ถามเป็นร้อยหนแล้วว่าผิดข้อไหน

บอกให้ไปศึกษาๆๆๆ ให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่มั่วซั่ว กายอายแทนจริงๆ

จงกรม เดินไปมาโดยมีสติกำกับ




นี่ก็กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน หรือคุณ student ว่าไม่จริง ว่าไม่จริงก็ว่ามา กบนอกกะลาด้วย ว่ามา ช่วยๆกันสองคนเพื่อนตาย

เหตุผลแต่ละคนต่างๆกันไป ไม่เหมือนกัล


นี่ถูกแฟนบังคับ


แฟนเป็นคนที่เสเพลมาก กินเหล้า แบบว่าไม่ได้เรื่องน่ะค่ะ

แต่มีหมอดูหลายท่านทักว่าถ้าแฟนได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต

ตอนแรกดิฉันคบกับแฟนก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่ามีหมอดูเคยทักไว้กับพ่อแม่แฟน

ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญทำทาน นั่งสมาธิและสวดมนต์ แฟนก็ทำตามดิฉันเพราะดิฉันบังคับแรกๆเมื่อไม่กี่วันนี้พาแฟนไปนั่งสมาธิมา (แบบยุบหนอพองหนอ) แค่ไม่กี่ชั่วโมง แฟนดิฉันก็ผิดปกติไปค่ะ

เค้าตื่นมาจากสมาธิ เค้าถามดิฉันว่า รู้สึกถึงลมหายใจที่ชัดเห็นเค้ารู้สึกว่าส่วนท้องเค้ามันยุบลงไปแค่ไหนอย่างไรเวลาหายใจเข้าออก เวลาเดินจงกรม เค้ารู้สึกถึงเท้าที่ย่ำลงพื้นว่าส่วนไหนที่กระทบพื้นชัดเจน

เค้าถามดิฉันว่ามันคืออะไร ดิฉันได้แต่นั่ง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ

กลับมาจากวัดเค้าพูดว่า เค้าสดชื่น จับพวงมาลัยรถรู้ว่า มือเค้าจับพวงมาลัย รู้สึกชัดเจนมากๆ มีสติ
เค้าบอกเค้าเข้าใจถึงคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานว่ามันมีจริงๆ เหมือนคนใส่เเว่นมัวๆมาแล้วเช็ดจนมันใสชัดเจน

เค้าพูดแต่เรื่องนั่งสมาธิ กลับมาเค้าไม่ดื่มเหล้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยิ้ม ใจเย็นและดูจะอิ่มบุญมากมาหลายวันแล้วค่ะ

ดิฉันดีใจค่ะที่เค้าเป็นแบบนี้ เค้าบอกเค้ากลัวที่ไปสูบบุหรี่ หรือ กินเหล้าอีกความรู้สึกแบบนี้จะหายไป
เค้ากำลังเข้าถึงสมาธิใช่ไหมคะ ดิฉันจะพาเค้าไปนั่งบ่อยๆเค้าจะได้เป็นคนดี

ดิฉันอยากนั่งได้แบบเค้าจังเลยค่ะ ทำมาตั้งนานก็ยังไม่เป็นเหมือนเค้า เค้านั่งแป๊บเดียวเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ด้วย

มันน่าน้อยใจนัก!!

กักกายถือศีล..กี่ข้อ..จะได้บอกข้อถูก..

สติ คือ ความระลึกได้ มีความหมายถึงธรรมที่อยู่ตรงหน้า
หรือปัจจุบันอารมณ์

คุณกรัธกายอ่านพระไตรปิฎก คงจะนึกภาพออกกับพุทธดำริว่า" ภิกษุในธรรมวินัยนี้"
นั่นก็หมายถึง ผู้ที่เขื่อและศรัทธาต่อคำสอน
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทุกข์ นั่นคือเวลาจะกล่าวถึงพระธรรมต่างๆก็จะเป็นเรื่องของทุกข์
คุณกรัธกายว่าจริงก็จริงครับ เพราะในที่นี้คงจะกล่าวถึงผู้ศรัทธาต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า
ยกเว้นว่าเป็นลัทธิอื่นก็ไม่เรียกว่า กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน

ก็ถามว่าผิดข้อไหน เห็นพูดตลอดว่าผิดศีลๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ

ถามอย่างตอบอย่าง ถามว่าเป็นกายานุปัสสนาไหม เป็น ไม่เป็น

เป็นปัจจุบันอารมณ์ครับ มีสติ เขาละอดีตและอนาคตในช่วงเวลานั้น ทำให้เกิดเป็นสุขสงบ

อะไรล่ะครับที่ทำให้ผู้ปฎิบัติเข้าไปศึกษาพิจารณาสติปัฎฐาน4ตั้งแต่แรก

คุณstudentต้องตั้งสติดีๆนะครับ

คุณถาม



กรัชกายก็ยกตัวอย่างนั่นมาแล้วบอกว่าเคสนี้เขาถูกแฟนบังคับ

คุณก็ว่า เขาละอดีตอนาคต....

กรัชกายจะถามต่อนะ อดีต อนาคต ถามที่คุณพูดนั่นแค่ไหนอดีตแค่ไหนอนาคต

บอกว่าผิดศีล....เพราะศีลของผมหมายถึง..ความเป็นปกติของใจ..

หากกักกาย..ถามว่าผิดศีลข้อไหน...แสดงว่า..กักกายถือศีลเป็นข้อๆ...

จึงถามกักกายว่า..กักกายถือศีลกี่ข้อ.?.5.. 8...10... 227...311..

จักได้บอกข้อถูก...

กักกายถือศีลกี่ข้อ?..

ปกติของใจ ยังไงล่ะปกติของใจ พูดให้เห็นภาพสิปกติของใจ

พูดแล้วต้องรู้เข้าใจความหมายนะ ไม่ใช่พูดเรื่อยเปื่อย

กรณีนี้นะ ละอดีต อนาคต ....

อดีต อนาคต ตามที่studentว่าเนื่ย นับเวลาจากไหนถึงไหนเรียกว่าอดีต จากไหนถึงไหนเรียกอนาคต

ธรรมที่ล่วงมาแล้วเรียกอดีตครับ

ธรรมที่ยังไม่ปรากฎเรียกอนาคต

แล้วมันเกี่ยวกับภาคปฏิบัติที่นำมายังไง จึงว่าละอดีตอนาคต

สติ คือ ความระลึกได้ มีความหมายถึงธรรมที่อยู่ตรงหน้า
หรือปัจจุบันอารมณ์

คุณกรัธกายอ่านพระไตรปิฎก คงจะนึกภาพออกกับพุทธดำริว่า" ภิกษุในธรรมวินัยนี้"
นั่นก็หมายถึง ผู้ที่เขื่อและศรัทธาต่อคำสอน
พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทุกข์ นั่นคือเวลาจะกล่าวถึงพระธรรมต่างๆก็จะเป็นเรื่องของทุกข์
คุณกรัธกายว่าจริงก็จริงครับ เพราะในที่นี้คงจะกล่าวถึงผู้ศรัทธาต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า
ยกเว้นว่าเป็นลัทธิอื่นก็ไม่เรียกว่า กายานุปัสสนาสติปัฎฐาน