50685.ให้อะไรแม่ดีครับ???

bigtoo

Rosarin เขียน:

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
ปีนี้ข้าพเจ้าได้ตอบแทนพระคุณมารดา+บิดา(บิดาเสียชีวิตนานแล้วค่ะ)ให้ทั้งแก้วแหวนเงินทองเลยค่ะ
คือได้ทำบุญถวายปัจจัยเป็นค่าน้ำไฟที่วัดป่าวิเวกธรรมกับหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโกแทนมารดาอุทิศให้บิดา
และได้ลูกแก้วสารพัดนึกที่หลวงปู่บุญเพ็งอธิษฐานจิตให้เจริญรุ่งเรืองติดตัวเป็นศิริมงคลกับคนในครอบครัว
สุดท้ายก็ได้ไปกราบพระคุณของมารดาด้วยการบูชาท่านด้วยแหวนทองคำหนึ่งวงครบทั้งแก้วแหวนเงินทอง
:b16:

เอาอีกแล้วลูกแก้วสารพัดนึก แค่ทุกวันนี้ก็ทุกข์กับความนึกคิดมากพอแล้ว ยังจะมาสารพัดนึกอีก

นอกจากไม่รู้จักการอนุโมทนาบุญแล้ว ยังมาระบายความทุกข์ตัวเองใส่คนอื่น คิดดีกะเค๊าเป็นป่าวหนอ
คนอื่นเขาทำบุญเพื่อเป็นปัจจัยที่เป็นกุศลถึงสวรรค์นิพพานโน่น
ส่วนตัวเองก็มัวแต่มานั่งนึกว่าทำแบบนี้ผิดทำแบบนี้ไม่ดีก็บอกแล้ว
คิดดีก็ตัวเองรับ คิดไม่ดีก็ตัวเองรับ ตัวเองเดินไปขาก็ขวิดเองล้มหัวขมำ
Onion_L

นี่ล่ะน๊าไม่เข้าใจชี้ทางสว่างให้เห็นว่าปราถนานิพพานะนี่ถึงชี้ให้ แต่ถ้าปราถนาสวรรค์ก็ตามสบาย

การจะได้อะไรมาครอบครองมันก็เป็นเหตุปัจจัยของคนทำให้ระลึกถึงคุณความดีที่ทำ
คนอื่นจะได้ด้วย10%จาการอนุโมทนาไม่รู้หราาาา ตัวเองไม่ได้มาทำคิดวุ่นวาย
ชีวิตทู่นี่ดูน่าสงสารมากเลยรู้ป่าว จะมาวุ่นวายอะไรกับคนเค้าได้บุญได้กุศล
:b39:

ลานธรรมจัก บอร์ดสนทนานะจ๊ะตัวเอง. ถ้างั้นก็เข้าป่าเลยดีมั้ย

Rosarin

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
ปีนี้ข้าพเจ้าได้ตอบแทนพระคุณมารดา+บิดา(บิดาเสียชีวิตนานแล้วค่ะ)ให้ทั้งแก้วแหวนเงินทองเลยค่ะ
คือได้ทำบุญถวายปัจจัยเป็นค่าน้ำไฟที่วัดป่าวิเวกธรรมกับหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโกแทนมารดาอุทิศให้บิดา
และได้ลูกแก้วสารพัดนึกที่หลวงปู่บุญเพ็งอธิษฐานจิตให้เจริญรุ่งเรืองติดตัวเป็นศิริมงคลกับคนในครอบครัว
สุดท้ายก็ได้ไปกราบพระคุณของมารดาด้วยการบูชาท่านด้วยแหวนทองคำหนึ่งวงครบทั้งแก้วแหวนเงินทอง
:b16:

เอาอีกแล้วลูกแก้วสารพัดนึก แค่ทุกวันนี้ก็ทุกข์กับความนึกคิดมากพอแล้ว ยังจะมาสารพัดนึกอีก

นอกจากไม่รู้จักการอนุโมทนาบุญแล้ว ยังมาระบายความทุกข์ตัวเองใส่คนอื่น คิดดีกะเค๊าเป็นป่าวหนอ
คนอื่นเขาทำบุญเพื่อเป็นปัจจัยที่เป็นกุศลถึงสวรรค์นิพพานโน่น
ส่วนตัวเองก็มัวแต่มานั่งนึกว่าทำแบบนี้ผิดทำแบบนี้ไม่ดีก็บอกแล้ว
คิดดีก็ตัวเองรับ คิดไม่ดีก็ตัวเองรับ ตัวเองเดินไปขาก็ขวิดเองล้มหัวขมำ
Onion_L

นี่ล่ะน๊าไม่เข้าใจชี้ทางสว่างให้เห็นว่าปราถนานิพพานะนี่ถึงชี้ให้ แต่ถ้าปราถนาสวรรค์ก็ตามสบาย

การจะได้อะไรมาครอบครองมันก็เป็นเหตุปัจจัยของคนทำให้ระลึกถึงคุณความดีที่ทำ
คนอื่นจะได้ด้วย10%จาการอนุโมทนาไม่รู้หราาาา ตัวเองไม่ได้มาทำคิดวุ่นวาย
ชีวิตทู่นี่ดูน่าสงสารมากเลยรู้ป่าว จะมาวุ่นวายอะไรกับคนเค้าได้บุญได้กุศล
:b39:

ลานธรรมจัก บอร์ดสนทนานะจ๊ะตัวเอง. ถ้างั้นก็เข้าป่าเลยดีมั้ย

อ้าว ไม่รู้หราาาาา ว่าเข้าป่าแล้วได้บุญ ข้าพเจ้าเข้าทุกวันเลยป่าไรรู้ป่าว
:b42:

ป่าช้าในกายนี้งายยยยย กินสัตว์ลงไปฝังในกระเพาะอาหารลำไส้มากี่ตัวแล้วจำได้บ่
จนมันได้กลายเป็นเนื้อหนังมังสา ก็เป็นกุศลที่ได้ทุกวันเข้าป่าไม่ต้องไล่ก็ไปทุกวัน
:b32:

nongkong

eragon_joe เขียน:

แม่เอกอนเป็นคนที่ดูจะไม่ค่อยมีการศึกษามากนัก

และ...สอนยากด้วย :b32:

เพราะ...แม่ไม่ค่อยจะฟังใครง่าย ๆ

แต่ในเรื่องภูมิจิตของแม่เอกอน
บางครั้งแม่ก็พูดบางอย่างที่เอกอนก็ เป็นอึ้ง

ครั้งล่าสุด แม่พูดเล่น ๆ เปรย ๆ เกี่ยวกับเรื่องการต้องจากกันในชาตินี้

:b1:

... เอกอนฟังแล้วเห็นภาพ(ทัศนะ/รู้สึก)
แม่พูดราวกับว่า แม่เลือกได้อย่างงั๊นล่ะ
ว่าแม่จะจุติไปยังภพภูมิที่ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก

:b1:

...

คือ...หนึ่งในคำเปรยของแม่
ประมาณว่า ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ในชาตินี้เป็นเพียงเรื่องราวที่ปรากฎขึ้นชั่วคราว
ซึ่งเมื่อถึงเวลา ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ก็จบลง

ประหนึ่งว่า ในเรื่องของจิต ไม่ได้มี แม่-ลูก

:b30:

บางครั้งคุนน้องก็อยากให้เป็นแบบนั้นนะ...คงจะดีถ้าจิตเราไม่ต้องมีสายสัมพันธ์ข้ามภพชาติ..เราคงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้..เกิดกี่ชาติปฏิบัติธรรมก็ไม่ใช่แค่เพิ่งมาชาตินี้..ต่อยอดมาตั้งไม่รู้กี่อสงไขย แต่ก็ไม่พ้นสักที..
คุนน้องไม่สามารถตอบตนเองได้เลย..ว่าเมื่อถึงเวลาที่จะเผชิญความตาย..อะไรจะแว็บเข้ามาในจิตเราตอนนั้น..บางครั้งมันก็ห้ามยากนะ ความรู้สึกผูกพันธ์..
แม้บอกตนเองทุกวันว่า..ต่อให้จากกันก็จะไม่มีวันเสียใจ..แต่พอถึงวันนั้นจริงๆ..คุนน้องก็ไม่รู้..จนกว่าคุนน้องจะได้สัมผัสของจริงตรงหน้า :b1:

กบนอกกะลา

อนุโมทนาในบุญกุศลที่เพื่อน ๆ ทำเพื่อมารดาบิดา...นะครับ

แม้บางคน..ท่านไม่อยู่แล้ว..ก็ยังอุตส่าคิดถึง...ทำบุญไปให้

:b8:

bigtoo

Rosarin เขียน:

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss

bigtoo เขียน:

Rosarin เขียน:

Kiss
ปีนี้ข้าพเจ้าได้ตอบแทนพระคุณมารดา+บิดา(บิดาเสียชีวิตนานแล้วค่ะ)ให้ทั้งแก้วแหวนเงินทองเลยค่ะ
คือได้ทำบุญถวายปัจจัยเป็นค่าน้ำไฟที่วัดป่าวิเวกธรรมกับหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโกแทนมารดาอุทิศให้บิดา
และได้ลูกแก้วสารพัดนึกที่หลวงปู่บุญเพ็งอธิษฐานจิตให้เจริญรุ่งเรืองติดตัวเป็นศิริมงคลกับคนในครอบครัว
สุดท้ายก็ได้ไปกราบพระคุณของมารดาด้วยการบูชาท่านด้วยแหวนทองคำหนึ่งวงครบทั้งแก้วแหวนเงินทอง
:b16:

เอาอีกแล้วลูกแก้วสารพัดนึก แค่ทุกวันนี้ก็ทุกข์กับความนึกคิดมากพอแล้ว ยังจะมาสารพัดนึกอีก

นอกจากไม่รู้จักการอนุโมทนาบุญแล้ว ยังมาระบายความทุกข์ตัวเองใส่คนอื่น คิดดีกะเค๊าเป็นป่าวหนอ
คนอื่นเขาทำบุญเพื่อเป็นปัจจัยที่เป็นกุศลถึงสวรรค์นิพพานโน่น
ส่วนตัวเองก็มัวแต่มานั่งนึกว่าทำแบบนี้ผิดทำแบบนี้ไม่ดีก็บอกแล้ว
คิดดีก็ตัวเองรับ คิดไม่ดีก็ตัวเองรับ ตัวเองเดินไปขาก็ขวิดเองล้มหัวขมำ
Onion_L

นี่ล่ะน๊าไม่เข้าใจชี้ทางสว่างให้เห็นว่าปราถนานิพพานะนี่ถึงชี้ให้ แต่ถ้าปราถนาสวรรค์ก็ตามสบาย

การจะได้อะไรมาครอบครองมันก็เป็นเหตุปัจจัยของคนทำให้ระลึกถึงคุณความดีที่ทำ
คนอื่นจะได้ด้วย10%จาการอนุโมทนาไม่รู้หราาาา ตัวเองไม่ได้มาทำคิดวุ่นวาย
ชีวิตทู่นี่ดูน่าสงสารมากเลยรู้ป่าว จะมาวุ่นวายอะไรกับคนเค้าได้บุญได้กุศล
:b39:

ลานธรรมจัก บอร์ดสนทนานะจ๊ะตัวเอง. ถ้างั้นก็เข้าป่าเลยดีมั้ย

อ้าว ไม่รู้หราาาาา ว่าเข้าป่าแล้วได้บุญ ข้าพเจ้าเข้าทุกวันเลยป่าไรรู้ป่าว
:b42:

ป่าช้าในกายนี้งายยยยย กินสัตว์ลงไปฝังในกระเพาะอาหารลำไส้มากี่ตัวแล้วจำได้บ่
จนมันได้กลายเป็นเนื้อหนังมังสา ก็เป็นกุศลที่ได้ทุกวันเข้าป่าไม่ต้องไล่ก็ไปทุกวัน
:b32:

กินสัตว์อะไรเหรอเห็นมีแต่ธาตุคิดมากไปป่าว

กบนอกกะลา

eragon_joe เขียน:

แม่เอกอนเป็นคนที่ดูจะไม่ค่อยมีการศึกษามากนัก

และ...สอนยากด้วย :b32:

เพราะ...แม่ไม่ค่อยจะฟังใครง่าย ๆ

แต่ในเรื่องภูมิจิตของแม่เอกอน
บางครั้งแม่ก็พูดบางอย่างที่เอกอนก็ เป็นอึ้ง

ครั้งล่าสุด แม่พูดเล่น ๆ เปรย ๆ เกี่ยวกับเรื่องการต้องจากกันในชาตินี้

:b1:

... เอกอนฟังแล้วเห็นภาพ(ทัศนะ/รู้สึก)
แม่พูดราวกับว่า แม่เลือกได้อย่างงั๊นล่ะ
ว่าแม่จะจุติไปยังภพภูมิที่ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
:b1:

...

คือ...หนึ่งในคำเปรยของแม่
ประมาณว่า ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ในชาตินี้เป็นเพียงเรื่องราวที่ปรากฎขึ้นชั่วคราว
ซึ่งเมื่อถึงเวลา ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ก็จบลง
ประหนึ่งว่า ในเรื่องของจิต ไม่ได้มี แม่-ลูก

:b30:

เรื่อง...บางอย่างก็ง่าย..ๆ..เสียจนเราก็คาดไม่ถึง..นะ

และก็เผยแพร่ไม่ได้ด้วย...เดียวโจรขโมยเจ้าเล่ห์อ้างไปใช้ :b32:

ผมเจอยายคนหนึ่ง....พูดลักษณะเดียวกัน...

แกธัมมะธัมโม..นะ...อ่านหนังสือพระอาจารย์ที่แกชอบตลอด(ตอนยังอ่านได้) แต่ก็ไม่เคยไปปฏิบัติธรรมที่ไหน...แค่ทำบุญที่วัดข้าง ๆ บ้านแก..

บางทีแกก็ไปไม่ได้...ต้องดูแลสามี...หาข้าวให้กิน...ล้างจาน เป็นต้น

แต่แก...ก็ได้ยินพระเทศน์ดังมาจากวัดนะ...(ยินได้งัย...ไม่มีเครื่องขยายเสียง..ซะหน่อย..)..ถามแก..แกก็ยิ้ม ๆ... :b5:

แกว่า...จากที่ฟังอาจารย์ที่แกนับถือ...แกตั้งใจแล้วว่า..จะไม่เกิดอีก
ใครได้ยิน..(หรือแม้แต่พระ)..ก็ว่ามันยากนะ...ต้องทำนั้นทำนี้..เยอะ..

(เข้าใจนะ...ต้องทำสมาธิ..ต้องทำวิปัสสนาภาวนา..ต้องได้ฌานได้ญาณ..ฯลฯ )

แกก็ตอบคนเหล่านั้นไปว่า..แกไม่รู้..แกรู้แต่ว่า..ก็ไม่อยากเกิดอีก..แล้วมันจะเอาอะไรไปเกิด.. :b32:

เข้าใจอะไรมั้ย..เอ่ย... :b17:

(เรื่องแบบนี้...เผยแพร่ไม่ได้..ทำเป็นสาธารณะก็ไม่ได้...จะเสียระบบแบบแผนการศึกษา..ทำให้คนรุ่นหลังเสียประโยชน์เอาได้ง่าย ๆ )

ส่วนตัว..ผมก็ไม่คิดว่าแกจะไปได้เลยทันทีนะ...แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินที่แกจะเอื้อมไม่ถึง....คงเร็วกว่าคนบริจาคจนหมดตัวได้แน่ๆ.. :b13:

กบนอกกะลา

ลุงหมาน เขียน:

การตอบแทนคุณของมารดา เราลองเทียบเคียงกับพระพุทธองค์นำมาใช้ดูก็ได้
นับตั้งแต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ได้เสด็จไปประกาศพระศาสนา
ในแคว้นทั่วชมพูทวีป เริ่มตั้งแต่เมืองราชคฤท์, พาราณสี, เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์

ซึ่งเป็นราชปิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระเจ้าสุทโธทนะพระพุทธบิดา,
พระนางมหาปชาบดีโคตมี, พระนางยโสธราพิมพา และราหุลราชกุมาร ตลอดถึง
พระประยูรญาติทั้งหลาย ให้บรรลุมรรคผลตามสมควร แก่อุปนิสัยของตนแล้ว

พระองค์ทรงรำลึกถึงพระนางสิริมหามายา ซึ่งได้สิ้นพระชนม์หลังจากพระองค์ประสูติได้ ๗ วัน
ทรงดำริที่จะสนองคุณพระพุทธมารดา ซึ่งมีพระคุณมากมายยิ่งนัก จะหาอะไรเปรียบปานมิได้
ทรงวินิจฉัยโดยรอบคอบแล้ว เห็นว่ามีสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะสนองคุณพระพุทธมารดา
เป็นการใช้หนี้ค่าน้ำนมให้คู่ควรกันได้ นั่นคือ พระอภิธรรม และก็เป็นประเพณีที่พระพุทธเจ้า
ทุกๆ พระองค์ปฏิบัติตามกันมา

แต่ว่าสำหรับอย่างพวกเราล่ะจะทำอย่างไร ขอออกความเห็นว่า
๑. เราท่องบทสวดพระอภิธรรมให้ท่านฟังจะดีไหม
๒. ซื้อหนังสือสวดมนต์ไปให้ดีไหม
๓. เราชวนแม่เข้าวัดไปปฏิบัติธรรมในวันแม่ดีไหม
๔. เราชวนแม่หรือเราเข้าไปหาที่ศึกษาพระอธิธรรมดีไหม
๕. เราเลิกลดละในสิ่งที่เป็นอบายมุขและสิ่งที่ขัดกับสิ่งที่ผิดศีล ๕ มอบให้แม่ดีไหม
๖. ???????????

เห็นด้วยครับ...

อะไรที่ทำแล้ว..ท่านมีความสุข...จิตเป็นกุศล...ย่อมดีทั้งหมด..แน่เลยครับ

๑. เราท่องบทสวดพระอภิธรรมให้ท่านฟังจะดีไหม
แม่อ่านพระไตรปิฎกให้ฟัง...เรื่องนี้คงต้องเป็นฝ่ายนั่งฟังแม่...อิอิ

๒. ซื้อหนังสือสวดมนต์ไปให้ดีไหม
มีแต่แม่จะแจกให้นะครับ..อิอิ

๓. เราชวนแม่เข้าวัดไปปฏิบัติธรรมในวันแม่ดีไหม
ผมเข้าวัดนี้ก็ฝีมือแม่...คงชวนแกไม่ได้แล้วละ...อิอิ :b15:

๔. เราชวนแม่หรือเราเข้าไปหาที่ศึกษาพระอธิธรรมดีไหม
ข้อ 3
๕. เราเลิกลดละในสิ่งที่เป็นอบายมุขและสิ่งที่ขัดกับสิ่งที่ผิดศีล ๕ มอบให้แม่ดีไหม
ข้อนี้..ง่าย ๆ ลูก ๆ ทำได้อยู่แล้ว... rolleyes

bigtoo

กบนอกกะลา เขียน:

eragon_joe เขียน:

แม่เอกอนเป็นคนที่ดูจะไม่ค่อยมีการศึกษามากนัก

และ...สอนยากด้วย :b32:

เพราะ...แม่ไม่ค่อยจะฟังใครง่าย ๆ

แต่ในเรื่องภูมิจิตของแม่เอกอน
บางครั้งแม่ก็พูดบางอย่างที่เอกอนก็ เป็นอึ้ง

ครั้งล่าสุด แม่พูดเล่น ๆ เปรย ๆ เกี่ยวกับเรื่องการต้องจากกันในชาตินี้

:b1:

... เอกอนฟังแล้วเห็นภาพ(ทัศนะ/รู้สึก)
แม่พูดราวกับว่า แม่เลือกได้อย่างงั๊นล่ะ
ว่าแม่จะจุติไปยังภพภูมิที่ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
:b1:

...

คือ...หนึ่งในคำเปรยของแม่
ประมาณว่า ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ในชาตินี้เป็นเพียงเรื่องราวที่ปรากฎขึ้นชั่วคราว
ซึ่งเมื่อถึงเวลา ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ก็จบลง
ประหนึ่งว่า ในเรื่องของจิต ไม่ได้มี แม่-ลูก

:b30:

เรื่อง...บางอย่างก็ง่าย..ๆ..เสียจนเราก็คาดไม่ถึง..นะ

และก็เผยแพร่ไม่ได้ด้วย...เดียวโจรขโมยเจ้าเล่ห์อ้างไปใช้ :b32:

ผมเจอยายคนหนึ่ง....พูดลักษณะเดียวกัน...

แกธัมมะธัมโม..นะ...อ่านหนังสือพระอาจารย์ที่แกชอบตลอด(ตอนยังอ่านได้) แต่ก็ไม่เคยไปปฏิบัติธรรมที่ไหน...แค่ทำบุญที่วัดข้าง ๆ บ้านแก..

บางทีแกก็ไปไม่ได้...ต้องดูแลสามี...หาข้าวให้กิน...ล้างจาน เป็นต้น

แต่แก...ก็ได้ยินพระเทศน์ดังมาจากวัดนะ...(ยินได้งัย...ไม่มีเครื่องขยายเสียง..ซะหน่อย..)..ถามแก..แกก็ยิ้ม ๆ... :b5:

แกว่า...จากที่ฟังอาจารย์ที่แกนับถือ...แกตั้งใจแล้วว่า..จะไม่เกิดอีก
ใครได้ยิน..(หรือแม้แต่พระ)..ก็ว่ามันยากนะ...ต้องทำนั้นทำนี้..เยอะ..

(เข้าใจนะ...ต้องทำสมาธิ..ต้องทำวิปัสสนาภาวนา..ต้องได้ฌานได้ญาณ..ฯลฯ )

แกก็ตอบคนเหล่านั้นไปว่า..แกไม่รู้..แกรู้แต่ว่า..ก็ไม่อยากเกิดอีก..แล้วมันจะเอาอะไรไปเกิด.. :b32:

เข้าใจอะไรมั้ย..เอ่ย... :b17:

(เรื่องแบบนี้...เผยแพร่ไม่ได้..ทำเป็นสาธารณะก็ไม่ได้...จะเสียระบบแบบแผนการศึกษา..ทำให้คนรุ่นหลังเสียประโยชน์เอาได้ง่าย ๆ )

ส่วนตัว..ผมก็ไม่คิดว่าแกจะไปได้เลยทันทีนะ...แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินที่แกจะเอื้อมไม่ถึง....คงเร็วกว่าคนบริจาคจนหมดตัวได้แน่ๆ.. :b13:

แนะๆมีแถมาหาเราอีก ของแบบนี้ใครๆก็รู้มันวัดกันไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องวัดกบ

nongkong

กบนอกกะลา เขียน:

eragon_joe เขียน:

แม่เอกอนเป็นคนที่ดูจะไม่ค่อยมีการศึกษามากนัก

และ...สอนยากด้วย :b32:

เพราะ...แม่ไม่ค่อยจะฟังใครง่าย ๆ

แต่ในเรื่องภูมิจิตของแม่เอกอน
บางครั้งแม่ก็พูดบางอย่างที่เอกอนก็ เป็นอึ้ง

ครั้งล่าสุด แม่พูดเล่น ๆ เปรย ๆ เกี่ยวกับเรื่องการต้องจากกันในชาตินี้

:b1:

... เอกอนฟังแล้วเห็นภาพ(ทัศนะ/รู้สึก)
แม่พูดราวกับว่า แม่เลือกได้อย่างงั๊นล่ะ
ว่าแม่จะจุติไปยังภพภูมิที่ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
:b1:

...

คือ...หนึ่งในคำเปรยของแม่
ประมาณว่า ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ในชาตินี้เป็นเพียงเรื่องราวที่ปรากฎขึ้นชั่วคราว
ซึ่งเมื่อถึงเวลา ความเป็นแม่-ลูก-สามี-ภรรยา ก็จบลง
ประหนึ่งว่า ในเรื่องของจิต ไม่ได้มี แม่-ลูก

:b30:

เรื่อง...บางอย่างก็ง่าย..ๆ..เสียจนเราก็คาดไม่ถึง..นะ

และก็เผยแพร่ไม่ได้ด้วย...เดียวโจรขโมยเจ้าเล่ห์อ้างไปใช้ :b32:

ผมเจอยายคนหนึ่ง....พูดลักษณะเดียวกัน...

แกธัมมะธัมโม..นะ...อ่านหนังสือพระอาจารย์ที่แกชอบตลอด(ตอนยังอ่านได้) แต่ก็ไม่เคยไปปฏิบัติธรรมที่ไหน...แค่ทำบุญที่วัดข้าง ๆ บ้านแก..

บางทีแกก็ไปไม่ได้...ต้องดูแลสามี...หาข้าวให้กิน...ล้างจาน เป็นต้น

แต่แก...ก็ได้ยินพระเทศน์ดังมาจากวัดนะ...(ยินได้งัย...ไม่มีเครื่องขยายเสียง..ซะหน่อย..)..ถามแก..แกก็ยิ้ม ๆ... :b5:

แกว่า...จากที่ฟังอาจารย์ที่แกนับถือ...แกตั้งใจแล้วว่า..จะไม่เกิดอีก
ใครได้ยิน..(หรือแม้แต่พระ)..ก็ว่ามันยากนะ...ต้องทำนั้นทำนี้..เยอะ..

(เข้าใจนะ...ต้องทำสมาธิ..ต้องทำวิปัสสนาภาวนา..ต้องได้ฌานได้ญาณ..ฯลฯ )

แกก็ตอบคนเหล่านั้นไปว่า..แกไม่รู้..แกรู้แต่ว่า..ก็ไม่อยากเกิดอีก..แล้วมันจะเอาอะไรไปเกิด.. :b32:

เข้าใจอะไรมั้ย..เอ่ย... :b17:

(เรื่องแบบนี้...เผยแพร่ไม่ได้..ทำเป็นสาธารณะก็ไม่ได้...จะเสียระบบแบบแผนการศึกษา..ทำให้คนรุ่นหลังเสียประโยชน์เอาได้ง่าย ๆ )

ส่วนตัว..ผมก็ไม่คิดว่าแกจะไปได้เลยทันทีนะ...แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินที่แกจะเอื้อมไม่ถึง....คงเร็วกว่าคนบริจาคจนหมดตัวได้แน่ๆ.. :b13:

ยกมือขอตอบค่าาา :b17:

ไอ้ตัวไม่อยากเกิดนั่นไง..อะไรนะ ลืมชื่อแงๆ ..
อ้อหาเจอแล้ว..วิภวตัณหา ความทะยานอยากในวิภพ, ความอยากในความพรากพ้นไปแห่งตัวตนจากความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งอันไม่ปรารถนา อยากทำลาย อยากดับสูญ, ความใคร่อยากที่ประกอบด้วยวิภวทิฏฐิหรืออุจเฉททิฏฐิ
(Google จงเจริญ :b32:

)

กบนอกกะลา

bigtoo เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:

ส่วนตัว..ผมก็ไม่คิดว่าแกจะไปได้เลยทันทีนะ...แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินที่แกจะเอื้อมไม่ถึง....คงเร็วกว่าคนบริจาคจนหมดตัวได้แน่ๆ.. :b13:

แนะๆมีแถมาหาเราอีก ของแบบนี้ใครๆก็รู้มันวัดกันไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องวัดกบ

อย่าง Bigtoo ยังไม่ถึงขั้น..ว่า..บริจาคหมดตัวครับ...

ยาง..ยัง...

กบนอกกะลา

nongkong เขียน:

....
(Google จงเจริญ :b32:

)

bigtoo

กบนอกกะลา เขียน:

bigtoo เขียน:

กบนอกกะลา เขียน:

ส่วนตัว..ผมก็ไม่คิดว่าแกจะไปได้เลยทันทีนะ...แต่ก็ไม่ได้ไกลเกินที่แกจะเอื้อมไม่ถึง....คงเร็วกว่าคนบริจาคจนหมดตัวได้แน่ๆ.. :b13:

แนะๆมีแถมาหาเราอีก ของแบบนี้ใครๆก็รู้มันวัดกันไม่ได้เพราะไม่มีเครื่องวัดกบ

อย่าง Bigtoo ยังไม่ถึงขั้น..ว่า..บริจาคหมดตัวครับ...

ยาง..ยัง...

eragon_joe

nongkong เขียน:

บางครั้งคุนน้องก็อยากให้เป็นแบบนั้นนะ...คงจะดีถ้าจิตเราไม่ต้องมีสายสัมพันธ์ข้ามภพชาติ..เราคงไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดแบบนี้..เกิดกี่ชาติปฏิบัติธรรมก็ไม่ใช่แค่เพิ่งมาชาตินี้..ต่อยอดมาตั้งไม่รู้กี่อสงไขย แต่ก็ไม่พ้นสักที..
คุนน้องไม่สามารถตอบตนเองได้เลย..ว่าเมื่อถึงเวลาที่จะเผชิญความตาย..อะไรจะแว็บเข้ามาในจิตเราตอนนั้น..บางครั้งมันก็ห้ามยากนะ ความรู้สึกผูกพันธ์..
แม้บอกตนเองทุกวันว่า..ต่อให้จากกันก็จะไม่มีวันเสียใจ..แต่พอถึงวันนั้นจริงๆ..คุนน้องก็ไม่รู้..จนกว่าคุนน้องจะได้สัมผัสของจริงตรงหน้า :b1:

พี่เอกอนจำได้ว่าเหมือนแม่น้องก้องเคยฝันว่า ต้องสูญเสียใครสักคนนี่ล่ะ
ในฝันแม่น้องก้องก็ร้องไห้ใหญ่เลย และพอตื่นมาก็รู้ตัวว่าได้กำลังร้องอยู่จริง ๆ

:b1: