วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 15:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 147 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 01:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
onion
หาเหตุทุกข์ที่แท้จริงให้เจอนะ ระวังอย่าไปเอาผลมาเป็นเหตุแล้วไปหลงแก้ผลอยู่ มันจะเป็นงานที่ยากและไม่รู้จบ

กิเลส โลภะ โทสะ โมหะ หรือแม้แต่ตัณหาก็ยังไม่ใช่เหตุที่แท้จริง เหตุทุกข์หรือสมุทัยที่แท้จริงมันซ่อนลึกอยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านี้อีกที หาให้เจอ ถึงจะแก้สมุทัยได้ตรงประเด็น ไม่เป็นทุกข์จมอยู่ในทุกข์ทั้งๆที่ลอยอยู่ในกระแสแห่งธรรมอย่างที่กบสารภาพและกรัชกำลังเมามันอยู่ขณะนี้

อ่านภาพในแผนภูมิทั้งหลายให้ออกสิ เหตุทุกข์ที่แท้จริงบอกไว้อยู่โทนโท่
ถ้าแผนภูมิภาพแค่นี้ยังตีความไม่ออกก็แสดงว่า ปฏิบัติจริง สัมผัสสภาวะจริงๆในกายและจิตน้อยไป ไปเพิ่มชั่วโมงบินในการปฏิบัติภาวนาให้มากกว่านี้นะ ปัญหาและทุกข์ ทั้งหลายจะได้หมดทันในปัจจุบันชาตินี้
:b8:


อย่าโม้เลย..แค่เร่องสภาพธรรมดา..ธรรมดา..ยังไม่ผ่าน..ดูไม่ออก..บอกไม่เข้าใจ

แล้วเอาสภาพไหนมาพูด..ว่า..กิเลส โลภะ โทสะ โมหะ หรือแม้แต่ตัณหาก็ยังไม่ใช่เหตุที่แท้จริง...ถ้าพูดเกินกำลัง..เขาเรียกว่ามโน..คราบป่ม

:b13: :b13:

:b12:
เอาง่ายๆนะกบ ถ้าอยากรู้ว่าเหตุทุกข์ที่แท้จริงคืออะไร?

ก็ให้ไปค้นหาคำตอบ มาหน่อยสิว่า สังโยชน์ตัวที่ 1 ที่กั้นไม่ให้ปุถุชนบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันคืออะไร?

ใช่ตัณหาไหม?

ถ้าไม่ใช่เพราะอะไร?

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
กรัชกายก็ไปค้นหาคำตอบมาด้วยพร้อมคำอธิบาย จะได้หายโรคกอดตำราไปพร้อมๆกัน
:b34:


รูปภาพ

อโสกะ..พูดเอง..ว่า..

"กิเลส โลภะ โทสะ โมหะ หรือแม้แต่ตัณหาก็ยังไม่ใช่เหตุที่แท้จริง"

พออโสกะ..มาพูดถึงสังโยชน์...สักกายทิฏฐิ...กลับพูดแค่ตัว..ตัณหา..อย่างเดียว..อิอิ

:b32: :b32:

แค่โมหะ..ตัวเดียว...มันก็กินรวบหมดน่านแหละอโสกะ...

:b13:
เน้นให้ดู"สักกายทิฏฐิ" เพื่อให้รู้ว่าสมุทัยที่แท้จริงยังมิใช่ตัณหาแต่เป็นสักกายทิฏฐิ

ดูคำถามให้ดีอย่ารีบอย่ามั่วนะกบ

สังโยชน์ตัวที่ 1 ที่กั้น
:b34:


โพสต์ เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 01:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ..เอ๋ย...

โสดาบัน...ทำไมดูแค่..สักกายทิฏฐิ..ตัวเดียว

ทำไมไม่ดู...สีลัพตปรามาส...บางละ..

ศีลไม่ครบ...ยังขโมย..ยังเบียดเบียนทรัพยคนอื่น..ฉ้อโกงเขา...คอรัปชันเอย..นี้...ไม่ใช่เพราะ...อยากได้อยากมี..หรือ..อโสกะ..เป็นตัณหามั้ย..

เป็นต้น..

:b13:
สังโยชน์ตัวที่ 1 ที่กั้น

ดูคำถามให้ดีๆ

Stupidแล้วยังอวดClever

มาถึงวันนี้แล้วใครไม่รู้จักสังโยชน์ 10 บ้าง แต่นี่ต้องการเน้นด่านที่ 1 หรือด่านแรกของสมุทัย งานแรกของผู้เจริญมรรค 8 ทุกคนจะต้องผ่านให้ได้ก่อน
ไม่ผ่านด่านนี้ แล้วไปพูดว่า โมหะ คือสมุทัยทั้งหมดนั่นมันกำกวมและกำปั้นทุบดินนะกบ

:b34:


โพสต์ เมื่อ: 20 พ.ค. 2016, 05:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อโสกะ..เอ๋ย...

โสดาบัน...ทำไมดูแค่..สักกายทิฏฐิ..ตัวเดียว

ทำไมไม่ดู...สีลัพตปรามาส...บางละ..

ศีลไม่ครบ...ยังขโมย..ยังเบียดเบียนทรัพยคนอื่น..ฉ้อโกงเขา...คอรัปชันเอย..นี้...ไม่ใช่เพราะ...อยากได้อยากมี..หรือ..อโสกะ..เป็นตัณหามั้ย..

เป็นต้น..

:b13:
สังโยชน์ตัวที่ 1 ที่กั้น

ดูคำถามให้ดีๆ

Stupidแล้วยังอวดClever

มาถึงวันนี้แล้วใครไม่รู้จักสังโยชน์ 10 บ้าง แต่นี่ต้องการเน้นด่านที่ 1 หรือด่านแรกของสมุทัย งานแรกของผู้เจริญมรรค 8 ทุกคนจะต้องผ่านให้ได้ก่อน
ไม่ผ่านด่านนี้ แล้วไปพูดว่า โมหะ คือสมุทัยทั้งหมดนั่นมันกำกวมและกำปั้นทุบดินนะกบ

:b34:


อโสกะ..พูดเอง...ว่า..โสดาบัน...
อ้างคำพูด:
เอาง่ายๆนะกบ ถ้าอยากรู้ว่าเหตุทุกข์ที่แท้จริงคืออะไร?

ก็ให้ไปค้นหาคำตอบ มาหน่อยสิว่า สังโยชน์ตัวที่ 1 ที่กั้นไม่ให้ปุถุชนบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันคืออะไร?


โสดาบัน..ก็ต้องพูดถึง..สังโยชน์ทั้งสามตัว...แค่สักกายทิฏฐิตัวเดียวมันจะครบยังงัย..อิอิ :b32: :b32:

โสดาบัน...มีสังโยชน์ตัวเดียวที่ไหน..

อโสกะ...การจะพิจารณาแบบแยกส่วนของอโสกะ..แบบแยกประโยคเอามาทีละคำ...จึงเป็นความผิดพลาด...ผิดธรรม..ทำให้พลาดความหมายที่เป็นความมุ่งหมายโดยรวม...อย่างที่อโสกะทำกับคำว่า..วะยะธัมมา สังขารา..นั้นแหละ

และ...สักกายทิฏฐิ..นี้...การที่อโสกะ...เอาแค่คำแปล..แล้วมาตัดสินว่า...ไม่มีตัณหาในกิเลสสังโยชน์ข้อนี้...ก็ยิ่งผิดพลาดอย่างมหันต์.....แสดงถึงการไม่เข้าถึงธรรม..ข้อสักกายทิฏฐิสังโยชน์

อโสกะ...บุคคลที่ยังแต่งหน้าทาปากเพราะกลัวไม่สวยในสายตาคนอื่น...ขัดสีฉวีวรรณอยากให้เนื้อตัวขาวผ่อง..ฯลฯ.การกระทำของบุคคลคนนี้จัดอยู่ในกิเลสสังโยชน์ข้อไหนละคับ..อโสกะ

อโสกะ...ยังไม่แจ้งในสักกายทิฏฐิสังโยชน์...เข้าใจสักกายทิฏฐิแค่คำแปล..นี้...ก็คิดเอาเองละกัน...ที่คิดว่าเข้าเขตอริยะแล้วน้านนะ...เข้าจริงหรือไม่จริง


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2016, 15:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b13:
กบกอดตำราแน่นเกินไปไปติดเรื่องสังโยชน์ 10 ทั้งหมดและคุณสมบัติของพระโสดาบันจึงเข้าใจไขว้เขวจากที่อโศกะชี้ประเด็น

ผมชี้ประเด็นไปที่เรื่องสมุทัย เหตุทุกข์ที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังตัณหาว่าคืออัตตาหรือสักกายทิฏฐิอันเป็นสังโยชน์ข้อที่ 1 หรือข้อแรกที่ผู้จะบรรลุธรรมต้องทำลายให้ได้ก่อน หลังจากนั้นถ้าว่าโดยสังโยชน์ วิจิกิจฉาและสีลัพพัตปรามาสเขาจึงจะสลายตายตามเป็นผลสืบเนื่อง

ถ้าอัตตาหรือสักกายทิฏฐิยังไม่ขาดหาย วิจิกิจฉาและสีลัพพัตปรามาสจักไม่หมดสิ้นได้เป็นเหตุเป็นปัจจัยเป็นผลสืบเนื่องกันอย่างนี้

ทำความเข้าใจเสียใหม่ให้ถูกต้องนะกบ
onion


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2016, 18:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พออโสกะไม่เข้าใจ...ก็โยนว่าคนอื่นกอดตำรา..อิอิ..

พอถาม..กลับตอบไม่ได้..


โพสต์ เมื่อ: 21 พ.ค. 2016, 21:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:

อโสกะ...บุคคลที่ยังแต่งหน้าทาปากเพราะกลัวไม่สวยในสายตาคนอื่น...ขัดสีฉวีวรรณอยากให้เนื้อตัวขาวผ่อง..ฯลฯ.การกระทำของบุคคลคนนี้จัดอยู่ในกิเลสสังโยชน์ข้อไหนละคับ..อโสกะ



ว่างัยอโสกะ..


โพสต์ เมื่อ: 22 พ.ค. 2016, 05:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b13:
เน้นให้ดู"สักกายทิฏฐิ" เพื่อให้รู้ว่าสมุทัยที่แท้จริงยังมิใช่ตัณหาแต่เป็นสักกายทิฏฐิ

ดูคำถามให้ดีอย่ารีบอย่ามั่วนะกบ

สังโยชน์ตัวที่ 1 ที่กั้น
:b34:


อโสกะ..อาจ.งง..ว่า..ตัณหาทำให้ยึดมั่นถือมั่นในตัวตนร่างกายได้อย่างไร..หรือในทางกลับกับ...ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนร่างกายทำให้เกิดตัณหา...ก็ได้อีก

อโสกะ..อาจไม่เข้าใจ..หยั่งใจไม่ถึง..เพราะ...อโสกะเอาคำว่า..สักกายทิฏฐิ...กับ..ตัณหา..มาเทียบกัน..ซึ่งเป็นคำอยู่คนละกลุ่มเอามาเทียบกันไม่ได้

้ถ้ากล่าวคำว่า..ตัณหา...ต้องนึกถึง..ตัณหา3...กามตัณหา...วิภาวตัณหา..ภวตัณหา
ถ้ากล่าวคำว่า..ตัณหา...ต้องนึก..อวิชชา...เวทนา..อุปาทาน..ภพ..

แต่ถ้าจะพูดถึงกลุ่มกิเลสเครื่องเหนี่ยวรั้ง...สักกายทิฏฐิสังโยชน์..ก็ต้องนึกถึง...วิจิกิจฉา...สีลัพพตปรามาส..กามราคะ..ปฏิฆะ..รูปราคะ...อรูปราคะ..มานะ..ฯ

เป็นคำเรียกคนละประเภท..คนละความหมายในการสื่อสาร...

ในสักกายทิฏฐิสังโยชน์...ก็มีกลุ่มกิเลสที่ชื่อตัณหา
และก็เพราะมีกิเลสตัณหา....จึงมีกิเลสร้อยรัดที่ชื่อว่าสักกายทิฏฐิสังโยชน์

ดูตัวอย่าง..อย่างง่าย ๆที่ผมว่ามาซิ

กบนอกกะลา เขียน:

อโสกะ...บุคคลที่ยังแต่งหน้าทาปากเพราะกลัวไม่สวยในสายตาคนอื่น...ขัดสีฉวีวรรณอยากให้เนื้อตัวขาวผ่อง..ฯลฯ.การกระทำของบุคคลคนนี้จัดอยู่ในกิเลสสังโยชน์ข้อไหนละคับ..อโสกะ



ว่างัยละ..อโศกะ


โพสต์ เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 05:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
กามราคะ
onion


โพสต์ เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 05:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
กามราคะแฝงด้วยมานะ อวิชชา
onion


โพสต์ เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 06:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
กามราคะแฝงด้วยมานะ อวิชชา
onion


เริ่มมี..สังโยชน์หลายๆตัวในสถานะการณ์เดียวกัน..แล้ว.. :b32:

กบนอกกะลา เขียน:

อโสกะ...บุคคลที่ยังแต่งหน้าทาปากเพราะกลัวไม่สวยในสายตาคนอื่น...ขัดสีฉวีวรรณอยากให้เนื้อตัวขาวผ่อง..ฯลฯ.การกระทำของบุคคลคนนี้จัดอยู่ในกิเลสสังโยชน์ข้อไหนละคับ..อโสกะ


รูปภาพ

พอดีช่วงนี้..มีงานแต่งหลายงาน...จึงเห็นได้ชัด..จากบรรดาสาวๆที่ต้องไปร่วมงานแต่ง

กลัวไม่สวยในสายตาคนอื่น...นี้..คือ..กลัวเราไม่สวยดูไม่ดีในสายตาคนอื่น..คงไม่ใช่กลัวแทนใครที่ไหนหรอก

การที่กลัวว่า..เราจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น...นี้..จึงต้องลงทุนทำโน้นทำนี้วุ่นวายไปหมด..ไม่ว่าจะเสื้อผ้าหน้าผม...กลัวเขาจะตำนิว่าแต่งตัวไม่ให้เกียรติกับงาน..ไม่ให้เกียรติเจ้าภาพ...

รูปภาพ

เรากลัว...กลัวเขาว่าเรา..ไม่อยากให้เขาว่าเราอย่างนั้น..ว่าเราอย่างนี้...นี้แหละ...ตัณหา...ในสักกายทิฏฐิ


โพสต์ เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 11:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b13:
อ้อ! ที่ยกรูปสวยๆยั่วราคะมาอวดให้ชมกันนี้ก็เพื่อที่จะบอกว่า

นี่คือตัณหาในสักกายทิฏฐิ


แล้วตกลงว่าตัวไหนคือสมุทัยที่แท้จริง ระหว่าง ตัณหา กับ สักกายทิฏฐิ

เพราะมีตัณหาจึงเกิดสักกายทิฏฐิหรือ?

เพราะมีสักกายทิฏฐิ จึงเกิดตัณหา?

s006


โพสต์ เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อโศกะ :
ตัณหา 3 นั้น มี กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
สักกายทิฏฐิ สามารถเกิดร่วมเกิดพร้อม กับตัณหาทั้งสามได้หรือไม่....
สักกายทิฏฐิ ..นั้นเป็นสัมปยุตตปัจจัยแก่ ตัณหาทั้งสาม ได้หรือไม่
และเป็นวิปปยุตปัจจัยแก่ตัณหาทั้งสามได้หรือไม่ ....
การพิจารณาธรรมในจิต
ตัณหาเป็นสมุทัย
แต่มีความเกิดร่วมเกิดพร้อมของธรรมอื่นใดในขณะนั้น อันเกาะเกี่ยวบุคคลให้อยู่ในภพ ธรรมนั้นเป็นสังโยชน์

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสต์ เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b13:
อ้อ! ที่ยกรูปสวยๆยั่วราคะมาอวดให้ชมกันนี้ก็เพื่อที่จะบอกว่า

นี่คือตัณหาในสักกายทิฏฐิ


แล้วตกลงว่าตัวไหนคือสมุทัยที่แท้จริง ระหว่าง ตัณหา กับ สักกายทิฏฐิ

เพราะมีตัณหาจึงเกิดสักกายทิฏฐิหรือ?

เพราะมีสักกายทิฏฐิ จึงเกิดตัณหา?

s006


ตลก...น่าอโสกะ..ยังจะมาหาว่าอะไรคือที่แท้จริง...อีก..

ปัญหาคือ..คำว่า..ที่แท้จริง...ของอโสกะนี้แหละ...ทำให้อโสกะต้องมาตัดสินว่า..จะเป็นสักกายทิฏฐิหรือตัณหา...

ตลก..คับ

ยอดเรือนมีอันเดียว....คือ..อวิชชา
แต่ทั้งยอดเรือน..เสาเรือน..ฝา..ขื่อแป..ต่ง..มันก็สมุทัยแท้แท้..ทั้งนั้นแหละขอรับ.. :b13: :b13:


โพสต์ เมื่อ: 24 พ.ค. 2016, 00:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
ก่อนจะถึงอวิชชาสังโยชน์ตัวสุดท้ายต้องผ่านด่านไปตามลำดับตั้ง 9 ด่าน ที่เอามาแนะนำนี่ก็เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าด่านสำคัญด่านแรกอันเป็นตัวสมุทัยตัวแรก (อาจจะเรียกว่าเป็นตัวที่ 2 ก็ได้เพราะมันซ่อนอยู่หลังตัณหา)ที่จะต้องเอาชนะให้ได้เป็นตัวแรกเหมือนบันไดขั้นแรกนี้เสียก่อนมันจึงจะผ่านขึ้นไปชำระเหตุประกอบที่เหลือได้ตามลำดับ

คนอ่านตำราคิดเอาตามตำราอย่างกบนั้นพูดเอาง่ายๆว่าอันไหนก็ใช่สมุทัย ทำจริงมันไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะกบ คิดอย่างกบก็จะไปทำอะไรมาก หมายที่เดียวคืออวิชชาชนะตัวเดียวก็สำเร็จได้เลยมั้ง

onion


โพสต์ เมื่อ: 24 พ.ค. 2016, 11:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้กลายร่างจาก..สมุทัยที่แท้จริง...มาเป็น..สมุทัยตัวแรก...

แระ..

อิอิ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 147 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร