คคห. ที่ผ่านมาพูดพาดพิง เจตนา ดูความหมายสักนิด

เจตนา (ความหมายตามพุทธธรรม) ความตั้งใจ, ความจงใจ, เจตจำนง, ความมุ่งใจหมายจะทำ

เจตนา เป็นการเลือกอารมณ์ของใจ ตัวนำที่หันเหชักพาทำให้จิตเคลื่อนไหว โน้มน้อมไปหาหรือผละไปจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือมุ่งไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เป็นหัวหน้า เป็นผู้จัดการ หรือตัวเจ้ากี้เจ้าการของจิตว่าจะเอาอะไร ไม่เอาอะไรกับเรื่องใดอย่างไร เป็นตัวการจัดแจงแต่งวิถีทางของจิต และในที่สุดก็เป็นตัวการปรุงแต่งจิตนั้นให้เป็นไปต่างๆ


เปรียบกับคนขับเรือยนต์ คนขับเหมือนเจตนาที่อยู่ฝ่ายกรรม เครื่องเรือทั้งหมดเหมือนกลไกและองค์ประกอบต่างๆ ของจิตที่อยู่ฝ่ายจิตนิยาม คนขับต้องอาศัยเครื่องเรือ แต่เครื่องเรือจะพาเรือคือชีวิตที่พร้อมด้วยร่างกายไปสู่ที่ไหนอย่างไร คนขับเป็นอิสระที่จะทำ และเป็นผู้รับผิดชอบทำให้เป็นไป คนขับทั้งอาศัย และทั้งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากเรือ แล้วรับผิดชอบต่อความเป็นไปของเรือที่พร้อมทั้งเครื่องเรือและตัวเรือด้วย เหมือนกรรมนิยามทั้งอาศัยและทั้งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากจิตนิยาม แล้วรับผิดชอบต่อความเป็นไปของชีวิตที่พร้อมทั้งจิตและกายด้วย

ถ้าหนอยังไม่หาย หรือยังไม่ทิ้งหนอ ก็ไม่เห็นปรมัตถ์

เห็นพูดว่าไปเข้ากัมมัฏฐาน 20 วัน แต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่เข้าใจความหมายสิ่งที่ตนเองนำมาพูด เช่น สมมติ บัญญัติ ปรมัตถ์

พองหนอ ยุบหนอ ฯลฯ (จงกรม) ซ้าย ย่าง หนอ ขวา ย่าง หนอ ฯลฯ ลมหายใจเข้าว่า พุท หายใจออกว่า โธ นี่เรียกว่า บัญญัติ เรียกว่าตามหลักสั้นๆ ว่า "มรรค" ซึ่งแปลว่า ข้อปฏิบัติ วิธีปฏิบัติ ทาง - เรียกเต็มว่า "ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา" - วิธีปฏิบัติ-ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์,หนทางให้ถึงความดับทุกข์

ทำไปเมื่อจิตสงบหายฟุ้งซ่านก็จะเห็นปรมัตถธรรม ดังนั้น บัญญัติต้องมีต้องใช้เพื่อเป็นสะพานเชื่อมไปหาสัจธรรม สมาหิโต ยถาภูตัง ปชานาติ - ผู้มีจิตตั้งแล้ว ย่อมรู้ตามเป็นจริง หรือรู้ตามที่มันเป็น

รู้สึกสงสารผู้ที่อยู่ในสำนักนั้นจริงๆ ท่านอโศกพาลงเหว พาเข้ารกเข้าพงหมด

กรัชกายนี้ยังไม่ซาบซึ้ง ไม่ลึกซึ้งกับคำว่า

"หยุดคิดถึงรู้ แต่จะรู้ก็ต้องคิด"

จึงหลงยกย่องอยู่แต่บัญญัติ โดยไม่รู้จักปฏิบัติและใช้ประโยชน์จากปรมัตถ์

อย่าว่าแต่เขา....เราเข้าใจผิด..ก็ยังไม่รู้ตัวเลย..

ของที่อโสกะ..แนะนำ..อโสกะ
https://www.youtube.com/watch?v=Z9pEc_MdL_A

รู้มัย...ทำไมต้องป้อนจิต..ทำไมต้องเอาความรู้ไปใส่ให้จิต..??

คนละประเด็นกันมั้ง กบ

https://youtu.be/9oCEj7XMdN0
ลองฟังจากหลวงตาสิริหลายๆตอนนะ กับพระอาจารย์มาลาผู้เป็นศิษย์ เทคนิคการถ่ายทอด คำพูดก็ต่างกันแต่เนื้อธรรมเป็นอันเดียวกัน

เชิญคุณกรัชการมาฟังด้วยนะครับ ทั้ง 2 องค์

ประเด็น..เพราะอโสกะเข้าใจวลีหลวงปู่ไม่ถูกต้อง..ต่างหาก

การที่ไม่เข้าใจนี้แหละ...ทำให้รู้ว่า...ยืนอยู่จุดไหน

การคิดแผ่นป้ายทั้งหลายแหล่..นั้น..จึงเป็นอาการคิดเอง..เออเอง...ไป

เอาแต่พูดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "หยุดคิดจึงรุู้ แต่จะรู้ต้องคิด" ไหนลองบอกวิธีปฏิบัติเพื่อหยุดคิด แต่ต้องคิด ให้ฟังหน่อยสิเอ้า

ถ้าบอกให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ กรัชกายมีรางวัลให้ เอ้าว่าไป

โยม....หลักภาวนาง่ายๆนะ

1.กำหนดสติไว้กับลมหายใจเข้าออกจนนิวรณ์ 5 ดับ ความนึกคิดฟุ้งซ่านหยุด
ลมหายใจสงบ (หยุดคิด ....บัญญัติหยุดทำงานไปชั่วคราว สภาวธรรมต่างๆจะดำเนินไปด้วยกำลังแห่งเหตุและปัจจัยโดยไม่มีความคิด บัญญัติมาขัดขวาง
เหลือแต่อนัตตาสภาวะที่เป็นปรมัตถ์ล้วนๆ ปัญญาปรมัตถ์คือรู้ที่ใจตรงๆไม่มีความคิดจะรู้เห็นสภาวธรรมทั้งหมดตามที่มันเป็นจริงจนเกิดความเบื่อหน่ายคลายจางละวาง สลัดคืนทุกสิ่งทุกอย่างสู่ธรรมชาติเดิมแท้)

2.กำหนดสติไว้ที่ตัวรู้ หรือ ผู้รู้ ซึ่งก็คือปัจจุบันอารมณ์นั่นเอง นี่เป็นขั้นเจริญปัญญาหรือวิปัสสนาภาวนานั่นเอง

ปัญญารู้โดยปรมัติ (ไม่ใช้ความคิด)

ปัญญารู้ปรมัตถบัญญัติและโลกียบัญญัติ ตามจริงและตามสมมุติในตำราคำสอนก็เกิดขึ้น (กลับมาใช้ความคิด)

เข้าใจไหมนี่กรัชกับกบ

เหมือนกับที่ว่านี่ไหมขอรับ

แผนภูมิทั้งหลายนั้นเขียนออกมาจากผลปฏิบัติ ไม่ใช่เขียนออกมาก่อนการปฏิบัติ

เป็นรายงานผลการทดลองค้นคว้าวิจัย ไม่ใช่แผนการค้นคว้าวิจัย

คนฉลาดมีสติปัญญาดีที่อ่านผลวิจัยออกได้บ้างก็ยังคงพอมีนะครับในลานนี้

ต้องพูดยังงี้ขอรับ

กลั้นลมหายใจจนสมองขาดอ๊อกซิเยนแล้วหน้ามืดหัวทิ่มหมอน (เป็นเหตุ) แล้วลุกขึ้นมาวาดแผนภูมิ (เป็นผล) คิกๆๆ

ฝากให้คิด แล้วนำไปใช้ภาคปฏิบัติทางจิต คือให้ "ดูตามที่มันเป็น มิใช่ไปทำให้มันเป็นแล้วดู" อย่าหลอกตัวเอง ไม่บิดเบือนสภาวธรรม

ตย. คำถามนำมาจากบอร์ดอื่น สังเกตดู



"ดูตามทีมันเป็น มิใช่ทำให้เป็นแล้วดู" หมายความว่า นามรูป มันเป็นยังไง รู้สึกยังไง กำหนดดูรู้ทันยังงั้นทุกครั้งทุกขณะ ไม่บิดเบือน ไม่เลี่ยงหนีสภาวะ

รู้สึกว่าตัวเอน "ตัวเอนหนอๆๆๆ" รู้สึกจะหงายหลัง "หงายหลังหนอๆๆๆๆ" ฯลฯ นี่เรียก รู้ตามที่มันเป็น มิใช่ไปทำให้เป็นแล้วดู เช่น ไปเอาเบาะ เอาอะไรมารองก้น หรือนั่งพิงฝากันหงายหลัง ไม่ใช่แล้ว

ทำอย่างนั้น โยคีบุคคล ไม่มีวันเข้าใจนามรูปนี่เป็นอันขาด

ยังไม่ได้ทดลองทำก็มามโนตอบมั่วๆอีก ทำดูดีๆก่อนแล้วค่อยมาวิตกวิจารณ์
อย่าให้ชวดเชยสิ่งดีๆไปเสียด้วยอำนาจสักกายทิฏฐิ มานะทิฏฐิของตนเลยกรัชกาย

"รู้มาก ยากนาน"

"ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด"

"ธรรมใดก็ไร้ค่า ถ้าไม่ทำ"