วันที่ 21 ตุลาคม 2559 ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาคดีความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือ คดีความผิดเกี่ยวกับสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้สัมภาษณ์เรื่องการติดตามผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูงว่า ตามที่สื่อหลายสำนักไปลงรายชื่อประเทศที่เราส่งหนังสือไปถึงสถานทูต เพื่อขอความร่วมมือให้ส่งตัว 19 ผู้ต้องหาให้กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย รวมทั้งมีการเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาทั้ง 19 คนนั้น ขอเรียนว่าไม่อยากไประบุถึงประเทศที่เราส่งหนังสือไปถึง และความจริง มีกลุ่มและบุคคลที่เราติดตามความเคลื่อนไหวในช่วงระยะเวลานี้มีมากกว่านั้น เพียงแต่ไม่อยากเปิดเผยชื่อบุคคลหรือชื่อประเทศ

"ผมไม่ต้องการจะเอ่ยชื่อบุคคลหรือประเทศ และจากการตรวจสอบข้อมูลที่ปรากฏในสื่อ น่าจะเป็นเรื่องเก่าเดิมที่เคยมีการชี้แจงกับสื่อไปแล้วเอามาลง ซึ่งก็ไม่ตรง โดยบุคคลบางคนก็ไม่ตรงประเทศ จึงอยากเรียนด้วยความระมัดระวัง เพราะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอยากจะขอความร่วมมือเพราะการเผยแพร่บางที่อาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้"

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ขอให้มั่นใจว่า เราไม่ได้ละทิ้งทุกสิ่งที่ปรากฏ เราจะเก็บและสืบสวนสอบจนได้ตัวผู้กระทำความผิดอย่างที่เห็น แต่ถ้าสื่อลงไปเน้นย้ำเกินไป ก็จะย้อนแย้งกับสถานการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดภาพขึ้นมา

"คนพวกนี้ก็เป็นคนที่พยายามจะใช้จังหวะโอกาส ซึ่งก็เป็นคนกลุ่มเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ระบบการสนับสนุนก็เดิมๆ ก็เห็นกันอยู่ สังคมและประชาชนน่าเข้าใจได้ว่า เวลาที่เรามีเหตุการณ์ลักษณะนี้ กลุ่มพวกนี้ก็ยังมีจิตใจที่ดำได้ขนาดนี้ ก็ต้องย้อนดูถึงกลุ่มที่สนับสนุน กลุ่มที่ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาตลอดเวลา ต้องย้อนดูไปข้างหลังย้อนกลับไป ก็จะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างที่เรามีข้อมูลข่าวเข้ามา ก็อยากจะให้ประชาชนช่วยกันทำให้กลุ่มพวกนี้มันหมดไป ไม่ควรจะให้กลุ่มพวกนี้มามีอำนาจ มีอิทธิพลอะไรอีกแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก เขาไม่ละเว้นแม้แต่ในห้วงลักษณะเวลาเช่นนี้ และฉวยโอกาสที่จะทำเรื่องอย่างนี้อยู่ตลอด ซึ่งผมว่ามันทำลายจิตใจและรับไม่ได้ ซึ่งก็อย่างที่นายกฯ บอกว่าไม่อยากจะระบุ และเชื่อว่าคนไทยก็รู้ว่าเป็นใครอย่างไร" พล.อ.ไพบูลย์กล่าว

พวกมืดบอด...

บิ๊กจิน”เผย“กูเกิล-ยูทูป”จับมือไทยกวาดล้างเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง ลั่นตั้งทีมเฉพาะกิจส่อง 24 ชม. ระบุตรวจแค่ 2 วัน 19-20 ต.ค.พบ 120 รายหมิ่นเบื้องสูง


21 ต.ค. 59 - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเชิญ นางแอน เลวิน ผู้บริหารระดับสูงของกูเกิลซึ่งดูแลเว็บไซต์ยูทูปประจำภูมิภาคเอเชียเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาเว็บไซต์หมิ่นสถาบันว่า เป็นการมาหารือตามที่รัฐบาลได้ขอคำปรึกษาไปคือเรื่องเว็บไซต์หมิ่นสถาบันซึ่งก่อให้เกิดความสับสนในสังคมจึงอยากให้ช่วยกันระดมความคิดเห็นในการสกัดกั้นหรือยุติเว็บไซต์เหล่านั้นให้ได้

“ผู้บริหารกูเกิลและและยูทูปยืนยันว่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จึงมีการตัดสินใจปรับปรุงแนวทางเพิ่มเติมคือมีการตั้งทีมเฉพาะกิจที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีคนไทยรวมอยู่ด้วยเพื่อดูแลกรณีดังกล่าวในประเทศไทยโดยเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมง และมีการปรับแบบฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนที่ใช้ภาษาไทยขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยเบื้องต้นสิ่งที่ทางทีมเฉพาะกิจต้องการตามที่รัฐบาลไทยร้องเรียน คือประเภทยูอาร์แอลและเวลาที่ตรวจพบว่าเผยแพร่ข้อความไม่เหมาะสม จะดำเนินการส่งทั้งสองส่วนนี้ไปให้ทีมเฉพาะกิจดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง แต่เราก็ต้องส่งคำสั่งศาลและรายละเอียดเพิ่มเติมไปให้ภายหลังด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วในการดำเนินการทั้งสองฝ่าย” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว


พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางกูเกิลได้ติดตามและทราบดีว่าความรู้สึกของคนไทยต่อความสูญเสียพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่นั้นเป็นอย่างไร แล้วยังมาโดยเว็บไซต์ต่างๆ โจมตีบิดเบือนเขาก็จะดำเนินการตามที่เราร้องขอ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะเริ่มในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ โดยมีตัวแทนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ประสานงานโดยตรง


“ถ้าเขาได้รับข้อร้องเรียนจากเราในสองรายการแรกจากเราคือเรื่องยูอาร์แอลและเวลาที่ตรวจพบ เขาจะพยายามดำเนินการกับเพจหรือวีดิโอคลิปเหล่านั้นก่อน แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องยืนยันว่าจะส่งหมายศาลตามไป ส่วนเรื่องที่กังวลเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในการขอข้อมูลของผู้ที่โพสต์บนเว็บไซต์เหล่านั้น เขาก็เข้าใจและให้คำแนะนำว่ากระบวนการระหว่างประเทศจะต้องดำเนินการเพื่อปรับขอตกลงระหว่างประเทศเพื่อขอข้อมูลดังกล่าวผ่านรัฐบาล ซึ่งตรงนี้ก็จะเริ่มในวันที่ 22 ตุลาคมนี้เช่นเดียวกันคือให้รัฐมนตรีที่สั่งการก่อนเข้าสู่กระบวนการให้กระทรวงการต่างประเทศขอสิทธิเหล่านี้เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐฯพิจารณา หากรัฐบาลไทยและสหรัฐฯร่วมมือกันตกลงที่จะให้ข้อมูลซึ่งเป็นลิขสิทธิ์หรือข้อมูลที่เป็นสิทธิส่วนบุคคลแล้ว ทางกูเกิลนั้นเราทันที” พล.อ.อ.ประจินกล่าว


พล.อ.อ.ประจินกล่าวต่อว่า ส่วนข้อมูลที่ไม่เหมาะสมที่อยู่ระบบอยู่แล้วนั้นเราก็ได้ทวงถามว่าสามารถลบออกจากสารระบบได้หรือไม่นั้นเขาจะเก็บข้อมูลไว้ให้และจะดำเนินการไว้ให้ และจากดำเนินหากเรากรอกแบบฟอร์มร้องเรียนไป แล้วข้อมูลส่วนใดที่เขาสามารถดำเนินการได้ก่อนเขาก็จะดำเนินการให้



“เฉพาะวันที่ 19-20 ตุลาคมที่ผ่านมามีการตรวจพบผู้ที่กระทำไม่เหมาะสม 120 รายซึ่งไม่ค่อยพบชาวต่างชาติ แต่ขอไม่เปิดเผยตามที่นายกรัฐมนตรีได้พูดไว้ว่าไม่อยากให้นำเสนอออกมาเพื่อซ้ำเติมความรู้สึกประชาชน แต่ขอให้รับทราบและดำเนินเรื่องนี้สุดความสามารถ ส่วนเฟซบุ๊กและไลน์ผมได้มอบหมายให้ตั้งชุดทำงานไปรวบรวมข้อมูลเพื่อติดต่อประสานงานกันในลักษณะเดียวกันกับกูเกิล” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว


เมื่อถามว่าทีมงานที่มีคนไทยอยู่นั้นหากตรวจพบข้อความที่มีลักษณะเข้าข่ายจะแจ้งมาทางเราหรือจะระงับข้อมูลดังกล่าวก่อน พล.อ.อ. ประจิน กล่าวว่า เขาจะเป็นทีมรับข้อมูลจากเราตามแบบฟอร์มภาษาไทยที่เขาสร้างขึ้น แล้วให้เรากรอกแบบฟอร์มภาษาไทยไปว่า ในเงื่อนไขที่แจ้งให้ทราบว่าเป็นยูอาร์แอลอะไร ตรวจพบเมื่อไร และข้อมูลที่จะแจ้งว่าผิดกฎหมายประการใด ซึ่งจะเป็นหมายศาลตามไป โดยเขาตั้งทีมงานขึ้นเฉพาะ เพื่อให้ดูเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้มีความรวดเร็วในการติดต่อประสานงานซึ่งจะดูแลให้เราเป็นพิเศษ 24 ชม. แต่เดิมมีทีมงานอยู่แล้ว ก็จะเพิ่มผู้ประสานงานโดยตรงขึ้นมาอีก ให้การติดต่อทางโทรศัพท์ หรืออีเมลได้โดยตรง จะเป็นการเพิ่มความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน


“ถ้าเราได้รับ 2 รายการแรก คือ เพจหรือวิดีโอคลิปเขาจะเริ่มดำเนินการให้ก่อน แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องส่งหมายศาลตามไป ซึ่งเราจะต้องใส่คำยืนยันไว้ในฟอร์แมตภาษาไทย ในส่วนของการละเมิดสิทธิก็ตาม หรือการขอข้อมูลที่เป็น ยูสเซอร์แอคเคานต์ก็ตาม หรือไอดีของผู้โพสต์เว็บไซต์ เนื่องจากเขาเป็นบริษัทเอกชนก็เข้าใจและให้คำแนะนำว่าทางกระบวนการระหว่างประเทศนั้นจะต้องดำเนินการเพื่อปรับข้อตกลงระหว่างประเทศ ในการที่จะขอข้อมูลดังกล่าวผ่านรัฐบาล ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) เราจะเริ่มดำเนินเรื่องเลย เพื่อให้รัฐมนตรีได้สั่งการเข้าสู่กระบวนการของกระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะได้พิจารณา ซึ่งหากรัฐบาลสหรัฐฯ กับไทยได้ร่วมมือกันตกลงที่จะให้ข้อมูลที่เคยตกลงว่าเป็นลิขสิทธิ์หรือสิทธิมนุษยชนส่วนหนึ่ง กูเกิลจะให้สิทธิ์เราทันที” พล.อ.อ. ประจิน กล่าว

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราได้ทวงเขาว่าข้อมูลที่มีก่อนหน้านี้ขอก่อนได้เลยหรือไม่ เพื่อจะได้ไปดำเนินการระงับยับยั้ง เราพยายามจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด แต่ก็มีเรื่องเทคนิค กฎหมาย ซึ่งเฉพาะวันที่ 19-20 ตุลาคมมีการตรวจพบ 120 กว่าราย ขอให้รับทราบว่าเราจะทำเรื่องนี้ให้สุดความสามารถ อย่างไรก็ตามกฎหมายที่กูเกิลใช้เป็นกฎหมายของสหรัฐอเมริกา รวมถึงเป็นกฎหมายระหว่าไทยและสหรัฐอเมริกา ที่เราจะส่งข้อมูลร่วมกัน


นอกจากนี้ตนได้รวบรวมทีมงามเพื่อติดต่อไปยัง เฟสบุ๊กและต่อไปอาจจะติดต่อไปยังไลน์ด้วย ขณะนี้ได้เตรียมตัวแทนเป็นกลุ่ม ทั้งผู้เชียวชาญเทคนิค กฎหมาย และภาษา ซึ่งจะมีจำนวน 5 คน เพื่อที่จะติดตามในเรื่องนี้

ช่วงที่ผ่านมา....ถ้าใครเข้า YouTube ...จะพบวีดีโอหน้าตาแปลกๆ..ข้อความจั่วหัวปะหลาดๆ..อยู่ในลิสต์

งานของคนใจดำ..เขาทำตลอด...ยิ่งหนักเข้าไปอีก...

วันนี้..มาเห็นข่าว...

บิ๊กจิน”เผย“กูเกิล-ยูทูป”จับมือไทยจับเว็บไซต์หมิ่นเบื้องสูง

MGR Online - “เอิน กัลยกร” ถอดหัวใจเขียนบทความภาษาไทย - อังกฤษ หลังถูกฝรั่งถามว่า คนไทยถูกล้างสมองให้รักในหลวงหรือเปล่า แถมนำไทยไปเปรียบเทียบกับเกาหลีเหนือ ยันไม่ได้เขียนบทความให้คนอื่นมาเคารพ หรือจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หัวเหมือนคนไทย เพียงขอให้เข้าใจต่อการสูญเสียของคนไทยทั้งชาติเท่านั้น

http://manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9590000105725

ผ่าแก๊งบ่อนทำลายเบื้องสูงเสื้อแดง ใครชักใยถึงยังกล้าเคลื่อนไหวเหิมเกริม?
ทั้งๆที่คนไทยทั้งประเทศกำลังอยู่ในภาวะเศร้าโศกครั้งยิ่งใหญ่จากการสูญเสียพ่อแห่งแผ่นดิน

แต่ขบวนการบ่อนทำลายเบื้องสูงเสื้อแดงยังคงเคลื่อนไหวโดยเฉพาะจากนอกประเทศด้วยการเผยแพร่ข้อมูลจวบจ้วง บิดเบือนหวังบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริมผ่านโซเชียลมีเดียอันสะท้อนให้เห็นว่า ขบวนการชั่วร้ายเหล่านี้น่าจะได้รับการชักใยและช่วยเหลือส่งท่อน้ำเลี้ยงจากตัวการใหญ่ที่บงการอยู่หลังฉาก และที่สำคัญชาติมหาอำนาจและชาติตะวันตกหรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยบางประเทศยังคงให้ที่พักพิงปล่อยให้ขบวนการบ่อนทำลายเบื้องสูงเสื้อแดงเคลื่อนไหวอย่างอิสระจนถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการท้าทายกฏหมายและมีส่วนร่วมบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทยทางอ้อม

ก่อนหน้านี้ทางการไทยเคยขอความร่วมมือไปยังบรรดาประเทศซึ่งเป็นแหล่งซ่องสุมของขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงเหล่านี้เพื่อขอนำตัวกลับมาดำเนินคดีตามมาตรา 112 ของประมวลกฏหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานหมิ่นพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ แต่ประเทศเหล่านี้กลับเพิกเฉย โดยเฉพาะชาติตะวันตกบางประเทศ อาทิ มะกันอันตราย ก่อนหน้านี้เคยสนับสนุนเรียกร้องให้ไทยยกเลิกมาตรา 112 โดยอ้างว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพและละเมิดสิทธิมนุษยชน

จากความเหิมเกริมของขบวนการบ่อนทำลายเบื้องสูงเสื่อแดงที่ออกมาเคลื่อนไหวในยามที่คนไทยทั้งประเทศโศกเศร้าจากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ทำให้ล่าสุด พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมได้ลงนามในหนังสืออย่างเป็นทางการส่งถีงเอกอัครราชทูตต่างชาติประจำประเทศไทย 7 ประเทศซึ่งให้ที่พักพิงแก่ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงซึ่งมีเกือบ 20 คน เพื่อให้ส่งตัวบุคคลเหล่านี้กลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไทย

ตามรายงานของหน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้อง

สูงเสื้อแดงเหล่านี้หลบหนีหมายจับออกนอกประเทศไปซ่อมสุมกันอยู่ในหลายประเทศ โดยมีการตั้งข้อสังเกตุว่า ชาติมหาอำนาจอย่างมะกันอันตรายและชาติตะวันตกในยุโรปบางประเทศที่เป็นพันธมิตรที่แนบแน่นกับมหาอำนาจมะกันอันตราย รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ อาทิ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) องค์กรนิรโทษกรรมสากล องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของมหาอำนาจชาติตะวันตกต่างคอยให้การปกป้องช่วยเหลือขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทยมาตลอด จีงไม่แปลกที่ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงหลายคนได้รับการประสานงานและรับรองสถานะเป็นผู้ลี้ภัยซ่องสุมเคลื่อนไหวอยู่ในบางประเทศ ทั้งๆที่บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ต้องหาที่หนีหมายจับตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 112 ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยการเมืองจากการถูกกลั่นแกล้งหรือใช้อำนาจเผด็จการแต่อย่างใดทั้งสิ้น

สำหรับประเทศที่ให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือ รวมทั้งรายชื่อขบวนการที่ถูกกล่าวหาว่าบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงจากข่าวด้านความมั่นคงประกอบด้วย

สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งซ่องสุมของขบวนการที่ถูกกล่าวหาว่าบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงที่สำคัญ อทิ นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน นายจอม เพชรประดับ น.ส.สุดา รังกุพันธุ์ อดีตอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ นายมนูญ หรือ เอนก ชัยชนะ นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือฉายา”เพียงดิน” นายจุติเทพ หรือ เลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ ฉายา “โจ กอร์ดอน”

ฝรั่งเศส ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่แกนนำบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงคนสำคัญหลายคน อาทิ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตแกนนำเสื้อแดง นายศรันย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ” อดีตนักศึกษาเสื้อแดง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สหราชอาณาจักร เป็นแหล่งพักพิงเคลื่อนไหวของ นายใจลส์ อึ้งภากรณ์ อดีตอาจารย์ เสื้อแดง จุฬาฯ ที่หนีหมายจับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ “โรส” ที่ได้สามีเป็นชาวอังกฤษ และอาจรวมถึง นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯยุครัฐบาลระบอบทักษิณและแกนนำเสื้อแดง ที่มีข่าวว่าวิ่งรอกเคลื่อนไหวอยู่ในหลายประเทศทั้งประเทศในยุโรป สหรัฐอเมริกา รวมทั้งกัมพูชา

นิวซีแลนด์ ให้สถานะผู้ลี้ภัยแก่ นายเอกภาพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” หนึ่งในแกนนำแดงล้มเจ้า ซึ่งเดิม นายเอกภาพ หนีหมายจับข้อหาหมิ่นเบื้องสูงตามมาตรา 112 ไปกบดานอยู่ที่

กัมพูชาระยะหนึ่งต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากยูเอ็นเอชซีอาร์ที่ให้การรับรองและประสานงานไปยังทางการนิวซีแลนด์จนปัจจุบัน นายเอกภาพ ได้รับการรับรองสถานะเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในนิวซีแลนด์

ฟินแลนด์ ให้สถานะผู้อยู่อาศัยถาวรแก่ นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ หนึ่งในกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีแนวคิดบ่อนทำลายเบื้องสูง

ลาว เป็นหนึ่งในแหล่งที่บรรดาขบวนการบ่อนทำลายเบื้องสูงเสื้อแดงเคยหลบซ่อนเคลื่อนไหวหลายคน แต่ปัจจุบันบางคนออกจากลาวไปพำนักในประเทศอื่น โดยล่าสุดแกนนำเสื้อแดงแนวคิดล้มเจ้าที่ยังปักหลักอยู่ในลาวที่สำคัญ อาทิ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ แซ่ด่าน นายวัฒน์ วรรลยางกูร นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำแดงปทุมธานี นายชูชีพ ชีวสุทธิ์ หรือ ชีพ ชูชัย

กัมพูชา เป็นอีกแหล่งพักพิงของแกนนำขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงหลายคนอยู่ระยะเวลาหนึ่ง อาทิ นายจักรภพ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล หรือ นายพิศณุ พรหมศร ที่เดินทางเข้าๆออกๆกัมพูชาอยู่ตลอดเวลา

ออสเตรเลีย ปล่อยให้ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเคลื่อนไหวอย่างอิสระ อาทิ นายองอาจ ธนกมลนันท์ นักจัดรายการวิทยุเสื้อแดง ฉายา “อาคม ซิดนีย์”

ส่วน ญี่ปุ่น เป็นที่พักพิงเคลื่อนไหวของ นายปวิณ ชัชวาลพงศ์พันธ์ หนี่งในนักวิชาการเสื้อแดงแนวคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันเบื้องสูง โดย นายปวิณ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น ขณะที่ แคนาดา เป็นที่หลบซ่อนของ พ.ต.อ.หญิงณหัทย ตัญญะ อดีตอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเป็นคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูง

คำถามก็คือขบวนการบ่อนทำลายเบื้องสูงเสื้อแดงเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริมและลอยนวลอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีใครบงการและให้การหนุนหลังช่วยเหลือโดยเฉพาะการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในต่างแดนและค่าใช้จ่ายต่างๆในการเคลื่อนไหว ทั้งนี้การที่ทางการไทยขอความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆซึ่งเป็นแหล่งซ่อมสุมของขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงเสื้อแดงเพื่อขอนำตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยจะเป็นบทพิสูจน์ความจริงใจของประเทศเหล่านี้ว่าเป็นมิตรที่คำนึงถึงความสัมพันธ์อันดีกับไทยหรือหน้าไหว้หลังหลอกแอบให้ท้ายขบวนการชั่วร้ายบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงและความมั่นคงของชาติไทย


by Taboolaเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ