วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 03:28  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ค. 2016, 04:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงก็ดี ชายก็ดี นอกใจสามีภรรยา ตายแล้วไปตก มหาตาปนะนรก ถูกนายยมบาลต้มด้วยน้ำร้อน สังหารด้วยหอกด้ามกล้าพร้าด้ามคมแสนปี พ้นจากนั้น เวรกรรมยังไม่สิ้น มาตก คูถนรก จมในหลุมมูตรหลุมคูถท่วมศีรษะ มีหนอนเจาะไชอยู่อย่านั้นเป็นแสน ๆ ปี พ้นจากนั้น มาตก สิมพลีนรก ถูกนายยมบาลบังคับให้ปีนต้นงิ้วสูงใหญ่มีหนามยาว สัตว์นรกขึ้นไปแล้วก็ถูกหนามงิ้วทิ่มแทง เป็นบาดแผลตามหน้า ตามเนื้อตัว และแขนขาเป็นทุกขเวทนาสาหัส พอขึ้นไปถึงยอดก็ถูกแร้งกาปากเหล็กจิกหน้าตา ตกลงมา ถูกหมาขย้ำฉีกเนื้อกินเป็นอาหาร เหลือจากนั้นหนอนก็เจาะไชกินเป็นอาหาร

พ้นจากนั้น เวรกรรมยังไม่สิ้น ไปเกิดเป็นเปรต ผู้หญิงไปเกิดเป็นเปรตของลับใหญ่เต็มหว่างขามีไฟไหม้ เดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก ผู้ชายก็ไปเกิดเป็นเปรต มีของลับใหญ่ มีไฟนรกเผาไหม้อยู่ปลายของลับนั้น เดินไปไหนมาไหนก็ลำบาก ทุกข์ยากแสนเข็ญ นั่นแหละบาปกรรมเวรเป็นอย่างนั้น ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตายเป็นอยู่อย่างนั้นถึง ๕๐๐ ชาติ

พ้นจากนั้น ไปเกิดเป็นสุนัขทั้งตัวผู้ตัวเมียเป็นกามโรค เป็นทุกข์จนตาย ตายแล้วเกิดอีก เป็นอยู่อย่างนั้นอีก ๕๐๐ ชาติ

พ้นจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็หน้าด้านเสพกามไม่เลือก เป็นกามโรคตายแล้วตายเล่าอีก ๕๐๐ ชาติ

พ้นจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา ก็ทุกข์ยากลำบาก นอกใจผัวนอกใจเมียเป็นทุกข์อยู่อย่างนั้นอีก ๕๐๐ ชาติ

นี่แหละ โทษกรรมของกามคุณทั้งหลาย

...ธรรมะโดย หลวงปู่จันทา ถาวโร...







"กรรม เหมือนเมล็ดพืชที่ถูกหว่านลงในดิน"

" .. เมื่อเราได้คิดได้พูดได้ทำอะไรลงไปแล้ว มันก็เริ่มก่อผลเป็นวิบากขึ้นในจิต ซึ่งเป็นประจุกรรม เหมือนข้อมูลที่ถูกป้อนเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
เราจะไปลบ ไปล้าง ไปเปลี่ยน ไปแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้ว ได้อยู่อย่างเดียวคือ คอยจนกว่ามันจะงอกออกมา และผลิดอกออกผลให้เราเก็บเกี่ยว
ด้วยเหตุนี้ท่านจึงสอนว่า สิ่งที่ทำลงไปแล้ว อย่าย้อนคิดเสียดาย อย่าเก็บมากังวลครุ่นคิด แต่ก่อนจะกระทำสิ่งใด ให้ไตร่ตรองจนรอบครอบเสียก่อน ด้วยสติด้วยปัญญาด้วยเหตุผลก่อน จะทำเรามีโอกาสเต็มที่ว่า จะทำอย่างไร เพื่อที่จะไม่ย้อนคิดเสียใจ เสียกำลัง เสียเวลาที่จะล้มล้าง สิ่งที่เอาคืนมาอีกไม่ได้แล้ว .. "

...หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน...
วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 พ.ค. 2016, 23:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ขณะนี้คือจริงที่ตัวแต่ละคน
ที่กำลังมีเป็นวิบากกรรม
คือผลของกรรมหนึ่งที่ทำให้เกิด
เป็นมนุษย์ที่มีตาหูจมูกลิ้นกายใจ
ทำให้ต้องมีภาระที่เกิดมาต้องได้
เห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรสรู้สึกคิดนึก
ที่กำลังมีทั้งหมดนั้นเอง
เห็นเป็นผลของกรรม
ได้ยินเป็นผลของกรรม
ได้กลิ่นเป็นผลของกรรม
รู้รสเป็นผลของกรรม
รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเป็นผลของกรรม
และที่ไม่รู้ความจริงของธัมมะแต่ละทาง
ก็เป็นตัวเราหลงปรุงแต่งชอบใจไม่ชอบใจ
สะสมกิเลสความไม่รู้พอกพูนหนาแน่นเพิ่มขึ้น
ของเดิมไม่ลดเพิ่มกรรมใหม่ตลอดเวลาจนกว่าจะรู้
เพราะรู้เป็นปัญญา/ไม่รู้เป็นอวิชชา/รู้ดับความไม่รู้
ปัญญาแรกที่จะมีได้คือสุตมยปัญญาคือ
ปัญญาเกิดจากการฟังเพราะเป็นสาวก
สาวกคือผู้ฟังคำสอนเข้าใจเพื่อรู้ตาม
ความเป็นจริงของจิตเจตสิกรูป
เพราะไม่มีคนสัตว์สิ่งของแต่
เป็นมหาภูตรูปกำลังมีที่ปรากฏ
ตามการเกิดดับของจิตเจตสิก
จนกว่าปัญญาจะเจริญจนถึงนิพพาน
:b12: :b13:
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 พ.ค. 2016, 04:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


ขออนุโมทนาบุญกับกัลยาณมิตร สาธุๆๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 พ.ค. 2016, 07:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ขณะนี้คือจริงที่ตัวแต่ละคน
ที่กำลังมีเป็นวิบากกรรม
คือผลของกรรมหนึ่งที่ทำให้เกิด
เป็นมนุษย์ที่มีตาหูจมูกลิ้นกายใจ
ทำให้ต้องมีภาระที่เกิดมาต้องได้
เห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรสรู้สึกคิดนึก
ที่กำลังมีทั้งหมดนั้นเอง
เห็นเป็นผลของกรรม
ได้ยินเป็นผลของกรรม
ได้กลิ่นเป็นผลของกรรม
รู้รสเป็นผลของกรรม
รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสเป็นผลของกรรม
และที่ไม่รู้ความจริงของธัมมะแต่ละทาง
ก็เป็นตัวเราหลงปรุงแต่งชอบใจไม่ชอบใจ
สะสมกิเลสความไม่รู้พอกพูนหนาแน่นเพิ่มขึ้น
ของเดิมไม่ลดเพิ่มกรรมใหม่ตลอดเวลาจนกว่าจะรู้
เพราะรู้เป็นปัญญา/ไม่รู้เป็นอวิชชา/รู้ดับความไม่รู้
ปัญญาแรกที่จะมีได้คือสุตมยปัญญาคือ
ปัญญาเกิดจากการฟังเพราะเป็นสาวก
สาวกคือผู้ฟังคำสอนเข้าใจเพื่อรู้ตาม
ความเป็นจริงของจิตเจตสิกรูป
เพราะไม่มีคนสัตว์สิ่งของแต่
เป็นมหาภูตรูปกำลังมีที่ปรากฏ
ตามการเกิดดับของจิตเจตสิก
จนกว่าปัญญาจะเจริญจนถึงนิพพาน
:b12: :b13:
onion onion onion

สาธุครับ :b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร