:b38:

แต่อย่าเอาตำรามากอย่ากอดยึดตำราแน่นจนเกินไปเท่านั้นเอง

:b38:
ลูกศิษย์เมืองนอกของกรัชกาย ที่สั่นๆนั้นเพราะปีติขึ้น ถ้านิ่งรู้นิ่งสังเกตปีตินั้นต่อไปอีกไม่นานมันก็ดับไปหมดไปเอง ไม่ต้องสงสัยอะไร เป็นธรรมดาของจิตที่สงบลงไปมากๆแล้ว

ส่วนเรื่องทุกอย่างมาจากตำรานั้น บางอย่างก็ใช่บางอย่างก็ไม่ใช่

ธรรมะและประสบการณ์ธรรมจากการปฏิบัติจริงก็มีเยอะที่พูดคุยสนทนากันอยู่ทุกวันนี้

ปฏิบัติธรรมศึกษาธรรมไม่ใช่ให้ทิ้งตำราเสียหมดแต่อย่าเอาตำรามากอย่ากอดยึดตำราแน่นจนเกินไปเท่านั้นเอง

ลูกศิษย์เมืองนอกของกรัชกาย ที่สั่นๆ

:b32:

ใครเป็นคนตั้งคำถามนี้..เป็นหมอรึ?

:b11:
ผู้ปฏิบัติที่กรัชกายยกมาคนนี้ก็ติดที่ปีติและนิมิตอันเป็นผลจาการที่จิตเริ่มเป็นสมาธิแล้วแก้ไม่เป็นขาดผู้แนะนำที่ดี
ถ้านิ่งรู้นิ่งสังเกตเฉยๆต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง อะไรจะเกิดให้มันเกิดแต่ให้รู้ทันปัจจุบันไปเรื่อยๆไม่ช้าก็จะผ่านด่าน ปีติ ปัสสัทธิ นิมิต นี้ไปสู่แดนสงบ

เรื่องกลั้นหายใจดูลมเข้าออก ดูหัวใจเต้น ชีพจร กระแสสั่นสะเทือนอะไรนั้นเป็นเทคนิคการเช็คระดับสมาธิ การลัดเข้าไปดูสภาวะ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา อัตตา นิโรธไม่ใช่หลักภาวนา หลักภาวนาที่อโศกะถือปฏิบัติจริงๆและถ่ายทอดต่อคือสติปัฏฐาน 4 โดยเอาปัจจุบันอารมณ์เป็นที่ตั้งดู ตั้งรู้ ตั้งสังเกตพิจารณา เพราะที่ปัจจุบันอารมณ์จะเกิดอารมณ์กับฐานทั้ง 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรมสับเปลี่ยนกันไปมาอยู่ตลอดเวลา

หลักภาวนาอโศกะก็สรุปไว้ให้ฟังตั้งหลายครั้งแล้ว กรัชกายไม่ใส่ใจจำเอง

สำรวมกายใจมานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์จนมันดับไปหรือเปลี่ยนแปลงไปต่อหน้าต่อตา

นี่อย่างสั้น

อย่างยาวก็
สำรวมกายใจมานิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์จนละความเห็นผิดว่า กายใจนี้เป็นอัตตาตัวตน
พอกพูนความเห็นถูกต้องว่ากายใจนี้เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวตน
ทุกวัน เวลา นาที วินาที ที่ระลึกได้และมีโอกาส

ที่นี่กรัชกายคงรู้หลักภาวนาของอโศกะแล้วนะ อย่าสรุปผิดๆถูกๆมั่วๆอีกต่อไป

asoka

สนใจอยากรู้ว่าอโศกะเคยทำภาวนาแบบไหน แล้วไปเกิดญาณ 16 จากการภาวนาแบบไหน เชนนั้นหรือ?

ถ้าสนใจก็จะเล่าให้ฟังคร่าวๆเป็นวิทยาทาน

ภาวนาที่อโศกะเคยทำมา

1.พองหนอยุบหนอ....หรือหนอให้ทันปัจจุบันอารมณ์

2.ท่องคาถาปลุกพระ ท่องคาถาหัวใจต่างๆเป็นคาบๆ

3.กำหนดต้นธรรม ตามแบบเจ้ามาวหลวง อ.อริยวังโส (ไทยใหญ่)

4.พิจารณาอนิจจัง ตามแบบหลวงพ่อพุทธวาที (พม่า)

5.สมาธิหมุน (พระอาจารย์รัตน์ รัตนยาโน)

6.พุทโธ (สายหนองป่าพง)

7.อนัตตา (หลวงพ่อธี)

8.กำหนดกระแสสั่นสะเทือนในร่างกาย (ท่านโกเอ็นก้า)

9.เจริญสติปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์ (ตามภัทเทกรัตคาถา)
ใช้อยู่ประจำในปัจจุบัน

ตอนที่จะรู้ชัดญาณ 16 และปฏิจจสมุปบาทนั้นเป็นการเจริญภาวนาตามแบบที่ 9 โดยธรรมชาติ ไม่ได้ตั้งท่า ไม่ได้เข้ากรรมฐาน มันเกิดขึ้น เจริญไปและไหลไปเองตามธรรมตอน
วันแรม 14 ค่ำหลังวิสาจะบูชาปี 2542 เริ่มประมาณตีสามกว่า
จบปัจจเวกตอนเกือบหกโมงเช้า

แค่นี้ก็พอละมั้งครับกรัชกาย

:b32:

ใครเป็นคนตั้งคำถามนี้..เป็นหมอรึ?

ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย...

แปลอีกแระ....

กอดหลักการ..แน่เข้าไป...