กบนอกกะลา มานี่ มาเถียงนานี่มา

กรัชกาย
ควรจะยอมรับเสียก่อนนะครับ ว่าคุณตัดตอนคำพูดตามใจชอบ
ซึ่งเป็นการตัดตอนคำกล่าวของคุณอโศกะ

สิ่งที่คุณตัดตอนออกมาตามอำเภอใจนั้น
คุณทำเพราะอะไร ?

และ คุณก็ตัดตอนอีกเช่นกัน
"ความทะยานอยาก"
กรัชกาย ก็ตัดตอนออกมาเหลือคำว่า "อยาก" อีกเช่นกัน

นึกว่าฉลาดคิด อุตส่าห์เอามาเท่าที่กบขีดเส้นใต้ไว้แล้วนะเนี่ย

ว่าไป "ไม่คิด ไม่นึก ทะยานอยากในสิ่งใด"

อันที่จริง แค่ว่า "ไม่คิดไม่นึก" คลุมคำพูดที่ว่า คนยังมีชีวิตยังไม่ตายไม่ไม่คิดไม่นึกเนี่ย มันก็ก้อนหินแล้วนิ รึเช่นนั้นจะเถียง

อย่ารำพึงรำพันนะรำคาญ ว่าไปตรงๆเลย

ยัง....ยังไม่สำนึก...

ยังแถ...ว่า..ที่ตัวกักกายตัดตอนมา..มันคลุมความหมายหมดแล้ว...อีกรึ?

"ไม่คิดไม่นึก"..กับ..."ไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใด"..นี้นะ..เหมือนกัน?? แล้วยังจะมาพูดย้ำๆ..อีกรึว่า..ไม่คิดไม่นึกก็ก้อนหินแล้วนิ..

ถ้าหมือนกัน..กักกายจะตัดตอนทำไม...ไม่เขียนเต็มๆไปเลยละ...มันไม่ได้ยาวมากมายอะไรนี้น่า

ถ้าเหมือนกัน..งั้นกักกายก็เขียนเต็มๆไปเลยว่า..."คนที่มีชีวิตยังไม่ตายไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใดมันก็ก้อนหินแล้วนิ.."

เขียนใหม่ซิ..ถ้ากักกายว่าเหมือนกัน..

แล้ว...คนอื่นจะได้มาคุยด้วยได้ว่า..จริง..ไม่จริง..ยังงัย

ที่จริง...ชื่อกระทู้..ดี...นำเสนอทำให้ห็นภาพได้ดี..ว่า..คนหมดกิเลสแล้ว...ไม่ใช่ไม่ทำอะไร

แต่..ที่มันเสีย..ก็ตรงนิสัยกักกาย..นี้แหละ

ัตัดทอน..แล้วก็นำมาเสนอโดยไปว่าคนอื่นเขา

ทำปะจำ...ทำตลอด..ไม่ว่าจะกราฟิกการเมืองเอย...

นิสัย..พวกทำทฤษฏีสมคบคิด...มีลักษณะทำอย่างนี้แหละ..

ผมถึงว่ากักกาย..เรื่องศีล..ตลอด...ว่าคุณกักกายบกพร่องเรื่องศีล

แล้วที่ไปโพสต์..คุณสมบัติโสดาบัน..นี้...

มันจะมิเปล่าประโยชน์ดอกหรือ?..กักกาย

นี่มันก็บอกแล้วว่า "ไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใด" ไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใด (ถึงจะตัดทะยานออกไป เหลือแค่ "อยาก") เนื้อความก็ไม่เสีย

ก็จึงว่า คนมีชีวิตอยู่ไม่คิดไม่นึก มันก็ก้อนหินแล้ว จริงไม่จริง ตอบคำถามนี้ก่อน ทั้งกบและเช่นนั้น

คนมีชิีวิตจิตใจมันต้องคิดต้องนึกถูกไหม ถ้าไม่คิดไม่นึกมันก็คือสิ่งไร้ชีวิต มีก้อนหินเป็นต้นด้วยประการฉะนี้แล

เอานะจะทำตามใจ เอ้า



จริงไม่จริง รึกบจะเถียง มันต่างกันตรงไหน

ตามชื่อกระทู้....นะ..พระอรหันต์ท่านไม่คิดไม่นึกอะไรจริงหรือ ?

ตอนนี้กักกายว่าเหมือนกันกับ..ไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใด...ใช่มั้ย...

ก็จะกลายป็นว่า...."พระอรหันต์ท่านไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใดจริงหรือ?"

ก็เมื่อพระอรหันต์มีชีวิตไม่ใช่ก้อนหิน....ไหน..กักกายลองยกตัวอย่าง...ที่พระอรหันต์ท่านคิดนึกทะยานอยากในอะไรอะไรบ้าง...มาซิ?

ตย. ที่กักกายยกมา..เช่น..ท่านที่เป็นเอตทัคคะจัดสนาสนะ...ท่านคิดนึกทะยานอยากในการจัดเสนาสนะ..อย่างไร..รึ?

กบลากออกนอกเรื่อง

ที่เข้ามาค้านกันสองคนว่า ตัดคำพูดมาใช่มิใช่ ช่ายๆ รึจะเถียง ตอนนี้ลากออกนอกประเด็นที่ค้านแระ ใช่มิใช่ ช่าย

ก็บอกว่า คนมีชีวิต "ไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใด" <= (ข้อความท่านอโศก) มันก็ก้อนหินแล้ว ใช่มิใช่ ช่ายๆ แค่นี้




กบว่าท่านไม่นึกไม่คิดรึ คนไม่คิดไม่นึกมันก็ก้อนหินแล้ว นี่แหละประเด็นที่กรัชกายค้านท่านอโศก และกำลังค้านกบต่างดาว ท่านไม่คิดไม่นึกรึ ตอบสิ ตอบ คิกๆๆ

จำได้ไหม ที่ขีดเส้นใต้ ที่ให้กบ กับ เช่นนั้น ตีความคำว่า อยาก,ไม่อยาก แนวพระอรหันต์ จำได้ไหม มันมาแล้ว

ต้นเรื่อง..ที่ผม..ว่ากักกายหน้าไม่อาย..คือ...เจตนาบิดเบือนคำคนอื่น...แล้วก็ไปด่าเขา..



แต่อโสกะ..ใช้คำว่า...



กักกาย..ก็แถว่า..เพียงแค่.."ไม่คิดไม่นึก"...ก็คลุมข้อความ.. ไม่คิดไม่นึกทะยานอยากในสิ่งใด..แล้ว..



หลังๆ..กักกายพยามตีกันเชียงออก...จากประเด็นที่หลอกด่าอโสกะใว้ว่า..
................................
"คนคิดอย่างท่านอโศกมีไม่น้อย คือ คิดว่าพระอรหันต์หมดกิเลสแล้ว ไม่คิดไม่นึกอะไร ไม่ทำอะไรแล้ว เอ๊ะยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่ตาย ไม่คิดไม่นึกอะไร มันต่างจากก้อนหินตรงไหน คิกๆๆ"
..................................

โดยพยายามออกไปทาง...คน..ไม่คิดไม่นึก..แทน..



จะเห็นว่า..กักกายนอกจาก..จะตัดคำคนอื่นแล้วด่าเขาแล้ว...
ยังพยายามเบียงเบนออกนอกประเด็นที่ตัวเองทำพลาดใว้...
เรียกว่า..พยายามเล่นลิ้นด้วยภาษา...พาตัวองให้รอด...

เห็นแล้วก็รู้สึก...ขำขำ

ให้ตอบคำถาม ไม่ใช่ให้มารำพันรำพึง

ก็มันจริงมัยละ..ที่กำลังตีกันเชียง..เอาตัวรอดอยู่..

กบต่างดาว ในสมองมีอะไรมั่ง เอาออกมาโชว์หน่อยสิ

ย้ำคิดย้ำทำวนไปวนมา

คุยอะไรกันอยู่หรอคับ

คุยกับกรัชกายนักวิชาการใหญ่ให้รู้เสียบ้างว่าพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านมีปกติอยู่โดยไม่ต้องนึกต้องคิดก็ได้ สั่งให้คิดไม่ให้คิดก็ได้ ท่านอยู่กับปัจจุบันเป็นปกติ ที่ปัจจุบันมีแต่รู้ ไม่มีคิดนึก คิดนึกจะเกิดกับอดีตหรืออนาคต สิ่งเหล่านี้นักวิชาการที่ขาดการปฏิบัติจริงรองรับจะไม่รู้ ไม่เข้าใจ และทำไม่ได้