วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 20:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2016, 08:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สะแกนร่างกาย ท่านอโศกพูด เพราะท่านเคยไปปฏิบัติ (8.กำหนดกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย (ท่านโกเอ็นก้า) ผ่านมาแล้ว คือใครมีปัญหาทางร่างกาย ก็ใช้สะแกนเอา ส่วนวิธีสะแกนๆยังไงนั้น จะถามท่านอโศกให้แล้ว สมช.นำไปใช้สะแกนกันเอง :b1:


อ้างคำพูด:
asoka

เขาทั้ง 2 ยังสะแกนร่างกายไม่เป็นไม่ถูกวิธี โรคกรรมที่ปรากฏในกายจึงไม่สามารถถูกชำระออกได้

ให้เขาโทรไปคุยกับอโสกะสิ จะแนะวิธีผ่านปัญหานี้ให้ได้
แล้วจงกลับไปเข้าคอร์ส 10 วันอีกหลายๆครั้งโดยสลับกันระหว่างผู้ปฏิบัติ กับ ธรรมบริกร


ว่าไว้ที่

viewtopic.php?f=1&t=53281&start=120


( ผู้ปฏิบัติมีปัญหาทางกายแล้วจะต้องสะแกนร่างกายนั้น ได้แก่ ตัวอย่าง 2 ท่านนี้)


อ้างคำพูด:
ความรู้สึกหลังออกจากสมาธินี้ คืออะไรครับ แล้วผมจะแก้ไขมันยังไง?

ผมได้มีโอกาสไปเข้าคอสวิปัสสนาที่สถานปฏิบัติธรรม ธรรมอาภาของอาจารย์โกเอ็นก้า ครั้งแรกผมรู้สึกดีกับการปฏิบัติมากครับ ใจสงบ เย็นดี กายสบายเหมือนมีละอองเล็กๆเบาๆเย็นรอบตัว ช่วงวันสุดท้ายที่มีแผ่เมตตาผมรู้สึกเหมือนน้ำเย็นสาดจากหัวถึงเท้า เหมือนตัวว่างเปล่า มันทำให้สดชื่นเบาสบาย

ระหว่างอยู่ที่บ้านก็นั่งสมาธิบ้างทำๆหยุดๆ ดูลมหายใจ ใจสงบดี แต่ก็ไม่ได้ทำต่อเนื่องครับ

ครั้งที่สองที่ไปคือเมื่อปีที่แล้ว การปฏิบัติก็เป็นไปปกติ มีความรู้สึกถึง กลุ่มก้อนละเอียด และ กลุ่มก่อนหยาบบนผิวหนัง แต่คราวนี้รู้สึกเลยเขามาในร่างกาย คล้ายๆมวลสารขนาดหมวกกันน็อก ตันๆครอบหัวอยู่แล้วค่อยๆไหลทะลุมาที่บ่าแล้วออกไปที่หลัง จากนั้นก็มีก้อนใหม่วนเวียน บางทีก็ทีละสองก้อน ผมก็นั่งดูมันเคลื่อนไปเหมือนนั่งดูแม่น้ำที่มีเรือผ่าน

ตอนแรกความรู้สึกหนักตันที่ค่อยๆเคลื่อนนี้จะอยู่เฉพาะตอนทำสมาธิครับ ช่วงวันหลังๆแค่หลับตาจะนอนก็เห็นเลยครับ วันสุดท้ายก้อนนี้มันเกาะอยู่แม้ตอนลืมตา แล้วมันก็เคลื่อนลงมาที่หน้า ปาก ในปาก แล้วก็ติดแหมะอยู่ในนั้น

ตอนนี้ผมมีความรู้สึกดันๆตึงๆที่เคลื่อนไปมาได้ ค้างอยู่บนเพดานปาก ไม่หลุดไปไหน ย้ายไปซ้ายที ขวาที

ตอนกลับมาใหม่ๆผมคิดว่ามันก็ดีเป็นเหมือนการบ้านให้มีสติรู้ตัวตลอดเวลา ถึงเวลาคงหายเอง... ปีนึงผ่านไปก็ยังรู้สึกเหมือนวันแรก... เริ่มไม่ชอบครับ เวลานั่งสมาธิมันก็จะอยู่ตรงนั้น

ผมแก้ปัญหาด้วยการ แผ่เมตตาหลังสมาธิ ทำบุญถวายสัฆทาน อุทิศส่วนกุศลก็ไม่รู้สึกว่าเบาลงเลย

ทำให้ผมกังวล ว่าอาจจะเป็นโรคในช่องปาก ไปพบหมอทันตแพทย์ก็เจอฟันคุด จัดการผ่าออก พอยาชาหมดฤทธิ์ ก้อนนี้ยังอยู่... หลายเดือนให้หลังก็ให้หมอหูคอจมูกส่องกล้องเข้าไปในโพรงจมูก แต่ไม่พบความผิดปกติ

ความรู้สึกนี้ไม่ทำให้เจ็บปวด แต่เวลาที่ต้องใช้สมาธิ ในการทำงาน หรือเวลาพักผ่อนนั่งนิ่งๆ ความรู้สึกนี้ก็จะชัดมาก่อนเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยครับ


http://pantip.com/topic/34139751


อ้างคำพูด:
ดิฉันฝึกหัดนั่งสมาธิวิปัสสนาแนวทางท่านอาจารย์โกเอ็นก้า คือนั่งดูลมหายใจเข้าออกเฉยๆ ไม่บริกรรม และให้ดูเวทนาที่เกิดในร่างกายแล้วให้มีอุเบกขา

คอร์สแรกที่ดิฉันไปศึกษาเรียนรู้เป็นเวลา10 วัน และหลังจากนั้นดิฉันก็กลับมาปฎิบัติที่บ้าน สม่ำเสมอ วันละหลายครั้ง บางทีก็หลายชั่วโมงติดต่อกัน

ล่วงเข้ามาประมาณเดือนที่ 3 ดิฉันมีอาการ ร้อนที่ร่างกายทุกส่วน และเกิดอาการปวดศีรษะเหมือนมีเข็มเป็น ร้อยๆเล่มอยู่ในหัว บางที แข็ง ตึง มึน ทึบอยู่ในหัว จนยากที่จะอธิบาย จนขนาดต้องไปเอกซ์เรย์แต่ไม่มีอะไรผิดปรกติ

อาการมันลงมาที่มือข้างซ้าย และ กรามบน ขมับ 2 ข้าง เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งอยู่ตลอดเวลาเป็นที่ทรมานมาก

ระยะ หลังมาดิฉันก็เลยนั่งบ้างไม่นั่งบ้าง เพราะปวดหัวเหลือเกิน บาง อาการไม่สามารถบอกมาเป็นตัวอักษรได้ว่ารู้สึกอย่างไร อาการเป็นตลอด เวลา 2 - 4 ชั่วโมง ทั้งหลับทั้งตื่น ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ไปหาหมอฝังเข็ม ฝังมา 9 ครั้ง ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลา อาการยังมี ตลอด ดิฉันก็ได้แต่อุเบกขา ทำใจไป คิดไปต่างๆนานา เวลานั่งก็ขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง

ตอนนี้นับระยะเวลาเป็นมากว่า 2 ปี ได้แต่หวังว่าผู้รู้ทั้งหลายคงช่วยอนุเคราะห์คนมีกรรมคนนี้ด้วย ขอได้โปรดเมตตาช่วยด้วยนะคะ

viewtopic.php?f=1&t=53281&p=403286#p403286

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 03 ม.ค. 2017, 05:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2016, 08:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านตอบไว้ลางๆหน่อยแล้ว :b32:

อ้างคำพูด:
asoka
ยังฟุ้งซ่านอยู่กับอาการของกายใจเช่นนี้ยังสะแกนกายไม่ได้หรอกครับ สติจะต้องคมกล้า สมาธิต้องมั่นคงและพ้นนิวรณ์กว่านี้ จึงจะมีสิทธิ์มารู้ความละเอียดอ่อนระดับกระแสสั่นสะเทือนในร่างกายและทำการสะแกนกายได้ครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ธ.ค. 2016, 21:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b7:
น่าสงสารที่ต้องทรมาณมาตั้ง 2 ปีกับอุปาทานเฉพาะตัว

กรัชกายก็ช่วยไม่ได้เชียวรึ

เขามีอาการและเวทนาในกายจนทำให้จิตฟุ้งซ่านเพราะคิดวิตกกังวล

อาการอย่างนี้วิธีแก้ต้องใช้หลายอย่างช่วยกัน หลักการสำคัญคือต้องทำให้เขามีสติสัมปชัญญะดีขึ้นยิ่งกว่านี้จนสงบ
อาการที่ทำให้เกิดนิวรณ์ธรรมเหล่านี้ได้ ให้มีสมาธิตั้งมั่นเพียงพอจนสามารถจะภาวนาตามวิธีของอาจารย์โกเอ็นก้าได้ต่อไป

ในหลักวิธีของท่านโกเอ็นก้า มี 2 หลักใหญ่ๆคือ
1.ทำให้จิตมีสมาธิตั้งมั่น ด้วยการทำสมาธิกับลมหายใจ 3 วันแรก
2.สะแกนร่างกายจนสามารถรู้กระแสสั่นสะเทือน(Vibration)
ทั่วทั้งร่าง

หลังจากนั้นร่างกายจะแสดงทุกขัง อนิจจัง อนัตตาให้เห็น
แต่ท่านเน้นให้พิจารณาอนิจจัง

ผู้ปฏิบัติท่านนี้ไม่สามารถผ่านด่านสมาธิใน 3 วันได้ ใจจึงไม่สงบไม่ตั้งมั่น ไม่ว่างจากนิวรณ์ธรรม จึงมีสมาธิไม่พอที่จะเห็นหรือสัมผัสรู้ความสั่นสะเทือนในร่างกายได้ 7 วันแห่งการสะแกนร่างกายจึงไม่เกิดผลดีอะไร ซ้ำร้ายยังทำให้เหน็ดเหนื่อยสับสนและทรมาณ

การแก้ไข ต้องทำให้เขาสงบจากอาการและความฟุ้งซ่านที่เกิดโดยอาจจะทำดังนี้

1.เพิ่มการเดินจงกรมเข้าไป โดยให้เดินจงกรมก่อนทำสมาธิกับลมหายใจจะเดินนานมากน้อยเท่าไรแล้วแต่ผู้ปฏิบัติจะบริหารเวลาของตนเองได้ เช่น เดิน 30 นาที นั่ง 30 นาทีถ้ายังฟุ้งและมีนิมิตอารมณ์ต่างๆเกิดมากให้ปรับเป็น เดิน 45 นั่ง
15 ถ้าหายฟุ้งบ้างแล้วให้กลับมาใช้สูตร 30/30 หากจิตตั้งมั่นมากขึ้นอีกให้ใช้สูตร เดิน 15 นั่ง 45 จนถึงนั่งตลอด 1 ชั่วโมงจนไม่ต้องเดินจงกรมช่วยเพียงกำหนดลมหายใจเข้าออกจิตก็สงบ
2.เมื่อจิตสงบควรแก่งานให้พยายามนั่งสังเกตกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย ณ จุดใดจุดหนึ่งที่มันจะชัดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติก่อน เมื่อชัดดีแล้วให้จำสภาวะนั้นให้ได้ดีๆแล้ว
ย้ายจิตรู้ไปรู้และสังเกตที่กลางศรีษะจนรู้สึกอาการสั่นสะเทือนเหมือนอย่างที่เราเคยรู้สึกชัดที่ส่วนของร่างกายที่เราถนัด

พอรู้ชัดกระแสสั่นสะเทือนจุดที่กลางศีรษะแล้ว ให้ค่อยๆขยายความรับรู้กระแสสั่นสะเทือนนั้นให้กว้างออกไปจากจุดกลางศีรษะ ขยายออกไปๆๆๆๆๆจนชัดทั่วหัวทั่วตัวแขนขาและทั่วร่างจนถึงอุ้งเท้า รู้ขึ้นรู้ลงจากหัวถึงเท้าๆถึงหัว ไม่ช้า
ธรรมเขาจะทำงานต่อให้เราได้พบธรรมที่แท้จริง

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2017, 20:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:



น่าสงสารที่ต้องทรมาณมาตั้ง 2 ปีกับอุปาทานเฉพาะตัว

กรัชกายก็ช่วยไม่ได้เชียวรึ

เขามีอาการและเวทนาในกายจนทำให้จิตฟุ้งซ่านเพราะคิดวิตกกังวล

อาการอย่างนี้วิธีแก้ต้องใช้หลายอย่างช่วยกัน หลักการสำคัญคือต้องทำให้เขามีสติสัมปชัญญะดีขึ้นยิ่งกว่านี้จนสงบ
อาการที่ทำให้เกิดนิวรณ์ธรรมเหล่านี้ได้ ให้มีสมาธิตั้งมั่นเพียงพอจนสามารถจะภาวนาตามวิธีของอาจารย์โกเอ็นก้าได้ต่อไป

ในหลักวิธีของท่านโกเอ็นก้า มี 2 หลักใหญ่ๆคือ
1.ทำให้จิตมีสมาธิตั้งมั่น ด้วยการทำสมาธิกับลมหายใจ 3 วันแรก
2.สะแกนร่างกายจนสามารถรู้กระแสสั่นสะเทือน(Vibration)
ทั่วทั้งร่าง

หลังจากนั้นร่างกายจะแสดงทุกขัง อนิจจัง อนัตตาให้เห็น
แต่ท่านเน้นให้พิจารณาอนิจจัง

ผู้ปฏิบัติท่านนี้ไม่สามารถผ่านด่านสมาธิใน 3 วันได้ ใจจึงไม่สงบไม่ตั้งมั่น ไม่ว่างจากนิวรณ์ธรรม จึงมีสมาธิไม่พอที่จะเห็นหรือสัมผัสรู้ความสั่นสะเทือนในร่างกายได้ 7 วันแห่งการสะแกนร่างกายจึงไม่เกิดผลดีอะไร ซ้ำร้ายยังทำให้เหน็ดเหนื่อยสับสนและทรมาณ

การแก้ไข ต้องทำให้เขาสงบจากอาการและความฟุ้งซ่านที่เกิดโดยอาจจะทำดังนี้

1.เพิ่มการเดินจงกรมเข้าไป โดยให้เดินจงกรมก่อนทำสมาธิกับลมหายใจจะเดินนานมากน้อยเท่าไรแล้วแต่ผู้ปฏิบัติจะบริหารเวลาของตนเองได้ เช่น เดิน 30 นาที นั่ง 30 นาทีถ้ายังฟุ้งและมีนิมิตอารมณ์ต่างๆเกิดมากให้ปรับเป็น เดิน 45 นั่ง
15 ถ้าหายฟุ้งบ้างแล้วให้กลับมาใช้สูตร 30/30 หากจิตตั้งมั่นมากขึ้นอีกให้ใช้สูตร เดิน 15 นั่ง 45 จนถึงนั่งตลอด 1 ชั่วโมงจนไม่ต้องเดินจงกรมช่วยเพียงกำหนดลมหายใจเข้าออกจิตก็สงบ
2.เมื่อจิตสงบควรแก่งานให้พยายามนั่งสังเกตกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย ณ จุดใดจุดหนึ่งที่มันจะชัดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติก่อน เมื่อชัดดีแล้วให้จำสภาวะนั้นให้ได้ดีๆแล้ว
ย้ายจิตรู้ไปรู้และสังเกตที่กลางศรีษะจนรู้สึกอาการสั่นสะเทือนเหมือนอย่างที่เราเคยรู้สึกชัดที่ส่วนของร่างกายที่เราถนัด

พอรู้ชัดกระแสสั่นสะเทือนจุดที่กลางศีรษะแล้ว ให้ค่อยๆขยายความรับรู้กระแสสั่นสะเทือนนั้นให้กว้างออกไปจากจุดกลางศีรษะ ขยายออกไปๆๆๆๆๆจนชัดทั่วหัวทั่วตัวแขนขาและทั่วร่างจนถึงอุ้งเท้า รู้ขึ้นรู้ลงจากหัวถึงเท้าๆถึงหัว ไม่ช้า
ธรรมเขาจะทำงานต่อให้เราได้พบธรรมที่แท้จริง



อ้างคำพูด:
ย้ายจิตรู้ไปรู้และสังเกตที่กลางศรีษะจนรู้สึกอาการสั่นสะเทือนเหมือนอย่างที่เราเคยรู้สึกชัดที่ส่วนของร่างกายที่เราถนัด

พอรู้ชัดกระแสสั่นสะเทือนจุดที่กลางศีรษะแล้ว ให้ค่อยๆขยายความรับรู้กระแสสั่นสะเทือนนั้นให้กว้างออกไปจากจุดกลางศีรษะ ขยายออกไปๆๆๆๆๆจนชัดทั่วหัวทั่วตัวแขนขาและทั่วร่างจนถึงอุ้งเท้า รู้ขึ้นรู้ลงจากหัวถึงเท้าๆถึงหัว


อ้อ วิธีสะแกนร่างกายเป็นยังงี้นี่เอง :b1:

เมืื่อสะแกนจนทั่วทั้งตัวแล้ว ก็จะพบธรรมในไม่ช้าไม่นาน :b32:

อ้างคำพูด:
ไม่ช้าธรรมเขาจะทำงานต่อให้เราได้พบธรรมที่แท้จริง



ถามต่ออีกนิดหนึ่ง ธรรมที่ว่าธรรมที่แท้จริง นี่มันเป็นอารัยอ่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 06:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


wink
อ้างคำพูด:
ถามต่ออีกนิดหนึ่ง ธรรมที่ว่าธรรมที่แท้จริง นี่มันเป็นอารัยอ่ะ

:b38:
ธรรมที่แท้จริง คือธรรมที่เหนือคำพูดหรือสมมุติบัญญัติ เป็นธรรมที่ต้องประสบพบเห็น รู้ด้วยตนเองตรงที่ใจ ที่ท่านเรียกว่าปรมัตถธรรม
ยังไม่มีคำพูด คำอธิบายใดๆ รู้ตรงที่ใจ คล้ายดังการรู้รสเค็ม
การรู้ร้อนรู้หนาว รู้เจ็บรู้ปวด

รู้ชัดความเกิดดับความขาด ต่อ ของสันตติ
รู้ชัดความยึดถือในจิต ที่ตอบโต้กับผัสสะ เวทนา อารมณ์
รู้ชัดความยึดถือและความปล่อยวางจางคลาย
รู้ชัดความไถ่ถอนและสลัดคืน
รู้ชัดอริยสัจ
รู้ชัดจิตที่ไร้โศก
รู้ชัดจิตที่ปราศจากธุลี
รู้ชัดจิตที่เกษม

เมื่อมรรคเดินถูกต้องตรงทางแล้วกระแสแห่งธรรมจะนำพาให้ใหลไปเองตามช่องทางแห่งธรรมไม่มีสิ่งใดจะกั้นขวางได้อีก

onion
"ตถตา.....มันเป็นเช่นนั้นเอง".....
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 06:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วอโสกะเชื่อเรื่องการสแกนร่างกายอะไรนั้น....ด้วยรึ?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 07:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แล้วอโสกะเชื่อเรื่องการสแกนร่างกายอะไรนั้น....ด้วยรึ?

smiley
เชื่อสิครับเพราะผมไปพิสูจน์มาแล้ว

การพูดว่าสะแกนร่างกายเป็นคำพูดให้ดูทันยุคสมัยในเรื่องสื่อภาษา แต่เนื้อหาเป็นธรรมะล้วนๆ คุณกบต้องได้ลองฟัง
ธรรมะบรรยายทั้งภาษาอังกฤษจากเสียงของท่านโกเอ็นก้าเองและที่แปลเป็นไทยแล้วจะร เข้าใจ และมีภาพบวก+ มากยิ่งขึ้นกับคำสอนของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 08:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
smiley
เชื่อสิครับเพราะผมไปพิสูจน์มาแล้ว

การพูดว่าสะแกนร่างกายเป็นคำพูดให้ดูทันยุคสมัยในเรื่องสื่อภาษา แต่เนื้อหาเป็นธรรมะล้วนๆ คุณกบต้องได้ลองฟัง
ธรรมะบรรยายทั้งภาษาอังกฤษจากเสียงของท่านโกเอ็นก้าเองและที่แปลเป็นไทยแล้วจะร เข้าใจ และมีภาพบวก+ มากยิ่งขึ้นกับคำสอนของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า
:b38:


จากคำพูดของอโสกะ....ดูแล้ว...คำว่าสแกนร่างกายดูจะไม่ใช่แค่คำพูดให้ดูทันสมัยในเรื่องสื่อภาษา...ซะละม้าง..

asoka เขียน:



น่าสงสารที่ต้องทรมาณมาตั้ง 2 ปีกับอุปาทานเฉพาะตัว

กรัชกายก็ช่วยไม่ได้เชียวรึ

เขามีอาการและเวทนาในกายจนทำให้จิตฟุ้งซ่านเพราะคิดวิตกกังวล

อาการอย่างนี้วิธีแก้ต้องใช้หลายอย่างช่วยกัน หลักการสำคัญคือต้องทำให้เขามีสติสัมปชัญญะดีขึ้นยิ่งกว่านี้จนสงบ
อาการที่ทำให้เกิดนิวรณ์ธรรมเหล่านี้ได้ ให้มีสมาธิตั้งมั่นเพียงพอจนสามารถจะภาวนาตามวิธีของอาจารย์โกเอ็นก้าได้ต่อไป

ในหลักวิธีของท่านโกเอ็นก้า มี 2 หลักใหญ่ๆคือ
1.ทำให้จิตมีสมาธิตั้งมั่น ด้วยการทำสมาธิกับลมหายใจ 3 วันแรก
2.สะแกนร่างกายจนสามารถรู้กระแสสั่นสะเทือน(Vibration)
ทั่วทั้งร่าง

หลังจากนั้นร่างกายจะแสดงทุกขัง อนิจจัง อนัตตาให้เห็น
แต่ท่านเน้นให้พิจารณาอนิจจัง


ผู้ปฏิบัติท่านนี้ไม่สามารถผ่านด่านสมาธิใน 3 วันได้ ใจจึงไม่สงบไม่ตั้งมั่น ไม่ว่างจากนิวรณ์ธรรม จึงมีสมาธิไม่พอที่จะเห็นหรือสัมผัสรู้ความสั่นสะเทือนในร่างกายได้ 7 วันแห่งการสะแกนร่างกายจึงไม่เกิดผลดีอะไร ซ้ำร้ายยังทำให้เหน็ดเหนื่อยสับสนและทรมาณ

การแก้ไข ต้องทำให้เขาสงบจากอาการและความฟุ้งซ่านที่เกิดโดยอาจจะทำดังนี้

1.เพิ่มการเดินจงกรมเข้าไป โดยให้เดินจงกรมก่อนทำสมาธิกับลมหายใจจะเดินนานมากน้อยเท่าไรแล้วแต่ผู้ปฏิบัติจะบริหารเวลาของตนเองได้ เช่น เดิน 30 นาที นั่ง 30 นาทีถ้ายังฟุ้งและมีนิมิตอารมณ์ต่างๆเกิดมากให้ปรับเป็น เดิน 45 นั่ง
15 ถ้าหายฟุ้งบ้างแล้วให้กลับมาใช้สูตร 30/30 หากจิตตั้งมั่นมากขึ้นอีกให้ใช้สูตร เดิน 15 นั่ง 45 จนถึงนั่งตลอด 1 ชั่วโมงจนไม่ต้องเดินจงกรมช่วยเพียงกำหนดลมหายใจเข้าออกจิตก็สงบ
2.เมื่อจิตสงบควรแก่งานให้พยายามนั่งสังเกตกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย ณ จุดใดจุดหนึ่งที่มันจะชัดขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติก่อน เมื่อชัดดีแล้วให้จำสภาวะนั้นให้ได้ดีๆแล้ว
ย้ายจิตรู้ไปรู้และสังเกตที่กลางศรีษะจนรู้สึกอาการสั่นสะเทือนเหมือนอย่างที่เราเคยรู้สึกชัดที่ส่วนของร่างกายที่เราถนัด

พอรู้ชัดกระแสสั่นสะเทือนจุดที่กลางศีรษะแล้ว ให้ค่อยๆขยายความรับรู้กระแสสั่นสะเทือนนั้นให้กว้างออกไปจากจุดกลางศีรษะ ขยายออกไปๆๆๆๆๆจนชัดทั่วหัวทั่วตัวแขนขาและทั่วร่างจนถึงอุ้งเท้า รู้ขึ้นรู้ลงจากหัวถึงเท้าๆถึงหัว ไม่ช้า
ธรรมเขาจะทำงานต่อให้เราได้พบธรรมที่แท้จริง



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 08:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
แล้วอโสกะเชื่อเรื่องการสแกนร่างกายอะไรนั้น....ด้วยรึ?

smiley
เชื่อสิครับเพราะผมไปพิสูจน์มาแล้ว

การพูดว่าสะแกนร่างกายเป็นคำพูดให้ดูทันยุคสมัยในเรื่องสื่อภาษา แต่เนื้อหาเป็นธรรมะล้วนๆ คุณกบต้องได้ลองฟัง
ธรรมะบรรยายทั้งภาษาอังกฤษจากเสียงของท่านโกเอ็นก้าเองและที่แปลเป็นไทยแล้วจะร เข้าใจ และมีภาพบวก+ มากยิ่งขึ้นกับคำสอนของท่านอาจารย์โกเอ็นก้า

:b38:


ระหว่างพระพุทธเจ้า กับ อ.โกเอ็นก้า ท่านอโศกเชื่อใคร :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 08:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
wink
อ้างคำพูด:
ถามต่ออีกนิดหนึ่ง ธรรมที่ว่าธรรมที่แท้จริง นี่มันเป็นอารัยอ่ะ


ธรรมที่แท้จริง คือธรรมที่เหนือคำพูดหรือสมมุติบัญญัติ เป็นธรรมที่ต้องประสบพบเห็น รู้ด้วยตนเองตรงที่ใจ ที่ท่านเรียกว่าปรมัตถธรรม
ยังไม่มีคำพูด คำอธิบายใดๆ รู้ตรงที่ใจ คล้ายดังการรู้รสเค็ม
การรู้ร้อนรู้หนาว รู้เจ็บรู้ปวด

รู้ชัดความเกิดดับความขาด ต่อ ของสันตติ
รู้ชัดความยึดถือในจิต ที่ตอบโต้กับผัสสะ เวทนา อารมณ์
รู้ชัดความยึดถือและความปล่อยวางจางคลาย
รู้ชัดความไถ่ถอนและสลัดคืน
รู้ชัดอริยสัจ
รู้ชัดจิตที่ไร้โศก
รู้ชัดจิตที่ปราศจากธุลี
รู้ชัดจิตที่เกษม

เมื่อมรรคเดินถูกต้องตรงทางแล้วกระแสแห่งธรรมจะนำพาให้ใหลไปเองตามช่องทางแห่งธรรมไม่มีสิ่งใดจะกั้นขวางได้อีก

"ตถตา.....มันเป็นเช่นนั้นเอง".....


ไหนยกตัวอย่าง ตถตา ที่เกิดขณะปฏิบัติมาให้ดูหน่อยสิ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นำมาให้ท่านอโศกสะแกน :b16:


ผมพึ่งเริ่มฝึกสมาธิ พอฝึกไปได้สักพัก ผมได้เปลี่ยนการกำหนดรู้จากลมหายใจเข้าออก มากำหนดรู้ที่กลางระหว่างคิ้วแทน เพราะรู้สึกว่าง่ายต่อการรู้สึกถึงการกำหนดรู้แทนลมหายใจ

พอใช้วิธีนี้นานวันเข้า พอเริ่มเข้าสมาธิยังไม่ทันได้กำหนดลมหายใจ ผมรู้สึกว่าจิตก็ไม่รวมกันอยู่ที่ตรงกลางระหว่างคิ้วโดยอัตโนมัติ แต่ผมใช้วิธีนี้บ่อยๆผมรู้สึกตึงเครียดแทน เพราะจิตที่กำหนดจะอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา จนบ้างครั้งไม่ได้ทำสมาธิก็สามารถรู้สึกได้ว่ามีก้อนของจิตที่กำหนดระหว่างคิ้วอยู่แบบนี้ตลอดเวลา
ผมควรทำอย่างไรครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังฝึกที่จะคลายจิตการระหว่างคิ้วมาเป็นที่กำหนดรู้ที่ลมหายใจ เข้าออกเหมือนเดิมครับ ขอบคุณครับ


http://pantip.com/topic/34182854

แยอะแยะที่ปฏิบัติทางจิตแล้วมีปัญหาทางจิตใจกับร่างกาย (ก็ชีวิตนี่แหละ) ซึ่งเกิดจากการทำของตนเอง จะเล่นกับมันต้องเล่นเป็น ถ้าเล่นเป็นแล้วสนุก ถ้าเล่นไม่เป็น :b22: :b21: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ม.ค. 2017, 15:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกบอกว่า เคยพิสูดมาแล้ว ดังนั้น จึงนำมาให้แสกนอีก

ดิฉันเคยไปฝึกปฏิบัติธรรม ในสายโคเอ็นก้าที่ พิษณุโลก หลักสูตร 10 วันเต็ม การพิจารณาวิปัสสนา ตามหลักสูตร เป็นไปตามขั้นตอนทุกอย่าง และรู้สึกเหมือนกับว่าการพิจารณาจะเป็นไปตามที่ครูอาจารย์แนะนำในหลักสูตร ผ่านมาหลายปีแล้ว กลับมาแรกๆก้อปฏิบัติวันละอย่างน้อย 1 ชั่วโมงตลอด

ช่วงหลังห่างไม่ได้ปฏิบัติอีก มีเรื่องราวมากมายเข้ามาในชีวิตเป็นไปตามเหตุและปัจจัย แต่
ดิฉันยังรู้สึกว่า เสียงที่รู้สึกได้ในจิตยังส่งเสียงอยู่ตลอดเวลา คล้ายๆกับคนสวดมนต์หรือดนตรีอะไรแว่วๆอยู่ในจิตตลอดเวลา เหมือนสัญญาณเตือนว่าให้กลับไปเส้นทางนี้ ไม่ทราบว่าเป็นการอุปาทานเองไปมั๊ย เคยปรึกษาพี่ที่เป็นเสมือนญาติธรรมกัน ท่านว่าเป็นสัญญาณความทรงจำเก่าจากอดีตชาติอย่าไปยึดติด
แต่
ทุกครั้งที่จิตว่างๆ จากการงานธุระ หรือไม่มีเรื่องให้คิด เสียงนี้จะผุดขึ้นมาตลอดเวลา

ขอความอนุเคราะห์ผู้รู้ทั้งหลายในลานธรรมช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2017, 20:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
ปัญหาของ 2 คนนี้ให้ไปดูคำตอบที่นี่

viewtopic.php?f=1&t=53521
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2017, 20:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
cool
ปัญหาของ 2 คนนี้ให้ไปดูคำตอบที่นี่

viewtopic.php?f=1&t=53521
:b38:



สะแกนร่างกายที่ว่าข้างบน ไม่เอาแล้วหรอ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ม.ค. 2017, 20:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
cool
ปัญหาของ 2 คนนี้ให้ไปดูคำตอบที่นี่

viewtopic.php?f=1&t=53521
:b38:



สะแกนร่างกายที่ว่าข้างบน ไม่เอาแล้วหรอ :b1:

:b38:
พวกนี้ยังไม่ผ่านขั้นตอนสมาธิ 3 วัน ยังสะแกนร่างกายไม่ได้ผล
onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 24 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร