คำพูดของกบ ก็ไปตรงกับพุทธภาษิตที่ว่า

"ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น"

ก็ดีอยู่หรอกนะครับ

แต่การเดินทางไปสู่นิพพานบนถนนแห่งมรรคมีองค์ 8 นั้น
ก็คงต้องยึดอะไรไว้บ้างขณะที่ยังไม่ถึงที่หมายอุปมาคล้ายดั่งคนขึ้นบันไดไปสู่ที่สูง ต้องยึด สาว ราวบันไดพาตัวขึ้นไปก่อน เมื่อถึงยอดบันไดแล้วจึงค่อยปล่อยราวบันได

การยึดความหมายที่ถูกต้องใกล้เคียงกับสภาวธรรมที่เป็นจริงมากที่สุดจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ดังเรื่อง ขอบเขตแห่งธรรมและกงล้อแห่งธรรมที่ยกมาเล่าสู่กันฟังนี้

สิ่งสำคัญที่พึงสำเหนียกระวังให้มากคือการตีความหมายของธรรมผิดพลาด ห่างไกลจากสภาวธรรมที่ควรจะเป็นจริงย่อมจะทำให้หลงทางหรือเฉออกจากทางไปไกลทำให้ล่าช้า เสียเวลา หรือเสียโอกาสดีๆของชีวิตไป

มีอีกตัวอย่างหนึ่งที่หลวงพ่อไทยใหญ่เคยทั้งท้วงผมว่าทางเมืองไทยแปลความธรรมคุณ 6 ประการผิดไปจากบาลีที่ควรจะเป็นเลยทำให้เสียประโยชน์กับผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมไปเยอะเลย เราลองเอามาวิเคราะห์พิจารณากันดูนะครับอาจเป็นประโยชน์มากก็ได้

ขออนุญาติแก้คำพูด...ตรงนี้นะ..






แล้วแน่ใจนะว่าที่ตัวเองยึด..จะถูก..เอาเป็นว่า..ยึดพอประมาณแบบว่า...พอสบายใจ...อย่าหลงไปยึดจนหน้าดำคร่ำเครียด..

ถามอโสกะ...

ทำไมเทศนาครั้งแรก....จึงถูกตั้งชื่อว่า..ธัมมจักกัปวัตนสูตร...

พระองค์ตั้งชื่อนี้เอง..หรือ...ใครตั้งภายหลัง...(1)

หากตั้งชื่อภายหลัง...คนตั้ง...ตั้งชื่อมาจากอะไร...จากคำพระพุทธเจ้า..หรือ...คำของใคร(2)?

การตั้งชื่อพระสูตรทั้งหมดนั้นเป็นพระอานนท์กับพระอรหันต์มี่ร่วมกันสังคายนา ประมวลธรรมครั้งแรกร่วมกันตั้งชื่อ บางสูตรอาจตั้งชื่อมาก่อนนั้นหลังจากที่พระพุทธองค์ทรงแสดงสูตรนั้นแล้ว จะโดยพระอานนท์เป็นส่วนใหญ่

การตั้งชื่อพระสูตรเป็นการตั้งตามเนื้อความ หรือสาระสำคัญของพระสูตรนั้น ตลอดจนชื่อของผู้ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมนั้นให้ฟัง อย่างเช่นสติปัฏฐานสูตร กล่าวถึงการเจริญสติปัฏฐาน สิงคาลสูตร ธรรมที่ทรงแสดงให้สิงคาลมานพฟัง เป็นต้น

สำหรับธัมมจักกัปปวัตนสูตร ถ้าไม่เป็นพระบรมศาสดาตั้งชื่อเองก็คงผู้ร่วมสังคายนาธรรมครั้งแรกช่วยกันตั้ง

นี่คือการชี้แจงตามธรรมที่ควรจะเป็น ส่วนตามตำราบันทึกไว้อาจถูกต้องแม่นยำกว่านี้ครับเชิญนักวิชาการมาช่วยกันตอบครับ

คงต้องรอนักวิชาการ..ซินะ

ระหว่างรอ...

ผมเห็นช่วงหนึ่งนบทสวด...แต่ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร..

นี่น่าจะเป็นคำสรุปของผู้สังคายนาธรรม ไม่น่าจะเป็นพระพุทธองค์นะครับ

บ้างก็ว่า..เป็นพระอานนท์กล่าว..ขึ้นต้นด้วย..เอวัมเม..สุตัง..เอกัง...สะมะยัง..ภะคะวา..พาราณะสิยัง...ก็ถือว่าพระองค์เป็นผู้กล่าวแก่พระอานนท์

บ้างก็ว่า..ไม่มีการอารัมภบทด้วย..เอวัมเม..แต่อย่างใด

ในชั้นนี้..ถือว่าเป็นพระอานนท์กล่าว..ขึ้นด้วย..เอวัมเม..ก็แล้วกัน


ไม่น่าจะคิดอย่างนี้นะ..
เพราะถ้าคิดว่าเป็นคำสรุปของผู้ทำสังคายนา...ธัมมจักก็เป็นคำแต่งทั้งหมด..นะซิ

ตกลงธรรมจักร. กับธัมจักร. นี่เป็นยังไงเหมือนกันมั้ย

ไม่เหมือนกันครับแต่เป็นอย่างนี้นะครับ

ธรรมจักรกัปปวัตนะ = กงล้อแห่งธรรม

ธัมมจักกัปปวัตนะ = ขอบเขตแห่งธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบแล้วนำมาสอน

ยาง...ยัง
ยังพยายามอยู่อีก...

ไม่เสียหายอะไรที่จะเปิดทางเลือกที่ถูกต้องยิ่งขึ้นให้ผู้คนได้รู้ได้เห็น

ดีกว่าการปิดหูปิดตาผู้คนไว้ด้วยคำขู่ต่างๆที่ดูน่ากลัวเช่น สัทธรรมปฏิรูปบ้าง ไม่ตัดทอนหรือบัญญัติเพิ่มสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติบ้าง ทำตัวเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเป็นบาปหนักบ้าง

ทั้งๆที่เรื่องทั้งหลายเหล่านั้นเป็นการอรรถาธิบายให้เห็นลึกซึ้งยิ่งขึ้นในคำสอนของพระพุทธเจ้า

มานะทิฏฐิ..นี้แก้ยาก..เน๊าะ..

เอาเถอะ...อยากคิดไม่มีเหตุผล...ก็คิดไป...เป็นสมบัติติดตัวเองหรอก...
สมบัติเหม็น..สมบัติเน่า..ก็ไม่เกี่ยวกับกับคนอื่น...

ถามหน่อย..แล้วทำไม..ธรรมจักรกัปปวัตนะ..จึงแปลเป็น..ขอบเขตของธรรม....ไม่ได้

แล้ว...Dhammajak....แปลว่าอะไร...มีความหมายเดียวกันกับอะไร..ระหว่าง ธัมมจัก..กับ..ธรรมจักร?

ตอบให้ได้นะ...

ถ้ามานะทิฏฐิมันแก้ได้ง่ายๆ กบก็พ้นชาติกบมาเป็นมนุษย์เสียตั้งนานแล้ว แต่นี้ยังยินดีและหยิ่งทะนงในความเป็นกบอยู่ไม่รู้หาย
555555
กบก็ชื่นชมในสมบัติของกบ มนุษย์ก็ชื่นชมในสมบัติของมนุษย์ หนอนในมูตรคูตรก็ย่อมชื่นชมในมูตรคูตรตามระดับของใครของมัน เป็นเรื่อธรรมดา (ตถตา)

จักร แปลว่า กงล้อ

จักกัปปวัตนะ แปลว่า ขอบเหล็กที่หุ้มรอบกงล้อ

เป็นคนละอันกัน

จักร แปลว่า กงล้อ จักกัปปวัตนะ แปลว่า ขอบเหล็กที่หุ้มรอบกงล้อ

นี้แปลเอาเอง...หรือมีหลักการแปลอย่างไรรึ..

ที..จัก...ยังเขียนว่าจักกัปปวัตนะ...แล้วทำไมไม่เขียนว่า..จักรกัปปวัตนะ...ด้วยละ?

ธรรมจักรกัปปวัตนะ = คำนี้ในพระไตรปิฎกไม่มีนะ
มีแต่. ธรรมจักร

ธัมมจักกัปปวัตนสูตร=คำนี้มี