ไม่สวย..แล้วมันผิดตรงไหน?

แล้วอะไรเป็นเหตุของ..สวย..ไม่สวย..ของอโสกะ

สวยแบบกรีกโบราณ..

สวยอย่างคนปัจจุบัน


จะเอาสวยแบบไหน..?

มันผิดตรงความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นกับคำพูด สองคำนี้นะสิ

เป็นแท้

เป็นแน่แท้

กบลองไปถามเพื่อนฝูงคนในละแวกบ้านดูสิ ว่าคำไหนมันน่าจะใช่กว่ากัน
หรือถ้ามีเพื่อนฝูงเป็นนักภาษาศาสตร์ก็ลองถามเขาดูดีๆสิครับ จะได้มีความรู้และใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องมากขึ้นเรื่อยๆ

สวย..ไม่สวย...

ให้ความหมายทางธรรมต่างกันมั้ย..อโสกะ?

กบนี่ช่างไม่รู้เอาเสียจริงๆในเรื่องภาษาศาสตร์

การเรียบเรียงบัญญัติต่างๆมาเป็นภาษา คำพูดนั้น มันเป็นศิลปะชั้นสูง ทำให้ผู้คนเข้าใจซาบซึ้งในความหมายของบัญญัติเหล่านั้น

อันเราจะพึงตาย เป็นแท้

กับ

อันเราจะพึงตาย เป็นแน่แท้

กบลองท่องออกมาดังๆ ให้เด็กประถมหรือมัธยมทั้งห้องฟังแล้วถามพวกเขาว่า
คำพูดประโยคไหนน่าฟังกว่ากัน กบก็จะรู้ความหมายที่กบถามว่า สวย ไม่สวย มันต่างกันอย่างไร?

อย่าเพิ่งแลบออกไปถึงความหมายทางธรรมของคำต่อไปอีกเลยมันจะยิ่งฟุ้งซ่านไปใหญ่ เอาให้จบคำที่ผมตั้งไว้ในครั้งแรกนี้ดีกว่า

คนอาร่าย..

บางกระทู้..ก็ว่าอย่ายึดแค่คำ(ตามตำรา)

มากระทู้....ก็มาวุ่นวายกับ...คำว่า..เป็นแท้..กับ..เป็นแน่แท้..

ขำ..นะ

โอ้!......

นี่กบยังไม่เข้าใจว่าผมเขียนข้อสังเกตให้ดูในกระทู้นี้ขึ้นมาทำไม?

ผมเขียนขึ้นมาติติงคนที่ยึดตำราแน่นแบบหัวชนฝาทั้งหลายให้ระวังว่าการตีความหมายของคำแต่ละคำแต่ละประโยคในธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั้นต้องระมัดระวังให้ดีอย่าให้ผิดไปจากวัตถุประสงค์เดิมแท้ของคำ และสำหรับตอนนี้ก็ให้สละสลวยตรงกับศาสตร์ของภาษาด้วย

สงสัยสมัยของกบนี่คงไม่เคยได้เรียรไวยากรณ์ไทย ฉันทลักษณ์ กาพย์ กลอน กันแล้วละมั้งจึงไม่เข้าใจ ไม่รู้ถึงความสละสลวยลึกซึ้งของภาษา
ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร

ขอให้สื่อความหมายตรงธรรม..ได้....ก็ใช้ได้
จะเป็น..แท้..หรือ..แน่แท้...กระผมก็ไม่มีปัญหากับคำ

คนที่มีปัญหา..นี้...ก็น่าคิดนะ

เอ้า! เอาเป็นว่ากบมีทัศนะได้เพียงแค่นั้น
จบ

"ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ ถ้าเหตุไม่ใช่ผลก็ไม่มี"

อโศกะไม่ได้ทำเหตุไปนรก จะกลัวไปใย
เหตุไปนรกคือล่วงศีล 5 ข้อปาณานั่นแหละไปนรกเร็วที่สุด

แต่คนที่ยึดมั่นถือมั่นเกินไปนั่นสิน่ากลัว เพราะจะหลงทำชั่วโดยสำคัญว่าทำดี ทำให้ชีวีวนอยู่ในวัฏฏสงสารแบบจมลึก คือจมในทิฏฐิและความเห็นซึ่งร้ายยิ่งกว่าสิ่งใด

เหตุไปนรกคือล่วงศีล 5 ข้อปาณานั่นแหละไปนรกเร็วที่สุด

เข้าใจผิดแล้วครับ...

.เอ้า...ให้โอกาสแก้ตัวใหม่..

ทางไปของสัตว์โลกมีอยู่ 5 ทางตามรูป

ทางแรกต่ำสุดคือ

ทางบาปอกุศล มีศีล 5 และอกุศลมูล โลภะ โทสะ โมหะเป็นหลักในการวินิจฉัย และชี้ทางไป

ถ้าล่วงศีล 5 ไม่มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป วินิจฉัย ตัดสินใจกระทำการ(กรรม)ต่างๆด้วย "อารมณ์" ย่อมเป็นเหตุพาไปเกิดในอบายภูมิทั้ง 4

โลภตาย ไปเกิดเป็นเปรต

โกรธตาย ไปเกิดเป็นสัตว์นรก

หลงตาย ไปเกิดเป็นอสุรกายและสัตว์เดรัจฉาน

หลักวินิจฉัยเขามีอย่างนี้นะกบ

ตอนแรก..ก็ว่าลงนรกเร็วที่สุด



กระผมก็ว่า..ให้แก้ตัวใหม่
แทนที่จะแก้ว่าทำอะไรจึงลงนรกเร็ว...กลับพูดรวม ๆ กว้าง ๆ ซึ่งก็ไม่ตรงประเด็นที่ตนพูดใว้ก่อนหน้า..ซะอีกแหน่ะ

อันแรก..ผิดศีล 5 ลงนรก
อันสอง...โกรธ..ตายไปเป็นสัตว์นรก


ผมไม่เถียงนะ..ว่า..โกรธตายไปเป็นอะไร
แต่ที่พูดว่า ปาณาติบาตลงนรกเร็ว...พอให้แก้ตัว...ก็เพิ่มมาว่า...วินิจฉัยด้วยอารมณ์..โกรธตายไปเป็นสัตว์นรก..
แล้ว...โกรธ...ผิดศีลข้อไหนครับ..
แล้ว....อะไรทำให้ลงนรกเร็ว..ก็ไม่ได้อธิบายแก้


เห็นมะ...

้ถ้าทำอะไรขาดสติ..ก็มักจะพลาด..
เช่นที่เขียนว่า..ผิดปาณาติบาตลงนรกเร็ว...

พอถูกทัก..ก็มีสติมาหน่อย..แต่ก็พลาดอีกเพราะต้องการแก้ตัวมากกว่าแก้ไข...จึงพยายามเขียนโยงทำนองว่า..ผิดศีล(ทำกรรม)ด้วยอารมณ์...

มันจึงพันกันมั่วไปหมด....

โกรธ เป็นเหตุให้ผิดศีลข้อที่ 1 ได้มากที่สุด ลำดับขั้นตอนของอารมณ์โกรธเอาเองนะกบ เก่งแล้วนี่

คนผิดศีลข้อหนึ่งได้ก็เพราะโกรธ........นี่ตีย้อนกลับ

โกรธเป็นเหตุปัจจัยไปสู่ภวะแห่งสัตว์นรก

ทางสายโกรธจึงเป็นเหตุปัจจัยให้ไปสู่นรกเร็วกว่าทางอื่น

อธิบายอย่างนี้ บอกลำดับให้ดูง่ายๆอย่างนี้ กบจะเข้าใจ หายสงสัยไหมนี่?

เอาธงที่กบตั้งไว้มาเฉลยเลยดีกว่า อย่าทำเป็นอม อวดภูมิอยู่เลย