วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 06:31  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 128 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2016, 10:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

"อะไร ทำให้หายใจเข้าและหายใจออก"
s006


อโสกะ..ยังไม่ตอบผมเลย..ว่า..อโสกะกลั้นหายใจแล้วมีความคิดอะไรเกิด?

ถามต่อ..เคยกลั้นหายใจ..จนถึงจุดไหน...จุดหน้ามืดรึยัง?

ถามกลับ...แล้วอโสกะเห็น..อะไรทำให้หายใจเข้า..หายใจออก..รึ?

ไล่เรียงคำตอบมา...เด้วก็รู้ว่า..อโสกะทำถงจุดเห็นได้จริงอะป้าว?

:b13:
กบมาแปลกดี ผมถามให้ทุกคนได้ทดลองทำจริงแล้วหาคำตอบมาตอบ กบกลับมาย้อนถามเสียเอง มันไม่ใช่เรื่อง อยากรู้ก็ไปลองดูแล้วมาเล่าให้ผมฟังก่อนหลังจากนั้นจะวิเคราะห์ให้ฟัง
s002
onion

ผมเคยบอกแล้ว..ว่า..เด็กๆ..

ผมว่าอโสกะ....ทำไม่ถึงนะ...

เด้วอโสกะตอบมา...ก็ได้รู้กัน..

กลัวเสียหน้า....ไม่ตอบก็ได้นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2016, 21:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

"อะไร ทำให้หายใจเข้าและหายใจออก"


ปอด (อังกฤษ: lung) เป็นอวัยวะหนึ่งในร่างกายที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสัตว์มีกระดูกสันหลัง ใช้ในการหายใจ

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B ... D%E0%B8%94

หรือท่านอโศกจะเถียงเขา :b13: ว่าไป



อยากฟังจากปาก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 พ.ค. 2016, 22:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ มัวทำอะไรอยู่
จะแสดงธาตุกรรมฐาน ก็แสดงไวๆ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 07:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปราชญ์บางท่านชี้ให้สังเกต ความแตกต่าง ระหว่างอานาปานสติ กับ วิธีฝึกหัดเกี่ยวกับลมหายใจของลัทธิอื่นๆ เช่น การบังคับควบคุมลมหายใจของโยคะ ที่เรียกว่า ปราณยาม เป็นต้น ว่าเป็นคนละเรื่องกันทีเดียว โดยเฉพาะว่า อานาปานสติ เป็นวิธีฝึกสติ ไม่ใช่ฝึกหายใจ คือ อาศัยลมหายใจ เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับฝึกสติ ส่วนการฝึกบังคับลมหายใจนั้น บางอย่างรวมอยู่ในวิธีบำเพ็ญทุกรกิริยา ที่พระพุทธเจ้าเคยบำเพ็ญ และละเลิกมาแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 07:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้จักอานาปานสติ

คำว่า “อานาปานสติ” แยกออกเป็นสามคำ คือ คำว่า “อานะ” แปลว่า ลมหายใจเข้า ตรงกับคำว่า “อัสสาสะ” คำว่า “อาปานะ” ลมหายใจออก ตรงกับคำว่า “ปัสสาสะ” และคำว่า “สติ” แปลว่า ความกำหนดพิจารณา ความระลึกรู้ตาม รวมสามคำเข้าด้วยกันเป็นอานาปานสติ แปลว่า ความกำหนดพิจารณาลมหายใจเข้า และลมหายใจออก หมายถึง การใช้สติเป็นตัวกำหนดดูลมหายใจเข้า และลมหายใจออกที่เป็นปัจจุบันแต่ละขณะๆ เป็นหนึ่งในวิธีฝึกกัมมัฏฐาน 40 วิธี โดยจัดอยู่ในข้อที่ 9 แห่งกัมมัฏฐานประเภทที่ใช้สติเป็นตัวนำ ซึ่งเรียกว่า อนุสติ 10

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 18:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
ลมหายใจเข้าออกของคนเรานี้ถ้ารู้จักสังเกตพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าได้รวมเอาธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ที่นี่เกือบทั้งหมดเลยทีเดียว ลมหายใจและกระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจึงเปรียบเหมือนรูปแบบหรือโมดุลที่เราสามารถจะนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติธรรมจริง เพราะถ้าใครฝึกหัดตามรูปแบบโมดุลอันนี้เขาจะได้พบ รู้จัก เข้าใจเรื่อง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อัตตา ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค รูป นาม กาย ใจต่างๆเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

มาทำแบบฝึกหัดนี้กันดูนะครับ

เริ่มต้นให้มาอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิแล้วเอาสติไปกำหนดรู้ไว้ที่ลมหายใจเข้า ออก
เอาปัญญาไปสังเกตดูที่ลมหายใจเข้าออก สังเกตให้ดีๆ

ลมหายใจเข้า เกิดขึ้น พอหายใจเข้าสุดแล้ว ลมหายใจเข้าก็ดับไปมีช่วงว่างเกิดขึ้นสักนิดหนึ่งแล้วลมหายใจออกก็เกิดขึ้น

ลมหายใจออกเกิดขึ้น พอหายใจออกสุดแล้ว ลมหายใจออกก็ดับไป มีช่วงว่าขั้นนิดหนึ่ง แล้วลมหายใจเข้าก็เกิดขึ้น

ลมหายใจเข้าเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป เปลี่ยนเป็นลมหายใจออก ลมหายใจออกเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เปลี่ยนเป็นลมหายใจเข้า สลับกันไปมา เกิด-ดับ ๆ อยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ใครที่สังเกตพิจารณากระบวนการนี้จนเห็นจริงว่ามีแต่ เกิด กับ ดับ อยู่ตลอดเวลา เขาผู้นั้นก็จะเข้าใจคำว่า อนิจจัง ไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

หลังจากนั้นถ้าต้องการเห็นและทราบซึ้งในคำว่า ทุกขัง และอนัตตา ก็เพียงแต่
ลองปิดจังหวะขวางจังหวะการหายใจเข้าออกตามธรรมชาติด้วยการกลั้นลมหายใจ

หายใจเข้าให้สุดๆให้เต็มปอดแล้วกลั้นหายใจไว้ตั้งใจที่จะกลั้นให้ได้นานที่สุด
พร้อมกันนั้นก็ให้สังเกตดูให้ดีว่า ที่ในร่างกายมีอะไรเกิดขึ้น ที่ในจิตใจ มีอะไรเกิดขึ้น จดจำและเก็บข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด

เอาแค่ตอนนี้ก่อนแล้วทุกท่านลองไปทำดูสังเกตกายใจให้ดีว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
ตอนต่อไปจะมาเล่าให้ฟังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับกายและใจ ขอให้ทุกท่านลองทำดูก่อน

เรื่องนี้จะต้องมีการทดลองทำจริงๆจนมีประสบการณ์จริงๆเกิดขึ้นในกายใจจึงจะทราบซึ้งและเห็นคุณค่าของบทเรียนบทนี้

อย่าคิดตอบหรืออนุมานเอาเพราะมันจะไม่ตรงกับความรู้สึกจริงๆที่เกิดขึ้น
ไม่เป็นธรรม

:b39:
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 18:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านอโศกเล่าผลปฏิบัติแบบใช้ลมหายใจเข้า-ออก ของตนเองสิครับ :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 19:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกเล่าผลปฏิบัติแบบใช้ลมหายใจเข้า-ออก ของตนเองสิครับ :b14:

:b13:
55555555
อย่าเพิ่งใจร้อนสิคุณกรัชกาย ลองตามที่ผมบอกแล้วเอาข้อมูลมาคุยกันก่อนสิคุยสนุกๆ สบายๆ รอให้ท่านอื่นๆที่ไม่ใช่ระดับปรมาจารย์อย่างคุณกรัชกายเขาได้ศึกษาทดลองกันก่อนจะได้มีประสบการณ์จริงมาคุยกันต่อและเข้าใจทราบซึ้งเห็นคุณประโยชน์ของแบบฝึกหัดอันสูงค่านี้
:b40:


แก้ไขล่าสุดโดย asoka เมื่อ 25 พ.ค. 2016, 19:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 19:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกเล่าผลปฏิบัติแบบใช้ลมหายใจเข้า-ออก ของตนเองสิครับ :b14:

:b13:
55555555
อย่าเพิ่งใจร้อนสิคุณกรัชกาย ลองตามที่ผมบอกแล้วเอาข้อมูลมาคุยกันก่อนสิคุยสนุกๆ สบายๆ รอให้ท่านอื่นๆที่ไม่ใช่ระดับปรมาจารย์อย่าคุณกรัชกายเขาได้ศึกษาทดลองกันก่อนจะได้มีประสบการณ์จริงมาคุยกันต่อและเข้าใจทราบซึ้งเห็นคุณประโยชน์ของแบบฝึกหัดอันสูงค่านี้
:b40:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 19:29 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อโสกะ...

บอกไปแล้ว..ว่า..กลั้นลมหายใจ..สุดสด..นั้นนะ..เด็กๆ..

:b32: :b32: :b32:
เด็กๆ จริง ๆ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2016, 19:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
[size=150]

มาทำแบบฝึกหัดนี้กันดูนะครับ

เริ่มต้นให้มาอยู่ในท่านั่งขัดสมาธิแล้วเอาสติไปกำหนดรู้ไว้ที่ลมหายใจเข้า ออก
เอาปัญญาไปสังเกตดูที่ลมหายใจเข้าออก สังเกตให้ดีๆ

ลมหายใจเข้า เกิดขึ้น พอหายใจเข้าสุดแล้ว ลมหายใจเข้าก็ดับไปมีช่วงว่างเกิดขึ้นสักนิดหนึ่งแล้วลมหายใจออกก็เกิดขึ้น

ลมหายใจออกเกิดขึ้น พอหายใจออกสุดแล้ว ลมหายใจออกก็ดับไป มีช่วงว่าขั้นนิดหนึ่ง แล้วลมหายใจเข้าก็เกิดขึ้น

ลมหายใจเข้าเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป เปลี่ยนเป็นลมหายใจออก ลมหายใจออกเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เปลี่ยนเป็นลมหายใจเข้า สลับกันไปมา เกิด-ดับ ๆ อยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ใครที่สังเกตพิจารณากระบวนการนี้จนเห็นจริงว่ามีแต่ เกิด กับ ดับ อยู่ตลอดเวลา เขาผู้นั้นก็จะเข้าใจคำว่า อนิจจัง ไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

onion


:b32: :b32: :b32:

ลมที่หายใจเข้าออก..มันไม่มีเกิดมีดับอะไรที่ไหนเลย...ลมมันไหลเป็นกระแสสายเข้าออกไม่มีขาดหาย

ที่เกิดที่ดับ..คือ...การกระทบของลม..ณ..จุดที่ตั้งจิตสังเกตดูลมต่างหาก...

huh huh

ลมหายใจเข้า...เกิด..ดับ
ลมหายใจออก...เกิด...ดับ..
พูดเป็นลิเก..

อโสกะคงอยากเห็นเกิดดับ...อยากเข้าไตรลักษณ์...ใจจะขาด..แต่เข้าผิดทางอะป้าวคับ.. :b9: :b9: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2016, 08:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


grin
เกิด - ดับในลมหายใจยังมองไม่เห็น แยกไม่ออก

ไม่รู้จักความเกิด - ดับ

เห็นสันตติ แต่ไม่เห็นความขาดกันของสันตติ

นี่ภาวนามายังไง ปฏิบัติธรรมายังไง สติปัญญาถึงยังคงหยาบช้าเช่นนี้
มองธรรมแยกธรรมที่ละเอียดอ่อนไม่ออก ป่วยประโยชน์แล้วที่จะไปพูดคุยสนทนาธรรมะเรื่องอื่นๆ ไม่มีทางเข้าใจหรอกถ้าจิตและสติปัญญาหยาบกร้านเช่นนี้นะกบ

(ทีนี้เห็นสักกายทิฏฐิชัดแล้วสิ)

มาตั้งต้นทำแบบฝึกหัดสังเกตลมหายใจให้ได้ดีๆเสียก่อนแล้วจะสอนเรื่องอื่นให้เข้าใจต่อไปนะกบ

ทดลองทำหรือยังล่ะ?

:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2016, 08:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ท่านอโศกเล่าผลปฏิบัติแบบใช้ลมหายใจเข้า-ออก ของตนเองสิครับ :b14:


55555555
อย่าเพิ่งใจร้อนสิคุณกรัชกาย ลองตามที่ผมบอกแล้วเอาข้อมูลมาคุยกันก่อนสิคุยสนุกๆ สบายๆ รอให้ท่านอื่นๆที่ไม่ใช่ระดับปรมาจารย์อย่างคุณกรัชกายเขาได้ศึกษาทดลองกันก่อนจะได้มีประสบการณ์จริงมาคุยกันต่อและเข้าใจทราบซึ้งเห็นคุณประโยชน์ของแบบฝึกหัดอันสูงค่านี้



กลายเป็นของสนุกไปสะแระ บอกสะทีแรกก็หมดเรื่อง ว่าอโศกไม่เคยทำ :b32: เห็นที่ขีดๆเขียนๆก็รู้แล้ว คิกๆๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2016, 09:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผู้ลงมือทำลงมือปฏิบัติจริง จะไม่อ้างอิงศัพท์แสงทางธรรมอะไร ส่วนผู้ที่ไม่ลงมือทำ จะนำศัพท์แสงมาโยงไปนั่นมานี่ เพื่อให้ว่าเป็นธรรม

ดูสองตัวอย่างผู้ลงมือทำจริง ซึ่งจะบอกจะพูดถึงแต่ส่ิ่งเขาประสพขณะกำลังภาวนาอยู่ แล้วเทียบกับท่านอโศกดู :b1:

อ้างคำพูด:
คือ เวลาผมนั่งสมาธิ พอภาวนาไปซักพัก เริ่มตัดภาวนาไปแล้วทีนี้ก็จะเกิดอาการ ขนลุกเย็นทั้งตัว แล้วหลังจากนั้นก็จะมีภาพ คน สัตว์ แมลง ที่เราเคยทำร้ายเคยทำให้เค้าตาย หรือเจ็บลอยมาให้เห็น คือ แปลกใจว่า บางเรื่องเป็นเรื่องที่นานมากบางเรื่องเป็นเรื่องสมัยเด็กๆอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งบางทีนึกถึงยังนึกไม่ออกเลย เพราะนานมาก แต่พอมานั่งสมาธิ ก็ลอยมาให้เห็นเฉยเลย



อ้างคำพูด:
แฟนเป็นคนที่เสเพลมาก กินเหล้า แบบว่าไม่ได้เรื่องน่ะค่ะ

แต่มีหมอดูหลายท่านทักว่าถ้าแฟนได้ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังจะบวชไม่สึกตลอดชีวิต
ตอนแรกดิฉันคบกับแฟนก็ไม่ทราบหรอกนะคะว่ามีหมอดูเคยทักไว้กับพ่อแม่แฟน

ดิฉันเป็นคนชอบทำบุญทำทาน นั่งสมาธิและสวดมนต์ แฟน ก็ทำตามดิฉันเพราะดิฉันบังคับแรกๆเมื่อไม่กี่วันนี้พาแฟนไปนั่งสมาธิมา (แบบยุบหนอพองหนอ) แค่ไม่กี่ชั่วโมง แฟนดิฉันก็ผิดปกติไปค่ะ

เค้าตื่นมาจากสมาธิ เค้าถามดิฉันว่า รู้สึกถึงลมหายใจที่ชัดเห็นเค้ารู้สึกว่าส่วนท้องเค้ามันยุบลงไปแค่ไหนอย่างไรเวลาหายใจเข้าออก เวลาเดินจงกรม เค้ารู้สึกถึงเท้าที่ย่ำลงพื้นว่าส่วนไหนที่กระทบพื้นชัดเจน

เค้าถามดิฉันว่ามันคืออะไร ดิฉันได้แต่นั่ง ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยค่ะ

กลับมาจากวัดเค้าพูดว่า เค้าสดชื่น จับพวงมาลัยรถรู้ว่า มือเค้าจับพวงมาลัย รู้สึกชัดเจนมากๆ มีสติ
เค้าบอกเค้าเข้าใจถึงคำว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานว่ามันมีจริงๆ เหมือนคนใส่เเว่นมัวๆมาแล้วเช็ดจนมันใสชัดเจน

เค้าพูดแต่เรื่องนั่งสมาธิ กลับมาเค้าไม่ดื่มเหล้า สวดมนต์ นั่งสมาธิ ยิ้ม ใจเย็นและดูจะอิ่มบุญมากมาหลายวันแล้วค่ะ

ดิฉันดีใจค่ะที่เค้าเป็นแบบนี้ เค้าบอกเค้ากลัวที่ไปสูบบุหรี่ หรือ กินเหล้าอีกความรู้สึกแบบนี้จะหายไป
เค้ากำลังเข้าถึงสมาธิใช่ไหมคะ ดิฉันจะพาเค้าไปนั่งบ่อยๆเค้าจะได้เป็นคนดี

ดิฉันอยากนั่งได้แบบเค้าจังเลยค่ะ ทำมาตั้งนานก็ยังไม่เป็นเหมือนเค้า เค้านั่งแป๊บเดียวเองไม่เคยสนใจเรื่องนี้ด้วย

มันน่าน้อยใจนัก!!

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 พ.ค. 2016, 11:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
grin
เกิด - ดับในลมหายใจยังมองไม่เห็น แยกไม่ออก

ไม่รู้จักความเกิด - ดับ

เห็นสันตติ แต่ไม่เห็นความขาดกันของสันตติ

นี่ภาวนามายังไง ปฏิบัติธรรมายังไง สติปัญญาถึงยังคงหยาบช้าเช่นนี้
มองธรรมแยกธรรมที่ละเอียดอ่อนไม่ออก ป่วยประโยชน์แล้วที่จะไปพูดคุยสนทนาธรรมะเรื่องอื่นๆ ไม่มีทางเข้าใจหรอกถ้าจิตและสติปัญญาหยาบกร้านเช่นนี้นะกบ

(ทีนี้เห็นสักกายทิฏฐิชัดแล้วสิ)

มาตั้งต้นทำแบบฝึกหัดสังเกตลมหายใจให้ได้ดีๆเสียก่อนแล้วจะสอนเรื่องอื่นให้เข้าใจต่อไปนะกบ

ทดลองทำหรือยังล่ะ?

:b13:


มาดูว่าองค์พระศาสดาสอนอย่างไร...ในเรื่องอานาปานสติ...ลองหาดูว่า...มีอะไรที่เข้ากับดูลมหายใจเกิด..ดับ..ของอโสกะ..มั้ย?..
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 924&Z=4181
อ้างคำพูด:
             [๒๘๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้วอย่างไร
ทำให้มากแล้วอย่างไร จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุใน
ธรรมวินัยนี้ อยู่ในป่าก็ดี อยู่ที่โคนไม้ก็ดี อยู่ในเรือนว่างก็ดี นั่งคู้บัลลังก์
ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่นเฉพาะหน้า เธอย่อมมีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้า
เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า หายใจออกยาว หรือเมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า
หายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจออกสั้น หรือเมื่อหายใจ
เข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้าสั้น สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลม
ทั้งปวง หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจเข้า สำเหนียก
อยู่ ว่าเราจักระงับกายสังขาร หายใจออก ว่าเราจักระงับกายสังขาร หายใจเข้า
สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้ปีติ หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้
ปีติ หายใจเข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้สุข หายใจออก ว่าเราจัก
เป็นผู้กำหนดรู้สุข หายใจเข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้จิตสังขาร
หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้จิตสังขาร หายใจเข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเรา
จักระงับจิตสังขาร หายใจออก ว่าเราจักระงับจิตสังขาร หายใจเข้า สำเหนียกอยู่
ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้จิต หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้จิต หายใจเข้า
สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักทำจิตให้ร่าเริง หายใจออก ว่าเราจักทำจิตให้ร่าเริง หายใจ
เข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักตั้งจิตมั่น หายใจออก ว่าเราจักตั้งจิตมั่น หายใจเข้า
สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเปลื้องจิต หายใจออก ว่าเราจักเปลื้องจิต หายใจเข้า
สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความไม่เที่ยง หายใจออก ว่าเราจักเป็น
ผู้ตามพิจารณาความไม่เที่ยง หายใจเข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้ตามพิจารณา
ความคลายกำหนัด หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความคลายกำหนัด
หายใจเข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความดับกิเลส หายใจออก
ว่าเราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความดับกิเลส หายใจเข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็น
ผู้ตามพิจารณาความสละคืนกิเลส หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้ตามพิจารณาความ
สละคืนกิเลส หายใจเข้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้ว
อย่างนี้ ทำให้มากแล้วอย่างนี้แล จึงมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ฯ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 128 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร