วันเวลาปัจจุบัน 07 ต.ค. 2025, 01:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 246 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 17  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 28 พ.ค. 2016, 14:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


มรรค คือ ปัญญา 2 ศีล 3 สมาธิ 3 รวมเป็น 8เอามาต่อสูกับสมุทัยโดยใช้ ปัญญาข้อที่ 1 นำหน้าสู้
ปัญญาข้อที่ 1 คือ ความเห็นถูกต้อง เอาไปสู้กับสมุทัยคือความเห็นผิด

ถ้าความเห็นถูกต้องชนะ ความเห็นผิดก็ดับสลาย

เห็นถูกต้องคือเห็นเป็นอนัตตา

เห็นผิดคือเห็นเป็นอัตตา

อัตตาพ่ายแพ้ จิตใจที่เหลือก็เป็นจิตใจอนัตตา

อนัตตาเป็นกุญแจไขประตูนิพพานเชียวนะกรัชกาย หากไม่ได้กุญแจดอกนี้ก็เข้านิพพานไม่ได้สักคน

อธิบายในภาษาลูกทุ่งอย่างนี้ท่านนักวิชาการใหญ่อย่างกรัชกายจะเข้าใจได้หรือเปล่านี่


เข้าใจขอรับ สู้กันไปสู้กันมา เหมือนหนังจีน :b32:

น่าเสียดายเวลา

แน่ะ ๆๆ จะไขประตู่นิพพานอีก จะเข้าไปทำอะไรในนั้นขอรับ

แล้วนิพพานตามที่ท่านอโศกคิดวาดฝัน อะไรครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 20:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg
กระบวนการทำงานของมรรค 8_100.1 Kb_resize.jpg [ 45.99 KiB | เปิดดู 1613 ครั้ง ]
:b45:
นิพพาน ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร เหนือกว่าที่สมมุติบัญญัติจะกล่าวบอกได้ รู้ตรงที่ใจ
onion
โพสต์ เมื่อ: 29 พ.ค. 2016, 22:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่องเข้าไป...ท่องเข้าไป...

:b9:


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 08:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

นิพพาน ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไร เหนือกว่าที่สมมุติบัญญัติจะกล่าวบอกได้ รู้ตรงที่ใจ


ทุกข์
สมุทัย
นิโรธ = นิพพาน
มรรค (ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา อริยสัจจ์)

การเรียน การศึกษา = ปริยัติ = จัดเป็นสุตะ (สุตมยปัญญา) เมื่อเรียนแล้วศึกษาแล้วก็รู้เข้าใจเบื้องต้น ทีนี้เราก็มีก็ได้หลักยึด ไว้ใช้อ้างอิง

นิพพาน = นิ+วาน นิ = ไม่มี,ออก วาน = ตัณหา (แปลง ว เป็น พ ซ้อน พ. = นิพพาน) นิพพาน แปลว่า ไม่มีตัณหา, ออกไปจากตัณหา = นิโรธ ในอริยสัจจ์ ซึ่งเป็นผลของ มรรค คือ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ (ทุกข์ดับ)


มรรคในที่นี้ ก็ได้แก่มรรค มีองค์ 8 ประการ ที่ย่อมาข้อปฏิบัติ 3 อย่าง (สิกขา 3) คือ ศีล สมาธิ และปัญญา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 09:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พูดให้สั้นชีวิตนี้ มีแค่ทุกข์ และการดับทุกข์ เช่นว่า

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปัญหาที่เผชิญอยู่เบื้องหน้าของทุกๆคน คือ ปัญหาเรื่องทุกข์ และความดับทุกข์ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ถูกความทุกข์เสียบอยู่ทั้งทางกาย และทางใจ อุปมา เหมือนผู้ถูกยิงด้วยลูกศร ซึ่งกำซาบด้วยยาพิษแล้ว ญาติมิตรเห็นเข้าเกิดความกรุณา จึงพยายามช่วยถอนลูกศรนั้น แต่บุรุษผู้โง่เขลาบอกว่า ต้องไปสืบให้ได้เสียก่อนว่า ใครเป็นคนยิง และยิงมาจากทิศไหน ลูกศรทำด้วยไม้อะไร แล้วจึงค่อยมาถอนลูกศรออก ภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้น จะต้องตายเสียก่อนเป็นแน่แท้ ความจริงเมื่อถูกยิงแล้ว หน้าที่ของเขาก็ คือ ควรพยายามถอนลูกศรออกเสียทันที ชำระแผลให้สะอาดแล้วใส่ยา และรักษาแผลให้หายสนิท หรืออีกอุปมาหนึ่ง เหมือนบุคคลที่ไฟไหม้อยู่บนหัว ควรรีบดับเสียโดยพลัน ไม่ควรเที่ยววิ่งหาคนผู้เอาไฟมาเผาหัวตน ทั้งๆที่ไฟลุกไหม้อยู่"


"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตกล่าวว่า ความทุกข์ทั้งมวล ย่อมสืบเนื่องมาจากเหตุ ก็อะไรเล่าเป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์นั้น เรากล่าวว่าตัณหาเป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์ ตัณหา คือ ความทะยานอยากดิ้นรน ซึ่งมีลักษณะเป็น ๓ คือ ดิ้นรนอยากได้อารมณ์ที่น่าใคร่น่าปรารถนาเรียกกามตัณหาอย่างหนึ่ง ดิ้นรนอยากเป็นนั่นเป็นนี่ เรียกภวตัณหาอย่างหนึ่ง ดิ้นรนอยากผลักออกสิ่งที่มีอยู่แล้ว เป็นแล้ว เรียกวิภวตัณหาอย่างหนึ่ง นี่แลคือสาเหตุแห่งความทุกข์ขั้นมูลฐาน ภิกษุทั้งหลาย การสลัดทิ้งโดยไม่เหลือ ซึ่งตัณหาประเภทต่างๆ ดับตัณหา คลายตัณหาโดยสิ้นเชิง นั่นแล เราเรียกว่านิโรธ คือ ความดับทุกข์ได้"

viewtopic.php?f=1&t=52223

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 09:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าจับประเด็นพุทโธวาทนี้ได้ จะเห็นหลักอริยสัจ 4 ครบเลย

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตกล่าวว่า ความทุกข์ทั้งมวล ย่อมสืบเนื่องมาจากเหตุ ก็อะไรเล่าเป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์นั้น เรากล่าวว่าตัณหาเป็นเหตุเกิดแห่งทุกข์ ตัณหา คือ ความทะยานอยากดิ้นรน ซึ่งมีลักษณะเป็น ๓ คือ ดิ้นรนอยากได้อารมณ์ที่น่าใคร่น่าปรารถนาเรียกกามตัณหาอย่างหนึ่ง ดิ้นรนอยากเป็นนั่นเป็นนี่ เรียกภวตัณหาอย่างหนึ่ง ดิ้นรนอยากผลักออกสิ่งที่มีอยู่แล้ว เป็นแล้ว เรียกวิภวตัณหาอย่างหนึ่ง นี่แลคือสาเหตุแห่งความทุกข์ขั้นมูลฐาน ภิกษุทั้งหลาย การสลัดทิ้งโดยไม่เหลือ ซึ่งตัณหาประเภทต่างๆ ดับตัณหา คลายตัณหาโดยสิ้นเชิง นั่นแล เราเรียกว่านิโรธ คือ ความดับทุกข์ได้"


ปัญหาของมนุษย์ (ทุกข์) เหตุให้เกิดทุกข์ (สมุทัย) การสลัดออก การดับตัณหา (ข้อปฏิบัติ,วิธีปฏิบัติ=ไตรสิกขา=มรรค) ทุกข์ดับ = นิโรธ = นิพพาน

ปัญหาที่เราๆท่านๆวนๆเวียนๆกันอยู่ ก็อยู่ที่วิธีปฏิบัติ (มรรค) หรือวนๆเวียนๆ อยู่ตามแง่มุมต่างๆของพุทธธรรม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 10:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ปัญหาคือสัญญาเจตสิกจำได้ทั้งหมดเป็นทฤษฏีเป็นเรื่องราวปัญญาของผู้มีปัญญาครั้งพุทธกาล
สุญญตาคือสุญญตาไม่ใช่อนัตตาเพราะนิพพานก็คือนิพพานไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตาเพราะไรคะ
ก่อนนิพพานก็เป็นธัมมะอย่างหนึ่งที่ถึงโดยอนัตตาจะไปทำจะไปบังคับโดยมีตัวตนคืออัตตาก็ไม่ได้
เพราะนิพพานเป็นธัมมะอย่างหนึ่งตามสมมุติแต่เมื่อถึงนิพพานแล้วนิพพานเที่ยงถูกไหมคะไม่ใช่สมมุติ
นิพพานจึงเป็นสภาวะที่คงอยู่ถาวรไม่เกิดไม่ดับไม่ใช่อัตตาและไม่ใช่อนัตตาอีกต่อไปแล้วเป็นโลกุตรธรรม
ที่สนทนาคุยๆกันอยู่นี่คุยเรื่องราวของนิพพานของผู้ที่ยังไม่ได้เข้าถึงปัญญาระดับนั้นใช่ไหมรู้สิ่งที่ตนมีดีกว่า
เพราะไม่มีใครสักคนมีแต่สภาวธรรมที่จิต+เจตสิก+รูปปรากฏตามกิเลสตนให้รู้คิดจำมั่นคงว่าไม่ใช่ตัวตนค่ะ
รู้จริงๆได้ตอนกำลังฟังเสียงที่ทำให้เข้าใจคำของพระพุทธเจ้าค่ะพอหมดเสียงปุบคิดต่อปั๊บก็ผิดทันทีแล้วค่ะ
วิธีการฟังต้องตั้งจิตไว้ชอบเพราะทุกอย่างเป็นธัมมะเป็นอนัตตามีแล้วไม่ต้องทำขึ้นแค่ฟังเข้าใจก็สัมมาทิฐิ
มัวแต่ไปอ่านแล้วก็คิดไปต่างๆนานาแล้วก็สงสัยไปอีกตั้งเยอะจริงไหมเพราะทรงตรัสไว้ดีแล้วทุกคำให้ฟัง
ผู้ที่บรรลุธรรมล้วนบรรลุธรรมตอนกำลังฟังเสียงผู้อื่นที่บอกถึงธัมมะของพระพุทธเจ้าทั้งนั้นเลยจริงไหม
ถ้ายังไม่บรรลุถึงความเป็นนิพพานในชาตินี้ก็ลืมที่จำทั้งหมดเปลี่ยนไปเพิ่มปัญญาเจตสิกคือจำถูกดีกว่า
http://www.dhammahome.com/audio/topic/4157
:b12:
:b4: :b4:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 30 พ.ค. 2016, 10:57, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 10:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
อัตภาพมนุษย์ได้โดยยากและการที่จะสนใจฟังพระสัทธรรมเป็นของยากเช่นกันค่ะ
http://www.dhammahome.com/audio/topic/5230
onion onion onion


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 10:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ขอแถมอีกนิด...ในชีวิตประจำวันที่ไม่รู้ความจริงที่กำลังเกิด-ดับน่ะค่ะ
จิตขณะนั้นที่ไม่ได้กำลังเป็นไปในกุศลย่อมเป็นไปในอกุศลเลยค่ะ
http://www.dhammahome.com/audio/topic/4157
:b12: :b13:


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 13:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
อัตภาพมนุษย์ได้โดยยากและการที่จะสนใจฟังพระสัทธรรมเป็นของยากเช่นกันค่ะ
http://www.dhammahome.com/audio/topic/5230
onion onion onion



ขอถามตรงๆนะครับ ตอบให้ตรงคำถามนะ

คุณโรสว่า มนุษย์กับคนเหมือนกันมั้ย :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ถ้าเป็นลายลักษณ์อักษรที่เขียนย่อมคนละอักขระ
แต่ถ้าด้านความหมายตามที่ปุถุชนแปลความไม่ต่าง
แต่ถ้าเป็นมนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน
คุณกรัชกายถามเพื่อให้เข้าใจความเป็นคนของตนหรือเปล่าล่ะ
:b12: :b16:
onion onion onion


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 15:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
ถ้าเป็นลายลักษณ์อักษรที่เขียนย่อมคนละอักขระ
แต่ถ้าด้านความหมายตามที่ปุถุชนแปลความไม่ต่าง
แต่ถ้าเป็นมนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน
คุณกรัชกายถามเพื่อให้เข้าใจความเป็นคนของตนหรือเปล่าล่ะ


อ้างคำพูด:
ถ้าเป็นมนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน


อ้าวมีปุถุชนมาอีก ถ้างั้นถามอีกนิด คน กับ ปุถุชน เหมือนกันหรือต่างกันครับ

อ้างคำพูด:
มนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน


ต่างกันยังไงอ่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 16:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
อัตภาพมนุษย์ได้โดยยากและการที่จะสนใจฟังพระสัทธรรมเป็นของยากเช่นกันค่ะ
http://www.dhammahome.com/audio/topic/5230



ขอถามตรงๆนะครับ ตอบให้ตรงคำถามนะ

คุณโรสว่า มนุษย์กับคนเหมือนกันมั้ย :b10:


ถ้าเป็นลายลักษณ์อักษรที่เขียนย่อมคนละอักขระ
แต่ถ้าด้านความหมายตามที่ปุถุชนแปลความไม่ต่าง
แต่ถ้าเป็นมนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน
คุณกรัชกายถามเพื่อให้เข้าใจความเป็นคนของตนหรือเปล่าล่ะ


อ้างคำพูด:
ถ้าเป็นมนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน


อ้าวมีปุถุชนมาอีก ถ้างั้นถามอีกนิด คน กับ ปุถุชน เหมือนกันหรือต่างกันครับ

อ้างคำพูด:
มนุษย์ในความหมายอริยบุคคลก็ต่างจากปุถุชน


ต่างกันยังไงอ่ะ

Kiss
:b12:
ความลังเลสงสัยเป็นกิเลสไหมคะตรงกับคุณกรัชกายกำลังมีไหมคะ
:b1:
คนหรือมนุษย์เหมือนกันเลย...ถ้ายังมีกิเลสยังไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลยก็คือปุถุชน
:b16:
คนหรือมนุษย์เหมือนกันถ้าบรรลุธรรมรู้ว่าไม่มีตัวตนย่อมมีกิเลสน้อยกว่าปุถุชนค่ะ
:b9:
คิดว่าพอจะแยกความต่างกันให้อ่านแล้วเข้าใจได้ต่างกันไหมคะสงสัยเป็นอกุศลน๊า
:b17:
:b4: :b4:


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 17:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:



ความลังเลสงสัยเป็นกิเลสไหมคะตรงกับคุณกรัชกายกำลังมีไหมคะ
:b1:
คนหรือมนุษย์เหมือนกันเลย...ถ้ายังมีกิเลสยังไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลยก็คือปุถุชน
:b16:
คนหรือมนุษย์เหมือนกันถ้าบรรลุธรรมรู้ว่าไม่มีตัวตนย่อมมีกิเลสน้อยกว่าปุถุชนค่ะ
:b9:
คิดว่าพอจะแยกความต่างกันให้อ่านแล้วเข้าใจได้ต่างกันไหมคะสงสัยเป็นอกุศลน๊า



ดังว่านั่น กรัชกายสรุปยังงี้ เช่น เรียกว่า คน ก็ดี มนุษย์ ก็ดี แม้แต่คำพูดที่ว่า คนมีกิเลส (= ปุถุชน) มนุษย์มีกิเลส (= มมุษย์ปุถุชน) เหมือนกันโดยอรรถ ต่างกันโดยพยัญชนะ ถูกมั้ยครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 30 พ.ค. 2016, 17:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:



ความลังเลสงสัยเป็นกิเลสไหมคะตรงกับคุณกรัชกายกำลังมีไหมคะ
:b1:
คนหรือมนุษย์เหมือนกันเลย...ถ้ายังมีกิเลสยังไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลยก็คือปุถุชน
:b16:
คนหรือมนุษย์เหมือนกันถ้าบรรลุธรรมรู้ว่าไม่มีตัวตนย่อมมีกิเลสน้อยกว่าปุถุชนค่ะ
:b9:
คิดว่าพอจะแยกความต่างกันให้อ่านแล้วเข้าใจได้ต่างกันไหมคะสงสัยเป็นอกุศลน๊า



ดังว่านั่น กรัชกายสรุปยังงี้ เช่น เรียกว่า คน ก็ดี มนุษย์ ก็ดี แม้แต่คำพูดที่ว่า คนมีกิเลส (= ปุถุชน) มนุษย์มีกิเลส (= มมุษย์ปุถุชน) เหมือนกันโดยอรรถ ต่างกันโดยพยัญชนะ ถูกมั้ยครับ

ความหมายของคำที่นำไปใช้ก็แตกต่างตามความหมายของคำขยายความร่วมด้วยค่ะ
เช่นถ้าสำหรับการนำไปใช้นับจำนวนก็ได้ว่ามนุษย์เรียกว่า1คนไม่ใช่1มนุษย์หรือ1ตัว
และถ้าเอาไปแทนชื่อก็บอกว่าคนนี้คนโน้นคนนู้นคนนั้นก็เป็นคนละคนกันแยกคน
และถ้าบอกว่าคนนี้ดีคนนั้นร้ายคนนั้นหัวเสียคนโน้นหัวเราะก็แสดงถึงกิริยา
คุณกรัชกายคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของคำที่คิดเนี่ยหลากหลายไหม
ถ้าเป็นคำของพระพุทธเจ้าตรงๆไม่เปลี่ยนความหมายค่ะตรงมาก
คุณกรัชกายลองพิจารณาคำว่าจิตกับใจดูสิว่าต่างกันไหมคะ
:b12:
:b4: :b4:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 246 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 17  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร