องแทรกตอบในกระทู้อื่นจึงจะได้อยู่ในกลุ่มนี้ เดี๋ยวจะตามไปก้อปมาให้นะกรัชกาย
:b1:
ผมไม่ใช่คนบ้าจี้ แต่ไม่เคยยอมให้ใครนวด
สักทีนอกจากตอนเผลอ เพราะ หัวเราก้ากทุกทีถ้ามีใครมาจับต้องสะเอว 5555555


เห็นแล้ว อิอิ เต้นตอด คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2017, 22:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b4:
เห็นเต้นตอดแล้วรู้ไปถึงความเกิด - ดับหรือยัง ถ้ารู้ก็ทำดูตามบทกลอนที่เจ้ามาวหลวงบอกไว้อาจได้ถึงที่สุดแห่งความเกิด - ดับทันในชาตินี้
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2017, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b4:

เห็นเต้นตอดแล้วรู้ไปถึงความเกิด - ดับหรือยัง ถ้ารู้ก็ทำดูตามบทกลอนที่เจ้ามาวหลวงบอกไว้อาจได้ถึงที่สุดแห่งความเกิด - ดับทันในชาตินี้


เกิด-ดับเต้นๆตอดๆ ตุ๊บๆ หมอ พยาบาล เก่งชำนาญมากๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2017, 07:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


grin
แต่นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ทางธรรมแก่ตัวเองไม่เป็น อย่างเช่นกรัชกาย
55555555 :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 48 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร