วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 20:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 147 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2016, 19:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดและตายแบบปัจจุบัน


ผู้ต้องการสืบความในบาลีเกี่ยวกับสังสารวัฏ หรือการเวียนว่ายตายเกิดแบบที่เป็นไปในปัจจุบัน ภายในชาตินี้ อาจศึกษาพระสูตรตอนหนึ่งต่อไปนี้ เป็นตัวอย่าง

“ความสำคัญตนที่เป็นกิเลสหมักหมม ย่อมไม่เป็นไปแก่บุคคลผู้ดำรงอยู่ในธรรม ๔ ประการ เมื่อไม่มีความสำคัญตนที่เป็นกิเลสหมักหมมเป็นไป ย่อมเรียกได้ว่า เป็นมุนีผู้สงบ”

“ข้อความที่กล่าวไว้ดังนี้นั้น เราได้กล่าวโดยอาศัยเหตุผลอะไร ? ความสำคัญตน ย่อมมีว่า เราเป็นบ้าง เราไม่เป็นบ้าง เราจักเป็นบ้าง เราจักไม่เป็นบ้าง เราจักเป็นผู้มีรูปบ้าง เราจักเป็นผู้ไม่มีรูปบ้าง เราจักเป็นผู้มีสัญญาบ้าง เราจักเป็นผู้ไม่มีสัญญาบ้าง เราจักเป็นเนวสัญญานาสัญญีบ้าง ดูกรภิกษุ ความสำคัญตนเป็นโรคร้าย เป็นฝีร้าย เพราะก้าวล่วงความสำคัญตนว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เสียทั้งหมดได้ จึงจะเรียกว่า เป็นมุนีผู้สงบ

ดูกรภิกษุ มุนีผู้สงบ ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อมไม่วุ่นใจ ย่อมไม่ใฝ่ทะยาน สิ่งอันเป็นเหตุที่เขาจะเกิด ย่อมไม่มี เมื่อไม่เกิด จักแก่ได้อย่างไร เมื่อไม่แก่ จักตายได้อย่างไร เมื่อไม่ตาย จักวุ่นใจได้อย่างไร เมื่อไม่วุ่นใจ จักใฝ่ทะยานได้อย่างไร

“ความสำคัญตนที่เป็นกิเลสหมักหมม ย่อมไม่เป็นไปแก่บุคคลผู้ดำรงอยู่ในธรรม ๔ ประการ เมื่อไม่มีความสำคัญตนที่เป็นกิเลสหมักหมมเป็นไป ย่อมเรียกได้ว่า เป็นมุนีผู้สงบ” ข้อความที่เรากล่าวไว้ดังนี้ เราได้กล่าวโดยอาศัยเหตุผลดังว่ามานี้ ดูกรภิกษุ เธอจงทรงจำการจำแนกธาตุ ๖ โดยย่อ แห่งเราดังนี้”

บาลีนี้มาใน ม.อุ.14/693/446....)

.............

ธรรม ๔ ประการ ได้แก่ ปัญญา สัจจะ จาคะ อุปสมะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 05:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b16:
อ้างคำพูด:
ประเด็นของผม..คือ...การที่...อโสกะกล่าวว่า..

"จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ"

ใครที่ยกบทความตามตำรามา..อโสกะก็มีนิสัยว่าคนอย่างนี้ร่ำไป...

ผมจึงเตือนสติ..อยู่นี้งัย
กบพูด
:b13:
กบไม่ลองกลับมุมมองไปอีกข้างหนึ่งดูบ้างหรือครับว่า...
จะมีสักกี่คนที่กล้ามาสะกิดเตือนผู้ยิ่งในตำรา นักวิชาการทั้งหลายให้ได้มีโอกาสวางตำราและความรู้ความคิดทั้งปวงเสียบ้างเป็นพักๆเพื่อให้จิตได้สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ หรือธรรมชาติเดิมแท้หลังจากความนึกคิดรู้หยุดทำงานไปชั่วคราว


"หยุดคิดถึงรู้" นี่คือตอนแรกที่สำคัญ รู้ครั้งแรกนี้คือ รู้ธรรมตามความเป็นจริง

หลังจากนั้นแล้ว "แต่จะรู้ก็ต้องคิด" นี่คือ รู้ภายหลังเป็นการรู้เพื่อเปรียบเทียบกับความรู้ในตำราทำให้แตกฉานและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 09:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b16:
อ้างคำพูด:
ประเด็นของผม..คือ...การที่...อโสกะกล่าวว่า..

"จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ"

ใครที่ยกบทความตามตำรามา..อโสกะก็มีนิสัยว่าคนอย่างนี้ร่ำไป...

ผมจึงเตือนสติ..อยู่นี้งัย
กบพูด
:b13:
กบไม่ลองกลับมุมมองไปอีกข้างหนึ่งดูบ้างหรือครับว่า...
จะมีสักกี่คนที่กล้ามาสะกิดเตือนผู้ยิ่งในตำรา นักวิชาการทั้งหลายให้ได้มีโอกาสวางตำราและความรู้ความคิดทั้งปวงเสียบ้างเป็นพักๆเพื่อให้จิตได้สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ หรือธรรมชาติเดิมแท้หลังจากความนึกคิดรู้หยุดทำงานไปชั่วคราว


"หยุดคิดถึงรู้" นี่คือตอนแรกที่สำคัญ รู้ครั้งแรกนี้คือ รู้ธรรมตามความเป็นจริง

หลังจากนั้นแล้ว "แต่จะรู้ก็ต้องคิด" นี่คือ รู้ภายหลังเป็นการรู้เพื่อเปรียบเทียบกับความรู้ในตำราทำให้แตกฉานและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
onion



ถาม แล้วตอบตามตรงนะ "หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ต้องคิด" ไปจำใครมาพูด :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 20:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ประเด็นของผม..คือ...การที่...อโสกะกล่าวว่า..

"จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ"

ใครที่ยกบทความตามตำรามา..อโสกะก็มีนิสัยว่าคนอย่างนี้ร่ำไป...

ผมจึงเตือนสติ..อยู่นี้งัย


asoka เขียน:
:b13:
กบไม่ลองกลับมุมมองไปอีกข้างหนึ่งดูบ้างหรือครับว่า...
จะมีสักกี่คนที่กล้ามาสะกิดเตือนผู้ยิ่งในตำรา นักวิชาการทั้งหลายให้ได้มีโอกาสวางตำราและความรู้ความคิดทั้งปวงเสียบ้างเป็นพักๆเพื่อให้จิตได้สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ หรือธรรมชาติเดิมแท้หลังจากความนึกคิดรู้หยุดทำงานไปชั่วคราว


มันไม่ยังงั้นนะซี...
มันตั้งหน้าตั้งตาว่าจนเกินไป..ขาดสติ..มันเฟื่อ...จนเลี่ยน.

อ้างคำพูด:
"หยุดคิดถึงรู้" นี่คือตอนแรกที่สำคัญ รู้ครั้งแรกนี้คือ รู้ธรรมตามความเป็นจริง

หลังจากนั้นแล้ว "แต่จะรู้ก็ต้องคิด" นี่คือ รู้ภายหลังเป็นการรู้เพื่อเปรียบเทียบกับความรู้ในตำราทำให้แตกฉานและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
onion


นี้ก็เข้าใจคลาดเคลื่อนจากเจ้าของวลีนี้..

"หยุดคิดถึงรู้"...รู้แรกนี้..รู้สงบ...รู้ว่าเราไม่ต้องเต้นไปตามขันธ์5ก็ได้..เมื่อไม่เต้นไปตามขันธ์...มันก็สงบเป็น..นี้รู้สงบ..รู้ว่ามีเขามีเรา...แยกเขาแยกเราออกจากกันได้...

"แต่จะรู้ก็ต้องคิด"..รู้อันที่สองนี้...รู้อันนี้เป็นญาณ...จากธัมมะวิจัยสัมโพชฌงค์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion
อ้างคำพูด:
ถาม แล้วตอบตามตรงนะ "หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ต้องคิด" ไปจำใครมาพูด

:b12:
จำจากคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้างคำพูด:
ประเด็นของผม..คือ...การที่...อโสกะกล่าวว่า..

"จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ"

ใครที่ยกบทความตามตำรามา..อโสกะก็มีนิสัยว่าคนอย่างนี้ร่ำไป...

ผมจึงเตือนสติ..อยู่นี้งัย


asoka เขียน:
:b13:
กบไม่ลองกลับมุมมองไปอีกข้างหนึ่งดูบ้างหรือครับว่า...
จะมีสักกี่คนที่กล้ามาสะกิดเตือนผู้ยิ่งในตำรา นักวิชาการทั้งหลายให้ได้มีโอกาสวางตำราและความรู้ความคิดทั้งปวงเสียบ้างเป็นพักๆเพื่อให้จิตได้สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ หรือธรรมชาติเดิมแท้หลังจากความนึกคิดรู้หยุดทำงานไปชั่วคราว


มันไม่ยังงั้นนะซี...
มันตั้งหน้าตั้งตาว่าจนเกินไป..ขาดสติ..มันเฟื่อ...จนเลี่ยน.

อ้างคำพูด:
"หยุดคิดถึงรู้" นี่คือตอนแรกที่สำคัญ รู้ครั้งแรกนี้คือ รู้ธรรมตามความเป็นจริง

หลังจากนั้นแล้ว "แต่จะรู้ก็ต้องคิด" นี่คือ รู้ภายหลังเป็นการรู้เพื่อเปรียบเทียบกับความรู้ในตำราทำให้แตกฉานและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
onion


นี้ก็เข้าใจคลาดเคลื่อนจากเจ้าของวลีนี้..

"หยุดคิดถึงรู้"...รู้แรกนี้..รู้สงบ...รู้ว่าเราไม่ต้องเต้นไปตามขันธ์5ก็ได้..เมื่อไม่เต้นไปตามขันธ์...มันก็สงบเป็น..นี้รู้สงบ..รู้ว่ามีเขามีเรา...แยกเขาแยกเราออกจากกันได้...

"แต่จะรู้ก็ต้องคิด"..รู้อันที่สองนี้...รู้อันนี้เป็นญาณ...จากธัมมะวิจัยสัมโพชฌงค์

s004
กบยิ่งเข้าใจคลาดเคลื่อนจากธรรมมาก

หยุดคิดถึงรู้ คือ รู้ปรมัตถ์

จะรู้ก็ต้องคิด คือ รู้บัญญัติ
onion
ที่บอกว่าตั้งใจว่าจนเกินไปนั้น เป็นความคิดเห็นของกบคนเดียว

ดูและสังเกตให้ดีๆสิ ในคำว่านั้นแฝงความปารถนาดีไว้ด้วยตลอดเวลา
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
อ้างคำพูด:
ถาม แล้วตอบตามตรงนะ "หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ต้องคิด" ไปจำใครมาพูด

:b12:
จำจากคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล
:b38:



ของพระพุทธเจ้ามีทำไมไม่จำ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
อ้างคำพูด:
ถาม แล้วตอบตามตรงนะ "หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ต้องคิด" ไปจำใครมาพูด

:b12:
จำจากคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล
:b38:



ของพระพุทธเจ้ามีทำไมไม่จำ :b10:

:b12:
มีเหรอ งั้นลองเอาที่ฟังแล้วรู้เข้าใจง่าย ไม่มีบาลีมากมายมาบอกให้ฟังหน่อยซิ
ต้องเป็นเรื่องเดียวกับที่หลวงปู่ดุลย์พูดนะ

:b11:
พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ดีแล้ว แต่ ที่นำมาแปลและประยุกต์ออกมาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่ค่อยจะมีมาก เพราะนักวิชาการทั้งหลายกลัวเสียเนื้อความเดิม

:b11:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
อ้างคำพูด:
ถาม แล้วตอบตามตรงนะ "หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ต้องคิด" ไปจำใครมาพูด

:b12:
จำจากคำพูดของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล
:b38:



ของพระพุทธเจ้ามีทำไมไม่จำ :b10:

:b12:
มีเหรอ งั้นลองเอาที่ฟังแล้วรู้เข้าใจง่าย ไม่มีบาลีมากมายมาบอกให้ฟังหน่อยซิ
ต้องเป็นเรื่องเดียวกับที่หลวงปู่ดุลย์พูดนะ

:b11:
พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ดีแล้ว แต่ที่นำมาแปลและประยุกต์ออกมาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่ค่อยจะมีมากเพราะนักวิชาการทั้งหลายกลัวเสียเนื้อความเดิม

:b11:



นี่ไงธรรมะปฏิรูป

อ้างคำพูด:
พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ดีแล้ว แต่ที่นำมาแปลและประยุกต์ออกมาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่ค่อยจะมีมาก


เอาของเขามายำกันจนเละ เพื่อให้เข้ากับความต้องการของตน คิกๆๆ ชัดนะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

หยุดคิดถึงรู้ คือ รู้ปรมัตถ์
จะรู้ก็ต้องคิด คือ รู้บัญญัติ
onion

:b38:


อโสกะ...เลอะเทอะแล้ว...

ไม่เข้าใจเจตจำนงของเจ้าของวลี..เลย...ตีความเลอะเทอะตามใจคิด..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


มีเหรอ งั้นลองเอาที่ฟังแล้วรู้เข้าใจง่าย ไม่มีบาลีมากมายมาบอกให้ฟังหน่อยซิ

ต้องเป็นเรื่องเดียวกับที่หลวงปู่ดุลย์พูดนะ

พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ดีแล้ว แต่ ที่นำมาแปลและประยุกต์ออกมาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่ค่อยจะมีมาก เพราะนักวิชาการทั้งหลายกลัวเสียเนื้อความเดิม[/size]


อ้างคำพูด:
มีเหรอ งั้นลองเอาที่ฟังแล้วรู้เข้าใจง่าย ไม่มีบาลีมากมายมาบอกให้ฟังหน่อยซิ


เต็มๆก็ข้างบน นี่ตัดมานะ แค่นี้เอง

อ้างคำพูด:
ก้าวล่วงความสำคัญตนว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เสียทั้งหมดได้ จึงจะเรียกว่า เป็นมุนีผู้สงบ

“ดูกรภิกษุ มุนีผู้สงบ ย่อมไม่เกิด ย่อมไม่แก่ ย่อมไม่ตาย ย่อมไม่วุ่นใจ ย่อมไม่ใฝ่ทะยาน สิ่งอันเป็นเหตุที่เขาจะเกิด ย่อมไม่มี เมื่อไม่เกิด จักแก่ได้อย่างไร เมื่อไม่แก่ จักตายได้อย่างไร เมื่อไม่ตาย จักวุ่นใจได้อย่างไร เมื่อไม่วุ่นใจ จักใฝ่ทะยานได้อย่างไร”


ถ้ายังอยากจะเป็นนั่นเป็นนี่ เป็นอาการของตัณหา (สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 29 เม.ย. 2016, 22:00, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 21:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ดีแล้ว แต่ ที่นำมาแปลและประยุกต์ออกมาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่ค่อยจะมีมาก เพราะนักวิชาการทั้งหลายกลัวเสียเนื้อความเดิม

:b11:


ต้นตอความคิดเลอะเทอะ..คือ..ชอบแปลไปมั่วแล้วเข้าใจว่าตัวแน่...อยากว่าตัวแน่จนแปลไปเลอะๆเทอะๆ..

บาปกรรมจะส่งผลให้ฟังธรรมของจริงไม่รู้เรื่อง...
แต่จะชอบแต่เรื่องเลอะๆเทอะๆ..

นี้แหละถึงไม่เข้าใจวลีหลวงปู่ดุลย์..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 22:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:

พระบรมศาสดาทรงสอนไว้ดีแล้ว แต่ ที่นำมาแปลและประยุกต์ออกมาเป็นภาษาไทยง่ายๆ ไม่ค่อยจะมีมาก เพราะนักวิชาการทั้งหลายกลัวเสียเนื้อความเดิม

:b11:


ต้นตอความคิดเลอะเทอะ..คือ..ชอบแปลไปมั่วแล้วเข้าใจว่าตัวแน่...อยากว่าตัวแน่จนแปลไปเลอะๆเทอะๆ..

บาปกรรมจะส่งผลให้ฟังธรรมของจริงไม่รู้เรื่อง...
แต่จะชอบแต่เรื่องเลอะๆเทอะๆ..

นี้แหละถึงไม่เข้าใจวลีหลวงปู่ดุลย์..



ถ้ากบเข้าใจ ว่าไปสิ เป็นไง :b14:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 22:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ว่าไปตั้งนานแล้วคุณชาย..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2016, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้างคำพูด:
ประเด็นของผม..คือ...การที่...อโสกะกล่าวว่า..

"จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ"

ใครที่ยกบทความตามตำรามา..อโสกะก็มีนิสัยว่าคนอย่างนี้ร่ำไป...

ผมจึงเตือนสติ..อยู่นี้งัย


asoka เขียน:
:b13:
กบไม่ลองกลับมุมมองไปอีกข้างหนึ่งดูบ้างหรือครับว่า...
จะมีสักกี่คนที่กล้ามาสะกิดเตือนผู้ยิ่งในตำรา นักวิชาการทั้งหลายให้ได้มีโอกาสวางตำราและความรู้ความคิดทั้งปวงเสียบ้างเป็นพักๆเพื่อให้จิตได้สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ หรือธรรมชาติเดิมแท้หลังจากความนึกคิดรู้หยุดทำงานไปชั่วคราว


มันไม่ยังงั้นนะซี...
มันตั้งหน้าตั้งตาว่าจนเกินไป..ขาดสติ..มันเฟื่อ...จนเลี่ยน.

อ้างคำพูด:
"หยุดคิดถึงรู้" นี่คือตอนแรกที่สำคัญ รู้ครั้งแรกนี้คือ รู้ธรรมตามความเป็นจริง

หลังจากนั้นแล้ว "แต่จะรู้ก็ต้องคิด" นี่คือ รู้ภายหลังเป็นการรู้เพื่อเปรียบเทียบกับความรู้ในตำราทำให้แตกฉานและชาญฉลาดยิ่งขึ้น
onion




นี้ก็เข้าใจคลาดเคลื่อนจากเจ้าของวลีนี้..

"หยุดคิดถึงรู้"...รู้แรกนี้..รู้สงบ...รู้ว่าเราไม่ต้องเต้นไปตามขันธ์5ก็ได้..เมื่อไม่เต้นไปตามขันธ์...มันก็สงบเป็น..นี้รู้สงบ..รู้ว่ามีเขามีเรา...แยกเขาแยกเราออกจากกันได้...

"แต่จะรู้ก็ต้องคิด"..รู้อันที่สองนี้...รู้อันนี้เป็นญาณ...จากธัมมะวิจัยสัมโพชฌงค์



อ๋อ ที่กบว่ารู้เข้าใจวลีหลวงปู่ดุลย์ "หยุดคิดจึงรู้ แต่จะรู้ก็ต้องคิด" นั่นน่ะหรือ

กบ เคยถามหลวงปู่ดุลย์แล้วหรือว่าเรากับท่านเข้าใจตรงกัน :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 147 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6 ... 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร