วันเวลาปัจจุบัน 27 ก.ค. 2025, 14:52  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 280 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 05 ต.ค. 2016, 17:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
กรัชกายเอาดีอะไรได้แล้วบ้างล่ะเล่าให้ฟังหน่อยสิ
ทำอะไรมา ไปถึงไหน ได้อะไรมาบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอัน
เป็นที่มั่นใจว่าไม่หลงทำกาลกิริยาตายแล้วไปอบายภูมิ
s006



ตายก็เผา ไม่มีใครเผาคนอยู่ก็เหม็นเองเออ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 07 ต.ค. 2016, 19:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทางไปของสัตว์โลก_resize_resize.jpg
ทางไปของสัตว์โลก_resize_resize.jpg [ 38.02 KiB | เปิดดู 2163 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
กรัชกายเอาดีอะไรได้แล้วบ้างล่ะเล่าให้ฟังหน่อยสิ
ทำอะไรมา ไปถึงไหน ได้อะไรมาบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอัน
เป็นที่มั่นใจว่าไม่หลงทำกาลกิริยาตายแล้วไปอบายภูมิ
s006



ตายก็เผา ไม่มีใครเผาคนอยู่ก็เหม็นเองเออ :b32:

s004
ได้อยู่แค่นี้ละน่ะ อุตส่าห์ ลอกคัมภีร์มาสอนคนตั้งนาน ทำได้แค่เนี้ยะ
อนิจจา นักวิชาการใหญ่ มองไม่เห็นทางไปของชาวพุทธ
:b7:
โพสต์ เมื่อ: 07 ต.ค. 2016, 21:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
กรัชกายเอาดีอะไรได้แล้วบ้างล่ะเล่าให้ฟังหน่อยสิ
ทำอะไรมา ไปถึงไหน ได้อะไรมาบ้างที่เป็นชิ้นเป็นอัน
เป็นที่มั่นใจว่าไม่หลงทำกาลกิริยาตายแล้วไปอบายภูมิ
s006



ตายก็เผา ไม่มีใครเผาคนอยู่ก็เหม็นเองเออ :b32:

s004
ได้อยู่แค่นี้ละน่ะ อุตส่าห์ ลอกคัมภีร์มาสอนคนตั้งนาน ทำได้แค่เนี้ยะ
อนิจจา นักวิชาการใหญ่ มองไม่เห็นทางไปของชาวพุทธ
:b7:



่ที่พูดนั่นผิดตรงไหน คือชาวพุทธบ้านเราเมื่อมีคนในบ้านตายแล้วก็ตั้งศพสวดอภิธรรม กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อพยากตา ธัมมา ....

https://www.youtube.com/watch?v=qfik0aMVeVM

3 คืนบ้าง 5 คืนบ้าง แล้วแต่ เผาแล้วเหลืออัฐิห่อหนึ่ง :b1: ท่านอโศกไม่เคยไปงานศพใครหรือขอรับ คนไม่เอาเพื่อนบ้านก็งี้แหละไม่เข้าใจธรรมเนียมประเพณี :b32: แต่ก็มีนะที่บริจาคร่างให้ รพ.เป็นอาจารย์ใหญ่

ถ้าเชื้อสายจีนด้วยตายแล้วสวดกงเต็กเพิ่มให้ ถ้าเป็นบรรพบุรุษก็นำไปฝังยังสุสานๆ จ.ชลบุรีเยอะเลย ท่านอโศกไม่เคยเห็นหรือไง แต่คนรุ่นใหม่นี่สวดแล้วเผากันหมดแล้วขอรับประหยัดกว่าฝัง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 08:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทางไปของสัตว์โลก_resize_resize.jpg
ทางไปของสัตว์โลก_resize_resize.jpg [ 38.02 KiB | เปิดดู 2154 ครั้ง ]
:b13:
ได้อยู่ ติดอยู่แค่ประเพณี พิธีกรรม เท่านี้หรือครับกรัชกาย
เสียดายที่คลุกคลีอยู่กับตำราพุทธศาสนามาเนิ่นนาน

รูปที่แนบมาให้ดูหมั่นสังเกต พิจารณาหน่อย จะได้รู้ว่า ทางไปของสัตว์โลก สัตว์โลกในที่นี้รวมถึงกรัชกายและมนุษย์ทุกคนด้วยนะ ทางไปของสัตว์โลกมีตั้ง 5 ทาง

ผู้ติดอยู่ในประเพณีพิธีกรรมนี่จัดอยู่ในกลุ่มพวกที่กำลังทำกึ่งๆกลางระหว่างทางบาปอกุศลกับทางสายบุญกุศล ซึ่งมี
อบายภูมิ มนุษย์ภูมิและเทวดาภูมิเป็นที่ไป ยังไม่ถือว่าเป็นชาวพุทธเพราะยังไม่ได้ตั้งใจเดินตามรอยเท้ารอยบาทของพระพุทธเจ้า
onion
โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 12:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b13:
ได้อยู่ ติดอยู่แค่ประเพณี พิธีกรรม เท่านี้หรือครับกรัชกาย
เสียดายที่คลุกคลีอยู่กับตำราพุทธศาสนามาเนิ่นนาน

รูปที่แนบมาให้ดูหมั่นสังเกต พิจารณาหน่อย จะได้รู้ว่า ทางไปของสัตว์โลก สัตว์โลกในที่นี้รวมถึงกรัชกายและมนุษย์ทุกคนด้วยนะ ทางไปของสัตว์โลกมีตั้ง 5 ทาง

ผู้ติดอยู่ในประเพณีพิธีกรรมนี่จัดอยู่ในกลุ่มพวกที่กำลังทำกึ่งๆกลางระหว่างทางบาปอกุศลกับทางสายบุญกุศล ซึ่งมี
อบายภูมิ มนุษย์ภูมิและเทวดาภูมิเป็นที่ไป ยังไม่ถือว่าเป็นชาวพุทธเพราะยังไม่ได้ตั้งใจเดินตามรอยเท้ารอยบาทของพระพุทธเจ้า
onion


ถ้าท่านอโศกตายจะเผาหรือฝัง หรือจะทำแบบประเพณีชนทิเบต ตายแล้วเอาไปสับๆให้แร้งกิน :b32:

https://www.dek-d.com/board/view/1496215/

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 19:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ทาง 5 เส้น_resize.jpg
ทาง 5 เส้น_resize.jpg [ 45.59 KiB | เปิดดู 2141 ครั้ง ]
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b13:
ได้อยู่ ติดอยู่แค่ประเพณี พิธีกรรม เท่านี้หรือครับกรัชกาย
เสียดายที่คลุกคลีอยู่กับตำราพุทธศาสนามาเนิ่นนาน

รูปที่แนบมาให้ดูหมั่นสังเกต พิจารณาหน่อย จะได้รู้ว่า ทางไปของสัตว์โลก สัตว์โลกในที่นี้รวมถึงกรัชกายและมนุษย์ทุกคนด้วยนะ ทางไปของสัตว์โลกมีตั้ง 5 ทาง

ผู้ติดอยู่ในประเพณีพิธีกรรมนี่จัดอยู่ในกลุ่มพวกที่กำลังทำกึ่งๆกลางระหว่างทางบาปอกุศลกับทางสายบุญกุศล ซึ่งมี
อบายภูมิ มนุษย์ภูมิและเทวดาภูมิเป็นที่ไป ยังไม่ถือว่าเป็นชาวพุทธเพราะยังไม่ได้ตั้งใจเดินตามรอยเท้ารอยบาทของพระพุทธเจ้า
onion


ถ้าท่านอโศกตายจะเผาหรือฝัง หรือจะทำแบบประเพณีชนทิเบต ตายแล้วเอาไปสับๆให้แร้งกิน :b32:
:b12:
ผมขอเป็นครู แม้ตัวตาย
สมัครเป็นอาจารย์ใหญ่ เมื่อวายชนม์
ไม่อาลัยใยดี ในชีวิต
ยอมอุทิศเรือนร่าง สร้างกุศล
เป็นแบบอย่างแก่หลานลูก ทุกๆคน
เมื่อวายชนม์ สร้างคุณค่า อย่าทิ้งดาย

กรัชกายยังอาลัย คราบเน่าหรือ
จึงจะถือตามประเพณี ให้ปี้ป่น
ทั้งสูญทรัพย์ เสียเวลาเพื่อนหมู่ชน
เพราะยังมีตัวตน ให้ยึดครอง

จงสละและทำลาย ใจเห็นผิด
จงหยุดคิด แล้วเร่งทำ มหากุศล
บำเพ็ญเพียรวิปัสสนา ชำระตน
ให้หลุดพ้นวงวัฏฏะ อวิชชา


https://www.dek-d.com/board/view/1496215/


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 08 ต.ค. 2016, 19:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 19:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b13:
ได้อยู่ ติดอยู่แค่ประเพณี พิธีกรรม เท่านี้หรือครับกรัชกาย
เสียดายที่คลุกคลีอยู่กับตำราพุทธศาสนามาเนิ่นนาน

รูปที่แนบมาให้ดูหมั่นสังเกต พิจารณาหน่อย จะได้รู้ว่า ทางไปของสัตว์โลก สัตว์โลกในที่นี้รวมถึงกรัชกายและมนุษย์ทุกคนด้วยนะ ทางไปของสัตว์โลกมีตั้ง 5 ทาง

ผู้ติดอยู่ในประเพณีพิธีกรรมนี่จัดอยู่ในกลุ่มพวกที่กำลังทำกึ่งๆกลางระหว่างทางบาปอกุศลกับทางสายบุญกุศล ซึ่งมี
อบายภูมิ มนุษย์ภูมิและเทวดาภูมิเป็นที่ไป ยังไม่ถือว่าเป็นชาวพุทธเพราะยังไม่ได้ตั้งใจเดินตามรอยเท้ารอยบาทของพระพุทธเจ้า


ถ้าท่านอโศกตายจะเผาหรือฝัง หรือจะทำแบบประเพณีชนทิเบต ตายแล้วเอาไปสับๆให้แร้งกิน :b32:

ผมขอเป็นครู แม้ตัวตาย
สมัครเป็นอาจารย์ใหญ่ เมื่อวายชนม์
ไม่อาลัยใยดี ในชีวิต
ยอมอุทิศเรือนร่าง สร้างกุศล
เป็นแบบอย่างแก่หลานลูก ทุกๆคน
เมื่อวายชนม์ สร้างคุณค่า อย่าทิ้งดาย

กรัชกายยังอาลัย คราบเน่าหรือ
จึงจะถือตามประเพณี ให้ปี้ป่น
ทั้งสูญทรัพย์ เสียเวลาเพื่อนหมู่ชน
เพราะยังมีตัวตน ให้ยึดครอง

จงสละและทำลาย ใจเห็นผิด
จงหยุดคิด แล้วเร่งทำ มหากุศล
บำเพ็ญเพียรวิปัสสนา ชำระตน
ให้หลุดพ้นวงวัฏฏะ อวิชชา

https://www.dek-d.com/board/view/1496215/


แนะๆร่ายเป็นกลอนเป็นขื่อมาเชียร์ อิอิ :b32:

อวิชชาอะไร?

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 19:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




เหตุ ปัจจัย นิพพาน_82kb_resize.jpg
เหตุ ปัจจัย นิพพาน_82kb_resize.jpg [ 35.2 KiB | เปิดดู 2137 ครั้ง ]
:b51:
ความเห็นผิด ยึดผิด ว่า รูป นาม กาย ใจ นี้ เป็นอัตตา ตัวกู ของกูนั่นแหละเป็นรากเหง้าของอวิชชาจริงๆ
onion
โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 19:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b51:
ความเห็นผิด ยึดผิด ว่า รูป นาม กาย ใจ นี้ เป็นอัตตา ตัวกู ของกูนั่นแหละเป็นรากเหง้าของอวิชชาจริงๆ


อวิชชา คือ ความไม่รู้ในอริยสัจจ 4 :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 20:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b51:
ความเห็นผิด ยึดผิด ว่า รูป นาม กาย ใจ นี้ เป็นอัตตา ตัวกู ของกูนั่นแหละเป็นรากเหง้าของอวิชชาจริงๆ


อวิชชา คือ ความไม่รู้ในอริยสัจจ 4 :b1:

Kiss
นั่นคือตอบตามตำรา
:b19:
ถามว่า....ประเด็นสำคัญและเป็นงานหลักของอริยสัจ 4 คืออะไร? กรัชกาย
s006


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b51:
ความเห็นผิด ยึดผิด ว่า รูป นาม กาย ใจ นี้ เป็นอัตตา ตัวกู ของกูนั่นแหละเป็นรากเหง้าของอวิชชาจริงๆ


อวิชชา คือ ความไม่รู้ในอริยสัจจ 4 :b1:

Kiss
นั่นคือตอบตามตำรา
:b19:
ถามว่า....ประเด็นสำคัญและเป็นงานหลักของอริยสัจ 4 คืออะไร? กรัชกาย


งานหลักก็ คือทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา= วิธีปฏิบัติ,ข้อปฏิบัติ,ลงมือทำให้ถึงความดับทุกข์ไง

ทำๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลงมือทำ นี่แหละงานหลักของมรรค (เรียกสั้นๆ)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 20:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b51:
ความเห็นผิด ยึดผิด ว่า รูป นาม กาย ใจ นี้ เป็นอัตตา ตัวกู ของกูนั่นแหละเป็นรากเหง้าของอวิชชาจริงๆ
onion


ถูกอยู่บ้าง...แต่ไม่ถูกทั้งหมด..คับ..

ไม่ถูก..ตรงที่ว่า..เป็นรากเหง้าของอวิชชา...นี้แหละคับ..

เพราะถ้า..เป็นรากเหง้าจริง...อวิชชามันคงไม่ทำให้คนบางคนคิดฆ่าตัวตายหรอกนะคับ...

คนที่คิดฆ่าตัวตาย...ลึกๆ..ใจมันทราบนะคับว่า..จะได้ไปเกิดใหม่..ได้ตัวตนใหม่...
ที่เขาคิดกำจัดตัวตนอันปัจจุบันนี้..ก็เพราะ...เขาเห็นว่า..ตัวตนอันนี้มีแต่ทำให้เขาทุกข์ที่ไม่อาจพ้นไปได้...หมดหนทางที่จะทำให้เขาพบความสุขได้ด้วยอัตภาพนี้..
...

รากเหง้าของอวิชชา..จริง.ๆ..คือ...คิดว่า..อัตตาตัวตน...นี้...นำพาความสุขมาให้...เป็นบ่อเกิดแห่งความสุข...อวิชชาจึงปรารถณามีอัตตาตัวตน..นี้..รักที่จะมีตัวตน..ไม่เคยเปลี่ยนใจ....

การภาวนา...จึงมุ่งไปที่...แก้ความเข้าใจผิดของอวิชชา..ตรงนี้...โดยการชี้ให้ใจเห็น..ว่าการมีอัตตาตัวตน..มันไม่ได้มีความสุขจริง...
นี้แหละ...
ทุกข์จึงต้องกำหนดรู้...เข้าอิรยะสัจข้อที่ 1


โพสต์ เมื่อ: 08 ต.ค. 2016, 21:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b51:
ความเห็นผิด ยึดผิด ว่า รูป นาม กาย ใจ นี้ เป็นอัตตา ตัวกู ของกูนั่นแหละเป็นรากเหง้าของอวิชชาจริงๆ
onion


ท่านอโศกตอบชัดๆนะเอาให้ชัดแจ๋วเลยนะ :b1:

ผู้ถามนี่ยึดผิดว่า รูปนาม กายใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกูไหม เป็นอวิชชาไหม (คำเตือนระวังจะถูกฟาดด้วยหางกะเบน) :b1:

ตอบดิเอ้า

สอบถามผู้รู้ค่ะ เสียงแว่วจากในหัว

มีใครพออธิบายสาเหตุของอาการที่ดิฉันเป็นได้บ้างคะ ดิฉันมักจะได้ยินเสียงพระสวดเกือบตลอดเวลาเป็นร้อยๆรูปกัณฑ์ใหญ่ หรือบางทีก็เปลี่ยนเป็นเสียงดนตรีบรรเลงโหมโรงแบบไพเราะมากดังก้องเหมือนกำลังจะมีพิธีใหญ่อะไรสักอย่าง และสลับกับเสียงดังกังวานทั่วบ้าน เป็นเสียง ผญ และ ผช ลักษณะเป็นกลุ่มมากกว่าสองคน กำลังคุยกันเหมือนประชุมอยู่ตลอด แต่ฟังไมชัดเจนเนื่องจากเสียงพึมพำมาก ดิฉันจะได้ยินเสียงเหล่านี้อยู่ตลอดเวลาจนเริ่มชินกับเสียงเหล่านี้จนคิดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่บางทีเสียงก็ดังชัดแบบแปลกกว่าทุกทีที่เคยขึ้นมาเฉยๆทำให้ดิฉันรู้สึกเหมือน ตัวเองผิดปกติหรือป่าวหรือกำลังป่วยเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับโสตการรับฟังของตัวเองอยู่รึป่าว เลยอยากขอคำแนะนำเพื่อประกอบการพิจารณาในการปฎิบัติตัวที่เหมาะสมต่อไปค่ะ


เบื้องต้นดิฉันได้มีการปฎิบัติสวดมนต์ นั่งสมาธิ เป็นประจำทุกวันมาพักใหญ่แล้วนะคะ แต่เสียงที่ว่ากลับยิ่งเพิ่มความถี่ขึ้นตลอดเวลา ไม่มีช่วงที่หายไปเลย ดังตลอดในชีวิตประจำวัน ตลอดจนถึงเวลานั่งสมาธิ ก็ยังได้ยินเช่นเดิม สลับกันไปมาตลอด

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
เป็นวิบากคล้ายคนที่ชอบฟังเพลงหรือฟังรายการต่างๆด้วยการกรอกเข้าไปในหูผ่านหูฟัง ทำเป็นอาจินจนเหมือนไม่ปล่อยให้หูได้ว่างจนเกิดอาการคล้ายได้กสิณเสียง หลังจากนั้นเวลาอยู่เปล่าๆไม่มีอะไรก็เกิดเสียงแว่วในหูไปตามอุปาทานหรือสิ่งที่จิตตนผูกยึดปรุงแต่งไว้

อาการหูแว่วนี้เกิดได้ทั้งก่อนมีสมาธิหรือหลังจากจิตเริ่มมีสมาธิจัดเป็นอุปาทานและนิมิตชนิดหนึ่ง

วิธีแก้ไข
1.กลบบังด้วยคำบริกรรมใหม่ๆ เช่น ท่องพุทโธ หรือ อนัตตา ถี่ๆตามลมหายใจเข้าออกให้คำบริกรรม เสียงบริกรรมแทนเสียงที่หูแว่ว เป็นการตัดกระแสเสียงแว่ว

2.ท่องคาถาปลุกพระหรือหัวใจคาถาต่างๆเช่นหัวใจอิติปิโส หัวใจพระเจ้าสิบชาติ โดยท่องเป็นคาบๆจนจิตรวมเป็นสมาธิลืมเรื่องหูแว่ว

3.เมื่อเบรคเสียงหูแว่วได้แล้วด้วยวิธีที่ 1 และ 2 ให้ชนตรงกับอาการหูแว่วโดย นิ่งรู้นิ่งสังเกตอาการหูแว่วนั้นจนมันดับไปหรือเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา นี่เป็นวิธีการขุดถอนอุปาทานที่ฝังลึกออกโดยตรง อย่าใจร้อน มีกำลังสติสัมปชัญญะตั้งมั่นกลับคืนมาก็เอาวิธีที่ 3 นี้ไปใช้บ่อยๆ
สิ่งสำคัญคือต้องคอยสังเกตอาการหูแว่วและอารมณ์ย่อยที่เกิดต่อจากอาการหูแว่วให้ทันปัจจุบันทุกอารมณ์ อย่าให้คลาดสายตาเก็บรายละเอียดให้หมดอย่าให้เหลือ ไม่ช้าก็จะข้ามอุปาทานตัวนี้ไปสู่แดนสงบ

อาการหูแว่วนี้จัดอยู่ในกลุ่มของอุทธัจจะนิวรณ์+วิจิกิจฉานิวรณ์
onion
ส่วนคำเตือนที่ว่าจะฟาดด้วยหางกระเบนนั้น เป็นคำพูดของคนลืมตัวไร้สัมมาคารวะ จะถามธรรมกลับถามด้วยความหยิ่งยะโสนึกว่าตนเองเป็นครูอาจารย์จะตีลูกศิษย์ที่ทำผิด ไม่พึงกระทำ จะเป็นกรรมหนักปิดกั้นมรรค ผล นิพพาน และความเจริญก้าวหน้าในธรรมของตนเองนะกรัชกาย อย่าทำอีก ไม่สมควร
onion


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 09 ต.ค. 2016, 18:48, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสต์ เมื่อ: 09 ต.ค. 2016, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
เป็นวิบากคล้ายคนที่ชอบฟังเพลงหรือฟังรายการต่างๆด้วยการกรอกเข้าไปในหูผ่านหูฟัง ทำเป็นอาจินจนเหมือนไม่ปล่อยให้หูได้ว่างจนเกิดอาการคล้ายได้กสิณเสียง หลังจากนั้นเวลาอยู่เปล่าๆไม่มีอะไรก็เกิดเสียงแว่วในหูไปตามอุปาทานหรือสิ่งที่จิตตนผูกยึดปรุงแต่งไว้

อาการหูแว่วนี้เกิดได้ทั้งก่อนมีสมาธิหรือหลังจากจิตเริ่มมีสมาธิจัดเป็นอุปาทานและนิมิตชนิดหนึ่ง

วิธีแก้ไข
1.กลบบังด้วยคำบริกรรมใหม่ๆ เช่น ท่องพุทโธ หรือ อนัตตา ถี่ๆตามลมหายใจเข้าออกให้คำบริกรรม เสียงบริกรรมแทนเสียงที่หูแว่ว เป็นการตัดกระแสเสียงแว่ว

2.ท่องคาถาปลุกพระหรือหัวใจคาถาต่างๆเช่นหัวใจอิติปิโส หัวใจพระเจ้าสิบชาติ โดยท่องเป็นคาบๆจนจิตรวมเป็นสมาธิลืมเรื่องหูแว่ว

3.เมื่อเบรคเสียงหูแว่วได้แล้วด้วยวิธีที่ 1 และ 2 ให้ชนตรงกับอาการหูแว่วโดย นิ่งรู้นิ่งสังเกตอาการหูแว่วนั้นจนมันดับไปหรือเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา นี่เป็นวิธีการขุดถอนอุปาทานที่ฝังลึกออกโดยตรง อย่าใจร้อน มีกำลังสติสัมปชัญญะตั้งมั่นกลับคืนมาก็เอาวิธีที่ 3 นี้ไปใช้บ่อยๆ
สิ่งสำคัญคือต้องคอยสังเกตอาการหูแว่วและอารมณ์ย่อยที่เกิดต่อจากอาการหูแว่วให้ทันปัจจุบันทุกอารมณ์ อย่าให้คลาดสายตาเก็บรายละเอียดให้หมดอย่าให้เหลือ ไม่ช้าก็จะข้ามอุปาทานตัวนี้ไปสู่แดนสงบ

อาการหูแว่วนี้จัดอยู่ในกลุ่มของอุทธัจจะนิวรณ์+วิจิกิจฉานิวรณ์
onion


ตอบไม่ตรงคำถาม โจทก์ถามว่า

ท่านอโศกตอบชัดๆนะเอาให้ชัดแจ๋วเลยนะ :b1:

ผู้ถามนี่ยึดผิดว่า รูปนาม กายใจ นี้เป็นอัตตา ตัวกูไหม เป็นอวิชชาไหม (คำเตือนระวังจะถูกฟาดด้วยหางกะเบน)



เด๋วก็ตีด้วยไม้หน้าสาม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 280 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร