วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 00:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ย. 2016, 07:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


“ 'เหตุ' คือ การประพฤติปฏิบัติสมถกรรมฐาน
วิปัสสนากรรมฐาน เดินยืนนั่ง พิจารณา
ธาตุขันธ์น้อมลงสู่ไตรลักษณ์เห็นแจ้ง
ประจักษ์อย่างนั้น
นี่เรียกว่า การประกอบเหตุดี
'ปัจจัย' ได้แก่บุญกุศลแต่ชาติปางก่อนโน้น
ถ้ามันสมดุลกันแล้วก็ไปได้ บุญกุศลนั้น
จะเป็นเครื่องตัดกระแสของสงสารไปได้
ถ้าปัจจัยเต็มแล้ว แต่ขาดเหตุ ก็ไปไม่ได้
หรือว่า เหตุพร้อมแล้ว แต่ขาดปัจจัย ก็ไปไม่ได้
เช่นกัน ฉะนั้น มันต้องพร้อมมูลทั้งสองอย่าง
มันจึงจะไปได้ นั่นแหละไม่ต้องสงสัย
แต่ถึงจะไปได้หรือไม่ได้ก็ตามที
ก็อย่าได้หวั่นไหวในการประพฤติปฏิบัติ
ศาสนธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า
ไม่ว่าจะทำน้อยหรือมากก็เป็นบุญ
เป็นกุศลเป็นนิสัยเป็นปัจจัยทั้งนั้น ”
(โอวาทธรรมหลวงปู่จันทา ถาวโร)




"ต้นลำไยต้นหนึ่งอยู่ที่หน้าบ้านของเรา เราก็ว่าเป็นของเรา

ไปดูอยู่ทุกวัน เดินไปเดินมาก็ว่านี่ต้นลำไยของเรา

ทีนี้อีกต้นหนึ่งอยู่หน้าบ้านคนอื่น เราก็ไม่ได้นึกว่าเป็นของเรา

มาวันหนึ่งมีคนมาตัดต้นลำไยที่หน้าบ้านของเรา

เราก็เป็นทุกข์หลาย เพราะมันตัดของเรา

อีกวันหนึ่งเขามาตัดต้นลำไยต้นอื่น หน้าบ้านคนอื่น

เราก็ไม่เป็นทุกข์ แค่นี้แหละมันทำให้สุขทุกข์เกิดขึ้นมา"

หลวงพ่อชา สุภัทโท





สำหรับข้อประพฤติปฏิบัตินั้นก็ไม่มีอะไรมากอื่นไกล อยู่ในตัวของเรานี่เอง

มีกายกับใจ

คนเมืองนอกก็เหมือนกัน คนเมืองไทยก็เหมือนกัน มีกายกับใจเท่านั้นที่วุ่นวาย เป็นผู้วุ่นวาย

ฉะนั้น ผู้สงบระงับต้องมีกายกับใจสงบ

หลวงพ่อชา สุภัทโท





โยม : ความฟุ้งซ่าน เวลามันเกิดขึ้นมา เราจะแก้ไขด้วยอุบายอย่างไร?

หลวงพ่อชา : มันไม่ยากหรอก มันเป็นของไม่แน่หรอก ไม่ต้องไปแก้มัน คราวที่ฟุ้งซ่านมีไหม ที่มันไม่ฟุ้งซ่านมีไหม

โยม : มีครับ

หลวงพ่อชา : นั่น! จะไปทำอะไรมันล่ะ มันก็ไม่แน่อยู่แล้ว

โยม : ทีนี้เวลามันแวบไปแวบมาล่ะครับ

หลวงพ่อชา : เอ๊า! ก็ดูมันแวบไปแวบมาเท่านั้นแหละ จะทำยังไงกับมัน มันดีแล้วนั่นแหละ โยมจะไม่ให้มันเป็นอะไร อย่างไร มันจะเกิดปัญญาหรือนั่น

โยม : มันแวบไป เราก็ตามดูมัน

หลวงพ่อชา : มันแวบไปมันก็อยู่นั่นแหละ เราไม่ตามมันไป เรารู้สึกมันอยู่ มันจะตรงไปไหนล่ะ มันก็อยู่ในกรงอันเดียวกัน ไม่ตรงไปไหนหรอก นี้แหละ เราไม่อยากจะให้มันเป็นอะไรนี่ พระอาจารย์มั่นเรียกว่าสมาธิหัวตอ ถ้ามันแวบไปแวบมา ก็ว่ามันแวบไปแวบมา ถ้ามันนิ่งเฉยๆ ก็ว่านิ่งเฉยๆ จะเอาอะไรล่ะ ให้รู้เท่าทันมันทั้งสองอย่าง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ก.ย. 2016, 12:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร