วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 09:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 449 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 ... 30  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2016, 05:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องกราฟฟิก..นี้..เตือนกักกายหลายครั้งแล้ว....ให้สังวรศีลให้มาก..

แต่ก็เห็นกักกาย...มักผิดศีล...ตลอดเลย...

เสียดาย..ที่มีความรู้ในศาสนามาก...แต่ศีลกลับยังง่อนแง้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2016, 09:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เรื่องกราฟฟิก..นี้..เตือนกักกายหลายครั้งแล้ว....ให้สังวรศีลให้มาก..

แต่ก็เห็นกักกาย...มักผิดศีล...ตลอดเลย...

เสียดาย..ที่มีความรู้ในศาสนามาก...แต่ศีลกลับยังง่อนแง้น


ศีลอะไร ถามไม่ตอบ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2016, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


วิเชียร แนะ สังเกตุข้อแตกต่าง ข้าวชาวนากับโรงสี !!!

ระวังให้ดี มีโรงสี (บางแห่ง) สวมสิทธิ์ชาวนา ขายข้าวสาร แล้ว !!!

เป็นที่น่าสังเกตุว่า กระแสขายข้าวช่วยชาวนา ได้รับการตอบรับอย่างดีมากทั้งส่วนราชการ และเอกชน
วิเชียร พวงลำเจียก อดีตนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยว่า วันนี้ชาวนาในจังหวัดสุรินทร์ เริ่มตื่นตัวกับการขายข้าวสารมากขึ้น เพราะพวกเค้าเหล่านั้นเห็นแล้วว่า ขายข้าวสารได้เงินมากกว่าขายข้าวเปลือก
แต่ล่าสุดมีพ่อค้าคนกลาง / นายหน้า ร่วมมือกับโรงสี (บางแห่ง) นำข้าวที่อยู่ในสต๊อก หรือข้าวค้างปีออกมาขาย และสมอ้างว่าเป็นข้าวจากชาวนา และตอนนี้ทำมาแล้วหลายพื้นที่โดยเฉพาะในเขต กทม. และปริมณฑล เพราะคนที่ซื้อตั้งใจช่วยชาวนา และคนกลุ่มนี้อาศัยช่องว่างขายข้าวของตัวเอง เพื่อเป็นการระบายข้าวที่อยู่ในสต๊อกของตัวเอง และนำข้าวใหม่ที่เพิ่งรับซื้อจากชาวนาไปเก็บแทน
วิเชียร แนะนำว่า หากจะเลือกซื้อข้าวสารหอมมะลิจากชาวนาภาคอีสานให้สังเกตุ ดังนี้ ข้าวสารจากชาวนาจะเป็นสีขุ่น อมเขียว เพราะไม่ได้ขัดขาว ถ้าขัดขาวจะมีเม็ดหักอยู่ด้วย แต่ถ้าเป็นข้าวโรงสีจะมีสีขาวเม็ดไม่หัก

หรือดูได้จากภาพที่แนบมา

1. (ข้าวชาวนา) เป็นข้าวหอมมะลิใหม่ ผิวสีขุ่นเนื่องจากการสีครั้งเดียวและไม่ผ่านกระบวนการอบหรือรม เม็ดข้าวมีทั้งที่สมบูรณ์กับเม็ดข้าวหักปนผสม มีกลิ่นหอม จับดูจะรู้สึกนิ่่มมือ เมื่อหุงจะได้กลินหอม ข้าวนุ่ม

2. (ข้าวโรงสี) เป็นข้าวหอมมะลิโรงสี สีออกมาจากโรงสีที่ได้มาตรฐาน ข้าวสมบูรณ์ทุกเม็ด มีสีขาวใสจากการอบอย่างดี รู้สึกแข็งตั้งแต่มองดูจนถึงจับสัมผัสด้วยมือ

https://www.facebook.com/nbtyuaya/posts ... 9251344984

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ย. 2016, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความรู้สึกของชาวนา อุบล

รูปภาพ


เขาอยากให้ลืม แต่กลับคิดถึง อิอิ เดี๋ยวเถอะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ย. 2016, 20:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าแล้วว่าเขาบอกให้ลืม งานเข้าเลย :b1:

https://pbs.twimg.com/media/CyHKvklVQAEf6rL.jpg:large

เข้าใจกันหรือยังล่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 พ.ย. 2016, 20:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตายคานา :b22:

https://www.facebook.com/suthito.kumamo ... 9537087372

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 พ.ย. 2016, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไทยติดอันดับโลก ความมั่งคั่งอันเหลื่อมล้ำยั่งยืน

รายงานความมั่งคั่งโลก ปี 2559 โดยธนาคารเครดิตสวิส ระบุ ประเทศไทยติดอันดับ ความเหลื่อมล้ำด้านรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากรัสเซียและอินเดีย

http://shows.voicetv.co.th/wakeupnews/436917.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ธ.ค. 2016, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบ :b32:

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ธ.ค. 2016, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


1,000 บาท จากลาวข้ามเข้ามาเขตไทย หมายเลขเดียวกันทั้งหมด 5 J 9952371

ตอนนี้กระจายไปทั่วประเทศแล้ว โปรดระวัง

รูปภาพ



วันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 เมื่อเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คได้มีการนำธนบัตรฉบับละ 1000 บาทปลอมออกเตือนผู้ประกอบการให้เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบธนบัตร โดยเฉพาะชาว จ.ขอนแก่น และอีก 11 จังหวัดในภาคอีสานตอนบน เพราะธนบัตรฉบับละ 1000 บาทปลอมมีหมายเลขเดียวกันทั้งหมดจาก สปป.ลาวข้ามเข้ามาเขตไทย และตอนนี้กระจายไปทั่วประเทศแล้ว โปรดระวังและช่วยบอกต่อกันด้วยนะ

จากการออกตรวจสอบร้านค้าในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้มีผู้ประกอบการต่างให้ความสนใจติดตามข้อมูลธนบัตรปลอม หลังจากมีการเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีการระบุว่ามีการทำธนบัตรปลอมฉบับละ 1 พันบาท จำนวนมาก โดยเป็นหมายเลข 5 J 9952371 ผู้ประกอบการร้านขายของส่งจึงได้มานั่งพูดคุยพร้อมกับแชร์ข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ไปให้คนรู้จักเพื่อระวัง โดยจากข้อมูลมีการแจ้งว่า ได้มีการผลิตธนบัตรปลอมจากประเทศจีน จากนั้นได้ส่งมายังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านคือ สปป.ลาว เพื่อเตรียมข้ามฝั่งมาในประเทศไทย

นายวรชัย ธนชัยวานิช เจ้าของร้านขายของส่งขนาดใหญ่ บอกว่า ตนมีการระมัดระวังมากขึ้น เพราะเป็นร้านขายของส่งขนาดใหญ่ มีเงินหมุนเวียนในแต่ละวันจำนวนมาก โดยเฉพาะธนบัตรฉบับละ 1000 บาท และธนบัตรฉบับละ 500 บาท เมื่อหลายปีก่อนเคยถูกมิจฉาชีพนำธนบัตรฉบับละ 500 บาท และ 100 บาท มาใช้ซื้อของมาแล้ว และหลังจากมีข่าวล่าสุดออกมา ทำให้ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะหากถูกมิจฉาชีพใช้ธนบัตรปลอมมา จะทำให้การค้าขายในวันนั้นขาดทุนทันที เพราะการค้าช่วงนี้กำไรน้อย โดยเฉพาะเจ้าของร้านที่มีรายได้น้อย เมื่อถูกธนบัตรปลอมมาใช้ซื้อของจะส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก

ด้านนายวชิระ ศศิวิมลวงศ์ เจ้าของร้านขายกาแฟ บอกว่า หลังทราบข่าวตนเองได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ทั้งธนบัตรฉบับละ 1000 บาท 500 บาท และ 100 บาท เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เพราะหากพลาดมาเท่ากับว่าการค้าขายขาดทุน ทำให้ต้องมีการกระจายข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์ไปยังคนรู้จัก เพื่อให้ระมัดระวังกับธนบัตรปลอม

ขณะทีค่พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รรท.ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า เมื่อ 3 – 4 ปี ที่ผ่านมา มีการระบาดของธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท ในหมวด 9A ได้ระบาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เป็นธนบัตรปลอมชนิดราคา 1,000 บาท หมายเลข 9ฉA 3828862 และ หมายเลข 9ฉA 3828863 เข้ามาในระบบ มีลักษณะแตกต่างจากธนบัตรจริงสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า คือ ไม่ปรากฏลายน้ำพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ โดยมาจากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คออกมาเตือนภัยแบงก์พันปลอมระบาดเช่นกัน อย่างไรก็ตามในเขตพื้นที่อีสานบนยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายท่านใดเข้ามาแจ้งความ ดังนั้น อยากให้ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ทำการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมกันนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดภาค 4 ประสานงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ประกอบการให้เพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบธนบัตร โดยเฉพาะธนบัตรใบละ 1,000 บาทให้มากขึ้น.

มติชนออนไลน์
30 พ.ย. 59

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ธ.ค. 2016, 08:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชะตากรรมคนจนในช่วงเปลี่ยนผ่าน

https://drive.google.com/file/d/0B-ahm0 ... Axams/view

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2016, 05:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

ชาวนากำลังขับ "รถเกี่ยวข้าว" ในท้องนาหมู่บ้านหงายเกิ่ว (Ngai Cau) ชาวกรุงฮานอยในภาพวันที่ 26 ต.ค.2554 เวียดนามซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกได้ประกาศปล่อยกู้ให้ชาวนาทุกจังหวัดและนคร ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงซื้อเครื่องจักรแบบเดียวกันนี้ไว้ใช้อีกเกือบ 7,000 คัน เพื่อช่วยลดการสูญเสียข้าวเปลือก คุ้มค่าประหยัดเวลา และแน่นอน .. มีข้าวส่งออกเพิ่มขึ้นอีกปีละหลายแสนตัน. -- Reuters/Kham.

รัฐบาลจะแบกรับภาระดอกเบี้ยให้แก่ชาวนาทุกรายในช่วง 2 ปีแรก ซึ่งจากการศึกษาได้พบว่าเป็นช่วงเวลาที่ชาวนาครอบครัวต่างๆ จะสามารถคุ้มทุนในการลงทุนซื้อเครื่องจักร แต่ถ้าหากยังชำระหนี้ไม่หมด ปีต่อๆ ไป ทางการจะช่วยชำระดอกเบี้ยให้ 50% ของจำนวนหนี้ที่เหลือ

ความจริงแล้วนโยบายนี้กำหนดออกมาเพื่อช่วยลดอัตราการสูญเสียข้าวเปลือก ระหว่างการเก็บเกี่ยว ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นอัตรา 5.6% อัตราการสูญเสียนี้จะลดลงเป็นประมาณ 2% เมื่อเกี่ยวด้วยเครื่องจักร ซึ่งคิดเป็นข้าวเปลือกปีละประมาณ 900,000 ตัน สำนักข่าว VNA (Vietnam News Agency) ของทางการกล่าว

http://www.prachatalk.com/webboard/%E0% ... A%E0%B9%89

อดีตประเทศเวียตนามตกอยู่ในภาวะสงคราม ดังนั้น เขาจึงซาบซึ้งถึงความแร้นแค้นอดอยาก แต่ของเราพยายามทำให้ประชาชนแร้นแค้นอดอยาก :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ธ.ค. 2016, 09:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ร่วมเสวนากับจ่าพิเชษฐ์ "โลกนี้เป็นของเราทุกคน เพียงแต่มันไม่เท่ากัน"

ขอย่อลงมาที่ประเทศไทยนะครับ....

การประกาศเลิกทาส และไพร่ของพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ ใช่ว่าจะประกาศปุ๊บก็เลิกกันได้ปั๊บทันทีทันใด ประเภทประกาศเสร็จมีทาสนับเรือนหมื่นหอบข้าวหอบของออกจากบ้านมูลนายของตนเป็นอิสระออกมาทำมาหากินได้ ในด้านพฤตินัย...ผมเชื่อว่ากว่าทาสจะหลุดจากการเป็นทาสตั้งเนื้อตั้งตัวจริงๆ ก็คงใช้เวลาหลายปี

ส่วนที่ตั้งตัวไม่ได้ ก็คงน่าจะขออยู่เป็นข้าทาสจากเจ้านายต่อไป และต้องไม่ลืมว่าแม้จะมีการออกพรบ.เลิกทาส แต่ยังไม่มี พรบ.ยกเลิกบรรดาศักดิ์ ดังนั้น ผมเชื่อว่าบรรดาขุน หลวง พระ พระยา เจ้าพระยา ฯลฯ ยังคงมีทาสรับใช้ในเรือนต่อไป และทาสส่วนหนึ่งเองก็พอใจที่จะอยู่เช่นนั้นต่อไป เป็นทาสมาเกือบตลอดชีวิตแล้วจะให้ออกไปตั้งหลักเลี้ยงชีพในสมัยนั้นก็น่าจะลำบากอยู่บ้าง


ประเทศไทย พึ่งผ่านการเลิกทาสมาร้อยกว่าปีนี่เอง เท่ากับหนึ่งช่วงอายุคนกับอีกครึ่งหนึ่ง.....ไม่นานเลย....คือไม่นานเลยสำหรับเหล่าทาส ซึ่งต่อมาได้กลายพลเมืองส่วนใหญ่ในการที่จะก่อร่างสร้างตัวและสร้างฐานะให้ทัดเทียมคนอื่นๆ ผู้ซึ่งไม่ได้ใช้ชีวิตการเป็นทาสหรือไพร่มาก่อน ซึ่งเขาเหล่านั้นมีโอกาส และได้รับมอบโอกาสให้ก่อร่างสร้างตัวก่อนการเลิกทาสซะอีก เช่น บรรพบุรุษของคนจีน อินเดีย เปอร์เซียที่มีลูกหลานกลายเป็นเจ้าสัวเต็มบ้านเต็มเมืองในตอนนี้


สถานะความเป็น “คนไทย” ที่เป็นไพร่และทาส ในยุคก่อนและหลังเลิกทาสแทบจะไม่ต่างกัน เอาเข้าจริงๆ....ไพร่และทาส (ซึ่งเป็นคนไทย) เหล่านั้นมีสิทธิ์ในประเทศของตัวเองน้อยกว่าคนต่างชาติอย่าง จีน พม่า อินเดีย เสียอีก

พวกคนจีน พม่า อินเดีย ยุโรปที่เข้ามาในประเทศไทยก็ไม่ได้อยู่ในสถานะ “ทาส” เขาเหล่านั้นก็เข้ามาทำงานได้รับค่าจ้างแรงงานเลย แม้อาจจะต้องจ่ายให้รัฐในรูปแบบ “ผูกปี้” และที่สำคัญ...บางกลุ่มมีสิทธิพิเศษเหนือคนไทยด้วยซ้ำ คือหลักสนธิสัญญาเบาริ่งที่เซ็นสัญญาในรัชกาลที่ ๔ หากคนพม่า คนจีนจากฮ่องกง คนอินเดีย ทำผิดกฏหมายในไทย หรือมีเรื่องทะเลาะกับคนไทย พวกเขาก็จะขึ้นศาลอังกฤษ เพราะพวกเขาถือว่าอยู่ใต้อาณัติของอังกฤษ โดยไม่ได้ขึ้นศาลไทย ถือเป็น “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” ที่พวกเขาได้รับ ต่างจากคนไทยที่เป็นทาสแทบจะไม่มีสิทธิ์อะไรหลงเหลือเลย


ดังนั้น จุดสตาร์ทในการก่อร่างสร้างตัวของ “คนไทย” แท้ๆ ที่พึ่งจะผ่านพ้นการเลิกทาสมา จึงล่าช้ากว่า “จุดสตาร์ท” ของบรรดาบรรพบุรุษของเจ้าสัวเมืองไทยในปัจจุบัน นี่ยังไม่รวมถึงสิทธิ์ต่างๆ คอนเน็กชั่น และการเข้าถึงทรัพยากร นอกจากจุดสตาร์ทที่แตกต่างกันแล้ว

ต้นทุนทางสังคมระหว่าง “อดีตทาส” กับ “คนต่างชาติ” ในสยามในตอนนั้นแตกต่างมากมาย และการที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้ระบบทาสมาอย่างยาวนาน และข้อจำกัดในด้านการศึกษา รวมถึงประสบการณ์ในการสร้างฐานะจึงแตกต่างเป็นอย่างมาก บวกกับความ “ขยันน้อย” ของคนไทยเมื่อเปรียบเทียบกับชาวจีนและอินเดียแล้วก็ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างฐานะกว้างขึ้นๆ


ชาวจีนโพ้นทะเล ที่เข้ามาในสยามตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์หรือก่อนหน้านั้นด้วยลักษณะที่หอบ “เสื่อผืนหมอนใบ” เข้ามา และหากจะมองแบบเห็นใจและเข้าคนไทยสักหน่อย....ก็ยังนับว่า ชาวจีนเหล่านั้นโชคดีอยู่บ้างที่นอกจาก “สื่อผืนหมอนใบ” แล้วก็ยังพอมีสมบัติ เช่นความรู้และประสบการณ์ในโลกกว้างติดตัวมาด้วย ต่างจากไพร่และทาสไทยที่แทบจะไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย ในการที่จะสร้างฐานะหลังการประกาศการเลิกทาส ลูกหลานของ “อดีตทาส” กับลูกหลานของบรรบพบุรุษคนจีนจึงแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ทั้งนั้น...ก็ต้องให้เครดิตในด้านความขยันขันแข็งของบรรพบุรุษเจ้าสัวด้วยเป็นอย่างมาก

http://pantip.com/topic/35885690

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ธ.ค. 2016, 17:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หมอวรงค์ ชวนเที่ยวทุ่งดาวเรือง ปลูกคู่ กับ นาข้าว การันตี ’ตื่นตีสี่ตีห้า เย็นมารับตังค์’ :b32:


http://www.matichon.co.th/wp-content/up ... 2/42-7.jpg

http://www.matichon.co.th/news/405248

ดาวเรืองดาวโรย - พุ่มพวง ดวงจันทร์

https://www.youtube.com/watch?v=2TC9oa1leck

พ่อหมอ การันตี (กา-รัน-ตี) ขออย่าได้ออกแนว กาขาวขันได้ (กาขาว-ขัน-ด้าย) เลย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ก.พ. 2017, 09:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถาวร พ้อ โฆษกรัฐบาล ไม่เห็นความหวังดี กล่าวหาปลุกชาวบ้านกดดันรัฐ

ฯลฯ

ท่านพี่น้องประชาชนที่เคารพครับ จังหวัดสงขลาถูกน้ำท่วม เฉพาะอำเภอระโนด ซึ่งเป็นอำเภอบ้านเกิดผม
ที่อำเภอระโนดมีอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลัก ซึ่งทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าอาชีพทำนาจะเป็นครอบครัวที่ยากจน แต่พวกเราชาวนาก็ต่อสู้เพราะเป็นอาชีพหนึ่งที่เป็นอาชีพที่มีเกียรติ เป็นผู้ผลิตอาหารเลี้ยงพี่น้องประชาชน ครอบครัวผมก็มีอาชีพทำนา เป็นชาวนารายย่อยไม่มีโรงสี ผมทราบดีถึงชีวิตการเป็นชาวนา

http://www.matichon.co.th/news/451223

https://pbs.twimg.com/media/C125RtuUQAAOPmc.jpg

คิกๆๆ เป่านกหวีดเลยเพ่วอนเสน :b1: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2017, 07:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


โรงสี....ออกมาเฉลย..

ทำไมปีที่แล้วๆมาข้าวเปลือกจึงถูก...

นอกจากข้าวที่ค้างสต๊อกแล้ว....ก็มีอีก..หนึ่งในเหตุผลก็คือ....มีการประเมินว่าข้าวหอมมะลิจะออกสู่ตลาดที่..10 ล้านตัน

การประเมินที่มากเกินจริง...ทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ...ซื้อเข้าโกดังตัวเองด้วยราคาต่ำ...
ใคร..ประเมิน?.....

กระผมเคยพูดเอาใว้แล้ว....น่าจะมีการสมคบคิดกัน...

ปีนี้....ราคาข้าว..เริ่มสะท้อนตามความเป็นจริง..มากขึ้น...ซึ่งจะมีผลทให้ชาวนาวางแผนทำนาสำหรับปีหน้าได้ดีขึ้น...

อ้างคำพูด:
กลุ่มโรงสีภาคอีสาน คาดข้าวหอมมะลิปี’60/61 ราคาพุ่ง 1.2-1.3 หมื่น/ตัน เหตุผลผลิตแค่ 7.5 ล้านตัน จับตาน้ำท่วมทำพื้นที่นาเสียหายเพิ่ม นายวิชัย ศรีนวกุล ตัวแทนโรงสีกลุ่มภาคอีสาน เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาข้าวเปลือกหอมมะลิในฤดูกาล2560/2561 คาดว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้น
......

ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิเฉลี่ย800 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ถือว่าสูง เพราะมีการไล่เก็บซื้อข้าวจากผลผลิตข้าวเปลือก รวมทั้งจากโครงการรับจำนำยุ้งฉางที่ชาวนาจะได้รับเงินประมาณ 1.4 หมื่นบาท/ตัน ทอนเป็นราคาส่งออกข้าวหอมมะลิจะได้750 ดอลลาร์/ตัน หากต่ำกว่านี้ชาวนาจะเลือกเก็บในยุ้งฉาง” นายวิชัย กล่าว
.... อ่านต่อได้ที่ : https://www.posttoday.com/biz/gov/521548.



แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 449 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14 ... 30  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร