นี้คือนิสัย..อย่างหนึ่งของอโสกะ...คือ..ชอบบัญญัติศัพท์ใหม่ๆ..แปลกๆ..
ถ้ามีคนหลงว่าอัปปนา..แปลว่า..อะปานะ..อะปราณ..ไม่มีลม...จริงๆ
อโสกะก็เข้าข่ายทำสัทธรรมปฏิรูป..ได้เลย

และถ้าอาจารย์อโสกะ..ก็ชอบแปลแบบทำนองนี้ให้กับลูกศิษย์...ก็ทำสัทธรรมปฏิรูปไปอีกคน

มรรคผลที่หลงว่าได้แล้ว....มิเป็นของปลอมไปดอกหรือ..

ไปเชิญคุณเอก้อนหรือคุณเช่นนั้นไปช่วยค้นตำรามาอธิบายความหมายของ "อัปปณาฌาณ" ทังโดยบัญญัติและปรมัตถ์หน่อยสิ จะได้แตกฉานกันมากขึ้น

ไปเชิญคุณเอก้อนหรือคุณเช่นนั้นไปช่วยค้นตำรามาอธิบายความหมายของ "อัปปณาฌาณ" ทังโดยบัญญัติและปรมัตถ์หน่อยสิ จะได้แตกฉานกันมากขึ้น

:b12:
กบไม่ปฏิบัติจริงไม่รู้เรื่องเลยพาลพาโลไปเรื่อยเลย ฟังไปดูไปเรื่อยๆก่อนอย่าใจร้อนด่วนตัดสิน "เส้นผมมันมักบังภูเขา"อยู่เสมอถ้ามีแต่สติแต่ขาดสัมปชัญญะ

อัปปณาฌาณ ตามศัพท์บัญญัตินั้นเขาแปลและให้ความหมายได้แค่ ความตั้งมั่นอย่างแนบแน่นแค่นั้นเอง แต่ธรรมสภาวะจริงๆเป็นอย่างไรใครยังไม่ได้สัมผัสก็ยังไม่รู้ จริงๆมันเป็นปัจจัตตัง และก็หาคนมาเล่ามาพูดให้ฟังก็ยาก ค้นในกูเกิ้ลก็ไม่มี เมื่อมีคนนำมาเล่ามากล่าวถึงก็น่าจะฟังๆไว้ ไม่รับและไม่ปฏิเสธก็ได้ ฟังไป พิจารณาไป พิสูจน์ธรรมไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็รู้เอง

การใช้คำว่า..ดูท่า..นี้ให้เกียรติ์..นะเนี้ย..
เรื่อง...ไม่มีเซ้นต์..นี้...เห็นชัด ไม่รู้เล้ย..ว่า...แต่ละคนมีคุณธรรมอยู่ตรงไหน

โสดาบันนี้...อย่างน้อยจะรู้สึกได้เลยว่า...คนนี้กล่าวธรรมจากใจที่เป็นธรรมมั้ย..หรือว่าปากพูดธรรมะไปอย่างนั้น ๆ แหละ..ข้างในไม่มีอะไร..อย่างนี้เป็นต้น....
(ด้วยเหตุนี้...คนมีธรรม..จะกราบคนก็กราบถูกคนถูกธรรม...หรือที่เรียกว่า..ธรรมะจัดสรร )

ถ้าเก่งมากกว่านี้....ก็รู้ได้ว่า..คนที่กำลังพูดด้วย...อยู่ตรงไหนระหว่างทางเข้าถึงความเป็นอริยะ..กำลังบำเพ็ญบารมีอะไร..กำลังทำข้อสอบข้อไหนอยู่....พอรู้แล้ว...มันก็เฉยได้..อุเบกขาได้...ไม่ไปวุ่นวาย..โวยวาย...สงสัยว่าทำไมไม่เอานิพพานในชาตินี้วะ..อะไรอย่างนี้เป็นต้น

อาการทะเล้อทะล่าออกไปรับรองคุณธรรมของใครเพียงแค่คนนั้นพูดถูกใจ..ใช้คำถูกใจ..ดับไปต่อหน้าต่อตา..อะไรทำนองนี้....จึงมันไม่เกิดขึ้นแน่

รู้ใจตัวเองมากเท่าไร..อาการรู้ใจคนอื่นมันเป็นผลผลอยได้ไม่ต้องไปหัดอะไร
รู้ใจตัวน้อยเท่าไร....อาการหลงสังขารตนก็มากตาม

ยิ่งอโสกะพูดมากเท่าไร....คนมีธรรมเขาก็เห็นชัดเจนมากเท่านั้น

อันนี้ฝากใว้ให้ดูตัวเองก้อแล้วกัน..ไม่ใช่การประจานดีสเครดิตอะไร...นะ

และแล้วทุกคนก็ได้แสดงสัญชาตญาณเดิมของตนออกมาให้เห็น

ของเล่นที่ท่านนำมาเล่น เพราะท่านว่าน่าสนใจ

ท่านก็เล่นของเล่นของท่านไปเถอะ

ถ้าใครอยากจะเล่นกับท่าน เขาก็ลงไปเล่นด้วยเองนั่นล่ะ

เล่นจนหนำใจแล้วก็อย่าลืมช่วยกันเก็บกวาดให้เรียบร้อยด้วยก็แล้วกัน

ลานจะได้น่าอยู่ ธรรมะจะได้น่าเชิดชู

ทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีต่อชนชาวพุทธรุ่นหลัง ๆ ไว้ก็ดี

ก็แค่เรื่องงี่เง่า ๆ ของอโศกะน่ะ

ตามสบายเถอะ อโศกะ

และแล้วทุกคนก็ได้แสดงสัญชาตญาณเดิมของตนออกมาให้เห็น

:b12:
และแล้วทุกคนก็ได้แสดงสัญชาตญาณเดิมของตนออกมาให้เห็น

เห็นมั๊ย ... และแล้วท่านอโศกะก็ไหลลงมาแนวนี้



เพราะเอกอนรู้นิสัยการละเล่นของอโศกะตั้งแต่แรกแล้ว

วางความติดในอารมณ์ การละเล่นในลักษณะนี้ลงเถอะ

อโศกะ ไม่เคยแสดงการสนทนาธรรมเพื่อจรรโลงธรรม
แต่พยายามจะทำเป็นสนทนาธรรม เพื่อการอื่นตามที่ใจตนอยากให้นั่นให้นี่ เป็นไปอย่างนั้นอย่างนี้

ท่านเพียงต้องการจะเข้ามาทำ "ยำผู้ปฏิบัติธรรม"

ขำ...เน้อะ..

แต่เห็นธาตุแท้..ทั้งผู้ฟัง..ทั้งคนสอน...นี้ซี้

อาจคุ้มค่า...ก็ได้