วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 03:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 เม.ย. 2016, 20:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
สมาธิมรรค
สติ
วิริยะ
ปีติ
ปัสสัทธิ
สมาธิ
อุเบกขา
เป็นองค์ของสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ในมรรค 8


ปัญญามรรค
ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์
เป็นองค์ของสัมมาสังกัปปะและสัมมาทิฏฐิ ในมรรค 8


กบกับโฮฮับลองกลับไปไต่ตรองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ
:b38:


เขาอธิบายซะยืดยาว ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบนี้ช่วยไม่ได้ :b32:



บอกไม่จำ ว่าเหมือนเอาลมมาถกเถียงกัน มันต้องลงมือทำ ลงเท้าปฏิบัติ :b32:

onion
ผมปฏิบัติมาแล้วและปฏิบัติอยู่ จึงรู้และเข้าใจอย่างนี้ กรัชกาย กบ โฮฮับปฏิบัติจริงจนพบสาระของโพชงค์ 7 จริงๆหรือยังล่ะ
s006


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 05:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
สมาธิมรรค
สติ
วิริยะ
ปีติ
ปัสสัทธิ
สมาธิ
อุเบกขา
เป็นองค์ของสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ในมรรค 8


ปัญญามรรค
ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์
เป็นองค์ของสัมมาสังกัปปะและสัมมาทิฏฐิ ในมรรค 8


กบกับโฮฮับลองกลับไปไต่ตรองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ
:b38:


เขาอธิบายซะยืดยาว ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบนี้ช่วยไม่ได้ :b32:



บอกไม่จำ ว่าเหมือนเอาลมมาถกเถียงกัน มันต้องลงมือทำ ลงเท้าปฏิบัติ :b32:


ผมปฏิบัติมาแล้วและปฏิบัติอยู่ จึงรู้และเข้าใจอย่างนี้ กรัชกาย กบ โฮฮับปฏิบัติจริงจนพบสาระของโพชงค์ 7 จริงๆหรือยังล่ะ


ผู้กำลังปฏิบัติอยู่ ควรกำหนดความคิดขณะนั้นๆเสียด้วย "คิดหนอๆๆๆ" เพราะอะไร ? เพราะเปรียบดังเรากำลังเดินทางไปสุไหง-โกลก เมื่อยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ยังจะต้องผ่านอุปสรรคขวางหนามอีกนานัปการ เจอะส่ิ่งถูกใจข้างทาง เราก็คิดว่าเออๆใช่เลย เมื่อเจอะเจอกับสิ่งที่ไม่ถูกใจ ก็คิดว่า ทำไมถึงต้องเป็นเรา :b32: เจ้ากรรมนายเวรเยอะจริงๆ โอ้ชีวิต คิกๆๆ พอประสบกับลมเย็นๆพัดผ่านก็นอนทอดขลุ่ย ฯลฯ แต่ถ้าถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ไม่รู้จะพูดอะไร

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 08:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
สมาธิมรรค
สติ
วิริยะ
ปีติ
ปัสสัทธิ
สมาธิ
อุเบกขา
เป็นองค์ของสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ในมรรค 8


ปัญญามรรค
ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์
เป็นองค์ของสัมมาสังกัปปะและสัมมาทิฏฐิ ในมรรค 8


กบกับโฮฮับลองกลับไปไต่ตรองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ
:b38:


เขาอธิบายซะยืดยาว ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบนี้ช่วยไม่ได้ :b32:



บอกไม่จำ ว่าเหมือนเอาลมมาถกเถียงกัน มันต้องลงมือทำ ลงเท้าปฏิบัติ :b32:

onion
ผมปฏิบัติมาแล้วและปฏิบัติอยู่ จึงรู้และเข้าใจอย่างนี้ กรัชกาย กบ โฮฮับปฏิบัติจริงจนพบสาระของโพชงค์ 7 จริงๆหรือยังล่ะ
s006


ก่อนที่องคุลีมาลจะพบกับพระพุทธเจ้า องคุลีมาลก็คิดว่าการฆ่าคนให้ครบพันคือการปฏิบัติ

ฉะนั้นอโสกะอย่าเอาคำว่าตนปฏิบัติคนอื่นไม่ได้ปฏิบัติมาอ้างมันน่าหัวร่อ :b32:

การจะดูว่าใครปฏิบัติจริง มันต้องดูที่เหตุผลและการเสนอธรมที่เป็นด้านแก้และด้านกระทำ

มันไม่ใช่มาทำตัวเป็นเด็ก บอกคนอื่นไม่ทำตัวเองทำ
หรือทำแบบกรัชกายที่ชอบไปก๊อปปี้บทความบ้าๆบอๆไร้สาระทางธรรมมาโพส
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 08:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
สมาธิมรรค
สติ
วิริยะ
ปีติ
ปัสสัทธิ
สมาธิ
อุเบกขา
เป็นองค์ของสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ในมรรค 8


ปัญญามรรค
ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์
เป็นองค์ของสัมมาสังกัปปะและสัมมาทิฏฐิ ในมรรค 8


กบกับโฮฮับลองกลับไปไต่ตรองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ
:b38:


เขาอธิบายซะยืดยาว ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบนี้ช่วยไม่ได้ :b32:



บอกไม่จำ ว่าเหมือนเอาลมมาถกเถียงกัน มันต้องลงมือทำ ลงเท้าปฏิบัติ :b32:

onion
ผมปฏิบัติมาแล้วและปฏิบัติอยู่ จึงรู้และเข้าใจอย่างนี้ กรัชกาย กบ โฮฮับปฏิบัติจริงจนพบสาระของโพชงค์ 7 จริงๆหรือยังล่ะ
s006


ก่อนที่องคุลีมาลจะพบกับพระพุทธเจ้า องคุลีมาลก็คิดว่าการฆ่าคนให้ครบพันคือการปฏิบัติ

ฉะนั้นอโสกะอย่าเอาคำว่าตนปฏิบัติคนอื่นไม่ได้ปฏิบัติมาอ้างมันน่าหัวร่อ :b32:

การจะดูว่าใครปฏิบัติจริง มันต้องดูที่เหตุผลและการเสนอธรมที่เป็นด้านแก้และด้านกระทำ

มันไม่ใช่มาทำตัวเป็นเด็ก บอกคนอื่นไม่ทำตัวเองทำ
หรือทำแบบกรัชกายที่ชอบไปก๊อปปี้บทความบ้าๆบอๆไร้สาระทางธรรมมาโพส
:b32: :b32:


คิกๆๆ ก็ว่าอโศกอยู่ข้างบน แล้วทำไมอิเหนาเป็นสะเองล่ะ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 08:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
สมาธิมรรค
สติ
วิริยะ
ปีติ
ปัสสัทธิ
สมาธิ
อุเบกขา
เป็นองค์ของสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ในมรรค 8


ปัญญามรรค
ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์
เป็นองค์ของสัมมาสังกัปปะและสัมมาทิฏฐิ ในมรรค 8


กบกับโฮฮับลองกลับไปไต่ตรองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ
:b38:


เขาอธิบายซะยืดยาว ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบนี้ช่วยไม่ได้ :b32:



บอกไม่จำ ว่าเหมือนเอาลมมาถกเถียงกัน มันต้องลงมือทำ ลงเท้าปฏิบัติ :b32:

onion
ผมปฏิบัติมาแล้วและปฏิบัติอยู่ จึงรู้และเข้าใจอย่างนี้ กรัชกาย กบ โฮฮับปฏิบัติจริงจนพบสาระของโพชงค์ 7 จริงๆหรือยังล่ะ
s006


ก่อนที่องคุลีมาลจะพบกับพระพุทธเจ้า องคุลีมาลก็คิดว่าการฆ่าคนให้ครบพันคือการปฏิบัติ

ฉะนั้นอโสกะอย่าเอาคำว่าตนปฏิบัติคนอื่นไม่ได้ปฏิบัติมาอ้างมันน่าหัวร่อ :b32:

การจะดูว่าใครปฏิบัติจริง มันต้องดูที่เหตุผลและการเสนอธรมที่เป็นด้านแก้และด้านกระทำ

มันไม่ใช่มาทำตัวเป็นเด็ก บอกคนอื่นไม่ทำตัวเองทำ
หรือทำแบบกรัชกายที่ชอบไปก๊อปปี้บทความบ้าๆบอๆไร้สาระทางธรรมมาโพส
:b32: :b32:


คิกๆๆ ก็ว่าอโศกอยู่ข้างบน แล้วทำไมอิเหนาเป็นสะเองล่ะ :b32:



เป็นตรงไหน เหมือนกรัชกายด่าเผด็จการแต่จะเอาคอมมิวนิสย์นะหรือ

ปากพร่ามแต่คำว่าประชาธิปไตย แต่อยากได้ของฟรี :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จากใจนะ นักธรรมะบ้านเรา ยิ่งพูดยิ่งโพสต์ธรรมะ (ว่างั้น ว่าธรรมะ :b1: ) แต่ดูเหมือนยิ่งห่าง ห่างไกลจากชีวิตจริงออกไปๆ ประมาณว่าธรรมะไม่ใช่เรื่องของคนของมนุษย์ไปสะยังงั้นแหละ

จะเอาธรรมะว่างั้นเถอะ เอาตัวอักษร เอา สติ เป็นต้น เอาตัวที่เขาแปลดีๆ เอาดื้อๆทื่อๆ ตัวอกุศลไม่เอา เพราะมันไม่ดีว่างั้น จะเอาแต่ดีๆ เอาแต่กุศล กลัวอกุศล ป๊าดติเถ เถนา ในขณะที่เราหรือท่านปฏิบัติอยู่นั่นน่า ธรรมะฝ่ายขาว,ฝ่ายดำ (ฝ่ายดี ฝ่ายไม่ดี) มันเกิดมันดับไปตามสภาพของมัน เหมือนมันแย่งชิงพื้นที่หัวใจกันอยู่ เริ่มต้นก็ผิดแล้ว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 08:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:
สมาธิมรรค
สติ
วิริยะ
ปีติ
ปัสสัทธิ
สมาธิ
อุเบกขา
เป็นองค์ของสัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ในมรรค 8


ปัญญามรรค
ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์
เป็นองค์ของสัมมาสังกัปปะและสัมมาทิฏฐิ ในมรรค 8


กบกับโฮฮับลองกลับไปไต่ตรองพิจารณาดูให้ดีๆนะครับ
:b38:


เขาอธิบายซะยืดยาว ยังวนเวียนอยู่ที่เดิม แบบนี้ช่วยไม่ได้ :b32:



บอกไม่จำ ว่าเหมือนเอาลมมาถกเถียงกัน มันต้องลงมือทำ ลงเท้าปฏิบัติ :b32:

onion
ผมปฏิบัติมาแล้วและปฏิบัติอยู่ จึงรู้และเข้าใจอย่างนี้ กรัชกาย กบ โฮฮับปฏิบัติจริงจนพบสาระของโพชงค์ 7 จริงๆหรือยังล่ะ
s006


ก่อนที่องคุลีมาลจะพบกับพระพุทธเจ้า องคุลีมาลก็คิดว่าการฆ่าคนให้ครบพันคือการปฏิบัติ

ฉะนั้นอโสกะอย่าเอาคำว่าตนปฏิบัติคนอื่นไม่ได้ปฏิบัติมาอ้างมันน่าหัวร่อ :b32:

การจะดูว่าใครปฏิบัติจริง มันต้องดูที่เหตุผลและการเสนอธรมที่เป็นด้านแก้และด้านกระทำ

มันไม่ใช่มาทำตัวเป็นเด็ก บอกคนอื่นไม่ทำตัวเองทำ
หรือทำแบบกรัชกายที่ชอบไปก๊อปปี้บทความบ้าๆบอๆไร้สาระทางธรรมมาโพส
:b32: :b32:


คิกๆๆ ก็ว่าอโศกอยู่ข้างบน แล้วทำไมอิเหนาเป็นสะเองล่ะ :b32:



เป็นตรงไหน เหมือนกรัชกายด่าเผด็จการแต่จะเอาคอมมิวนิสย์นะหรือ

ปากพร่ามแต่คำว่าประชาธิปไตย แต่อยากได้ของฟรี :b32:


สมแล้วที่ประเทศไทยย่ำอยู่กับที่ และนับวันจะถอยหลัง เพราะประชากรในประเทศมีแบบโฮฮับนี่แหละ คิกๆๆ

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 17:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


onion
ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา เป็นองค์คุณของสัมมาสมาธิ ใช่หรือเปล่าล่ะ ลองไปดูคำแปลในบทสวดเรื่องมรรค 8 ดูให้ดีและลึกซึ้งนะ

สัมมาวายามะหรือวิริยะ กับสัมมาสติ ใช่สมาธิมรรคหรือเปล่าไปทบทวนดูดีๆ

โฮฮับกับกบไปศึกษาดูดีๆ อย่ารู้มากจนยากนานและฟั่นเฟือน

:b34:
นี่ท่านกรัชกายก็จะชวนไปเกาหลีเหนืออีกแล้ว ดูรูปสิ
:b13: :b13: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 19:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
onion
ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา เป็นองค์คุณของสัมมาสมาธิ ใช่หรือเปล่าล่ะ ลองไปดูคำแปลในบทสวดเรื่องมรรค 8 ดูให้ดีและลึกซึ้งนะ

สัมมาวายามะหรือวิริยะ กับสัมมาสติ ใช่สมาธิมรรคหรือเปล่าไปทบทวนดูดีๆ

โฮฮับกับกบไปศึกษาดูดีๆ อย่ารู้มากจนยากนานและฟั่นเฟือน

:b34:
นี่ท่านกรัชกายก็จะชวนไปเกาหลีเหนืออีกแล้ว ดูรูปสิ
:b13: :b13: :b9:


อย่ามั่ว โพชฌงค์ จะเกิดได้ต้องอาศัย สัมโพชฌงค์ทั้ง๗
ไม่สามารถแยกให้เป็นอย่างโน้นอย่างนี้ได้ เพราะถ้าแยกกันโพชฌงค์ก็เกิดไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 เม.ย. 2016, 22:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
onion
ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา เป็นองค์คุณของสัมมาสมาธิ ใช่หรือเปล่าล่ะ ลองไปดูคำแปลในบทสวดเรื่องมรรค 8 ดูให้ดีและลึกซึ้งนะ

สัมมาวายามะหรือวิริยะ กับสัมมาสติ ใช่สมาธิมรรคหรือเปล่าไปทบทวนดูดีๆ

โฮฮับกับกบไปศึกษาดูดีๆ อย่ารู้มากจนยากนานและฟั่นเฟือน

:b34:
นี่ท่านกรัชกายก็จะชวนไปเกาหลีเหนืออีกแล้ว ดูรูปสิ
:b13: :b13: :b9:


แปลเอาทื่อๆ...อย่างนี้...เขาไม่น่าจะเรียกว่าเอาผลปฏิบัติมานะ...รึจะพูดว่าปฏิบัติมายังไม่เห็นผล..ก็ได้

ก็ขออภัยที่พูดตรงๆ...นะคับ

โพชฌงค์ 7 ..จุดเด่นคือ..ธัมมะวิจัย...สติก็มีสติในธัมมะวิจัย...มีวิริยะก็มีในการธัมมะวิจัย...โยนิโสมนสิการเป็นหลัก.

ส่วน..ปีติ...ปัสสัทธิ...สมาธิ...อุเบกขา...เป็นผล..เป็นอาการ..ที่แสดงว่า..การโยนิโสมานั้น..ทำถูกทาง...
ซึ่งมีกล่าวลักษณะทำนองนี้ใว้ในหลายๆที่..ดังตัวอย่างนี้เป็นต้น
อ้างคำพูด:
 วินัย ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่สังวร (ความสำรวม), สังวร ย่อมมีเพื่อประโยชน์ แก่อวิปปฏิสาร (ความไม่เดือดร้อนใจ), อวิปปฏิสาร ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ความปราโมทย์, ความปราโมทย์ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ปีติ (ความอิ่มใจ) ปีติ ย่อมมี เพื่อประโยชน์แก่ปัสสัทธิ (ความสงบ), ปัสสัทธิ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ความสุข, ความสุข ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่สมาธิ (ความตั้งใจมั่น), สมาธิ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ยถาภูตญาณทัสสนะ (ความรู้เห็นตามเป็นจริง), ยถาภูตญาณทัสสนะ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่นิพพิทา (ความเบื่อหน่าย), นิพพิทา ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิราคะ (ความสำรอกกิเลส), วิราคะย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติ (ความหลุดพ้น) วิมุตติย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติญาณทัสสนะ (ความรู้เห็นความหลุดพ้น), วิมุตติญาณทัสสนะ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่อนุปาทาปรินิพพาน (ความดับสนิทหาเชื้อมิได้)”18)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 เม.ย. 2016, 09:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
asoka เขียน:
onion
ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา เป็นองค์คุณของสัมมาสมาธิ ใช่หรือเปล่าล่ะ ลองไปดูคำแปลในบทสวดเรื่องมรรค 8 ดูให้ดีและลึกซึ้งนะ

สัมมาวายามะหรือวิริยะ กับสัมมาสติ ใช่สมาธิมรรคหรือเปล่าไปทบทวนดูดีๆ

โฮฮับกับกบไปศึกษาดูดีๆ อย่ารู้มากจนยากนานและฟั่นเฟือน

:b34:
นี่ท่านกรัชกายก็จะชวนไปเกาหลีเหนืออีกแล้ว ดูรูปสิ
:b13: :b13: :b9:


แปลเอาทื่อๆ...อย่างนี้...เขาไม่น่าจะเรียกว่าเอาผลปฏิบัติมานะ...รึจะพูดว่าปฏิบัติมายังไม่เห็นผล..ก็ได้

ก็ขออภัยที่พูดตรงๆ...นะคับ

โพชฌงค์ 7 ..จุดเด่นคือ..ธัมมะวิจัย...สติก็มีสติในธัมมะวิจัย...มีวิริยะก็มีในการธัมมะวิจัย...โยนิโสมนสิการเป็นหลัก.

ส่วน..ปีติ...ปัสสัทธิ...สมาธิ...อุเบกขา...เป็นผล..เป็นอาการ..ที่แสดงว่า..การโยนิโสมานั้น..ทำถูกทาง...
ซึ่งมีกล่าวลักษณะทำนองนี้ใว้ในหลายๆที่..ดังตัวอย่างนี้เป็นต้น



อโสกะมาดูนี้..อีก

ที่กล่าวทำนองว่า...ปีติ...ปัสสัทธิ..สมาธิ..อเบกขา..เป็นผล..เป็นอาการ

อ้างคำพูด:
อานาปานสติสูตร

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖

มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุที่เจริญสติปัฏฐาน ๔ แล้วอย่างไรทำให้มากแล้วอย่างไร จึงบำเพ็ญโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ได้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่ ในสมัยนั้น สติย่อมเป็นอันเธอผู้เข้าไปตั้งไว้แล้วไม่เผอเรอ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด สติเป็นอันภิกษุเข้าไปตั้งไว้แล้วไม่เผอเรอ ในสมัยนั้น สติสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น สติสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ เธอเมื่อเป็นผู้มีสติอย่างนั้นอยู่ ย่อมค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นได้ด้วยปัญญา ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุเป็นผู้มีสติอย่างนั้นอยู่ ย่อมค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นด้วยปัญญา ในสมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ เธอเมื่อค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมด้วยปัญญาอยู่ ย่อมเป็นอันปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุค้นคว้า ไตร่ตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นด้วยปัญญา ปรารภความเพียรไม่ย่อหย่อน ในสมัยนั้น วิริยสัมโพชฌงค์ ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญวิริยสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น วิริยสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ ปีติปราศจากอามิสย่อมเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ปรารภความเพียรแล้ว ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ปีติปราศจากอามิสเกิดขึ้นแก่ภิกษุผู้ปรารภความเพียรแล้ว ในสมัยนั้น ปีติสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญปีติสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น ปีติสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ ภิกษุผู้มีใจเกิดปีติ ย่อมมีทั้งกายทั้งจิตระงับได้ ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ทั้งกายทั้งจิตของภิกษุผู้มีใจเกิดปีติ ระงับได้ ในสมัยนั้น ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ ภิกษุผู้มีกายระงับแล้ว มีความสุข ย่อมมีจิตตั้งมั่น ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด จิตของภิกษุผู้มีกายระงับแล้ว มีความสุข ย่อมตั้งมั่น ในสมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้นภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ ภิกษุนั้นย่อมเป็นผู้วางเฉยจิตที่ตั้งมั่นแล้วเช่นนั้นได้เป็นอย่างดี ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุเป็นผู้วางเฉยจิตที่ตั้งมั่นแล้วเช่นนั้นได้ เป็นอย่างดี ในสมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงค์ย่อมเป็นอันภิกษุปรารภแล้ว สมัยนั้นภิกษุชื่อว่าย่อมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค์ สมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงค์ย่อมถึงความเจริญและความบริบูรณ์แก่ภิกษุ ฯ

https://sites.google.com/site/smartdham ... sati_sutta



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2016, 08:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
โพชงค์ทั้ง 7 หรือ โพธิปักขิยธรรมทั้ง 37 ประการ ย่อมมีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกัน เป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกันเจริญขึ้นไปอยู่ตลอดเวลาจนงานสำเร็จ เข้าถึงความเป็นโพธิ ของจิตทุกดวง

อโศกะเพียงแค่มาชี้และชวนกันสังเกตให้ดี ให้เห็นถึงน้ำหนักของกลุ่มธรรมสำคัญในการปฏิบัติธรรมหรือเจริญมรรค 8

มรรคทั่ง 8 ข้อเมื่อสรุปรวมลงมาแล้วแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มเรียงตามลำดับว่า

ปัญญามรรค สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
ศีลมรรค สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
สมาธิมรรค สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ

ในองค์ธรรมแต่ละหมวดของโพธิปักขิยธรรม ได้พยายามเน้นให้เห็นว่า เป็นการทำงานของมรรคกลุ่มไหนเพื่อให้ผู้ปฏิบัตได้เข้าจและปฏิบัติได้ถูกต้องตามน้ำหนักแห่งธรรม

โพธิปักขิยธรรมมีโคตรระหัสในการจำง่ายๆคล้ายเบอร์โทรศัพท์ว่า

34 2 5 17 18 ท่องว่า สามสี่ สองห้า หนึ่งเจ็ด หนึ่งแปด

สามสี่ คือ สัมมัปธาน 4 สติปัฏฐาน 4 อิทธิบาท 4

สองห้า คือ อินทรีย์ 5 กับพละ 5

หนึ่งเจ็ด คือ โพชงค์ 7

หนึ่งแปด คือ มรรค 8

ในแต่ละหมวดย่อยของโพธิปักขิยธรรมเวลานำไปสู่การปฏิบัติจริง ลองพากันสังเกตให้ดีซิครับว่าตอนไหนใช้ธรรมหมวดใดมากน้อยเน้นหนักต่างกันอย่างไร

ดังที่ผมได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า ในการเจริญโพชงค์ 7 จะเป็นเรื่อของสมาธิมรรคตั้ง 6 ข้อ ปัญญามรรคเพียงข้อเดียว

ในหมวดอื่นก็เช่นกัน ลองไล่วิเคราะห์ หรือทำธรรมวิจัยกันดูะครับ

:b39:
ส่วนการมาชักใบให้เรือเสียอย่างที่นักวิชาการพุทธศาสนา ผู้ยิ่งด้วยความรู้ในตำราทั้งหลายพยายามดึงกันไปกันมา ลอกตำรามาเกทับกันคนละแง่ละมุมเหมือนคนยืนมองเลข 6 คนละข้างอย่างที่ท่านกรัชกายเอามาแปะสอนนั้น มันเป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างสรรค์และซ้ำซากจำเจเป็นอย่างมากในลานธรรมแห่งนี้
เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายชวนให้เกิดนิพพิทาญาณในความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อวดรู้อวดฉลาดกันเป็นอย่างยิ่ง เฮ้อ.......อนิจจา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2016, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12:

ส่วนการมาชักใบให้เรือเสียอย่างที่นักวิชาการพุทธศาสนา ผู้ยิ่งด้วยความรู้ในตำราทั้งหลายพยายามดึงกันไปกันมา ลอกตำรามาเกทับกันคนละแง่ละมุมเหมือนคนยืนมองเลข 6 คนละข้างอย่างที่ท่านกรัชกายเอามาแปะสอนนั้น มันเป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างสรรค์และซ้ำซากจำเจเป็นอย่างมากในลานธรรมแห่งนี้
เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายชวนให้เกิดนิพพิทาญาณในความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อวดรู้อวดฉลาดกันเป็นอย่างยิ่ง เฮ้อ.......อนิจจา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

:b16:


โพธิปักขิยธรรมท่านก็จำแนกแจกแจงหลักธรรมไว้เป็นเอกเทศแล้ว
ก็ยังมีคนที่ไม่รู้เรื่องอยากเด่นอยากดัง(โดยมีจุดมุงหมายในใจ) เอาธรรมของพระพุทธองค์มาละเลง

ที่เห็นๆก็คือ เอาโพชฌงค์๗ มาแสดงมั่วกับอริยมรรคมีองค์๘

หลักฐานมันฟ้องยังทำเป็นซื่อตาใส เสกสรรปั่นแต่งวาทะกรรมกล่าวหาชาวบ้าน
ช่างหน้าไม่อายจริง :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2016, 09:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:

ส่วนการมาชักใบให้เรือเสียอย่างที่นักวิชาการพุทธศาสนา ผู้ยิ่งด้วยความรู้ในตำราทั้งหลายพยายามดึงกันไปกันมา ลอกตำรามาเกทับกันคนละแง่ละมุมเหมือนคนยืนมองเลข 6 คนละข้างอย่างที่ท่านกรัชกายเอามาแปะสอนนั้น มันเป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างสรรค์และซ้ำซากจำเจเป็นอย่างมากในลานธรรมแห่งนี้
เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายชวนให้เกิดนิพพิทาญาณในความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อวดรู้อวดฉลาดกันเป็นอย่างยิ่ง เฮ้อ.......อนิจจา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

:b16:


โพธิปักขิยธรรมท่านก็จำแนกแจกแจงหลักธรรมไว้เป็นเอกเทศแล้ว
ก็ยังมีคนที่ไม่รู้เรื่องอยากเด่นอยากดัง(โดยมีจุดมุงหมายในใจ) เอาธรรมของพระพุทธองค์มาละเลง

ที่เห็นๆก็คือ เอาโพชฌงค์๗ มาแสดงมั่วกับอริยมรรคมีองค์๘

หลักฐานมันฟ้องยังทำเป็นซื่อตาใส เสกสรรปั่นแต่งวาทะกรรมกล่าวหาชาวบ้าน
ช่างหน้าไม่อายจริง :b32:

:b13:
โฮฮับนี่อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง คงเพี้ยนไปแล้วจริงๆ

แม้แต่คำว่า "สังเกต" หรือข้อสังเกต ก็ยังไม่เข้าใจความหมาย นำไปปฏิบัติไม่เป็น

:b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 เม.ย. 2016, 09:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
:b12:

ส่วนการมาชักใบให้เรือเสียอย่างที่นักวิชาการพุทธศาสนา ผู้ยิ่งด้วยความรู้ในตำราทั้งหลายพยายามดึงกันไปกันมา ลอกตำรามาเกทับกันคนละแง่ละมุมเหมือนคนยืนมองเลข 6 คนละข้างอย่างที่ท่านกรัชกายเอามาแปะสอนนั้น มันเป็นบรรยากาศที่ไม่สร้างสรรค์และซ้ำซากจำเจเป็นอย่างมากในลานธรรมแห่งนี้
เป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่ายชวนให้เกิดนิพพิทาญาณในความแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อวดรู้อวดฉลาดกันเป็นอย่างยิ่ง เฮ้อ.......อนิจจา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

:b16:


โพธิปักขิยธรรมท่านก็จำแนกแจกแจงหลักธรรมไว้เป็นเอกเทศแล้ว
ก็ยังมีคนที่ไม่รู้เรื่องอยากเด่นอยากดัง(โดยมีจุดมุงหมายในใจ) เอาธรรมของพระพุทธองค์มาละเลง

ที่เห็นๆก็คือ เอาโพชฌงค์๗ มาแสดงมั่วกับอริยมรรคมีองค์๘

หลักฐานมันฟ้องยังทำเป็นซื่อตาใส เสกสรรปั่นแต่งวาทะกรรมกล่าวหาชาวบ้าน
ช่างหน้าไม่อายจริง :b32:

:b13:
โฮฮับนี่อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง คงเพี้ยนไปแล้วจริงๆ

แม้แต่คำว่า "สังเกต" หรือข้อสังเกต ก็ยังไม่เข้าใจความหมาย นำไปปฏิบัติไม่เป็น

:b7:


ด่าคนอื่นเล่นคำ เล่นตัวหนังสือ.......ดูตัวเองซิ....ช่างน่าไม่อายจริงๆ :b32:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 46 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร