วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 23:18  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 147 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 09:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b7:
น่าสงสารโฮฮับจริงๆนะที่หลงไปทำประมาทะต่อท่าพระพุทธโฆษาจารย์และท่านพระอนุรุธ ผู้มีพระคุณต่อนักปฏิบัตธรรมทั้งหลาย ยังอวดดีอวดเก่งกว่าท่านอีก แถมยังไปโหนไปแอบอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้ามารับรองความเห็นสับสนของตัวเอง และไม่ตรงประเด็นของรายละเอียดเรื่องวิญญาณ ทั้งหมดด้วย


กรรมของสัตว์โลก ๆ ๆ ๆ ๆ
:b7:


ศึกษาพระธรรมมันต้องอ้างอิงพระไตรปิฎก เห็นมีแต่อโสกะที่เป็นพุทธปะสาอะไรดันไปอ้าง
ตำราที่แต่งโดยพระแขก .....มิหน่ำซ้ำยังมาว่าเราที่อ้างอิงพระไตรปิฎก


อโสกะไม่ยอมพิจารณาตัวเองเลยว่า เป็นคนนอกรีต
ปากก็ว่าเป็นพุทธ แต่เห็นความสำคัญตำราแขกมากกว่าพระไตรปิฎก :b32:


อย่าลืมนะ ว่าพระพุทธเจ้ามีเชื้อสายแขก :b1:


ก็นั้นนะซิ! ทำไมอโสกะถึงต้องดีดดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า
แค่เอ่ยว่าพระแขก......ทิฐิอย่างหนา!! :b32:


ทั้งพระไตรปิฏกที่บันทึกคำสอนก็มาจากแขก เพราะพระพุทธเจ้ามีเชื้อแขก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 09:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b7:
น่าสงสารโฮฮับจริงๆนะที่หลงไปทำประมาทะต่อท่าพระพุทธโฆษาจารย์และท่านพระอนุรุธ ผู้มีพระคุณต่อนักปฏิบัตธรรมทั้งหลาย ยังอวดดีอวดเก่งกว่าท่านอีก แถมยังไปโหนไปแอบอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้ามารับรองความเห็นสับสนของตัวเอง และไม่ตรงประเด็นของรายละเอียดเรื่องวิญญาณ ทั้งหมดด้วย


กรรมของสัตว์โลก ๆ ๆ ๆ ๆ
:b7:


ศึกษาพระธรรมมันต้องอ้างอิงพระไตรปิฎก เห็นมีแต่อโสกะที่เป็นพุทธปะสาอะไรดันไปอ้าง
ตำราที่แต่งโดยพระแขก .....มิหน่ำซ้ำยังมาว่าเราที่อ้างอิงพระไตรปิฎก


อโสกะไม่ยอมพิจารณาตัวเองเลยว่า เป็นคนนอกรีต
ปากก็ว่าเป็นพุทธ แต่เห็นความสำคัญตำราแขกมากกว่าพระไตรปิฎก :b32:


อย่าลืมนะ ว่าพระพุทธเจ้ามีเชื้อสายแขก :b1:


ก็นั้นนะซิ! ทำไมอโสกะถึงต้องดีดดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า
แค่เอ่ยว่าพระแขก......ทิฐิอย่างหนา!! :b32:


ทั้งพระไตรปิฏกที่บันทึกคำสอนก็มาจากแขก เพราะพระพุทธเจ้ามีเชื้อแขก :b1:


สงสัยสมองมีแต่ไขมันเปลว
พระแขก +ตำราวิสุทธิมรรค
พระศาสดา(แขก) + พระไตรปิฎก

พระศาสดา(แขก)ไม่ใช่พระแขก
พระไตรปิฎกไม่ใช่ ตำราวิสุทธิมรรค

กรัชกายไปให้หมอฉีดยาละลายมันเปลวในสมอง แล้วมาคิด :b32:


โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b7:
น่าสงสารโฮฮับจริงๆนะที่หลงไปทำประมาทะต่อท่าพระพุทธโฆษาจารย์และท่านพระอนุรุธ ผู้มีพระคุณต่อนักปฏิบัตธรรมทั้งหลาย ยังอวดดีอวดเก่งกว่าท่านอีก แถมยังไปโหนไปแอบอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้ามารับรองความเห็นสับสนของตัวเอง และไม่ตรงประเด็นของรายละเอียดเรื่องวิญญาณ ทั้งหมดด้วย


กรรมของสัตว์โลก ๆ ๆ ๆ ๆ
:b7:


ศึกษาพระธรรมมันต้องอ้างอิงพระไตรปิฎก เห็นมีแต่อโสกะที่เป็นพุทธปะสาอะไรดันไปอ้าง
ตำราที่แต่งโดยพระแขก .....มิหน่ำซ้ำยังมาว่าเราที่อ้างอิงพระไตรปิฎก


อโสกะไม่ยอมพิจารณาตัวเองเลยว่า เป็นคนนอกรีต
ปากก็ว่าเป็นพุทธ แต่เห็นความสำคัญตำราแขกมากกว่าพระไตรปิฎก :b32:


อย่าลืมนะ ว่าพระพุทธเจ้ามีเชื้อสายแขก :b1:


ก็นั้นนะซิ! ทำไมอโสกะถึงต้องดีดดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า
แค่เอ่ยว่าพระแขก......ทิฐิอย่างหนา!! :b32:


ทั้งพระไตรปิฏกที่บันทึกคำสอนก็มาจากแขก เพราะพระพุทธเจ้ามีเชื้อแขก :b1:


สงสัยสมองมีแต่ไขมันเปลว
พระแขก +ตำราวิสุทธิมรรค
พระศาสดา(แขก) + พระไตรปิฎก

พระศาสดา(แขก)ไม่ใช่พระแขก
พระไตรปิฎกไม่ใช่ ตำราวิสุทธิมรรค

กรัชกายไปให้หมอฉีดยาละลายมันเปลวในสมอง แล้วมาคิด :b32:



โฮฮับเอ้ย มองให้ชัดมองให้ถึงก้นบึ้ง

ก็ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นแขก คำสอนของท่านๆก็สอนแขกสอนพราหมณ์ครั้งยังเป็นชมพูทวีป ตย. "ดูกรพราหมณ์..." มีไหมที่ว่า ดูกรชาวสยาม ชาวไทย ชาวพม่า ชาวเขมร ฯลฯ มีไหม เคยเห็นไหม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 18:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b7:
น่าสงสารโฮฮับจริงๆนะที่หลงไปทำประมาทะต่อท่าพระพุทธโฆษาจารย์และท่านพระอนุรุธ ผู้มีพระคุณต่อนักปฏิบัตธรรมทั้งหลาย ยังอวดดีอวดเก่งกว่าท่านอีก แถมยังไปโหนไปแอบอ้างคำสอนของพระพุทธเจ้ามารับรองความเห็นสับสนของตัวเอง และไม่ตรงประเด็นของรายละเอียดเรื่องวิญญาณ ทั้งหมดด้วย


กรรมของสัตว์โลก ๆ ๆ ๆ ๆ
:b7:


ศึกษาพระธรรมมันต้องอ้างอิงพระไตรปิฎก เห็นมีแต่อโสกะที่เป็นพุทธปะสาอะไรดันไปอ้าง
ตำราที่แต่งโดยพระแขก .....มิหน่ำซ้ำยังมาว่าเราที่อ้างอิงพระไตรปิฎก


อโสกะไม่ยอมพิจารณาตัวเองเลยว่า เป็นคนนอกรีต
ปากก็ว่าเป็นพุทธ แต่เห็นความสำคัญตำราแขกมากกว่าพระไตรปิฎก :b32:


อย่าลืมนะ ว่าพระพุทธเจ้ามีเชื้อสายแขก :b1:


ก็นั้นนะซิ! ทำไมอโสกะถึงต้องดีดดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า
แค่เอ่ยว่าพระแขก......ทิฐิอย่างหนา!! :b32:


ทั้งพระไตรปิฏกที่บันทึกคำสอนก็มาจากแขก เพราะพระพุทธเจ้ามีเชื้อแขก :b1:


สงสัยสมองมีแต่ไขมันเปลว
พระแขก +ตำราวิสุทธิมรรค
พระศาสดา(แขก) + พระไตรปิฎก

พระศาสดา(แขก)ไม่ใช่พระแขก
พระไตรปิฎกไม่ใช่ ตำราวิสุทธิมรรค

กรัชกายไปให้หมอฉีดยาละลายมันเปลวในสมอง แล้วมาคิด :b32:



โฮฮับเอ้ย มองให้ชัดมองให้ถึงก้นบึ้ง

ก็ในเมื่อพระพุทธเจ้าเป็นแขก คำสอนของท่านๆก็สอนแขกสอนพราหมณ์ครั้งยังเป็นชมพูทวีป ตย. "ดูกรพราหมณ์..." มีไหมที่ว่า ดูกรชาวสยาม ชาวไทย ชาวพม่า ชาวเขมร ฯลฯ มีไหม เคยเห็นไหม :b1:


ลากไปไหนต่อไหน น่ารำคาญชิบเป๋ง!!


โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 20:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:



ลากไปไหนต่อไหน น่ารำคาญชิบเป๋ง!!


มันจริงไหมล่ะที่พูดน่ะ :b1:

ก็บอกแล้วไงว่า มองให้ลึกมองให้ถึงก้นบึ้ง มองให้ถึงต้นตอที่มาที่เกิดของพระพุทธศาสนา อิอิ

มีไหมคำสอนที่ว่า ดูกรชนชาวสยาม ชนชาวไทย ชนชาวพม่า ...เห็นแต่ ดูกรพราหมณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย อิอิ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 20:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับไม่เชื่อใช่มั้ย ถ้างั้นดู ตย.

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลเป็นพื้นฐานเป็นที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ ประหนึ่ง แผ่นดินเป็นที่รองรับ และตั้งลงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีพ และและหาชีพมิได้ เป็นต้นว่าพฤกษาลดาวัลย์มหาสิงขร และสัตว์จตุบททวิบาทนานาชนิด บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้น ใจย่อมอยู่สบาย มีความปลอดโปร่งเหมือนเรือนที่บุคคลปัดกวาดเช็ดถูเรียบร้อย ปราศจากเรือดและฝุ่นเป็นที่รบกวน"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิ คือ ความสงบใจ สมาธิที่มีศีลเป็นเบื้องต้น เป็นสมาธิที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบเหมือนเรือนทีมีฝาผนัง มีประตูหน้าต่างปิดเปิดได้เรียบร้อย มีหลังคาสำหรับป้องกันลม แดด และฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ ฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อนฉันใด บุคคลผู้มีจิตเป็นสมาธิดีก็ ฉันนั้น ย่อมสงบอยู่ได้ ไม่กระวนกระวาย เมื่อลม แดด และฝน กล่าวคือ โลกธรรมแผดเผา กระพือพัดสัดสาดเข้ามา ครั้งแล้วครั้งเล่า สมาธิอย่างนี้ ย่อมก่อให้เกิดปัญญา ในการฟาดฟันย่ำยี และเชือดเฉือนกิเลสอาสวะต่างๆ ให้เบาบางและหมดสิ้นไป เหมือนบุคคลผู้มีกำลังจับศาสตราอันคมกริบแล้วถางป่าให้โล่งเตียนก็ปานนั้น"

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปัญญา ซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐานนั้น ย่อมปรากฏดุจไฟดวงใหญ่กำจัดความมืดให้ปลาสนาการมีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ ขับฝุ่นละออง คือ กิเลสให้ปลิวหาย ปัญญาจึงเป็นประดุจประทีปแห่งดวงใจ"

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 15 เม.ย. 2016, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับดูที่สอนพราหมณ์ :b1:

การแสวงหาและการรักษาทรัพย์

ครั้งหนึ่ง อุชชัยพราหมณ์ได้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า และกราบทูลว่า ตนจะไปอยู่ต่างถิ่น จะขอให้พระพุทธองค์แสดงธรรม ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขปัจจุบัน และธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขภายหน้า พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า

ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการนี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขปัจจุบัน กล่าวคือ อุฏฐานสัมปทา อารักขสัมปทา กัลยาณมิตตตา สมชีวิตา

๑) อุฏฐานสัมปทา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรหาเลี้ยงชีพด้วยความขยันในการงาน ไม่ว่าจะเป็นกสิกรรม ก็ดี พาณิชยกรรม ก็ดี โครักขกรรม ก็ดี ราชการทหาร ก็ดี ราชการพลเรือน ก็ดี ศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ดี เธอเป็นผู้ขยัน ชำนิชำนาญ ไม่เกียจคร้าน ในงานนั้น ประกอบด้วยปัญญาเครื่องสอบสวนตรวจตรา รู้จักวิธีปฏิบัติในเรื่องนั้นๆ สามารถทำ สามารถจัดการ นี้เรียกว่า อุฏฐานสัมปทา

๒) อารักขสัมปทา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรมีโภคทรัพย์ ที่หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร เก็บรวบรวมขึ้นด้วยกำลังแขน อย่างอาบเหงื่อต่างน้ำ เป็นของชอบธรรม ได้มาโดยธรรม เธอจัดการรักษาคุ้มครองทรัพย์เหล่านั้น โดยพิจารณาว่า ทำอย่างไร ราชาทั้งหลายจะไม่พึงริบโภคะเหล่านี้ของเราเสีย พวกโจรไม่พึงลักไปเสีย ไฟไม่พึงไหม้เสีย น้ำไม่พึงพาไปเสีย ทายาทอัปรีย์ก็จะไม่พึงเอาไปเสีย นี้เรียกว่า อารักขสัมปทา

๓) กัลยาณมิตตตา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรเข้าอยู่อาศัยในคามหรือนิคมใดก็ตาม เธอเข้าสนิทสนมสนทนาปราศรัย ถกถ้อยปรึกษา กับท่านที่เป็นคหบดีบ้าง บุตรคหบดีบ้าง พวกคนหนุ่มที่มีความประพฤติเป็นผู้ใหญ่บ้าง คนสูงอายุที่มีความประพฤติเป็นผู้ใหญ่บ้าง ผู้ประกอบด้วยศรัทธา ประกอบด้วยศีล ประกอบด้วยจาคะ ประกอบด้วยปัญญา เธอศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยศรัทธา ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยศรัทธา ศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยศีล ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยศีล ศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยจาคะ ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยจาคะ ศึกษาเยี่ยงอย่างความเพียบพร้อมด้วยปัญญา ของท่านผู้เพียบพร้อมด้วยปัญญา นี้เรียกว่า กัลยาณมิตตตา

๔) สมชีวิตา เป็นไฉน ? คือ กุลบุตรเลี้ยงชีวิพอเหมาะ ไม่ให้ฟุ่มเฟือยเกินไป ไม่ให้ฝืดเคืองเกินไป โดยรู้เข้าใจทางเพิ่มพูนและทางลดถอยแห่งโภคทรัพย์ ว่าทำอย่างนี้ รายได้ของเราจึงจะเหนือรายจ่าย และรายจ่ายของเราจึงจักไม่เหนือรายได้ เปรียบเหมือนคนชั่งตาชั่งหรือลูกมือคนชั่งยกตาชั่งขึ้นแล้ว ย่อมรู้ว่าหย่อนไปเท่านั้น หรือเกินไปเท่านี้

“ถ้าหากกุลบุตร นี้ รายได้น้อย แต่เลี้ยงชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อ ก็จะมีผู้กล่าวว่าเอาได้ว่า กุลบุตรผู้นี้ ...กินใช้ทรัพย์สมบัติเหมือนคนกินมะเดื่อ ถ้ากุลบุตรนี้มีรายได้มาก แต่เลี้ยงชีวิตอย่างฝืดเคือง ก็จะมีผู้กล่าวว่าเอาได้ว่า กุลบุตรผู้นี้ คงจะตายอย่างคนอนาถา แต่เพราะกุลบุตรนี้เลี้ยงชีวิตพอเหมาะ...นี้เรียกว่า สมชีวิตา

"ดูกรพราหมณ์ โภคะที่เกิดขึ้นโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมมี อบายมุข (ช่องทางเสื่อม) ๔ ประการ คือ เป็นนักเลงหญิง เป็นนักเลงสุรา เป็นนักเลงการพนัน มีมิตรชั่วสหายชั่ว ฝักใฝ่ในคนชั่ว เปรียบเหมือนอ่างเก็บน้ำแหล่งใหญ่ มีทางไหลเข้า ๔ ทาง มีทางไหลออก ๔ ทาง หากคนปิดทางน้ำเข้าเสีย เปิดแต่ทางน้ำออก อีกทั้งฝนก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อเป็นเช่นนี้ อ่างเก็บน้ำใหญ่นั้น เป็นอันหวังได้แต่ความลดน้อยลงอย่างเดียว ไม่มีความเพิ่มขึ้นได้เลย...

ดูกรพราหมณ์ โภคะที่เกิดขึ้นโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมมี อายมุข (ช่องทางเพิ่มขึ้น) ๔ ประการ คือ ไม่เป็นนักเลงหญิง ไม่เป็นนักเลงสุรา ไม่เป็นนักเลงการพนัน มีมิตรดี มีสหายดี ใฝ่ใจในกัลยาณชน เปรียบเหมือนอ่างเก็บน้ำใหญ่ ใหญ่ มีทางไหลเข้า ๔ ทาง มีทางไหลออก ๔ ทาง หากคนเปิดทางน้ำเข้า ปิดทางน้ำออก และฝนก็ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อเป็นเช่นนี้ อ่างเก็บน้ำใหญ่นั้น เป็นอันหวังได้แต่ความเพิ่มพูนอย่างเดียว ไม่มีความลดน้อยลงเลย...

ดูกรพราหมณ์ ธรรม ๔ ประการ เหล่านี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขปัจจุบัน แก่กุลบุตร”

จากนั้น ตรัสแสดงธรรม ๔ ประการ ที่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขเบื้องหน้า หรือประโยชน์ล้ำเลยตาเห็น (สัมปรายิกัตถะ) คือ สัทธาสัมปทา ศีลสัมปทา จาคสัมปทา และปัญญาสัมปทา

(องฺ.อฏฺฐก.23/145/294)

คิกๆๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 17 เม.ย. 2016, 08:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ

:b7:


โพสต์ เมื่อ: 18 เม.ย. 2016, 05:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ

:b7:


ยังไม่หยุดพฤติกรรมตำนิ...คิดแต่อกุศลคนที่ยกตำรามาให้อ่าน..ปรุงไปแต่ในทางตำนิเขา...เหยียดเขา...กลับไม่สำรวจทิฏฐิมานะอันใหญ่โตของตน...ระวังกรรมหนักจะสนองนะ..

ระวัง...จะอ่านหนังสือไม่ออก...ตีความหมายของหนังสือไม่ถูก...ฯลฯ


โพสต์ เมื่อ: 18 เม.ย. 2016, 08:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:
จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ

:b7:



จริงๆนะ ยิ่งคุยยิ่งขำ ยิ่งสนุก อะไรนักก็ไม่รู้ :b1: ที่นำข้างบนเพื่อให้โฮฮับดู ว่าพระพุทธเจ้าเป็นแขก คำสอนก็สอนภิกษุ สอนพราหมณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดูกรพราหมณ์ ไม่ได้สอนชาวไทย ชาวพม่า ... เช่น ดูกรชาวสยาม ดูกรชาวไทย ดูกรชาวพม่า...... หรืออโศกจะค้าน :b14:

ตายก่อนตาย ใครเป็นคนบัญญัติไม่ทราบ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 เม.ย. 2016, 06:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ

:b7:


ยังไม่หยุดพฤติกรรมตำนิ...คิดแต่อกุศลคนที่ยกตำรามาให้อ่าน..ปรุงไปแต่ในทางตำนิเขา...เหยียดเขา...กลับไม่สำรวจทิฏฐิมานะอันใหญ่โตของตน...ระวังกรรมหนักจะสนองนะ..

ระวัง...จะอ่านหนังสือไม่ออก...ตีความหมายของหนังสือไม่ถูก...ฯลฯ

:b12:
กบต้องแยกแยะประเด็นและจุดเน้นให้ไดให้ดีนะจะได้ไม่พลาดโอกาสสำคัญของชีวิต

ประเด็นคือทำอย่างไรจึงจะได้ตายก่อนตายหรือตายเป็นตายฉลาด

คำที่เตือนนั้นคือ อย่าพากันหลงความรู้ความเห็นในตำราที่ตนศึกษามาว่าใช่จนความรู้เห็นของคนอื่นใดผิดหมด

มันสำคัญอยู่ที่ใครจะมีสติ ปัญญา เชาวน์ ปฏิภาณ ไหวพริบนำเอาความรู้ในตำรามาประยุกต์ใช้ ปฏิบัติจริงจนพาตนเองตายก่อนตายได้

onion


โพสต์ เมื่อ: 21 เม.ย. 2016, 06:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ

:b7:



จริงๆนะ ยิ่งคุยยิ่งขำ ยิ่งสนุก อะไรนักก็ไม่รู้ :b1: ที่นำข้างบนเพื่อให้โฮฮับดู ว่าพระพุทธเจ้าเป็นแขก คำสอนก็สอนภิกษุ สอนพราหมณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดูกรพราหมณ์ ไม่ได้สอนชาวไทย ชาวพม่า ... เช่น ดูกรชาวสยาม ดูกรชาวไทย ดูกรชาวพม่า...... หรืออโศกจะค้าน :b14:

ตายก่อนตาย ใครเป็นคนบัญญัติไม่ทราบ
:b9:

:b13:
ตายก่อนตายมีครูบาอาจารย์หลายท่านบัญญัติ และคนรู้ธรรมถึงธรรมมากท่านบัญญัติหรือเข้าใจบัญญัตินี้

ตายก่อนตาย ความหมายในด้านธรรมปฏิบัติคือ กิเลส ตัณหา อัตตา ความเห็นผิดยึดผิดตายแล้วผลที่ได้เมื่อเข้าไปเสวยผลจะได้ถึงภาวะเหมือนคนตายแต่ไม่ตาย เมื่อเข้าผลได้บ่อยๆจนชำนาญเมื่อถึงเวลาที่ธาตุขันธ์จะแตกดับตายจริงๆ ก็จะสามารถตายด้วยสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์หมดเชื้อที่จะไปเวียนว่ายตายเกิดอีก

:b44:


โพสต์ เมื่อ: 21 เม.ย. 2016, 06:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ

:b7:


ยังไม่หยุดพฤติกรรมตำนิ...คิดแต่อกุศลคนที่ยกตำรามาให้อ่าน..ปรุงไปแต่ในทางตำนิเขา...เหยียดเขา...กลับไม่สำรวจทิฏฐิมานะอันใหญ่โตของตน...ระวังกรรมหนักจะสนองนะ..

ระวัง...จะอ่านหนังสือไม่ออก...ตีความหมายของหนังสือไม่ถูก...ฯลฯ

:b12:
กบต้องแยกแยะประเด็นและจุดเน้นให้ไดให้ดีนะจะได้ไม่พลาดโอกาสสำคัญของชีวิต

ประเด็นคือทำอย่างไรจึงจะได้ตายก่อนตายหรือตายเป็นตายฉลาด

คำที่เตือนนั้นคือ อย่าพากันหลงความรู้ความเห็นในตำราที่ตนศึกษามาว่าใช่จนความรู้เห็นของคนอื่นใดผิดหมด

มันสำคัญอยู่ที่ใครจะมีสติ ปัญญา เชาวน์ ปฏิภาณ ไหวพริบนำเอาความรู้ในตำรามาประยุกต์ใช้ ปฏิบัติจริงจนพาตนเองตายก่อนตายได้

onion


ประเด็นของผม..คือ...การที่...อโสกะกล่าวว่า..

"จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ
"

ใครที่ยกบทความตามตำรามา..อโสกะก็มีนิสัยว่าคนอย่างนี้ร่ำไป...

ผมจึงเตือนสติ..อยู่นี้งัย


โพสต์ เมื่อ: 21 เม.ย. 2016, 08:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12:

จะได้ตายก่อนตายกันไหมเนี้ยะ?
ถ้าในหัวเต็มไปด้วยตัวหนังสือ ความนึกคิด จิตยึดแน่นอยู่ในความเห็นว่า ของฉันนีแหละ ถูก ของฉันนี่แหละใช่ ของคนอื่นใดนั้นผิดหมดเพราะไม่ตรงตามตำราที่ฉันค้นพบ
:b7:



จริงๆนะ ยิ่งคุยยิ่งขำ ยิ่งสนุก อะไรนักก็ไม่รู้ :b1: ที่นำข้างบนเพื่อให้โฮฮับดู ว่าพระพุทธเจ้าเป็นแขก คำสอนก็สอนภิกษุ สอนพราหมณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ดูกรพราหมณ์ ไม่ได้สอนชาวไทย ชาวพม่า ... เช่น ดูกรชาวสยาม ดูกรชาวไทย ดูกรชาวพม่า...... หรืออโศกจะค้าน :b14:

ตายก่อนตาย ใครเป็นคนบัญญัติไม่ทราบ
:b9:


ตายก่อนตายมีครูบาอาจารย์หลายท่านบัญญัติ และคนรู้ธรรมถึงธรรมมากท่านบัญญัติหรือเข้าใจบัญญัตินี้

ตายก่อนตาย ความหมายในด้านธรรมปฏิบัติคือ กิเลส ตัณหา อัตตา ความเห็นผิดยึดผิดตายแล้วผลที่ได้เมื่อเข้าไปเสวยผลจะได้ถึงภาวะเหมือนคนตายแต่ไม่ตาย เมื่อเข้าผลได้บ่อยๆจนชำนาญเมื่อถึงเวลาที่ธาตุขันธ์จะแตกดับตายจริงๆ ก็จะสามารถตายด้วยสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์หมดเชื้อที่จะไปเวียนว่ายตายเกิดอีก



จะไปบัญญัติใหม่ ให้วุ่นวายทำไม ของเดิมเข้าใจง่ายอยู่แล้ว เช่น เพียรกำจัดอาสวะกิเลสให้สิ้นไป :b32:

พระพุทธเจ้าก็ทำสิ่งที่ยากๆให้ง่าย เช่น อุปมาเหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด แต่อโศกสวนทางกัน กลับทำให้ยากขึ้น เหมือนคว่ำของที่หงาย ปิดของที่เปิด นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆนะ กรัชกายจะขออนุญาตหยิกให้เนื้อเขียวแล้วเอาเกลือทา :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสต์ เมื่อ: 21 เม.ย. 2016, 15:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
เพียรกำจัดอาสวะกิเลส

ฝึกตายก่อนตาย

คำไหนฟังง่ายจำง่ายกว่ากันล่ะคับ ปรมาจารย์กรัชกาย
:b13:
กบช่วยตัดสินหน่อย ลุงโฮด้วย
:b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 147 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร