วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 15:35  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 246 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 01 มิ.ย. 2016, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเพื่อให้มีความเห็นถูกความเข้าใจถูกตอนกำลังฟังน๊า
จะรู้ว่ามีปัญญาก็เมื่อเริ่มฟังต่างคนต่างฟังต่างคนต่างเข้าใจตามปัญญาของตน
ไม่มีใครทำกุศลสูงสุดในพระพุทธศาสนาระดับปัญญาแทนใครได้หาซื้อไม่ได้ด้วย
ถ้าจะเกิดปัญญาตามความเป็นจริงก็ต้องค่อยๆฟังค่อยๆไตร่ตรองว่ากำลังฟังว่ามีอะไร
ฟังคนพูดที่เคยผ่านการเรียนหนังสือมาเวลาเรียนมีชั่วโมงเรียนก็เข้าไปนั่งฟังทีละนิดถูกไหม
กว่าจะอ่านกไก่ขไข่พูดเป็นประโยคเลยหรือฝึกที่ละคำคะคุณกรัชกายทีเวลาจะบอกคนอื่นทำไม
ยกตัวอย่างการฝึกลิงมาบอกเขาได้ลิงฝึกทุกวันด้วยการฟังหรือลิงไปอ่านตำราก่อนมาฟังคะคิดดูสิ
เวลาพระพุทธเจ้าฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ก็ต้องค่อยๆพูดทีละคำคนฟังก็ต้องฟังทีละคำค่อยๆรู้ไหมล่ะ
ไม่พึ่งการฟังทีละคำก็คือท่องได้เป็นนกแก้วนกขุนทองแต่ไม่รู้เลยความหมายเป็นอย่างไรลึกซึ้งไหม
ต้องลงทุนนั่งฟังด้วยตนเองทุกวินาทีที่ผ่านไปเป็นไปกับการสะสมอกุศจิตด้วยความคิดของตนเลย
ไม่พึ่งพระรัตนตรัยคือไม่สนใจที่จะสละเวลาฟังคือเงี่ยโสตลงสดับว่าคำของพระพุทธเจ้าจริงยังไง
ถามว่าจะใช้เงินจ้างคนอื่นไปนั่งฟังแทนตนเองแล้วทำให้คนจ้างเกิดปัญญาขึ้นมาเป็นไปได้ไหม
:b32: :b32:
:b12:


สมใจจริงๆ คุณโรสไม่เคยทำให้ผิดหวัง คิกๆๆ

คือถามอย่างตอบอย่าง ถามว่า ปัจจุบันขณะที่พูดนั่นน่าหมายถึงยังไง ปัจจุบันขณะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 01 มิ.ย. 2016, 19:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเพื่อให้มีความเห็นถูกความเข้าใจถูกตอนกำลังฟังน๊า
จะรู้ว่ามีปัญญาก็เมื่อเริ่มฟังต่างคนต่างฟังต่างคนต่างเข้าใจตามปัญญาของตน
ไม่มีใครทำกุศลสูงสุดในพระพุทธศาสนาระดับปัญญาแทนใครได้หาซื้อไม่ได้ด้วย
ถ้าจะเกิดปัญญาตามความเป็นจริงก็ต้องค่อยๆฟังค่อยๆไตร่ตรองว่ากำลังฟังว่ามีอะไร
ฟังคนพูดที่เคยผ่านการเรียนหนังสือมาเวลาเรียนมีชั่วโมงเรียนก็เข้าไปนั่งฟังทีละนิดถูกไหม
กว่าจะอ่านกไก่ขไข่พูดเป็นประโยคเลยหรือฝึกที่ละคำคะคุณกรัชกายทีเวลาจะบอกคนอื่นทำไม
ยกตัวอย่างการฝึกลิงมาบอกเขาได้ลิงฝึกทุกวันด้วยการฟังหรือลิงไปอ่านตำราก่อนมาฟังคะคิดดูสิ
เวลาพระพุทธเจ้าฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ก็ต้องค่อยๆพูดทีละคำคนฟังก็ต้องฟังทีละคำค่อยๆรู้ไหมล่ะ
ไม่พึ่งการฟังทีละคำก็คือท่องได้เป็นนกแก้วนกขุนทองแต่ไม่รู้เลยความหมายเป็นอย่างไรลึกซึ้งไหม
ต้องลงทุนนั่งฟังด้วยตนเองทุกวินาทีที่ผ่านไปเป็นไปกับการสะสมอกุศจิตด้วยความคิดของตนเลย
ไม่พึ่งพระรัตนตรัยคือไม่สนใจที่จะสละเวลาฟังคือเงี่ยโสตลงสดับว่าคำของพระพุทธเจ้าจริงยังไง
ถามว่าจะใช้เงินจ้างคนอื่นไปนั่งฟังแทนตนเองแล้วทำให้คนจ้างเกิดปัญญาขึ้นมาเป็นไปได้ไหม
:b32: :b32:
:b12:


สมใจจริงๆ คุณโรสไม่เคยทำให้ผิดหวัง คิกๆๆ

คือถามอย่างตอบอย่าง ถามว่า ปัจจุบันขณะที่พูดนั่นน่าหมายถึงยังไง ปัจจุบันขณะ

Kiss
:b32:
อธิบายขยายความชักแม่น้ำทั้ง5เพื่อให้เข้าใจค่ะ
จนแล้วจนรอดก็เป็นอย่างที่ข้าพเจ้าคิดเหมือนกัน
ก็บอกให้ฟังรู้ตอนกำลังฟังก็ไม่รู้ปัญญาไม่เกิดเลย
คุณกรัชกายไม่เข้าใจก็แสดงว่าไม่มีพระรัตนตรัยในใจ
มีแต่อ่านสิ่งที่อ่านแล้วก็คิดสิ่งที่อ่านไม่เข้าใจจิตปัจจุบันที่ตนมี
แล้วจะรู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ยังไงฟังไปจนกว่าจะรู้
เอาแบบชัดๆอีกครั้งฟังไปจนกว่าจะถึงกาลที่ได้ตรัสรู้ปัญญารู้ความจริง
https://m.youtube.com/watch?v=-zV1Lh0AGTE
:b16: :b32:


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2016, 17:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา

ถกเถียงกันไปมาตั้งยาวในที่สุดก็หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้

อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
smiley


โพสต์ เมื่อ: 07 มิ.ย. 2016, 20:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา

ถกเถียงกันไปมาตั้งยาวในที่สุดก็หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้

อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
smiley



ยกนั่นยกนี่แล้วก็สรุปเอาเองอีก ถึงว่าไงว่า ท่านอโศกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว อีกนิดหนึ่งจะเหมือนนิครนถ์ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 08 มิ.ย. 2016, 16:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา

ถกเถียงกันไปมาตั้งยาวในที่สุดก็หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้

อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
smiley



ยกนั่นยกนี่แล้วก็สรุปเอาเองอีก ถึงว่าไงว่า ท่านอโศกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว อีกนิดหนึ่งจะเหมือนนิครนถ์ :b32:

:b13:
เสื้อผ้าของอโศกะยังมีพอใช้พอแจกอยู่เต็มตู้ กรัชกายมีโอกาสก็ขึ้นไปรับแจกมาใช้บ้างก็ได้นะ

แต่หนอนตำรามุดอยู่ใต้กองตำราที่ท่วมหัวหูตาไปหมดแล้วเช่นกรัชกายนี้ยังจะมีโอกาสหลุดรอดออกมาชมโลกกว้างทางสดใสไปสู่อมตะสุขได้หรือเปล่าหนอ
s004


โพสต์ เมื่อ: 09 มิ.ย. 2016, 05:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา

ถกเถียงกันไปมาตั้งยาวในที่สุดก็หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้

อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
smiley



ยกนั่นยกนี่แล้วก็สรุปเอาเองอีก ถึงว่าไงว่า ท่านอโศกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว อีกนิดหนึ่งจะเหมือนนิครนถ์ :b32:

:b13:
เสื้อผ้าของอโศกะยังมีพอใช้พอแจกอยู่เต็มตู้ กรัชกายมีโอกาสก็ขึ้นไปรับแจกมาใช้บ้างก็ได้นะ

แต่หนอนตำรามุดอยู่ใต้กองตำราที่ท่วมหัวหูตาไปหมดแล้วเช่นกรัชกายนี้ยังจะมีโอกาสหลุดรอดออกมาชมโลกกว้างทางสดใสไปสู่อมตะสุขได้หรือเปล่าหนอ
s004



แน่ะ ๆ พูดเปรียบเทียบ ยังไม่เข้าใจ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 มิ.ย. 2016, 08:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา

ถกเถียงกันไปมาตั้งยาวในที่สุดก็หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้

อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
smiley



ยกนั่นยกนี่แล้วก็สรุปเอาเองอีก ถึงว่าไงว่า ท่านอโศกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว อีกนิดหนึ่งจะเหมือนนิครนถ์ :b32:

:b13:
เสื้อผ้าของอโศกะยังมีพอใช้พอแจกอยู่เต็มตู้ กรัชกายมีโอกาสก็ขึ้นไปรับแจกมาใช้บ้างก็ได้นะ

แต่หนอนตำรามุดอยู่ใต้กองตำราที่ท่วมหัวหูตาไปหมดแล้วเช่นกรัชกายนี้ยังจะมีโอกาสหลุดรอดออกมาชมโลกกว้างทางสดใสไปสู่อมตะสุขได้หรือเปล่าหนอ
s004



แน่ะ ๆ พูดเปรียบเทียบ ยังไม่เข้าใจ :b32:

:b13:
ตอบแบบเว้าซื่อๆกรัชกายก็ยังไม่เข้าใจเช่นกัน จะต้องให้แปลความหมายให้ฟังเชียวหรือ ยังไม่รู้หรือว่าอโศกะเดินทางสายกลางตามพระพุทธเจ้า มิได้สุดโต่ง ซ้ายขวาเป็นนิคฤนอย่างกรัชกายหรอกนะ
onion


โพสต์ เมื่อ: 09 มิ.ย. 2016, 08:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

"สัพเพธัมมา อนัตตา" ธรรมทั้งหมดทั้งปวงเป็นอนัตตา

ถกเถียงกันไปมาตั้งยาวในที่สุดก็หาสาระแก่นสารอะไรไม่ได้

อนัตตาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
smiley



ยกนั่นยกนี่แล้วก็สรุปเอาเองอีก ถึงว่าไงว่า ท่านอโศกเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว อีกนิดหนึ่งจะเหมือนนิครนถ์ :b32:

:b13:
เสื้อผ้าของอโศกะยังมีพอใช้พอแจกอยู่เต็มตู้ กรัชกายมีโอกาสก็ขึ้นไปรับแจกมาใช้บ้างก็ได้นะ

แต่หนอนตำรามุดอยู่ใต้กองตำราที่ท่วมหัวหูตาไปหมดแล้วเช่นกรัชกายนี้ยังจะมีโอกาสหลุดรอดออกมาชมโลกกว้างทางสดใสไปสู่อมตะสุขได้หรือเปล่าหนอ
s004



แน่ะ ๆ พูดเปรียบเทียบ ยังไม่เข้าใจ :b32:

:b13:
ตอบแบบเว้าซื่อๆกรัชกายก็ยังไม่เข้าใจเช่นกัน จะต้องให้แปลความหมายให้ฟังเชียวหรือ ยังไม่รู้หรือว่าอโศกะเดินทางสายกลางตามพระพุทธเจ้า มิได้สุดโต่ง ซ้ายขวาเป็นนิคฤนอย่างกรัชกายหรอกนะ
onion



แนะๆ มีเถียง ๆ

สายกลางที่ว่า เป็นไงอ่ะ

สุดโต่งสิ ท่านอโศกพูดเองนะ ว่าทำงานทำการไม่ใช่ธรรมะ คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 มิ.ย. 2016, 17:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


s004
เรื่องของทางสายกลางนั้นกรัชกายคงจะติดอยู่แค่ทางสายกลางตามตำราอยู่นั่นแหละคือไปยกปริยัติเรื่องมรรคมีองค์ 8 มาท่องสู่กันฟัง

แต่ทางสายกลางที่แท้จริงในภาคปฏิบัตินั้นมันคือช่วงระหว่างกลางความยินดียินร้าย อันเป็นหัวใจสำคัญของสติปัฏฐาน 4 นั่นเองถ้าใครที่เจริญสติปัญญารักษาใจให้อยู่ระหว่างกลางความยินดียินร้ายได้อยู่เสมอ นั่นคือเขากำลังเดินบนทางสายกลาง เมื่อกลางได้ดีอยูตลอดเวลาเขาจะได้ถึงกลางโดยสมบูรณ์คือสิ้นสุดความปรุงแต่งอยู่เป็นปกติ เมื่อถึงความเป็นกลางโดยสมบูรณ์เช่นนั้นแล้ว การสลัดคืนหรือการกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้ก็จะบังเกิดขึ้นกับผู้นั้น ทำให้เขาหลุดพ้นจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์

onion


โพสต์ เมื่อ: 09 มิ.ย. 2016, 17:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


เรื่องของทางสายกลางนั้นกรัชกายคงจะติดอยู่แค่ทางสายกลางตามตำราอยู่นั่นแหละคือไปยกปริยัติเรื่องมรรคมีองค์ 8 มาท่องสู่กันฟัง

แต่ทางสายกลางที่แท้จริงในภาคปฏิบัตินั้นมันคือช่วงระหว่างกลางความยินดียินร้าย อันเป็นหัวใจสำคัญของสติปัฏฐาน 4 นั่นเองถ้าใครที่เจริญสติปัญญารักษาใจให้อยู่ระหว่างกลางความยินดียินร้ายได้อยู่เสมอ นั่นคือเขากำลังเดินบนทางสายกลาง เมื่อกลางได้ดีอยูตลอดเวลาเขาจะได้ถึงกลางโดยสมบูรณ์คือสิ้นสุดความปรุงแต่งอยู่เป็นปกติ เมื่อถึงความเป็นกลางโดยสมบูรณ์เช่นนั้นแล้ว การสลัดคืนหรือการกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้ก็จะบังเกิดขึ้นกับผู้นั้น ทำให้เขาหลุดพ้นจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์


แน่ะๆ หลบมาสติปัฏฐาน 4 อีกแระ

ตกลงจะเอาอะไรแน่นะ เดี๋ยวมีกลั้นหายใจ เดี๋ยวอริยสัจ 4 เดี๋ยวไปอานาปานสติ 16 ขั้น

อ้างสติปัฏฐานดีนัก ไหนบอกสิ ภาคปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ทำยังไง :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 09 มิ.ย. 2016, 21:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
...ทำให้เขาหลุดพ้นจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์
onion


ท่านคิดว่าตัวท่านเป็นอะไรเหร๋อ
จึงคิดว่าท่านจะหลุดจากปัจจยการชั่วนิรันดร์...น่ะ

:b1:

ในเมื่อความคิดที่ว่าจะหลุดจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์
ก็เป็นสิ่งที่ปรากฎขึ้นภายใต้ปัจจยการ...

:b1:

สรรพสิ่งปรากฎเป็นไปตามปัจจัย
สิ่งที่พ้นไปจากปัจจการ คือ เมื่อไม่มีปัจจัย การเกิดก็ไม่ปรากฎ

...เมื่อการเกิดไม่ปรากฎ ก็ไม่ปรากฎเขาที่หลุดพ้นเช่นกัน...

:b1: :b1: :b1:


โพสต์ เมื่อ: 10 มิ.ย. 2016, 10:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกต้องการอ้างปัจจยาการ (ปัจจัย+อาการ = อาการที่เป็นปัจจัย) แต่ฟังมาไม่ชัด จึงพูดปัจจัยการ

ปัจจยาการ เป็นอีกชื่อหนึ่งของปฏิจจสมุปบาท

การที่จะพ้นจากปัจจยาการชั่วนิรันดร์ ตามที่ท่านอโศกว่า คือ ตาย หลังจากหมดลมแล้ว ชีวิตนี้ ก็แตกกระสานซ่านเซ็นคุมกันไม่ติด ไปคนละทิศละทาง :b32:

แบบนี้

https://www.youtube.com/watch?v=qfik0aMVeVM

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 10 มิ.ย. 2016, 21:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
s004
เรื่องของทางสายกลางนั้นกรัชกายคงจะติดอยู่แค่ทางสายกลางตามตำราอยู่นั่นแหละคือไปยกปริยัติเรื่องมรรคมีองค์ 8 มาท่องสู่กันฟัง

แต่ทางสายกลางที่แท้จริงในภาคปฏิบัตินั้นมันคือช่วงระหว่างกลางความยินดียินร้าย อันเป็นหัวใจสำคัญของสติปัฏฐาน 4 นั่นเองถ้าใครที่เจริญสติปัญญารักษาใจให้อยู่ระหว่างกลางความยินดียินร้ายได้อยู่เสมอ นั่นคือเขากำลังเดินบนทางสายกลาง เมื่อกลางได้ดีอยูตลอดเวลาเขาจะได้ถึงกลางโดยสมบูรณ์คือสิ้นสุดความปรุงแต่งอยู่เป็นปกติ เมื่อถึงความเป็นกลางโดยสมบูรณ์เช่นนั้นแล้ว การสลัดคืนหรือการกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้ก็จะบังเกิดขึ้นกับผู้นั้น ทำให้เขาหลุดพ้นจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์
onion


คุณอโสกะ....ชอบเอาแต่ผล...แล้วตีความจนนำสู่การปฏิบัติผิด..

อยู่กลางยินดีกับยินร้าย....พวกมิจฉาทิฏฐิ..ก็ทำได้

ยิ่งมาเห็นข้อความอโสกะที่ว่า.."ได้ถึงกลางโดยสมบูรณ์คือสิ้นสุดความปรุงแต่งอยู่เป็นปกติ"

ยิ่งเห็นรางๆ....เส้นทางของมิจฉาสติ..มิจฉาสมาธิ

ไม่มีมรรค....ก็ไม่มีผล


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2016, 07:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:


เรื่องของทางสายกลางนั้นกรัชกายคงจะติดอยู่แค่ทางสายกลางตามตำราอยู่นั่นแหละคือไปยกปริยัติเรื่องมรรคมีองค์ 8 มาท่องสู่กันฟัง

แต่ทางสายกลางที่แท้จริงในภาคปฏิบัตินั้นมันคือช่วงระหว่างกลางความยินดียินร้าย อันเป็นหัวใจสำคัญของสติปัฏฐาน 4 นั่นเองถ้าใครที่เจริญสติปัญญารักษาใจให้อยู่ระหว่างกลางความยินดียินร้ายได้อยู่เสมอ นั่นคือเขากำลังเดินบนทางสายกลาง เมื่อกลางได้ดีอยูตลอดเวลาเขาจะได้ถึงกลางโดยสมบูรณ์คือสิ้นสุดความปรุงแต่งอยู่เป็นปกติ เมื่อถึงความเป็นกลางโดยสมบูรณ์เช่นนั้นแล้ว การสลัดคืนหรือการกลับสู่ธรรมชาติเดิมแท้ก็จะบังเกิดขึ้นกับผู้นั้น ทำให้เขาหลุดพ้นจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์


แน่ะๆ หลบมาสติปัฏฐาน 4 อีกแระ

ตกลงจะเอาอะไรแน่นะ เดี๋ยวมีกลั้นหายใจ เดี๋ยวอริยสัจ 4 เดี๋ยวไปอานาปานสติ 16 ขั้น

อ้างสติปัฏฐานดีนัก ไหนบอกสิ ภาคปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ทำยังไง :b10:

:b12:
"วิเนยยะโลเก อภิชฌา โทมนัสสัง"เอาออกเสียให้ได้ซึ่งความยินดียินร้ายในโลก(โลกย์) โลกในที่นี่คือผัสสะทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ


ทั้ง 4 ฐานล้วนมารวมลงให้ทำงานอย่างเดียวกันตรงนี้ กรัชกาย กบ และท่านเช่นนั้นเข้าใจและเห็นประเด็นสำคัญของสติปัฏฐานตรงนี้หรือเปล่า
s006


โพสต์ เมื่อ: 11 มิ.ย. 2016, 07:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
asoka เขียน:
s004
...ทำให้เขาหลุดพ้นจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์
onion


ท่านคิดว่าตัวท่านเป็นอะไรเหร๋อ
จึงคิดว่าท่านจะหลุดจากปัจจยการชั่วนิรันดร์...น่ะ

:b1:

ในเมื่อความคิดที่ว่าจะหลุดจากปัจจัยการชั่วนิรันดร์
ก็เป็นสิ่งที่ปรากฎขึ้นภายใต้ปัจจยการ...

:b1:

สรรพสิ่งปรากฎเป็นไปตามปัจจัย
สิ่งที่พ้นไปจากปัจจการ คือ เมื่อไม่มีปัจจัย การเกิดก็ไม่ปรากฎ

...เมื่อการเกิดไม่ปรากฎ ก็ไม่ปรากฎเขาที่หลุดพ้นเช่นกัน...

:b1: :b1: :b1:

s004
คุณเอก้อนรู้ไหมว่าพระอรหันต์ท่านหลุดพ้นจากปัจจัยการ
หรือหักวงปฏิจจสมุปบาทขาดสะบั้นแล้ว

onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 246 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร