วันเวลาปัจจุบัน 07 ต.ค. 2025, 01:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 128 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มิ.ย. 2016, 20:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b7:
โธ่เอ๋ยกบ.......
สัมมาญาณที่กบว่านั้นนะมันเกิดขึ้นในกระบวนการเอายินดียินร้ายออกนั่นแหละ แต่ที่ไม่อธิบายมากก็เพราะต้องการให้ผู้ปฏิบัติได้ค้นพบด้วยตนเอง

ในกรณีของกบนี่ต้องการให้สาธยายรายละเอียดในการเอายินดียินร้ายออก โดยกบคิดว่าจะตรงตามในตำราที่กบไปเรียนรู้จดจำมาหรือเปล่า ถ้าตรงกับที่กบรู้ก็จะบอกว่าใช่ ถ้าไม่ตรงกับที่กบรู้ก็จะบอกว่าไม่ใช่ เป็นอันว่ากบยังยึดตำราในการวินิจฉัยตัดสินใจอยู่ดี

จะบอกกบว่า ขณะที่จิตยินดีหรือยินร้ายเกิด สติปัญญาจับรู้และสังเกตอยู่นั้นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่เกิดตามมาหลังความยินดียินร้ายนั้นมันเป็นสภาวะและปรมัตถธรรมแสดงไปตามเหตุปัจจัย ให้เห็นความดิ้นรนของจิตตามอำนาจของอุปาทานความเห็นผิด ให้เห็นความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของสภาวะจนเกิดความเบื่อหน่ายคลายจางปล่อยวางความเห็นผิดยึดผิดที่จะมาปรุงให้เป็นตัณหา กรรม และวิบากต่างๆ ไปตามวงจรปฏิจจสมุปบาท ยินดีดับยินร้ายดับ เหลืออุเบกขาดังอธิบายไว้ข้างต้น

กบและผู้ปฏิบัติทั้งหลายไม่ต้องจำมากคิดมากรู้มากอะไรเลย
จำสูตรสำเร็จง่ายๆดังที่ท่านผู้ได้ทำสำเร็จมาแล้วกล่าวไว้ว่า

"นิ่งรู้นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์จนมันดับไปเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตา"

กระบวนการแห่งธรรมเขาจะทำงานไปเองตามธรรมชาติภายในรู้ได้ที่ใจเจ้าของผู้ปฏิบัติ

มันจะคล้ายกับที่ครูบาอาจารย์วัดป่าทางอีสาณท่านนิยมสอนลูกศิษย์ว่า "โยมไม่ต้องเอาอะไรมาก พุทโธ ใจรู้ พุทธโธรู้ใจ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ธรรมต่างๆมันหากเกิดขึ้นเองตามมาภายหลัง"


onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2016, 12:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อโสกะ...เป็นอยู่ท่าเดียว....คือ..มักปรามาสผู้อื่นเสมอๆว่า..ปฏิบัติไม่มีไปจำเอาแต่ในตำรามาพูด..

ดูท่า..อโสกะนิยมของแปลก ๆ..เช่น...อยู่ได้ไม่หายใจทั้งวัน..ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2016, 12:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำไม..ถึงว่า..สัมมาญาณ..อโสกะไม่พูดถึง..

เพราะเห็นบ่อยที่..อโสกะ..นิยมความไม่รู้สึกตัว...นิยมไม่เอาผู้รู้...เห็นบ่อยที่พูดทำนอง...ยังมีผู้รู้อยู่..มีผู้เสวยอยู่..เป็นต้น

ซ่ำอีกครั้ง...

กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าอยู่กับปัจจุบัน..จริง...จะต้องเห็น..เวทนา
เ้ห็นสุขเวทนา..ทุกขเวทนา..มันทุกข์เสมอกันยังงัย?
..


ถ้าเลยมาที่..ยินดี..ยินร้าย...
ถ้าเห็นปัจจุบันจริง....จะมีคำถามกับตัวเองว่า..ทำไมมันถึงได้ยินดี..รึ..ยินร้าย.?
และถ้าอยู่กับปัจจุบันจริง...จะเห็นคำตอบในคำถาม
...
....
คำตอบนี้สำเร็จแล้วรึ?...ยัง..ยัง

เห็นคำตอบในคำถามนี้...เรื่อยๆ...จะเกิดความรู้สึกในสัมมาญาณ...
ความรู้สึกในสัมมาญาณนี้สำเร็จแล้วรึ?..ยัง...ยังก่อน

ความสำเร็จ..ไม่ใช่เรื่องของเรา.
เรื่องของเรา..คือ..สะสม..เพิ่มพูน..ความรู้สึกในสัมมาญาณ..ไปเรื่อยๆ..ส่วนความสำเร็จเป็นเรื่องของมัน..ไม่ใช่เรื่องของเรา..

ความรู้สึก..นี้แหละที่อโสกะ..ต่อต้านตลอด...นิยมความไม่รู้สึก...จนมีโวหารว่า..ยังมีผู้รู้อยู่...มักนิยมชมชอบคนที่มีโวหารการไม่รู้สึก...ดับไปต่อหน้าต่อตา..ตรงนี้ผมว่าอโสกะมีจิตตกร่องนะ(ภพประจำตัว)


ไม่มีมรรค...ก็ไม่มีผล

มรรคไม่มี...ผลที่คุยมันก็คือหลง..ดีดี..นี้เอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มิ.ย. 2016, 12:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ซ่ำอีกครั้ง...

asoka เขียน:
:b12:
เฉย ด้วยมิจฉาทิฏฐินั้น ใช้วิธีอดเอาทนเอา ไม่สนใจ หลบเข้ฌาณ เข้าสมาธิ (1)แบบพวกฤาษี อเจลกะ

แต่เฉยสัมมาทิฏฐินั้น เป็นไปตามกระบวนการแห่งมรรค คือเอาสติ ปัญญามา สังเกตพิจารณาความยินดียินร้ายจนเห็นผู้ยินดียินร้าย เห็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดยินดียินร้าย ทำงานไปจนหมดกำลังดับความยินดียินร้ายไปโดยไม่ต่อปฏิกิริยาไปจนเป็นตัณหา(2) ยินดียินร้ายดับลงเพราะหมดเหตุปัจจัย อุเบกขาโดยธรรมจึงเกิดขึ้นมาแทน อุเบกขาประเภทนี้ สงบ เย็น ไม่ต้องออกแรงดูดดึงหรือผลักต้านสิ่งใด ตั้งอยู่ไม่นานก็เข้าสู่ปกติ หรือสมดุลย์ บางอาจารย์ท่านเรียกว่า "อุเบกขาที่สมบูรณ์" ภาษาอังกฤษเรียก " Equalnimity"

onion




กบนอกกะลา เขียน:

ถ้าดูตามที่เขียนมา..(1)..ก็เหมือนกับ..(2) ได้
ลำพัง...การขึ้นต้นด้วยคำว่า..มิจฉาทิฏฐิ...กับ..สัมมาทิฏฐิ...ไม่ได้ช่วยอะไร

(2)..จะต่างจาก (1) ได้...จะต้องมีคำบางคำที่บ่งชี้...ว่า..มีสัมมาญาณ..เกิดขึ้น..ซึ่งไม่เคยเห็นจากอโสกะเลย...นอกจากนิ่งๆไปแล้วมันก็ดับเอง...

ยินดี..ยินร้าย..นี้ถึงงัยมันดับเองอยู่แล้ว..ถึงปรุงไปมันก็ดับ....ไม่ปรุง.มันก็ดับ...การเห็นมันดับโดยไม่ปรุงต่อแค่นี้นะ...มิจฉาทิฏฐิ..ก็ทำได้...เพียงคำว่า..ใช้วิธีอดเอาทนเอา ไม่สนใจ หลบเข้ฌาณ เข้าสมาธิ ก็เป็นแค่โวหาร..เจ้าตัวก็อาจไม่รู้ว่าที่ตัวเองกำลังดูมัน..สังเกตมัน..อยู่นั้นนะ...ตัวเองกำลังใช้ความอดทนในเหตุปัจจัยที่ทำให้ยินดี..ยินร้าย..อยู่ก็ได้

แต่..สัมมาญาณ...จะแตกต่างออกไป...

ที่...ไม่เคยเห็นในความเห็นของอโสกะ..

ผมถึงเคยพูดว่า..อโสกะกำลังทำสมถะก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำสมถะ...(สมถะไม่ได้น่าเกลียดอะไร..แต่หลงนี้แหละน่าเกลียด) :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2016, 11:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b11:
คำตอบอยู่ตรงนี้แล้วไงดูดีๆ

อ้างคำพูด:
แต่เฉยสัมมาทิฏฐินั้น เป็นไปตามกระบวนการแห่งมรรค คือเอาสติ ปัญญามา สังเกตพิจารณาความยินดียินร้ายจนเห็นผู้ยินดียินร้าย เห็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดยินดียินร้าย ทำงานไปจนหมดกำลังดับความยินดียินร้ายไปโดยไม่ต่อปฏิกิริยาไปจนเป็นตัณหา(2) ยินดียินร้ายดับลงเพราะหมดเหตุปัจจัย อุเบกขาโดยธรรมจึงเกิดขึ้นมาแทน อุเบกขาประเภทนี้ สงบ เย็น ไม่ต้องออกแรงดูดดึงหรือผลักต้านสิ่งใด ตั้งอยู่ไม่นานก็เข้าสู่ปกติ หรือสมดุลย์ บางอาจารย์ท่านเรียกว่า "อุเบกขาที่สมบูรณ์" ภาษาอังกฤษเรียก " Equalnimity"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2016, 17:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
ลองสังเกตกันดูให้ดีๆนะครับว่าเมื่อเราหายใจออกจนหมดปอดแล้ว อะไร ความรู้สึกอย่างไรที่มาทำให้เราต้องกายใจเข้า
ความลับของชีวิตอยู่ตรงนี้ ถ้าได้คำตอบที่ถูกต้อง
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2016, 22:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
ถ้ายังจับความรู้สึกได้ไม่ชัดให้ลองกลั้นหายใไว้นานๆแล้วสังเกตดูให้ดีๆ จะเห็นตัวบงการที่ทำให้หายใจเข้าหายใจออก

ท่านว่ามันคืออะไร?
s004
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2016, 07:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s006
เจอกันหรือยังครับ ผู้ที่ หรือ สิ่งที่ ทำให้ต้องหายใจเข้าออก?
s006
onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 128 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร