วันเวลาปัจจุบัน 03 ส.ค. 2025, 19:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2016, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเรามีสติ ก็จะสามารถระงับเหตุแห่งการยึดถือต่างๆ แต่ดำรงธรรมเฉพาะหน้า แต่สติก็ไม่ใช่จะเกิดขึ้นลอยๆ ต้องเกิดพร้อมกับองค์ธรรมอื่นๆ เมื่อละเหตุแห่งการยึดถือแล้ว สลัดออกแล้ว การกำหนดรู้ปรมัตถ์ธรรมเป็นการละเหตุแห่งการยึดถืออย่างไรครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2016, 07:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
ถ้าเรามีสติ ก็จะสามารถระงับเหตุแห่งการยึดถือต่างๆ แต่ดำรงธรรมเฉพาะหน้า แต่สติก็ไม่ใช่จะเกิดขึ้นลอยๆ ต้องเกิดพร้อมกับองค์ธรรมอื่นๆ เมื่อละเหตุแห่งการยึดถือแล้ว สลัดออกแล้ว การกำหนดรู้ปรมัตถ์ธรรมเป็นการละเหตุแห่งการยึดถืออย่างไรครับ


สติมีหน้าที่เข้าไปตั้งและเป็นตัวกำหนดฐานที่ตั้งโดยตรง เมื่อมีสติเข้าไปตั้งนั้น
อุปาทานที่เป็นตัวยึดถือก็ไม่สามารถเข้ามาเกิดร่วมได้ สติเป็นธรรมในฝ่ายกุศล
เป็นจิตคนละประเภทกับอุปาทานที่เป็นฝ่ายอกุศล พูดให้ง่ายๆจิตที่เป็นกุศลกับจิต
ที่เป็นอกุศลจะเกิดร่วมหรือพร้อมกันไม่ได้ ฉะนั้นจะให้สติเกิดขึ้นบ่อยๆ
ก็ต้องหมั่นฝึกบ่อยๆเช่นกัน

สติไม่ใช่เป็นตัวละสมุทัยหรือเหตุโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยร่วมกันกับสัมมามรรคเจตสิก
ที่เกิดร่วมกัน การจะละเหตุหรือสลัดออกนั้นต้องทำให้มรรค ๘ เกิดขึ้นพร้อมกันจึงจะละออกได้
การจะเหตุได้นั้นต้องย้อนกลับไปดูตัวทุกข์ กำหนดดูทุกข์จึงจะรู้เหตุของการเกิดทุกข์
ลองเข้าไปดูสัจจะ ๔ คือทุกข์เป็นตัวกำหนดรู้เพื่อละเหตุแห่งการเกิดทุกข์

ทุกข์เขาจะมาแสดงให้เรารู้บ่อยมาก หรือตลอดเวลาก็ว่าได้ แต่ทุกคนไม่ใส่ใจจะเข้าไปกำหนดรู้ทุกข์
เพราะทุกคนเมื่อทุกข์เกิด ก็จะพยายามละทุกข์เพื่อไปแสวงหาสุขกัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะอะไร
เพราะขาดสติเข้าไปกำหนดที่ทุกข์ จึงทำให้พลาดโอกาสอันประเสริฐอยู่ร่ำไป

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2016, 16:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมื่อปฏิบัติภาวนาโดยใช้ สติ ประกอบด้วย โยนิโสมนสิการเป็นเบื้องต้น

เมื่อกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ปราโมทย์ย่อมเกิด
ปีติย่อมเกิด แก่ผู้ปราโมทย์
กายของผู้มีใจกอปรด้วยปีติ ย่อมสงบ
ผู้มีกายสงบ ย่อมเสวยสุข
จิตของผู้มีสุข ย่อมตั้งมั่น
ผู้มีจิตตั้งมั่น ย่อมรู้เห็นตามเป็นจริง
ผู้รู้เห็นตามเป็นจริง ตนเองย่อมหน่าย
เมื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด

เพราะคลายกำหนัดย่อมหลุดพ้น

ยินดีที่ได้สนทนาธรรมครับ ./


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2016, 02:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนากับคำตอบของทั้งสองท่านครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร