วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 00:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 ... 61  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 17:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
:b13:
bigtoo กำลังพยายามหาเหตุผลต่างๆมาอ้างให้คนเชื่อว่าพระอริยบุคคลชั้นต้นอย่างพระโสดาบันยังเสพเหล้า ล่วงศีลข้อ ๕ ได้นิดหน่อย เพื่อประโยชน์อันใดหรือ
s006
พระโสดาบันบุคคลท่านมีคุณสมบัติประจำตัวที่แน่ชัดแล้วว่า
ไม่ล่วงศีล ๕ เป็นปกติอยู่อย่างนั้นแล้ว

สีลพัตปรามาส ความรักษาศีลเคร่งหรือหย่อนเกินไปไม่มีแล้วในพระโสดาบัน มีแต่ปกติศีลที่รักษาอยู่ด้วยธรรม ด้วยเหตุและผล ในเรื่องสุราที่เป็น ๑ ในอบายมุข ๖ พระอริยโสดาบันท่านก็เว้นขาดแล้ว ความละอายเกรงกลัวต่อบาปของท่านก็มีสูงยิ่งแล้วมีหรือจะล่วงศีลข้อ ๕ เพื่อประโยชน์อันเล็กน้อยเพียงเพื่อรักษาน้ำใจเพื่อนนักดื่มเหล้า

ผมว่าเพียงพอเถอะ bigtoo อย่าดึงดันให้พระอริยะเจ้ายังดื่มเหล้าได้อยู่เลย ถ้ามีคนเชื่อและคล้อยตามเช่นนี้จะเป็นการลดคุณค่าของพระอริยเจ้าลงมาให้ถูกตำหนิติเตียนดูแคลน สงสัยได้
tongue
อโสกะท่านพูดอะไรก็ดูเหตุผลด้วยนะครับ ผมจะยัดเยียดอะไรให้ใครได้ ความละอายเกรงกลัวต่อบาปก็ให้มันถูกต้องไม่ใช่อะไรก็กลัวกลายเป็นอริยะตาขาวกันไปซะงั้น สิ่งที่นำมากล่านั้นเป็นพระสูตรนะ พูดจะเอาแต่ดีกันแล้วมันตรงกับความจริงหรือเปล่า คุณกล้าบอกมั้ยล่ะว่าพระสูตรผิดว่าธรรม4อย่างมันหายไป1ข้อและบอกว่าไม่ต้องประกอบเนืองๆก็มีโทษเรื่องทางเสื่อม6ประการ กล้าหรือเปล่าจะได้รู้ไปเลยอยากรู้ว่าจะกล้าเป็นข้าศึกกับพระองค์

:b14:
อีกเรื่องหนึ่งที่ bigtoo มาพยายามตีความว่าเมื่อพระพุทธองค์ทรงกล่าวถึงอกุศลกรรมบท ๑๐ ทำไมจึงไม่มีศีลข้อที่ ๕ สุราเมรัยยะมากล่าวด้วยนั้นก็เป็นเพราะการเสพสุราไม่ใช่เป็นกรรมที่ประทุษร้ายต่อใครจึงไม่เข้าในกายกรรม วจีกรรมหรือมโนกรรม แต่มันไปเข้าอยู่ในหมวดธรรมของอบายมุข ๖ แทน ในอบายมุข ๖ พระพุทธองค์ก็ทรงตรัสบอกชัดเจนแล้วว่า "อริยสาวกย่อมไม่เสพ" ดังพระสูตรที่ bigtoo ยกมาอ้างอิงอยู่แล้ว เมื่อทรงกล่าวดังนี้เสียก่อนแล้วก็ต้องถือว่าจบเด็ดขาดตรงนี้ ป่วยประโยชน์อะไรที่ bigtoo จะมาอ้างอิงเอาคำว่า "การประกอบเนืองๆ" มาอ้างเพื่อให้ผู้คนหลงคล้อยผิดตามและเข้าใจผิดว่าพระอริยะเจ้ายังเสพสุราอยู่ แถมยังกล่าวตู่ว่าพระพุทธเจ้าตรัสให้เป็นอย่างที่ bigtoo เข้าใจ
s005
อริยะไม่เสพทางเสื่อมเป็นไฉน. ท่านว่าไง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 28 ส.ค. 2015, 17:27, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอตัดเฉพาะกิเลสกรรม4อย่าง ได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดีบุตร อริยสาวกละกรรมกิเลสทั้ง ๔ ได้แล้ว ไม่ทำบาปกรรมโดยฐานะ ๔
กรรมกิเลส ๔ เป็นไฉน ที่อริยสาวกละได้แล้ว ดูกรคฤหบดีบุตร กรรมกิเลส
คือ ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ กรรมกิเลส ๔ เหล่านี้
ที่อริยสาวกนั้นละได้แล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์


ท่านว่าไงดีไม่เห็นมีสุรา

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 17:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




buddha2_resize.gif
buddha2_resize.gif [ 37.14 KiB | เปิดดู 1795 ครั้ง ]
bigtoo เขียน:
ขอตัดเฉพาะกิเลสกรรม4อย่าง ได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดีบุตร อริยสาวกละกรรมกิเลสทั้ง ๔ ได้แล้ว ไม่ทำบาปกรรมโดยฐานะ ๔
กรรมกิเลส ๔ เป็นไฉน ที่อริยสาวกละได้แล้ว ดูกรคฤหบดีบุตร กรรมกิเลส
คือ ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ กรรมกิเลส ๔ เหล่านี้
ที่อริยสาวกนั้นละได้แล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์


ท่านว่าไงดีไม่เห็นมีสุรา

:b12:
อ้าวๆๆๆๆๆนี่ bigtto คิดจะจับแพะมาชนช้างให้ชนะช้างอย่างนั้นหรือ

ถ้าผมจะถามกลับว่า แล้วทำไมเมื่อกล่าวถึงอบายมุข ๖ ที่พระอริยะเจ้าก็ย่อมเว้นขาดไม่ทำแล้วไม่ทำแล้วเช่นกัน ทำไมถึงมีศีลข้อ ๕ สุราเมรัยยะมากล่าวด้วยล่ะ

แล้วอะไรอีกที่กบยกมาทีหลังนั่นก็มีศีลข้อ ๕ มาเกี่ยวด้วยทั้งหมดเป็นความจากพระสูตรด้วยเช่นกัน

bigtoo ต้องปล่อยวางความยึดมั่นอะไรที่ตั้งธงไว้ในใจสักพักแล้วกลับมาพิจารณาด้วยใจเป็นกลางๆไร้อคติ ก็จะเห็นและรู้ได้ด้วยมโนธรรมว่า

การดันทุรังที่จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าพระอริยเจ้ายังล่วงศีลข้อที่ ๕ ได้อยู่โดยอนุโลมเพราะมีช่องว่างหรือช่องโหว่ของพุทธดำรัสเว้นไว้ให้ ดังนี้ มันบาปนักหนาเชียวนะ การตีความพุทธวัจจนะให้ไปสนับสนุนกิเลสตัณหาเช่นนี้ไม่ใช่ทางของพุทธบุตรเป็นแน่
Onion_L
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 18:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
ขอตัดเฉพาะกิเลสกรรม4อย่าง ได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดีบุตร อริยสาวกละกรรมกิเลสทั้ง ๔ ได้แล้ว ไม่ทำบาปกรรมโดยฐานะ ๔
กรรมกิเลส ๔ เป็นไฉน ที่อริยสาวกละได้แล้ว ดูกรคฤหบดีบุตร กรรมกิเลส
คือ ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ กรรมกิเลส ๔ เหล่านี้
ที่อริยสาวกนั้นละได้แล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์


ท่านว่าไงดีไม่เห็นมีสุรา

:b12:
อ้าวๆๆๆๆๆนี่ bigtto คิดจะจับแพะมาชนช้างให้ชนะช้างอย่างนั้นหรือ

ถ้าผมจะถามกลับว่า แล้วทำไมเมื่อกล่าวถึงอบายมุข ๖ ที่พระอริยะเจ้าก็ย่อมเว้นขาดไม่ทำแล้วไม่ทำแล้วเช่นกัน ทำไมถึงมีศีลข้อ ๕ สุราเมรัยยะมากล่าวด้วยล่ะ

แล้วอะไรอีกที่กบยกมาทีหลังนั่นก็มีศีลข้อ ๕ มาเกี่ยวด้วยทั้งหมดเป็นความจากพระสูตรด้วยเช่นกัน

bigtoo ต้องปล่อยวางความยึดมั่นอะไรที่ตั้งธงไว้ในใจสักพักแล้วกลับมาพิจารณาด้วยใจเป็นกลางๆไร้อคติ ก็จะเห็นและรู้ได้ด้วยมโนธรรมว่า

การดันทุรังที่จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าพระอริยเจ้ายังล่วงศีลข้อที่ ๕ ได้อยู่โดยอนุโลมเพราะมีช่องว่างหรือช่องโหว่ของพุทธดำรัสเว้นไว้ให้ ดังนี้ มันบาปนักหนาเชียวนะ การตีความพุทธวัจจนะให้ไปสนับสนุนกิเลสตัณหาเช่นนี้ไม่ใช่ทางของพุทธบุตรเป็นแน่
Onion_L
สงสัยจะเข้าใจคำว่าทางเสื่อม6ประการผิดล่ะมั้ง. พระพุทธเจ้าทานสนทนากับคหบดีบุตร ว่าธรรมหกประการที่อริยะไม่เสพมีหกประการ. คหบดีบุตรจึงถามว่าทางเสื่อม6ประการเป็นไฉน. ? พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า. การประกอบเนื่องๆ. ฉะนั้นแล้วทางเสื่อม6ประการนั้นจะเกิดโทษต้องประกอบเนื่องๆ ซึ่งพระองค็อธิบายต่อว่าโทษของการประกิบเนื่องๆ ส่วนเรื่องศิลห้าก็ชัดเจนแล้วว่าถือเอาเจตนาเป็นหลัก เพราะอาการทางกายกิริยาบ่งบอกอะไรไม่ได้ทีเดียว


สรุปชัดเจนมากจากธรรม4ประการนั้นไม่มีสุรา. อกุศลกรรมบทก็ไม่มีสุรา ทางเสื่อมหกประการก็ต้องประกอบเนืองๆ(เป็นครั้งคราวไม่มีเจตนาก็ไม่ผิดชัดเจนมาก)อโสกอย่าเบี่ยงเบนเลย 3หลักธรรมเลยนะ กับศิล5ที่เป็นหลักธรรมเดียวที่เป็นเรื่องเจตนา ฉะนั้นสรุปได้ตามนี้ชัดเจน. ถ้ายังไม่เข้าใจก็ปล่อยเลย

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 20:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
ขอตัดเฉพาะกิเลสกรรม4อย่าง ได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดีบุตร อริยสาวกละกรรมกิเลสทั้ง ๔ ได้แล้ว ไม่ทำบาปกรรมโดยฐานะ ๔
กรรมกิเลส ๔ เป็นไฉน ที่อริยสาวกละได้แล้ว ดูกรคฤหบดีบุตร กรรมกิเลส
คือ ปาณาติบาต ๑ อทินนาทาน ๑ กาเมสุมิจฉาจาร ๑ มุสาวาท ๑ กรรมกิเลส ๔ เหล่านี้
ที่อริยสาวกนั้นละได้แล้ว ฯ
พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์


ท่านว่าไงดีไม่เห็นมีสุรา

:b12:
อ้าวๆๆๆๆๆนี่ bigtto คิดจะจับแพะมาชนช้างให้ชนะช้างอย่างนั้นหรือ

ถ้าผมจะถามกลับว่า แล้วทำไมเมื่อกล่าวถึงอบายมุข ๖ ที่พระอริยะเจ้าก็ย่อมเว้นขาดไม่ทำแล้วไม่ทำแล้วเช่นกัน ทำไมถึงมีศีลข้อ ๕ สุราเมรัยยะมากล่าวด้วยล่ะ

แล้วอะไรอีกที่กบยกมาทีหลังนั่นก็มีศีลข้อ ๕ มาเกี่ยวด้วยทั้งหมดเป็นความจากพระสูตรด้วยเช่นกัน

bigtoo ต้องปล่อยวางความยึดมั่นอะไรที่ตั้งธงไว้ในใจสักพักแล้วกลับมาพิจารณาด้วยใจเป็นกลางๆไร้อคติ ก็จะเห็นและรู้ได้ด้วยมโนธรรมว่า

การดันทุรังที่จะทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าพระอริยเจ้ายังล่วงศีลข้อที่ ๕ ได้อยู่โดยอนุโลมเพราะมีช่องว่างหรือช่องโหว่ของพุทธดำรัสเว้นไว้ให้ ดังนี้ มันบาปนักหนาเชียวนะ การตีความพุทธวัจจนะให้ไปสนับสนุนกิเลสตัณหาเช่นนี้ไม่ใช่ทางของพุทธบุตรเป็นแน่
Onion_L
สงสัยจะเข้าใจคำว่าทางเสื่อม6ประการผิดล่ะมั้ง. พระพุทธเจ้าทานสนทนากับคหบดีบุตร ว่าธรรมหกประการที่อริยะไม่เสพมีหกประการ. คหบดีบุตรจึงถามว่าทางเสื่อม6ประการเป็นไฉน. ? พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า. การประกอบเนื่องๆ. ฉะนั้นแล้วทางเสื่อม6ประการนั้นจะเกิดโทษต้องประกอบเนื่องๆ ซึ่งพระองค็อธิบายต่อว่าโทษของการประกิบเนื่องๆ ส่วนเรื่องศิลห้าก็ชัดเจนแล้วว่าถือเอาเจตนาเป็นหลัก เพราะอาการทางกายกิริยาบ่งบอกอะไรไม่ได้ทีเดียว


สรุปชัดเจนมากจากธรรม4ประการนั้นไม่มีสุรา. อกุศลกรรมบทก็ไม่มีสุรา ทางเสื่อมหกประการก็ต้องประกอบเนืองๆ(เป็นครั้งคราวไม่มีเจตนาก็ไม่ผิดชัดเจนมาก)อโสกอย่าเบี่ยงเบนเลย 3หลักธรรมเลยนะ กับศิล5ที่เป็นหลักธรรมเดียวที่เป็นเรื่องเจตนา ฉะนั้นสรุปได้ตามนี้ชัดเจน. ถ้ายังไม่เข้าใจก็ปล่อยเลย

:b12:
ขอให้เจริญในทางที่เป็นพระอริยเจ้าจิบเหล้าเพราะเกรงใจเพื่อน หรือจิบเหล้าแบบไร้เจตนาได้ตลอดไปเทอญ

ปล่อยแล้ว แสดงเหตุผลกันพอสมควรแล้ว ผู้อ่านและศึกษาคงตัดสินเอง


"กัมมุนาวัฏฏิโลโก"
:b7:
:b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 20:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แสดงเหตุผลได้สมควรแล้ว...

คิดว่า..คนอื่น ๆ ที่มาทีหลัง..ก็สามารถเข้าใจได้..แล้วละครับ

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 21:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
s004 s004 s004

บอกว่า...ให้ไปตั้งกระทู้ใหม่..

รก....

กลับมา...

กบนอกกะลา เขียน:
ตรงนี้..สำคัญ..นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
อธิศีล...ของโสดาบัน...น่าสนใจนะว่า..ท่านมีความคิดอย่างไรจึงยอมเสียชีพดีกว่าผิดศีล..?

น่าคิด..มั้ย?

อโสกะ...คิดว่า..อริยะโสดาบัน..ทำไมถึงทำอย่างนั้นได้...??


คนเราจะหลับหูหลับตา...ยอมตายเพราะอยากเป็นอริยะ..ก็คงไม่ใช่

อริยะต้องเห็นอะไร..แหละนะ..

อโสกะว่า...ยังงัยละ?


:b16: :b16:

:b12:
โยงมาให้อโศกะตอบอีกแล้วนะครับ
s004
พระโสดาบัน เห็นโทษและวิบากกรรมที่จะเกิดจากการล่วงศีล 5 แต่ละข้ออย่างชัดเจนแล้วจนละสิ้นซึ่งอุปนิสัยที่จะล่วงศีล 5 กลายเป็นธรรมชาติและอุปนิสัยใหม่ที่ล่วงศีล 5 ไม่เป็น ทำไม่ได้ เป็นปกติวิสัยของพระโสดาบันเองที่จะไม่ล่วงศีล 5

อุปมาเหมือนคนที่เคยได้รับความเจ็บแสบอันแสนจะทุกข์และทารุณจากการไปจับต้องถูกใบตำแยหรือตัวบุ้งร่าน จึงไม่หวนกลับไปแตะต้องมันอีกโดยเด็ดขาดชั่วชีวิต


การไม่ล่วงศิลห้าของท่านยึดเอากิริยาอาการหรือยึดเอาเจตนาล่ะครับ. ในสังคมแห่งความจริงที่ไม่ใช่ความนึกคิดมันมีบริบทเยอะนะ. อย่างหมอเอามีดจิ้มไปในร่าวกายมีคนตายก็ไม่เห็นผิดศิลเลยทั้วๆมีคนตายนะ. พระองค์ถึงกล่าวว่าเรามีเจตนาเป็นกรรม.

s004
การเอาเจตนามาวัดเรื่องการล่วงศีลนั้นถูกต้องแล้วครับ bigtoo แต่นั่นเป็นคำสอนที่ใช่สำหรับผู้ที่เป็นเสขะบุคคลคือผู้กำลังฝึกหัดตนไปสู่ความเป็นอริยชน

สำหรับอเสขะบุคคลชั้นต้นขึ้นไปอย่างพระโสดาบัน นิสัยล่วงศีล ๕ ข้อได้ตายขาดไปจากจิตของท่านแล้ว การจะล่วงศีล๕ของท่านจะเกิดได้เพียงอุบัติเหตุหรือความประมาทพลั้งเผลอความผิดปกติธรรมดาบางอย่าง คล้ายกับกรณีของพระอรหันต์ตาบอดที่เดินจงกรมเหยียบมดปลวกตาย

กรณีจิบเหล้าเล็กน้อยเพื่อเอาใจสังคมขี้เหล้านั้นมันมีเจตนาคือผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ว่าเพื่อให้ฉันอยู่ร่วมกับสังคมขี้เหล้านี้ได้ไม่เสียงาน พระโสดาบันท่านคงไม่ทำอย่างนี้แน่ครับ

หยุดเถอะครับการหาเหตุผลเพื่อจะมาเลี่ยงบาลี จะได้เดินหน้าสนทนาธรรมกันต่อไปด้วยความสุข สงบ ร่มเย็น
สาธุ

onion

tongue
ในอริยบุคคล8จำพวก มีเป็นอเสขะ มีเพียง1เดียวคืออรหัตตผลเท่านั้นค่ะ
กลับไปทบทวนตำราแล้วมาแก้ไขใหม่ด้วยนะท่านเสียชื่อผู้ศึกษาอยู่หมด
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2015, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ที่ข้าพเจ้าอ่านเมื่อปี2549มีการแบ่งประเภทอริยบุคคลแปดจำพวกแบ่งเป็น2แบบคือ
1เสขะบุคคล=ผู้ที่ยังต้องศึกษาอยู่มี7จำพวกได้แก่ั โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล
สกิทาคามิมรรค สกิทาคามิผล อนาคามิมรรค อนาคามิผล และอรหัตตมรรค
2อเสขะบุคคลผ=ผู้ที่ไม่ต้องศึกษา หมดงานมี1 จำพวก ได้แก่ อรหัตตผล(พระอรหันต์)
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้ที่หูแจ้งตาสว่างเห็นพาลภายนอก
ต้องย้อนเข้ามาดูพาลภายใน
เค้าพาทำชั่วยังจะอยากทำ
นรกก็ต้มน้ำเดือดปุดๆรอ
น้ำทองแดงประกายไฟ
เอาไว้ให้จิบเข้าปากไง
อ่ะฮ่อยอ่ะฮ่อย
:b12:
:b32: :b32:
คิดอะไรก็คิดได้นะ แต่ไม่ตรงความจริง. ยังรู้อยู่มั้ยใครเป็นอรหันต์ ยังจินดีรดน้ำมนต์อยู่หรือเปล่า. ยังท่องคาถาเงิรล้านอยู่มั้ย. ขึ้นบ้ายใหม่ล่ะทำมั้ยฯ คงเยอะเลยนะชีวิตจะหลุดพ้นได้ไง

:b12:
อนุโลมกรณีเป็นยาได้อย่างเดียวที่แอลกอฮอล์ใช้ทาได้น๊าเอาเข้าปากมิได้ดอกหนา
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 10:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้ที่หูแจ้งตาสว่างเห็นพาลภายนอก
ต้องย้อนเข้ามาดูพาลภายใน
เค้าพาทำชั่วยังจะอยากทำ
นรกก็ต้มน้ำเดือดปุดๆรอ
น้ำทองแดงประกายไฟ
เอาไว้ให้จิบเข้าปากไง
อ่ะฮ่อยอ่ะฮ่อย
:b12:
:b32: :b32:
คิดอะไรก็คิดได้นะ แต่ไม่ตรงความจริง. ยังรู้อยู่มั้ยใครเป็นอรหันต์ ยังจินดีรดน้ำมนต์อยู่หรือเปล่า. ยังท่องคาถาเงิรล้านอยู่มั้ย. ขึ้นบ้ายใหม่ล่ะทำมั้ยฯ คงเยอะเลยนะชีวิตจะหลุดพ้นได้ไง

:b12:
อนุโลมกรณีเป็นยาได้อย่างเดียวที่แอลกอฮอล์ใช้ทาได้น๊าเอาเข้าปากมิได้ดอกหนา
:b32: :b32:

ก็ถูกแต่ไม่หมด

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 11:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้ที่หูแจ้งตาสว่างเห็นพาลภายนอก
ต้องย้อนเข้ามาดูพาลภายใน
เค้าพาทำชั่วยังจะอยากทำ
นรกก็ต้มน้ำเดือดปุดๆรอ
น้ำทองแดงประกายไฟ
เอาไว้ให้จิบเข้าปากไง
อ่ะฮ่อยอ่ะฮ่อย
:b12:
:b32: :b32:
คิดอะไรก็คิดได้นะ แต่ไม่ตรงความจริง. ยังรู้อยู่มั้ยใครเป็นอรหันต์ ยังจินดีรดน้ำมนต์อยู่หรือเปล่า. ยังท่องคาถาเงิรล้านอยู่มั้ย. ขึ้นบ้ายใหม่ล่ะทำมั้ยฯ คงเยอะเลยนะชีวิตจะหลุดพ้นได้ไง

:b12:
อนุโลมกรณีเป็นยาได้อย่างเดียวที่แอลกอฮอล์ใช้ทาได้น๊าเอาเข้าปากมิได้ดอกหนา
:b32: :b32:

ก็ถูกแต่ไม่หมด

พระอเสขะเท่านั้นที่ไม่ถือเป็นผิดศีลเพราะพ้นโลก
ยกตัวอย่างของพระอรหันต์ท่านฉีดมอร์ฟีนแก้ปวด
มะเร็งขั้นสุดท้ายไม่ถือเป็นยาเสพติดป่วยใกล้ตาย
หรือพระอรหันต์ท่านฉันหมากฉันบุหรี่เป็นกิริยาจิต
ท่านติดแต่ร่างกายเป็นไปตามสมมุติจิตพ้นรับบาป
ส่วนอริยบุคคล7จำพวกไม่เว้นขาดก็ต้องมารับผลนะ
เกิดเป็นมนุษยที่ทุศีลคงพิกลพิการหน้าตาอัปลักษณ์
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 11:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ผู้ที่หูแจ้งตาสว่างเห็นพาลภายนอก
ต้องย้อนเข้ามาดูพาลภายใน
เค้าพาทำชั่วยังจะอยากทำ
นรกก็ต้มน้ำเดือดปุดๆรอ
น้ำทองแดงประกายไฟ
เอาไว้ให้จิบเข้าปากไง
อ่ะฮ่อยอ่ะฮ่อย
:b12:
:b32: :b32:
คิดอะไรก็คิดได้นะ แต่ไม่ตรงความจริง. ยังรู้อยู่มั้ยใครเป็นอรหันต์ ยังจินดีรดน้ำมนต์อยู่หรือเปล่า. ยังท่องคาถาเงิรล้านอยู่มั้ย. ขึ้นบ้ายใหม่ล่ะทำมั้ยฯ คงเยอะเลยนะชีวิตจะหลุดพ้นได้ไง

:b12:
อนุโลมกรณีเป็นยาได้อย่างเดียวที่แอลกอฮอล์ใช้ทาได้น๊าเอาเข้าปากมิได้ดอกหนา
:b32: :b32:

ก็ถูกแต่ไม่หมด

พระอเสขะเท่านั้นที่ไม่ถือเป็นผิดศีลเพราะพ้นโลก
ยกตัวอย่างของพระอรหันต์ท่านฉีดมอร์ฟีนแก้ปวด
มะเร็งขั้นสุดท้ายไม่ถือเป็นยาเสพติดป่วยใกล้ตาย
หรือพระอรหันต์ท่านฉันหมากฉันบุหรี่เป็นกิริยาจิต
ท่านติดแต่ร่างกายเป็นไปตามสมมุติจิตพ้นรับบาป
ส่วนอริยบุคคล7จำพวกไม่เว้นขาดก็ต้องมารับผลนะ
เกิดเป็นมนุษยที่ทุศีลคงพิกลพิการหน้าตาอัปลักษณ์
:b32: :b32:

หุหุก็ใว่ากันไป

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 11:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คงสมปรารถนาเกิดมาอัปลักษณ์
ไรัทรัพย์ไม่มีบริวารคอยรับใช้
สงสัยคงได้เป็นคนอนาถา
นอนข้างถนนไม่มีบ้าน
:b17:
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 29 ส.ค. 2015, 11:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 11:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
s004 s004 s004

บอกว่า...ให้ไปตั้งกระทู้ใหม่..

รก....

กลับมา...

กบนอกกะลา เขียน:
ตรงนี้..สำคัญ..นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
อธิศีล...ของโสดาบัน...น่าสนใจนะว่า..ท่านมีความคิดอย่างไรจึงยอมเสียชีพดีกว่าผิดศีล..?

น่าคิด..มั้ย?

อโสกะ...คิดว่า..อริยะโสดาบัน..ทำไมถึงทำอย่างนั้นได้...??


คนเราจะหลับหูหลับตา...ยอมตายเพราะอยากเป็นอริยะ..ก็คงไม่ใช่

อริยะต้องเห็นอะไร..แหละนะ..

อโสกะว่า...ยังงัยละ?


:b16: :b16:

:b12:
โยงมาให้อโศกะตอบอีกแล้วนะครับ
s004
พระโสดาบัน เห็นโทษและวิบากกรรมที่จะเกิดจากการล่วงศีล 5 แต่ละข้ออย่างชัดเจนแล้วจนละสิ้นซึ่งอุปนิสัยที่จะล่วงศีล 5 กลายเป็นธรรมชาติและอุปนิสัยใหม่ที่ล่วงศีล 5 ไม่เป็น ทำไม่ได้ เป็นปกติวิสัยของพระโสดาบันเองที่จะไม่ล่วงศีล 5

อุปมาเหมือนคนที่เคยได้รับความเจ็บแสบอันแสนจะทุกข์และทารุณจากการไปจับต้องถูกใบตำแยหรือตัวบุ้งร่าน จึงไม่หวนกลับไปแตะต้องมันอีกโดยเด็ดขาดชั่วชีวิต


การไม่ล่วงศิลห้าของท่านยึดเอากิริยาอาการหรือยึดเอาเจตนาล่ะครับ. ในสังคมแห่งความจริงที่ไม่ใช่ความนึกคิดมันมีบริบทเยอะนะ. อย่างหมอเอามีดจิ้มไปในร่าวกายมีคนตายก็ไม่เห็นผิดศิลเลยทั้วๆมีคนตายนะ. พระองค์ถึงกล่าวว่าเรามีเจตนาเป็นกรรม.

s004
การเอาเจตนามาวัดเรื่องการล่วงศีลนั้นถูกต้องแล้วครับ bigtoo แต่นั่นเป็นคำสอนที่ใช่สำหรับผู้ที่เป็นเสขะบุคคลคือผู้กำลังฝึกหัดตนไปสู่ความเป็นอริยชน

สำหรับอเสขะบุคคลชั้นต้นขึ้นไปอย่างพระโสดาบัน นิสัยล่วงศีล ๕ ข้อได้ตายขาดไปจากจิตของท่านแล้ว การจะล่วงศีล๕ของท่านจะเกิดได้เพียงอุบัติเหตุหรือความประมาทพลั้งเผลอความผิดปกติธรรมดาบางอย่าง คล้ายกับกรณีของพระอรหันต์ตาบอดที่เดินจงกรมเหยียบมดปลวกตาย

กรณีจิบเหล้าเล็กน้อยเพื่อเอาใจสังคมขี้เหล้านั้นมันมีเจตนาคือผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ว่าเพื่อให้ฉันอยู่ร่วมกับสังคมขี้เหล้านี้ได้ไม่เสียงาน พระโสดาบันท่านคงไม่ทำอย่างนี้แน่ครับ

หยุดเถอะครับการหาเหตุผลเพื่อจะมาเลี่ยงบาลี จะได้เดินหน้าสนทนาธรรมกันต่อไปด้วยความสุข สงบ ร่มเย็น
สาธุ

onion

tongue
ในอริยบุคคล8จำพวก มีเป็นอเสขะ มีเพียง1เดียวคืออรหัตตผลเท่านั้นค่ะ
กลับไปทบทวนตำราแล้วมาแก้ไขใหม่ด้วยนะท่านเสียชื่อผู้ศึกษาอยู่หมด
:b32: :b32:

:b8:
ขอบคุณและอนุโมทนาสาธุกับคุณ Rosarin ที่มาแก้ไขเรื่องเสขะและอเสขะบุคคลให้ถูกต้องครับ
:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ส.ค. 2015, 11:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
Rosarin เขียน:
asoka เขียน:
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
s004 s004 s004

บอกว่า...ให้ไปตั้งกระทู้ใหม่..

รก....

กลับมา...

กบนอกกะลา เขียน:
ตรงนี้..สำคัญ..นะครับ

กบนอกกะลา เขียน:
อธิศีล...ของโสดาบัน...น่าสนใจนะว่า..ท่านมีความคิดอย่างไรจึงยอมเสียชีพดีกว่าผิดศีล..?

น่าคิด..มั้ย?

อโสกะ...คิดว่า..อริยะโสดาบัน..ทำไมถึงทำอย่างนั้นได้...??


คนเราจะหลับหูหลับตา...ยอมตายเพราะอยากเป็นอริยะ..ก็คงไม่ใช่

อริยะต้องเห็นอะไร..แหละนะ..

อโสกะว่า...ยังงัยละ?


:b16: :b16:

:b12:
โยงมาให้อโศกะตอบอีกแล้วนะครับ
s004
พระโสดาบัน เห็นโทษและวิบากกรรมที่จะเกิดจากการล่วงศีล 5 แต่ละข้ออย่างชัดเจนแล้วจนละสิ้นซึ่งอุปนิสัยที่จะล่วงศีล 5 กลายเป็นธรรมชาติและอุปนิสัยใหม่ที่ล่วงศีล 5 ไม่เป็น ทำไม่ได้ เป็นปกติวิสัยของพระโสดาบันเองที่จะไม่ล่วงศีล 5

อุปมาเหมือนคนที่เคยได้รับความเจ็บแสบอันแสนจะทุกข์และทารุณจากการไปจับต้องถูกใบตำแยหรือตัวบุ้งร่าน จึงไม่หวนกลับไปแตะต้องมันอีกโดยเด็ดขาดชั่วชีวิต


การไม่ล่วงศิลห้าของท่านยึดเอากิริยาอาการหรือยึดเอาเจตนาล่ะครับ. ในสังคมแห่งความจริงที่ไม่ใช่ความนึกคิดมันมีบริบทเยอะนะ. อย่างหมอเอามีดจิ้มไปในร่าวกายมีคนตายก็ไม่เห็นผิดศิลเลยทั้วๆมีคนตายนะ. พระองค์ถึงกล่าวว่าเรามีเจตนาเป็นกรรม.

s004
การเอาเจตนามาวัดเรื่องการล่วงศีลนั้นถูกต้องแล้วครับ bigtoo แต่นั่นเป็นคำสอนที่ใช่สำหรับผู้ที่เป็นเสขะบุคคลคือผู้กำลังฝึกหัดตนไปสู่ความเป็นอริยชน

สำหรับอเสขะบุคคลชั้นต้นขึ้นไปอย่างพระโสดาบัน นิสัยล่วงศีล ๕ ข้อได้ตายขาดไปจากจิตของท่านแล้ว การจะล่วงศีล๕ของท่านจะเกิดได้เพียงอุบัติเหตุหรือความประมาทพลั้งเผลอความผิดปกติธรรมดาบางอย่าง คล้ายกับกรณีของพระอรหันต์ตาบอดที่เดินจงกรมเหยียบมดปลวกตาย

กรณีจิบเหล้าเล็กน้อยเพื่อเอาใจสังคมขี้เหล้านั้นมันมีเจตนาคือผลประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ว่าเพื่อให้ฉันอยู่ร่วมกับสังคมขี้เหล้านี้ได้ไม่เสียงาน พระโสดาบันท่านคงไม่ทำอย่างนี้แน่ครับ

หยุดเถอะครับการหาเหตุผลเพื่อจะมาเลี่ยงบาลี จะได้เดินหน้าสนทนาธรรมกันต่อไปด้วยความสุข สงบ ร่มเย็น
สาธุ

onion

tongue
ในอริยบุคคล8จำพวก มีเป็นอเสขะ มีเพียง1เดียวคืออรหัตตผลเท่านั้นค่ะ
กลับไปทบทวนตำราแล้วมาแก้ไขใหม่ด้วยนะท่านเสียชื่อผู้ศึกษาอยู่หมด
:b32: :b32:

:b8:
ขอบคุณและอนุโมทนาสาธุกับคุณ Rosarin ที่มาแก้ไขเรื่องเสขะและอเสขะบุคคลให้ถูกต้องครับ
:b27:

onion onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20 ... 61  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร