วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 13:22  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2015, 21:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ดูเหมือนท่านอโศกะ กำลังจะปรับกระบวนเรือรบใหม่

asoka เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
s006 wink


"ในสัมมาสมาธิมีนิพพานอยู่ไหม"

ตอบ มี ...

:b36:
:b37:


:b1: :b1: :b1:

:b32:

มีอะไรที่จะอธิบายได้แจ่มกว่าที่อธิบายมามั๊ย เอกอนกำลังรอยู่... :b22:

:b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2015, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ในสมรธิทุกระดับจะมีการดับให้เห็น การเห็นการดับนั้นแหล่ะคือการเข้าถึงนิพพาน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2015, 21:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มีในพุทธพจน..มั้ย?

grin grin


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2015, 21:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
มีในพุทธพจน..มั้ย?

grin grin
แน่นอนซิครับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2015, 21:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: ...

เป็นในส่วนของ ชวนจิต วิถีจิต

และ อายตนะ 2

อายตนะ 2 ในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าเป็น อายตนะภายใน กับอายตนะภายนอกนะ

แต่เป็นลักษณะของ อายตนะหนึ่งที่ มีปรากฎเกิด-ดับ
กับ อีกอายตนะหนึ่งที่ ไม่ปรากฏ

:b1:

:b1: :b1: :b1:

Quote Tipitaka:
อุทาน ปาฏลิคามิยวรรคที่ ๘
๑. นิพพานสูตรที่ ๑

[๑๕๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของ
ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระผู้มีพระภาค
ทรงชี้แจงให้ภิกษุทั้งหลายเห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญ ให้ร่าเริง ด้วย
ธรรมมีกถาอันปฏิสังยุตต์ด้วยนิพพาน ก็ภิกษุเหล่านั้นกระทำให้มั่น มนสิการแล้ว
น้อมนึกธรรมีกถาด้วยจิตทั้งปวงแล้ว เงี่ยโสตลงฟังธรรม ลำดับนั้นแล พระผู้-
*มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย อายตนะนั้นมีอยู่ ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาสานัญจายตนะ
วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า
พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการ
จุติ เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้
นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ

จบสูตรที่ ๑


ซึ่งอถรรกถา จะมีขยายความเอาไว้

http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... b=25&i=158

เอามาแปะ อาจจะยาวสักนิด แต่ใครสนใจก็ลองอ่านดูเน๊อะ...

:b12:

Quote Tipitaka:
....

อีกอย่างหนึ่ง การไขความถึงพระนิพพานว่ามีอยู่โดยปรมัตถ์ จักมีแจ้งข้างหน้า.

พระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นทรงแสดงถึงอสังขตธาตุว่ามีอยู่โดยปรมัตถ์ โดยพร้อมมูลด้วยประการฉะนี้แล้ว บัดนี้ เพื่อจะทรงแสดงสภาวะที่พระนิพพานนั้นมีอยู่ โดยมุขคือความผ่องแผ้วแห่งธรรมที่ผิดตรงตรงข้ามจากอสังขตธาตุนั้น จึงตรัสว่า ยตฺถ เนว ปฐวี น อาโป ดังนี้เป็นต้น.

ในข้อนั้น เพราะเหตุที่พระนิพพาน มีสภาวะผิดตรงกันข้ามจากสังขารทั้งปวง ไม่มีในบรรดาสังขตธรรมไหนๆ ฉันใด แม้ในพระนิพพานนั้น ก็ไม่มีสังขตธรรมทั้งหมด ฉันนั้น เพราะสังขตธรรมและอสังขตธรรม รวมกันไม่ได้.

ในข้อนั้น มีการทำอธิบายอรรถดังต่อไปนี้
ปฐวีธาตุมีความแข้นแข็งเป็นลักษณะ อาโปธาตุมีการไหลไปเป็นลักษณะ เตโชธาตุมีความอบอุ่นเป็นลักษณะ วาโยธาตุมีการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ ไม่มีในพระนิพพานใด คืออสังขตธาตุใด ดังนั้น ในธาตุเหล่านั้น เมื่อว่าโดยความไม่มีแห่งมหาภูตรูป ๔ ก็เป็นอันกล่าวถึงความไม่มีแห่งอุปาทายรูปแม้ทั้งหมด เพราะอาศัยมหาภูตรูปนั้นฉันใด กามภพและรูปภพก็ฉันนั้น เป็นอันกล่าวว่าไม่มีในพระนิพพานนั้นโดยสิ้นเชิง เพราะมีความเป็นไปไม่เนื่องกับพระนิพพานนั้น เพราะปัญจโวการภพ หรือเอกโวการภพ เว้นจากการอาศัยมหาภูตรูปแล้วก็มีไม่ได้แล.

บัดนี้ เพื่อจะทรงแสดงธรรมที่นับเนื่องในอรูปภพ ไม่มีในพระนิพพานนั้น แม้ในเมื่อพระนิพพานมีสภาวะเป็นอรูป (เป็นนาม) จึงตรัสคำมีอาทิว่า น อากาสานญฺจายตนํ ฯเปฯ น เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า น อากาสานญฺจายตนํ ความว่า จิตตุปบาท กล่าวคืออากาสานัญจายตนะทั้ง ๓ อย่าง ต่างโดยกุศลจิต วิปากจิต และกิริยาจิต พร้อมทั้งอารมณ์ย่อมไม่มี. แม้ในบทที่เหลือ ก็นัยนี้เหมือนกัน.

ก็กามโลกไม่มีในพระนิพพานด้วยอารมณ์ใด แม้อิธโลก และปรโลก ก็ไม่มีในพระนิพพานนั้น ด้วยอารมณ์นั้น เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวว่า โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี ดังนี้เป็นต้น.
คำนั้นมีอธิบายดังต่อไปนี้ ขันธโลกนี้ใด อันได้โวหารว่า ความเป็นอย่างนี้ ปัจจุบันธรรม และว่าโลกนี้ และขันธโลกอันได้โวหารว่า โลกอื่นจากโลกนั้น ปรโลก และอภิสัมปรายภพใด ทั้งสองนั้น ไม่มีในที่ใด.

บทว่า น อุโภ จนฺทิมสุริยา ความว่า เพราะเหตุที่เมื่อรูปมี ชื่อว่าความมืดก็พึงมี และเพื่อกำจัดความมืด พระจันทร์และพระอาทิตย์ก็หมุนเวียนไป แต่รูปโดยประการทั้งปวง ไม่มีในที่ใด ความมืดในที่นั้นจักมีในที่ไหน. อีกอย่างหนึ่ง การกำจัดความมืดก็คือพระจันทร์และพระอาทิตย์ ฉะนั้น พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในพระนิพพานใด. ด้วยคำนี้ ทรงแสดงถึงพระนิพพานมีความสว่างไสว เป็นสภาวะนั่นแล.

ก็ด้วยอันดับคำเพียงเท่านี้ พระธรรมราชาเมื่อจะทรงประกาศอมตนิพพาน อันไม่เคยมีในสงสารซึ่งหาเบื้องต้นรู้ไม่ได้ แม้ที่สุดด้วยความฝันอันลึกโดยปรมัตถ์ เห็นได้ยากอย่างยิ่ง ละเอียดสุขุม นึกเอาเองไม่ได้ สงบที่สุด เป็นที่อำนวยผลเฉพาะตน ประณีตยิ่งนัก แก่ภิกษุทั้งหลายผู้ยังไม่ได้บรรลุ จึงให้ภิกษุเหล่านั้นขจัดความโง่เป็นต้นออกเสีย เพราะพระนิพพานนั้นมีอยู่ก่อนทีเดียว ดังบาลีว่า อตฺถิ ภิกฺขเว ตทายตนํ ดังนี้เป็นต้น จึงทรงประกาศพระนิพพานนั้น โดยมุขคือความไม่งมงายในธรรมอื่นจากพระนิพพานนั้นว่า ยตฺถ เนว ปฐวี ฯเปฯ น อุโภ จนฺทิมสุริยา ดังนี้เป็นต้น.

ด้วยคำนั้น เป็นอันแสดงว่า อสังขตธาตุ อันมีสภาวะผิดตรงกันข้ามจากสังขตธรรมทั้งปวงมีปฐวีเป็นต้นว่า พระนิพพาน. ด้วยเหตุนั้นนั่นแล พระองค์จึงตรัสว่า ตตฺรปาหํ ภิกฺขเว เนว อาคตึ วทามิ ดังนี้เป็นต้น.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตตฺร แปลว่า ในนิพพานนั้น. อปิ ศัพท์ใช้ในอรรถสมุจจัย.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราไม่กล่าวการมาของอะไรๆ จากที่ไหนๆ ที่เป็นไปตามสังขาร เพราะเหตุสักว่าธรรมเกิดในพระนิพพานนั้นตามปัจจัย

อนึ่ง เราไม่กล่าวอาคติ คือการมาแต่ที่ไหนๆ ในอายตนะคือพระนิพพานนั้นอย่างนี้ เพราะพระนิพพานไม่มีฐานะที่จะพึงมา.

บทว่า น คตึ ความว่า เราไม่กล่าวการไปในที่ไหนๆ เพราะฐานะที่พระนิพพานจะพึงถึงไม่มี เพราะการมาและการไปของสัตว์ทั้งหลาย เว้นการกระทำให้เป็นอารมณ์ด้วยญาณ ไม่มีในพระนิพพานนั้น.

อนึ่ง เราไม่กล่าวถึงฐิติ จุติ และอุปบัติ. บาลีว่า ตทปหํ ดังนี้ก็มี.
ความของพระบาลีนั้นมีดังนี้ อายตนะแม้นั้น ชื่อว่าไม่มีการมา เพราะเป็นฐานะที่ไม่ควรมา เหมือนจากละแวกบ้านมาสู่ละแวกบ้าน. ชื่อว่าไม่มีการไป เพราะไม่เป็นฐานะที่จะควรไป ชื่อว่าไม่มีฐิติ เพราะไม่มีฐานะที่จะตั้งอยู่ เหมือนแผ่นดินและภูเขาเป็นต้น.

อนึ่ง ชื่อว่าไม่มีการเกิด เพราะไม่มีปัจจัย. ชื่อว่าไม่มีจุติ เพราะไม่มีการตายเป็นสภาวะนั้น. เราไม่กล่าวฐิติ จุติ และอุปบัติ เพราะไม่มีการเกิดและการดับ และเพราะไม่มีการตั้งอยู่ที่กำหนดด้วยการเกิดและการดับทั้ง ๒ นั้น.

อนึ่ง พระนิพพานนั้นล้วนชื่อว่าไม่ตั้งอยู่ในที่ไหนๆ เพราะมีสภาวะเป็นอรูป และเพราะไม่มีปัจจัย เพราะเหตุนั้น จึงชื่อว่าไม่มีที่ตั้ง. ชื่อว่าไม่เป็นไป เพราะไม่มีความเป็นไปพร้อม และเพราะเป็นปฏิปักษ์ต่อความเป็นไปในพระนิพพานนั้น ชื่อว่าไม่มีอารมณ์ เพราะไม่มีอารมณ์อะไรๆ เป็นที่ยึดเหนี่ยว และเพราะไม่มุ่งถึงอารมณ์ที่อุปถัมภ์ เหมือนสัมปยุตธรรมมีเวทนาเป็นต้น แม้ที่มีสภาวะเป็นอรูป (เป็นนาม) ฉะนั้น พระนิพพานนั้น ท่านจึงกล่าวว่าอายตนะ.

ก็ เอว ศัพท์นี้ พึงประกอบด้วยบททั้งสองคือ อปฺปติฏฺฐเมว อปฺปวตฺตเมว.
บทว่า เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺส ความว่า พระนิพพานซึ่งมีลักษณะตามที่กล่าวแล้ว ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสรรเสริญชมเชย ด้วยคำมีอาทิว่า อปฺปติฏฺฐํ ดังนี้นั่นแหละ ชื่อว่าเป็นที่สุด คือเป็นที่สิ้นสุดแห่งวัฏทุกข์ทั้งสิ้น เพราะเมื่อมีการบรรลุพระนิพพาน ทุกข์ทั้งหมดก็ไม่มี เพราะเหตุฉะนั้น จึงทรงแสดงว่า พระนิพพานนั้นมีสภาวะเป็นดังนี้ว่า เป็นที่สุดแห่งทุกข์นั่นแล.

จบอรรถกถาปฐมนิพพานสูตรที่ ๑


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 07 ส.ค. 2015, 22:13, แก้ไขแล้ว 5 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ส.ค. 2015, 21:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบไล่ดูเอานะ ตั้งแต่ปฐมฌานอะไรดับ ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับ จะมีการดับ(นิโรธ)ผู้ที่มีความรู้อริยสัจเท่านั้นถึงจะไถ่ถอนความเห็นผิดจากพลังของสมาธิแต่ล่ะลำดับขั้น อย่างที่เคยยกตัวอย่างพระสูตรมาให้ดูว่าสมาธิระดับใดดับกิเลสได้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2015, 05:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กบไล่ดูเอานะ ตั้งแต่ปฐมฌานอะไรดับ ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับ จะมีการดับ(นิโรธ)ผู้ที่มีความรู้อริยสัจเท่านั้นถึงจะไถ่ถอนความเห็นผิดจากพลังของสมาธิแต่ล่ะลำดับขั้น อย่างที่เคยยกตัวอย่างพระสูตรมาให้ดูว่าสมาธิระดับใดดับกิเลสได้


ลำดับญาณ...แต่ละลำดับ..ล้วนมีสมาธิเป็นฐาน..ครับ

ไม่ใช่สมาธิฌาณ 1 2 3 4..อะไรดับ...ดับนั้น..ดับนี้... เป็นนิโรธ

อยากดูพระสูตรที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง..นั้นจังคับ

ยกมาอีกทีนะครับ...

ขอบคุณล่วงหน้า...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2015, 07:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบไล่ดูเอานะ ตั้งแต่ปฐมฌานอะไรดับ ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับ จะมีการดับ(นิโรธ)ผู้ที่มีความรู้อริยสัจเท่านั้นถึงจะไถ่ถอนความเห็นผิดจากพลังของสมาธิแต่ล่ะลำดับขั้น อย่างที่เคยยกตัวอย่างพระสูตรมาให้ดูว่าสมาธิระดับใดดับกิเลสได้


ลำดับญาณ...แต่ละลำดับ..ล้วนมีสมาธิเป็นฐาน..ครับ

ไม่ใช่สมาธิฌาณ 1 2 3 4..อะไรดับ...ดับนั้น..ดับนี้... เป็นนิโรธ

อยากดูพระสูตรที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง..นั้นจังคับ

ยกมาอีกทีนะครับ...

ขอบคุณล่วงหน้า...
กบรู้ป่าวว่าเป็นฐานยังไง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2015, 10:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ใช่ เพราะสัมมาสมาธินั้นรู้เห็นตามความเป็นจริง ตั้งมั่นตามความเป็นจริง ไม่ประกอบด้วยความยึดถือ แต่ประกอบด้วยความรู้ทัน เป็นสมาธิชั่วขณะปัจจุบัน จึงหลุดพ้นเป็นนิพพาน ..จะคิดดับๆ

จากสายสืบสั่งสอนนิสัยศาสตร์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ส.ค. 2015, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




เคล็ดลับวิปัสสนา_resize_resize.jpg
เคล็ดลับวิปัสสนา_resize_resize.jpg [ 45.38 KiB | เปิดดู 1982 ครั้ง ]
eragon_joe เขียน:
ดูเหมือนท่านอโศกะ กำลังจะปรับกระบวนเรือรบใหม่

asoka เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
s006 wink


"ในสัมมาสมาธิมีนิพพานอยู่ไหม"

ตอบ มี ...

:b36:
:b37:


:b1: :b1: :b1:

:b32:

มีอะไรที่จะอธิบายได้แจ่มกว่าที่อธิบายมามั๊ย เอกอนกำลังรอยู่... :b22:

:b13: :b13: :b13:

:b8:
ที่เอก้อนยกมาจากคัมภีร์นั้นก็ดีและพอรู้เรื่องแล้วนี่ครับ
อนุโมทนา

:b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2015, 04:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบไล่ดูเอานะ ตั้งแต่ปฐมฌานอะไรดับ ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับ จะมีการดับ(นิโรธ)ผู้ที่มีความรู้อริยสัจเท่านั้นถึงจะไถ่ถอนความเห็นผิดจากพลังของสมาธิแต่ล่ะลำดับขั้น อย่างที่เคยยกตัวอย่างพระสูตรมาให้ดูว่าสมาธิระดับใดดับกิเลสได้


ลำดับญาณ...แต่ละลำดับ..ล้วนมีสมาธิเป็นฐาน..ครับ

ไม่ใช่สมาธิฌาณ 1 2 3 4..อะไรดับ...ดับนั้น..ดับนี้... เป็นนิโรธ

อยากดูพระสูตรที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง..นั้นจังคับ

ยกมาอีกทีนะครับ...

ขอบคุณล่วงหน้า...


กบรู้ป่าวว่าเป็นฐานยังไง


เอาน่า...คำของผมหรือคำของ Bigtoo อย่าเอามาเลย....อยากฟังคำตถาคตที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง...ว่า...ปฐมฌานอะไรดับ....ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับจะมีการดับ (นิโรธ) นะ

ให้สมกับที่ Bigtoo มักกล่าวว่า..ควรกล่าวแต่คำตถาคต..นะ Bigtoo คงไม่ได้กล่าวลอย ๆ อีกนะครับ

รอชมคำตถาคต..อยู่ครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2015, 08:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
กบไล่ดูเอานะ ตั้งแต่ปฐมฌานอะไรดับ ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับ จะมีการดับ(นิโรธ)ผู้ที่มีความรู้อริยสัจเท่านั้นถึงจะไถ่ถอนความเห็นผิดจากพลังของสมาธิแต่ล่ะลำดับขั้น อย่างที่เคยยกตัวอย่างพระสูตรมาให้ดูว่าสมาธิระดับใดดับกิเลสได้


ลำดับญาณ...แต่ละลำดับ..ล้วนมีสมาธิเป็นฐาน..ครับ

ไม่ใช่สมาธิฌาณ 1 2 3 4..อะไรดับ...ดับนั้น..ดับนี้... เป็นนิโรธ

อยากดูพระสูตรที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง..นั้นจังคับ

ยกมาอีกทีนะครับ...

ขอบคุณล่วงหน้า...


กบรู้ป่าวว่าเป็นฐานยังไง


เอาน่า...คำของผมหรือคำของ Bigtoo อย่าเอามาเลย....อยากฟังคำตถาคตที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง...ว่า...ปฐมฌานอะไรดับ....ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับจะมีการดับ (นิโรธ) นะ

ให้สมกับที่ Bigtoo มักกล่าวว่า..ควรกล่าวแต่คำตถาคต..นะ Bigtoo คงไม่ได้กล่าวลอย ๆ อีกนะครับ

รอชมคำตถาคต..อยู่ครับ
:b8:
ปฐมฌานอกุศลดับ. ทุติยฌานอะไรดับ ตติยฌานอะไรดับ จตุถฌานอะไรดับ. ผู้ที่มีปัญญารู้ในอริยสัจย่อมเห็นนิโรธสัจจะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2015, 10:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


นี้คือคำตถาคต...หรือครับ???
:b10: :b10: :b10:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2015, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
นี้คือคำตถาคต...หรือครับ???
:b10: :b10: :b10:

อ้าว. พระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้นี่ครับ ว่าอะไรดับแต่ล่ะระดับของฌาน. คนที่เขาเข้าฌานได้เขาถึงรู้ลักษณะชัดว่าการดับแต่ล่ะอย่างมีผลอย่างไรกับจิตถ้าท่านไม่เคยสัมผัสมันท่านก็รู้เพียงติดตำราและการนึกคิดว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ความสิ้นไปของสังขารจะค่อยๆดับไปสิ้นไปตามลำดับของฌานปัญญาที่เคยเรียนรู้สามัญลักษณะก็จะทำงาน องค์โพชฌงค์ก็จะสมังคีเกิดเป็นอริยมรรคตามฐานะตามอินทรีย์ของแต่ล่ะคนเป็นโสดาบันจนถึงอรหันต

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ส.ค. 2015, 19:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนแรก Bigtoo ว่าอย่างนี้..

bigtoo เขียน:
ในสมรธิทุกระดับจะมีการดับให้เห็น การเห็นการดับนั้นแหล่ะคือการเข้าถึงนิพพาน


กระผมก็ถาม..
กบนอกกะลา เขียน:
มีในพุทธพจน..มั้ย?

grin grin


Bigtoo ก็ว่า..
bigtoo เขียน:

แน่นอนซิครับ

พร้อมสัมทับว่า..เคยยกตัวอย่างมาแล้ว..ซะด้วย

bigtoo เขียน:
กบไล่ดูเอานะ ตั้งแต่ปฐมฌานอะไรดับ ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับ จะมีการดับ(นิโรธ)ผู้ที่มีความรู้อริยสัจเท่านั้นถึงจะไถ่ถอนความเห็นผิดจากพลังของสมาธิแต่ล่ะลำดับขั้น อย่างที่เคยยกตัวอย่างพระสูตรมาให้ดูว่าสมาธิระดับใดดับกิเลสได้


กระผมก็อยากดู...เลยขอร้อง
กบนอกกะลา เขียน:
อยากดูพระสูตรที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง..นั้นจังคับ

ยกมาอีกทีนะครับ...

ขอบคุณล่วงหน้า...


เริ่มเฉ...ออกนอกทาง
bigtoo เขียน:
กบรู้ป่าวว่าเป็นฐานยังไง


เริ่มเอ๊ะใจ...กระผมเลยต้องถามเน้น...

กบนอกกะลา เขียน:

เอาน่า...คำของผมหรือคำของ Bigtoo อย่าเอามาเลย....อยากฟังคำตถาคตที่ Bigtoo เคยยกตัวอย่าง...ว่า...ปฐมฌานอะไรดับ....ไล่ไปจนถึงสมาธิทุกระดับจะมีการดับ (นิโรธ) นะ

ให้สมกับที่ Bigtoo มักกล่าวว่า..ควรกล่าวแต่คำตถาคต..นะ Bigtoo คงไม่ได้กล่าวลอย ๆ อีกนะครับ

รอชมคำตถาคต..อยู่ครับ
:b8:


แล้ว Bigtoo ก็ตอบ..มาว่า
bigtoo เขียน:
ปฐมฌานอกุศลดับ. ทุติยฌานอะไรดับ ตติยฌานอะไรดับ จตุถฌานอะไรดับ. ผู้ที่มีปัญญารู้ในอริยสัจย่อมเห็นนิโรธสัจจะ


ตะลึง....ตะลึง....ตะลึง... :b10: :b10: :b10:
กบนอกกะลา เขียน:
นี้คือคำตถาคต...หรือครับ???
:b10: :b10: :b10:


แล้วดู Bigtoo พูดเข้าซิ...
bigtoo เขียน:

อ้าว. พระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้นี่ครับ ว่าอะไรดับแต่ล่ะระดับของฌาน. คนที่เขาเข้าฌานได้เขาถึงรู้ลักษณะชัดว่าการดับแต่ล่ะอย่างมีผลอย่างไรกับจิตถ้าท่านไม่เคยสัมผัสมันท่านก็รู้เพียงติดตำราและการนึกคิดว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ความสิ้นไปของสังขารจะค่อยๆดับไปสิ้นไปตามลำดับของฌานปัญญาที่เคยเรียนรู้สามัญลักษณะก็จะทำงาน องค์โพชฌงค์ก็จะสมังคีเกิดเป็นอริยมรรคตามฐานะตามอินทรีย์ของแต่ล่ะคนเป็นโสดาบันจนถึงอรหันต


ผมชักจะสงสัย..แล้วละคับ..ว่า Bigtoo ที่มักกล่าวว่า....ควรพูดแต่คำตถาคต...สวดแต่คำตถาคต

แต่พอขอให้ยกมาหน่อย..ก็มักจะเป็นอย่างนี้ทุกที...
บางทีก็ไปก๊อปที่ไหนมาไม่รู้..ไม่อ้างอิงที่ก๊อปมาอีก... :b9:

แปลกมาก...ทั้งที่เคยยกมาให้ดู..แต่ทีนี้กลับยกมาให้ดูอีกทีไม่ได้..

ชักจะเป็น..ศิษย์พุทธพจน์..ปลอม ๆ ..ซะละมั้ง??

:b32: :b32: :b32:

ไม่เป็นไรคับ Bigtoo....


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร