วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 20:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 14 ต.ค. 2016, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
กรัชกาย เขียน:
student เขียน:
อาจจะเป็นเพราะมาร และบาปมากขึ้นในโลกนี้
จึงมีมารมาผจญพุทธศาสนาตลอดเวลา

ในสมัยพุทธกาลก็มี
เทวทัต พยายามสร้างกฎใหม่ในวินัยสงฆ์
สุดท้ายก็แพ้ภัยตนเอง ตกนรกชั่วกาลนาน

มารมีหลายรูปแบบ มาทั้งในแบบลัทธิ อย่ากลัวมารเลยครับ



คุณ student ไม่กลัวมาร แสดงว่ามีของดีมีคาถาดีติดตัวติดใจ เล่าให้ฟังเป็นวิทยาทานวิทยาศีลสิครับ :b1:


คาถามีครับ
ง่ายๆ
นะโมตัสสะ3จบ



อ่านนี้ก่อน ยังไม่มิทันตั้งนะโมเลย หัวหลุดจากบ่ากลิ้งขลุกๆอยู่บนพื้นดิน คิกๆๆ :b32:


อ้างคำพูด:
มีเรื่องเล่าไว้ว่า เมื่อมุสลิมเตอร์กยกกองทัพมาฆ่าเผาๆนั้น พระที่อยู่ในมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาต่างๆก็หนี ที่ถูกฆ่าก็มรณะไป ที่หนีได้ก็ลงเรือไปพม่าบ้าง หนีขึ้นเหนือไปเนปาลบ้าง ไปทิเบตบ้าง ที่ทิเบตมีหลักฐานเหลืออยู่


เล่าถึงเหตุการณ์ตอนที่นาลันทา หรือมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาแถบนั้นถูกทำลาย เมื่อกองทัพมุสลิมเตอร์ก ยกเข้ามา อันแสดงถึงความเชื่อในอิทธิปาฏิหาริย์ และเวทมนตร์ว่าเป็นอย่างไร มีตัวอย่างหลักฐานค้างอยู่ที่ทิเบตเล่าว่า พระองค์หนึ่งมีเวทมนตร์คาถาขลัง และมีพัดกายสิทธิ์ ก็บอกว่า เดี๋ยวพอกองทัพมันมานะ ฉันจะใช้พัดนี้โบก กองทัพมันจะแตกกระจัดกระจาย กระเจิงไปหมด (แต่ผลที่แท้ก็คือพระเองถูกฆ่าหมด น้อยนักหนีรอดไปได้) แสดงว่า ตอนนั้น พระพุทธศาสนาเสื่อมโทรม เต็มไปด้วยความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ เวทมนตร์คาถา กลายเป็นมนตรยาน


คาถาที่ผมใช้เป็นคาถาพระรัตนตรัย
ไม่เกี่ยวกับความเป็นไปของโลกธรรม8
ไม่ต้องใช้อิทธิปาฏิหาริย์ทั้งนั้น สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
หากจะโดนฆ่า ในสมัยพุทธกาลก็มีตัวอย่าง พระโมคลา เป็นพระอรหันต์ ยังโดนรุมฆ่าตายจากคนนอกลัทธิครับ

ในทางโลกธรรม8ต้องใช้ปัญญาครับ ต่อกรกับคนนอกลัทธิ ปัญญาที่พูดคือ การที่เราไม่เป็นฝ่ายตกต่ำกว่าในโลกธรรม8


อ้างคำพูด:
ในทางโลกธรรม8ต้องใช้ปัญญาครับ ต่อกรกับคนนอกลัทธิ ปัญญาที่พูดคือ การที่เราไม่เป็นฝ่ายตกต่ำกว่าในโลกธรรม8


มีคนจะฟันคอคุณ คุณทำไง วิ่งหนี ยื่นคอให้เขาฟัน :b14:


อุปมาคำถามแบบนี้ผิดครับ
เพราะไม่ตรงกับปัจจุบันเหตุคือสภาวะที่มีคนกำลังฟันคอ
แต่ท่องคาถา นะโมตัสสะ 3จบ คุณกรัธกายไม่ศรัทธาหรือครับว่า มารผจญจะผวนทิศทางดาบโดนคอตัวนอกลัทธิเองตายก่อนเขาซะเอง

Kiss
:b32: :b32: :b32: :b32: :b32:
พระพุทธเจ้าสอนให้มีปัญญาฉลาดทั้งทางโลกและทางธรรม
คนจะฟันคอสมควรวิ่งหนีไปตั้งหลักก่อนไม่เห็นต้องคิดเยอะ
นึกดูสิกำลังเห็นเขาจะฟันต้องหลบรู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน
:b4: :b4: :b4: :b4: :b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 23 ต.ค. 2016, 05:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ดู

"ทำไมศาสนาพุทธ จึงได้เสื่อมจากเกาหลีได้"

http://pantip.com/topic/35725043


ฟังคนไทยที่ไปอยู่เกาหลีแล้วเปลี่ยนจากพุทธเป็นคริสต์ :b1:

https://www.youtube.com/watch?v=bKvXCEgyJtE

มีพูด อัตตา หิ อัตตโน นาโถ ด้วย :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 05 พ.ย. 2016, 05:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ

รึจะจริงอย่างเขาว่า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 05 พ.ย. 2016, 05:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวมุสลิมในกรุงจาการ์ตาหลายหมื่นคนประท้วงให้ผู้ว่าฯ เชื้อสายจีนลาออก หลังจากเขาวิพากษ์วิจารณ์คำสอนในคัมภีร์อัลกุรอาน

HIGHLIGHTS:

-ชาวมุสลิมหลายหมื่นคนประท้วงต่อต้านให้ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาลาออกจากตำแหน่งโดยกล่าวหาว่าเขาได้สบประมาทคำสอนของชาวมุสลิม

- ชาวมุสลิมบางกลุ่มมีกระแสต่อต้านผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมมาตั้งแต่ปี 2004

-เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลให้กับชาวจีนที่เป็นประชากรกลุ่มน้อยในประเทศอินโดนีเซีย

http://lh3.googleusercontent.com/PH5D1V ... fAvWA=s800

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 05 พ.ย. 2016, 05:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวมุสลิมหลายหมื่นคนในกรุงจาการ์ตานำโดยกลุ่ม Islamic Defenders Front (FPI) เดินขบวนประท้วงเพื่อกดดันให้ บาสุกี จาฮายา เปอร์นามา (Basuki Tjahaja Purnama) ผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาลาออก หลังจากชาวมุสลิมบางส่วน ไม่พอใจเปอร์นามาอย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่า เขาได้ดูถูกเหยียดหยามคำสอนของชาวมุสลิม ซึ่งเปอร์นามา คือผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาคนแรกที่มีเชื้อชาติจีนและนับถือศาสนาคริสต์

ทางการอินโดนีเซียใช้กองกำลังทหารและตำรวจกว่า 18,000 นาย รักษาความปลอดภัยบริเวณห้างสรรพสินค้า และพื้นที่ธุรกิจในกรุงจาการ์ตา เพื่อเตรียมรับมือกับการประท้วง ขณะที่บางบริษัทได้เตือนให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน และสถานทูตบางประเทศได้เตือนประชาชนหากจะเดินทางมากรุงจาการ์ตาในช่วงนี้

http://lh3.googleusercontent.com/4kpwsL ... WoeLY=s800

สิ่งที่นำไปสู่การประท้วงของชาวมุสลิม

บาสุกี จาฮายา เปอร์นามา เป็นผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาคนแรกที่มีเชื้อชาติจีน และนับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งเขาเตรียมจะลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการอีกสมัยในปีหน้า โดยชาวมุสลิมบางกลุ่มในกรุงจาการ์ตาออกมารณรงค์ให้ประชาชนไม่ลงคะแนนให้เปอร์นามา โดยอ้างถึงข้อความหนึ่งในคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกชาวมุสลิมบางกลุ่มแปลความหมายว่า ห้ามชาวมุสลิมอยู่ภายใต้การปกครองของคนที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม ซึ่งได้มีคนโต้แย้งว่าข้อความนี้หมายถึงช่วงสงคราม ดังนั้นจึงไม่ควรแปลข้อความนี้ตรงๆ

หลังจากชาวมุสลิมบางกลุ่มเริ่มใช้ข้อความนี้โน้มน้าวไม่ให้ชาวมุสลิมเลือกเปอร์นามาเป็นผู้ว่า
ราชการในสมัยหน้า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 เปอร์นามาได้ออกมาตอบโต้ข้อความดังกล่าวว่าเป็นสิ่งโกหก

เมื่อคำพูดนี้ของเปอร์นามาออกไปสู่สาธารณชน ก็ได้สร้างความโกรธอย่างรุนแรงให้กับชาวมุสลิม เนื่องจากชาวมุสลิมมองว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์และสบประมาทคำสอนของคัมภีร์อัลกุรอานของอิสลาม


อย่างไรก็ตาม ประเด็นเรื่องเชื้อชาติและศาสนาต่อตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงจาการ์ตาเริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 ในสมัยนั้นที่ โจโก วิโดโด ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ และเปอร์นามาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าราชการ ชาวมุสลิมบางกลุ่มนำโดยกลุ่ม Islamic Defenders Front ได้ประท้วงต่อต้านไม่ให้เปอร์นามาที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการแทน โจโก วิโดโด

http://lh3.googleusercontent.com/AlBk7r ... tORNg=s800

ความขัดแย้งระหว่างชาวจีนและชาวมุสลิมในอินโดนีเซียในปี 1998

อินโดนีเซียเคยเกิดเหตุจลาจลที่มีผลมาจากความแตกต่างทางฐานะเศรษฐกิจระหว่างชาวจีนและชาวมุสลิมในปี 1998 โดยชาวมุสลิมมองว่า ชาวจีนในอินโดนีเซียที่มีประชากรน้อยกว่ามักมีฐานะและมีการศึกษาที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม การเมืองอินโดนีเซียในสมัยนั้นยังถูกครอบงำโดยชาวมุสลิม ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ เหตุการณ์สลดในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน ความรุนแรงจากเหตุการณ์นี้ทำให้ชาวจีน เริ่มแสดงตัวตนมากขึ้น อย่างการใช้ชื่อตัวเป็นภาษาจีนได้ และเริ่มเข้ามามีบทบาททางการเมืองในตำแหน่งสำคัญๆ อย่างรัฐมนตรี และข้าราชการ

ความตึงเครียดครั้งนี้ได้สร้างความกังวลใจให้กับชาวจีนในอินโดนีเซียอีกครั้ง โดยอินโดนีเซียคือประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมมากที่สุดของโลก คิดเป็นกว่า 87% ของประชากรทั้งหมดในอินโดนีเซีย


ที่มาของข่าว

http://themomentum.co/momentum-feature- ... ja-purnama

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 05 พ.ย. 2016, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ณ สยามเมืองยิ้ม ปัจจุบันถ้ามองจากเหนือลงใต้ แล้วมองจากใต้ขึ้นไปเหนืออีก (มองให้รอบ) ก็เห็นเงาในอนาคต :b16:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 12 พ.ย. 2016, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อะไรจะเกิดขึ้นหากมุสลิมเป็นใหญ่ในประเทศไทย? ลองดูตัวอย่างมาเลเซียกัน

มาเลเซีย ช่วงสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช เคยเป็นแผ่นดินเดียวกันกับสยามประเทศ แต่ถูกนักล่าอาณานิคมเฉือนออกไปในสมัยรัตนโกสินทร์ และกลายเป็นมาเลเซีย จนกระทั่งมีประชากรมูมุสลิมประมาณ 60 % ชาวพุทธซึ่งเป็นคนอยู่ดั้งเดิมในรัฐกลันตันก็กลายเป็นชนชั้นล่าง

ถูกนโยบายของรัฐบาลอิสลามบีบบังคับ ให้ไม่สามารถขายที่ดินให้แก่คนพุทธด้วยกันได้

คนพุทธก็ไม่สามารถครอบครองที่ดินเพิ่มเติมได้ หากจะขายก็ต้องขายให้แก่มุสลิมเท่านั้น และไม่สามารถจะซื้อคืนมาได้ นอกจากจะยอมเปลี่ยนไปนับถืออิสลามเสียก่อนเท่านั้น

นี่เป็นวิธีการบีบบังคับให้คนศาสนาอื่นเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามโดยใช้อำนาจรัฐเข้าบีบบังคับ เหตุการณ์ทำนองนี้มักจะเกิดในหลายๆ ประเทศที่อิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ

ในขณะที่ไทยมีประชากรชาวพุทธมากกว่า 90 % แต่ประชากรที่นับถือศาสนาอื่นต่างก็เป็นอยู่อย่างผาสุก แม้มุสลิม ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยก็มีสิทธิเท่าเทียมกับคนไทยพุทธ จนกระทั่งสามารถเข้ารับราชการและอยู่ในตำแหน่งปกครองใหญ่ๆ และดึงพรรคพวกเข้าไปร่วมปกครองได้

ขอให้เหตุการณ์ในมาเลเซียเป็นตัวอย่างแก่ชาวพุทธ แต่อย่าให้เกิดแก่ชาวพุทธในไทยเลย

http://www.mindfulnews.net/2016/05/blog-post_25.html

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 12 พ.ย. 2016, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนชั้นใดเขียนกฎหมายก็เพื่อชนชั้นนั้น

ขณะนี้ ชนชั้นไหนกำลังเขียนกฎหมายกฎนั่นกฎนี่บังคับใช้กันอยู่ คิดสิคิด :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 พ.ย. 2016, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ว่าจาการ์ตาตกเป็นผู้ต้องสงสัยหมิ่นศาสนา

ผู้ว่าการจาการ์ตาชาวคริสต์เตรียมขึ้นศาล หลังตำรวจถือเป็นผู้ต้องสงสัยคดีหมิ่นศาสนาอย่างเป็นทางการ
เจ้าตัวลั่นไม่ถอนตัวศึกเลือกตั้งปีหน้า

http://www.komchadluek.net/news/foreign/249133

ใช้ศาสนาเตะลูกออกนอกสนาม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ธ.ค. 2016, 05:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นำภาพกว้างให้ชาวพุทธในไทยดู :b1:

..........

เรียน มุสลิมไทยทุกท่าน
+
ขอเรียนก่อนว่า ตัวผม ไม่ใช่ไม่ได้รังเกียจหรือเกลียดชังใดๆกับศาสนาของท่าน แต่ด้วยความรู้สึก, ตรรกะ ของมุสลิมไทย (จริงๆก็ทั่วโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนนะครับ) หลายๆคน ไม่ถูกจริตกับสังคมโลกในปัจจุบัน ที่เขียนมาเพราะต้องการชี้แจงเรื่องราวบางอย่าง และอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับพวกท่าน
+
หลาย Page ของมุสลิมไทย เริ่มพากันโจมตีรัฐบาลของเมียนมาร์ ด้วยความไม่รู้เกี่ยวกับการปกครอง เพราะคิดว่า เมียนมาร์ มีการใช้ทหารเหมือนอย่างประเทศอื่นๆ ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ เพราะทหาร กับ รัฐบาล แยกกันเป็นคนละเรื่อง ผู้นำสูงสุดของทหาร คือ พล.อ.อาวุโส มินอ่องไลง์ แต่ไม่มีผู้ใด รุมประณาม มินอ่องไลง์ เลยสักนิด ตรงกันข้าม ท่าน อองซานซูจี กลับถูกรุมประณามอย่างมากมายมหาศาล ซึ่งความเป็นจริงแล้ว หากทหารเป็นผู้ปราบปราม ก็ย่อมเพราะคำสั่งจากผู้บัญชาการทหาร ไม่ใช่ รัฐบาล และรัฐบาล คงไม่กล้ายุ่ง เพราะคงจะหวาดกลัวการปฏิวัติ
+
รัฐบาลของเมียนมาร์หลังยุคเอกราชก่อนที่จะถูกทหารยึดอำนาจ เป็นรัฐบาลพลเรือน และมีการปกครองกันตามชนเผ่า แต่ปี 1962 นายพล เนวิน ออกมาทำรัฐประหารเพราะเห็นว่าชนกลุ่มน้อยกำลังจะสร้างปัญหาให้กับเมียนมาร์ และมีการกำลังปราบปรามกับทุกๆชนเผ่า แม้แต่กับชนเผ่าพม่าเอง จนปัจจุบัน ที่เห็นว่าเมียนมาร์ปฏิรูปการเมือง ก็แค่ส่วนเฉพาะที่เป็นส่วนกลาง แต่ส่วนทหาร ยังเหมือนเดิม คือกุมกำลังชนกลุ่มน้อยเอาไว้ และยังมีอิทธิพลอยู่ในรัฐสภาลุดด่ออยู่พอสมควร
+
ไม่ใช่ว่าผมยอมรับการกระทำอันโหดร้ายทารุณของ Tatmadaw แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการรุมประณามแบบผิดผู้ผิดคน และความจริงอีกด้านที่นำเสนอก็คือ มุสลิม Rohingya หลายๆคน ไม่ใช่คนดี หรืออาจจะมีอยู่น้อย บางคนเข้ามาข่มเหงทารุณผู้หญิงยะไข่ เข้ามาปล้นบ้านเรือนผู้คน ซึ่งเป็นสิ่งที่สื่อตะวันตก หรือสื่อใดในโลก ไม่ได้นำเสนอ นอกจากสื่อเมียนมาร์เอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ย่อมมีคนดีคนชั่วอยู่ทุกชาติทุกชนเผ่าทุกศาสนาทุกสีผิว คนเรานอกจากความดีชั่วแล้ว ไม่มีอะไรแบ่งแยกความเป็นมนุษย์ได้ เวลานี้ ท่านอองซานซูจี คงกำลังปริวิตก ขณะที่ มินอ่องไลง์ หัวเราะอยู่ก็เป็นได้
+
ศาสนาของพวกท่าน ถือว่าเป็นศาสนาแห่งการตักเตือน แต่ที่ตักเตือน ก็เห็นมีแต่ว่า เล่นดนตรีตกนรก จัดงานเมาลิดตกนรก กินไก่ KFC ตกนรก ไปจนกระทั่งว่า แม้แต่การถวายความอาลัย ก็ยิ่งมีการ "ตักเตือน" แต่สิ่งที่แทบไม่ค่อยเห็นเลย คือการตักเตือนคนในศาสนาท่าน ซึ่งเป็นพี่น้องของท่านเอง ไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนใดๆให้กับผู้อื่น แม้เขา จะประกาศว่ามันเป็นการ Jihad ก็ตามที
+
ผมไม่ใช่คนไทย ผมแค่เป็นคนเมียนมาร์ และนับถือพระพุทธศาสนา และผมเคารพทุกศาสนา และหวังว่า พวกท่านจะเคารพ เชื้อชาติและศาสนาของพวกเราบ้าง โปรดเข้าใจว่าสังคมมนุษย์ต้องการการปรับตัว และมีกฎเกณฑ์ในแต่ละสังคม หากรับไม่ได้ ก็ควรจะแยกไปตั้งกฎเกณฑ์ ณ ที่ อื่น

http://pantip.com/topic/35884916

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ธ.ค. 2016, 10:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ติดอาวุธทางปัญญาอีก :b27:

.........

ประวัติศาสร์ชาวโรฮินจา (โรฮิงยา) ทำไมอยู่พม่าไม่ได้ มาดู [แปลจาก Wiki ต่างประเทศ]

ชาวโรฮินจาคือมุสลิมที่อาศัยอยุ่ทางตอนเหนือของยะไข่ (อาระกัน) และพูดภาษาโรฮีนจา นักวิชาการบางคนบอกว่า พวกเขาเป็นคนพื้นเมืองในยะไข่ ในขณะที่นักประวัติศาสตร์หลายคนกล่าวว่า พวกเขาเป็นผู้อพยพมาจากเบงกอล ในช่วงที่อังกฤษปกครอง และบางส่วนก็มาในช่วงที่พม่าได้รับเอกราช และช่วงสงครามกลางเมืองในบังคลาเทศ

มุสลิมได้เข้ามาอยู่อาศัยในอาระกันตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แต่จำนวนไม่สามารถระบุได้แน่ชัด หลังจากสงคราม Anglo-Burmese ในปี 1826 อังกฤษ เข้าปกครองอาระกัน และอพยพผู้คนจากเบงกอลเข้ามาใช้แรงงาน จำนวนประชากรของมุสลิมคิดเป็น 5% ของชาวอาระกันในขณะนั้น (1869) แต่หลังจากนั้นไม่นาน จำนวนประชากรโรฮิงยาได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บันทึกตามสัมโนประชากรของอังกฤษระหว่างปี 1872 และ 1991 ได้ระบุว่าจะนวนประชากรมุสลิมในยะไข่ เพิ่มขึ้นจาก 58,255 คนเป็น 178,646 คน

ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เกิดความรุนแรง ระหว่างกองกำลังมุสลิม ที่อังกฤษติดอาวุธให้ กับ กองกำลังชาวยะไข่พื้นเมือง ทำให้ความขัดแย้งเพิ่มสูงขึ้น ในปี 1982 นายพลเนวินได้ทำรัฐประหารสำเร็จ และปฏิเสธความเป็นพลเมืองพม่าของชาวโรฮินจา

อีกที่

http://pantip.com/topic/33636917

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ธ.ค. 2016, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาพสื่อคำพูดด้านบน

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ธ.ค. 2016, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝนล่องใต้

รูปภาพ

พระเมืองคอน ใจเกินร้อย เสี่ยงลุยน้ำเชี่ยวแจกถุงยังชีพ

วันที่ 4 ธันวาคม 2559 ได้มีการแชร์ภาพทางโลกโซเชี่ยล เป็นภาพพระสงฆ์พร้อมด้วยญาติโยมกำลังบรรจุข้าวสารอาหารแห้งภายในกุฎิ ของวัดแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในพื้นที่ ม.3 บ้านเหนือคลอง ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช

http://voicenakhononline.com/%E0%B8%9E% ... %E0%B8%A2/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ธ.ค. 2016, 18:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สนามบินดอนเมืองเปิดห้องละหมาดแห่งใหม่

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จัดพิธีเปิดให้บริการห้องละหมาดภายในท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ พนักงาน และประชาชนทั่วไปที่นับถือศาสนาอิสลามในการปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งมีนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เป็นประธานในพิธี

นายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับร้องเรียนจากผู้โดยสารชาวมุสลิมเป็นจำนวนมากว่า ไม่ได้รับความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจที่ห้องละหมาด เนื่องจากห้องเดิมซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 อาคารระหว่างประเทศ อาคาร 1 มีความคับแคบ และค่อนข้างไกล จึงไม่สะดวกในการไปใช้บริการ อีกทั้งยังมีบางอย่างที่ผิดหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งทาง ทดม. ก็ขอยอมรับ และขออภัยผู้โดยสารด้วย เพราะในช่วงนั้นอยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ อาคาร 2 จึงมีความจำเป็นที่ต้องให้ใช้ห้องเดิมไปก่อน

นายเพ็ชร กล่าวต่อว่า การละหมาดเป็นบทบัญญัติสำคัญที่ชาวมุสลิมต้องปฏิบัติ ทาง ทดม. เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญเรื่องดังกล่าว จึงได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่บริเวณชั้น 3 แนวทางเดินระหว่างอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 และอาคาร 2 เพื่อใช้ทำเป็นห้องละหมาด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักจุฬาราชมนตรีเป็นที่ปรึกษา และได้ทำการคำนวณหาทิศในการละหมาด กับดวงอาทิตย์ตามหลักตรีโกณมิติ และหลักภูมิศาสตร์ที่ถูกต้องสำหรับชาวมุสลิมที่จะต้องหันหน้าเข้าหาเมื่อทำการละหมาดด้วย

https://www.khaosod.co.th/wp-content/up ... 145049.jpg


ภายในห้องละหมาดได้จัดให้มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นอย่างครบถ้วน ถูกต้องตามหลักศาสนา อาทิ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ลูกศรแสดงทิศที่จะต้องหันหน้าเวลาละหมาด เก้าอี้ละหมาดสำหรับผู้สูงอายุ แท่นบรรยายพร้อมเครื่องเสียง พรมปูละหมาด ชุดสำหรับใส่ละหมาด รวมทั้งมีการแบ่งแยกห้องชาย และหญิง โดยมีห้องน้ำและพื้นที่สำหรับทำละหมาดในตัว

นอกจากนี้ยังมีบริการร้านอาหารฮาลาลอยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงด้วย อย่างไรก็ตามห้องละหมาดแห่งใหม่นี้เป็นจุดที่สะดวกต่อการเดินทางของผู้โดยสารทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00-00.30 น.

https://www.khaosod.co.th/uncategorized/news_133988#

:b13: ชาวพุทธร้องขอห้องสวดมนต์ ห้องทำสมาธิ เดินจงกรม ขณะรอขึ้นเครื่องบ้างดิ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ธ.ค. 2016, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ต่ออีก คคห.หนึ่ง



ที่เคยเล่าว่ามีคนอิสลามมาสำรวจดูหมู่บ้านม้งตอนพระบิณฑบาต

จริงๆแล้วมีข้อมูล คือ เขามาสำรวจดูว่าบ้านไหนใส่บาตรเขาจะยื่น


ข้อเสนอเพื่อให้เลิกใส่เพื่อให้พระอยู่ไม่ได้. เช่นกับยายที่พาหลานมาใส่บาตร เขาเห็นว่ามีเด็กด้วยกลัวเด็กจะซึมซับ เห็นแล้วสงสารยาย บางวัน แกยังอุส่าห์มาแอบดักใส่บาตร

ชาวเขามีประเพณีวัฒนธรรมเป็นของตัวเองทุกคนที่เกิดก็ซึมซับในประเพณีวัฒนธรรม

โดยเฉพาะด้านความเชื่อ ถึงบางคนนับถือพุทธก็จริง แต่ยังขาดความเข้าใจประเพณีพุทธ เพราะไม่ได้ปลุกฝังมาแต่บรรพบุรุษ ซึ่งต่างจากชาวคริสต์ในสกลนคร ถึงจะนับถือคริสต์ก็จริง แต่พวกเขานับถือพุทธมาก่อน คุ้นเคยกับประเพณีพุทธมาตั่งแต่บรรพบุรุษ แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นคริสต์ภายหลัง เมื่อเปลี่ยนมานับถือคริสต์ก็จริง สิ่งที่ถูกฝัง สิ่งที่คุ้นเคยก็ยังอยู่ จึงไม่แปลกที่พวกเขายังมาใส่บาตร หรือบางคนที่ใส่บาตรมีญาติพี่น้องที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นคริสต์มาบวชอยู่ก็มี

ที่มหาลัยสงฆ์ ก็มีพระเพื่อนที่มาจากสกลนครก็เล่าให้ฟัง เขามาบวชแต่ญาติทางบ้านเปลี่ยนไปนับถือคริสต์แต่ก็ยังใส่บาตรอยู่ และที่สำคัญคือชาวคริสต์ในสกลนครนั้นถูกซื้อตัวไป เรื่องการปฏิบัติจึงไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่

แต่อย่าลืมว่า อิสลามไม่เหมือนคริสต์นะ คริสต์ยังเข้ากันได้ แต่อิสลามเขาไม่เอาใครนะ

viewtopic.php?f=1&t=49704&start=60



ทวนแง่คิดของพระภิกษุที่อ้างข้างต้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 97 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร