วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 06:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 10:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องขอโทษด้วยนะครับ บางทีผมก็ว่าผมตั้งคำถามอะไรแปลกๆ โง่ๆ ออกไปครับ s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 12:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


จิต มีการปรุงอารมณ์ สมาธิ

:b1: :b1: :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 12:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ต้องขอโทษด้วยนะครับ บางทีผมก็ว่าผมตั้งคำถามอะไรแปลกๆ โง่ๆ ออกไปครับ s002


คุณก็เป็นคนน่ารักดีนะ เอกอนรู้สึกว่างั๊นน่ะ

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ต้องขอโทษด้วยนะครับ บางทีผมก็ว่าผมตั้งคำถามอะไรแปลกๆ โง่ๆ ออกไปครับ s002

ไม่ใช่คำถามแปลกเลยเป็นคำถามที่ดี เพราะจิตที่เป็นสมาธิบริบูรณ์นั้นอุเบกขาเต็มกำลัง นิพพานจะปรากฎ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 14:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว
เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ
:b16: :b39:

ผู้ที่พบพระนิพพานเท่านั้นถึงจะเกิดสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงที่เกิดผล

:b32:
โสดาปัตติมรรคขึ้นไปก็เข้าสัมมาทิฏิฐิแล้วจ้า


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 06 ส.ค. 2015, 14:58, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว
เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ
:b16: :b39:

ผู้ที่พบพระนิพพานเท่านั้นถึงจะเกิดสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงที่เกิดผล

:b32:
สัมมาทิฏฐิเป็นสภาวะธรรมที่เกิดจากการเข้าใจคำสอนด้วยความไม่มีตัวตนก่อนนะ
ผู้ปฏิบัติตั้งแต่โสดาปัตติมรรคที่มีความเห็นเกี่ยวกับสภาวะจิตขั้นมีจิตแยกจากกาย
ที่่เห็นผลของสภาวะที่กายหายไปหมดเหลือแต่จิต เจตสิก รูป ตอนนั่งสมาธิหลับตา
หลวงพ่อพุธ ฐานิโยเรียกสภาวะที่กายหายไปเหลือแต่จิตว่า นามเกิด-รูปดับๆๆๆๆๆ
เข้าใจได้ไหม โสดาปััตติมรรคยังไม่ถึงนิพพานเลยทู่ ทำความสงบได้ถึงก็บอกด้วย
:b32: :b32:
:b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว



:b16: :b39:[/quote]
ผู้ที่พบพระนิพพานเท่านั้นถึงจะเกิดสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงที่เกิดผล[/quote]
:b32:
โสดาปัตติมรรคขึ้นไปก็เข้าสัมมาทิฏิฐิแล้วจ้า[/quote]แค่เบื้องต้นเท่านั้น ยังต้องกำจัดความหลงผิดอีกเยอะ ยังมีเรื่องรูปๆคลำๆเช่นคิดว่าท่องคาถาอะไรแล้วได้อะไร ยังตามหาอรหันต์ทั้งๆที่ตนเองก็ไม่สามารถจะรู้ได้ สัลัพพตปรามาสยังข้ามไม่ได้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 15:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:
อานาปานสตินั่นแหล่ะครบทุกองค์วาจาสุจริต กายสุจริต มโนสุจริต วจีสังขารดับ กายสังขารดับ มโนสังขารดับ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 16:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


huh
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:
อานาปานสตินั่นแหล่ะครบทุกองค์วาจาสุจริต กายสุจริต มโนสุจริต วจีสังขารดับ กายสังขารดับ มโนสังขารดับ

อานาปานสติน่ะ มันใช้ไม่ได้หรอก ตอนที่ลมหายใจ+คำบริกรรม+กาย หายไปหมดแล้วนะ
เพราะตอนที่รู้อารมณ์ที่ไม่มีกาย สภาวธรรมที่เกิดเปรียบหมือนลอยคออยู่กลางมหาสมุทร
ขณะนั้นไม่รู้อารมณ์ของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญานขันธ์ ดับหมด
(ดับหมด หมายถึงไม่เหลือความจำแบบเดิมๆที่เกิดจากการรับรู้ทางอายตนะหก เหลือจิตผู้รู้เท่านั้น)
เหลือแต่จิตที่เป็นกุศลเป็นในมรรคทั้ง8เกิดทั้งปัญญา ทั้งสติสัมปชัญญะ ไม่เหมือนจิตตอนที่มีกาย
:b16: :b20:
:b43:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 16:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
huh
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:
อานาปานสตินั่นแหล่ะครบทุกองค์วาจาสุจริต กายสุจริต มโนสุจริต วจีสังขารดับ กายสังขารดับ มโนสังขารดับ

อานาปานสติน่ะ มันใช้ไม่ได้หรอก ตอนที่ลมหายใจ+คำบริกรรม+กาย หายไปหมดแล้วนะ
เพราะตอนที่รู้อารมณ์ที่ไม่มีกาย สภาวธรรมที่เกิดเปรียบหมือนลอยคออยู่กลางมหาสมุทร
ขณะนั้นไม่รู้อารมณ์ของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญานขันธ์ ดับหมด
(ดับหมด หมายถึงไม่เหลือความจำแบบเดิมๆที่เกิดจากการรับรู้ทางอายตนะหก เหลือจิตผู้รู้เท่านั้น)
เหลือแต่จิตที่เป็นกุศลเป็นในมรรคทั้ง8เกิดทั้งปัญญา ทั้งสติสัมปชัญญะ ไม่เหมือนจิตตอนที่มีกาย
:b16: :b20:
:b43:
ท่านกล่าวมาเกินไปหน่อย วิญญานขันถ์ดับไ่ม่ได้ เพราะวิญญานขันภ์จะเป็นตัวเดียวที่เหลืออยู่เพราะยังไม่ตาย เป็รตัวรับรู้สภาวะว่างเปล่าหรือนิพพาน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 17:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
huh
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:
อานาปานสตินั่นแหล่ะครบทุกองค์วาจาสุจริต กายสุจริต มโนสุจริต วจีสังขารดับ กายสังขารดับ มโนสังขารดับ

อานาปานสติน่ะ มันใช้ไม่ได้หรอก ตอนที่ลมหายใจ+คำบริกรรม+กาย หายไปหมดแล้วนะ
เพราะตอนที่รู้อารมณ์ที่ไม่มีกาย สภาวธรรมที่เกิดเปรียบหมือนลอยคออยู่กลางมหาสมุทร
ขณะนั้นไม่รู้อารมณ์ของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญานขันธ์ ดับหมด
(ดับหมด หมายถึงไม่เหลือความจำแบบเดิมๆที่เกิดจากการรับรู้ทางอายตนะหก เหลือจิตผู้รู้เท่านั้น)
เหลือแต่จิตที่เป็นกุศลเป็นในมรรคทั้ง8เกิดทั้งปัญญา ทั้งสติสัมปชัญญะ ไม่เหมือนจิตตอนที่มีกาย
:b16: :b20:
:b43:
ท่านกล่าวมาเกินไปหน่อย วิญญานขันถ์ดับไ่ม่ได้ เพราะวิญญานขันภ์จะเป็นตัวเดียวที่เหลืออยู่เพราะยังไม่ตาย เป็นตัวรับรู้สภาวะว่างเปล่าหรือนิพพาน

เป็นความจริงความดับไม่เหลือของวิญญานที่ไปรับทราบตามความเห็นผิดไม่มีอีกต่อไป
มีแต่ความเห็นถูกความเข้าใจถูกของสิ่งที่มีจริงๆแม้จะถอนจิตออกจากสมาธิมาอยู่กับโลก
ก็เป็นการอยู่เพื่อละความเข้าใจผิดเพราะเข้าใจถูกทั้งวิญญานขันธ์กับวิญญานที่เป็นจิตล้วนๆ
เป็นการค่อยๆละความเห็นผิด ค่อยๆเพิ่มความเห็นถูกความเข้าใจถูก สะสมปัญญาจนเป็นกำลัง
ฟาดฟันตอนที่กิเลสกับอวิชชาต่อสู้กันเพื่อแย่งเก้าอี้ดนตรีในหัวใจนั่ง กิเลสมันไม่ลุกหนีง่ายๆน๊า
:b20:
ปัญญาที่จะฆ่ากิเลส ทรงแสดงว่า
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาจึงประเสริฐ
รูปอุปมาด้วยฟองน้ำ
เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ำ
สัญญาอุปมาด้วยพะยัพแดด
สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย
วิญญาณอุปมาด้วยมายากล
เบญจขันธ์ ย่อมปรากฎ เป็นของว่าง เป็นของเปล่า
:b8:
อธิบายขยายความเพื่อให้เข้าใจตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจคือ
รูปอุปมาด้วยฟองน้ำ(ข้างในมันกลวงมีอากาศธาตุแทรกขั้นจำนวนมาก)
เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ำ(เป็นคลื่นกระจายออกแล้วก็จางหายไป)
สัญญาอุปมาด้วยพะยับแดด(เห็นในสิ่งที่ลวงให้จำว่ามี แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง)
สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย(ลอกออกมีแต่เปลือก จะเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้)
วิญญาณอุปมาด้วยมายากล(ดับตรงนี้ที่สงสัยนะคือดับวิญญาณขันธ์ที่ไปรับทราบความมีตัวตนไง)
ก็มายากลน่ะเขาเล่นกลให้ดูว่าทำของหายไปแล้วโผล่มาตรงนั้นตรงนี้คือหลอก
ความหมายของการดับหมดคือวิญญาณขันธ์นั้นเปรียบเป็นการดับความไม่รู้ จิตที่หลงกิเลสหายไปนะ
เบญจขันธ์ ย่อมปรากฎ เป็นของว่าง เป็นของเปล่า
อริยบุคคลรู้ความจริงไม่หลงว่ามีตัวตนตามกำลังของปัญญา
:b16:
:b44: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
huh
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:
อานาปานสตินั่นแหล่ะครบทุกองค์วาจาสุจริต กายสุจริต มโนสุจริต วจีสังขารดับ กายสังขารดับ มโนสังขารดับ

อานาปานสติน่ะ มันใช้ไม่ได้หรอก ตอนที่ลมหายใจ+คำบริกรรม+กาย หายไปหมดแล้วนะ
เพราะตอนที่รู้อารมณ์ที่ไม่มีกาย สภาวธรรมที่เกิดเปรียบหมือนลอยคออยู่กลางมหาสมุทร
ขณะนั้นไม่รู้อารมณ์ของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญานขันธ์ ดับหมด
(ดับหมด หมายถึงไม่เหลือความจำแบบเดิมๆที่เกิดจากการรับรู้ทางอายตนะหก เหลือจิตผู้รู้เท่านั้น)
เหลือแต่จิตที่เป็นกุศลเป็นในมรรคทั้ง8เกิดทั้งปัญญา ทั้งสติสัมปชัญญะ ไม่เหมือนจิตตอนที่มีกาย
:b16: :b20:
:b43:
ท่านกล่าวมาเกินไปหน่อย วิญญานขันถ์ดับไ่ม่ได้ เพราะวิญญานขันภ์จะเป็นตัวเดียวที่เหลืออยู่เพราะยังไม่ตาย เป็นตัวรับรู้สภาวะว่างเปล่าหรือนิพพาน

เป็นความจริงความดับไม่เหลือของวิญญานที่ไปรับทราบตามความเห็นผิดไม่มีอีกต่อไป
มีแต่ความเห็นถูกความเข้าใจถูกของสิ่งที่มีจริงๆแม้จะถอนจิตออกจากสมาธิมาอยู่กับโลก
ก็เป็นการอยู่เพื่อละความเข้าใจผิดเพราะเข้าใจถูกทั้งวิญญานขันธ์กับวิญญานที่เป็นจิตล้วนๆ
เป็นการค่อยๆละความเห็นผิด ค่อยๆเพิ่มความเห็นถูกความเข้าใจถูก สะสมปัญญาจนเป็นกำลัง
ฟาดฟันตอนที่กิเลสกับอวิชชาต่อสู้กันเพื่อแย่งเก้าอี้ดนตรีในหัวใจนั่ง กิเลสมันไม่ลุกหนีง่ายๆน๊า
:b20:
ปัญญาที่จะฆ่ากิเลส ทรงแสดงว่า
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาจึงประเสริฐ
รูปอุปมาด้วยฟองน้ำ
เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ำ
สัญญาอุปมาด้วยพะยัพแดด
สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย
วิญญาณอุปมาด้วยมายากล
เบญจขันธ์ ย่อมปรากฎ เป็นของว่าง เป็นของเปล่า
:b8:
อธิบายขยายความเพื่อให้เข้าใจตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจคือ
รูปอุปมาด้วยฟองน้ำ(ข้างในมันกลวงมีอากาศธาตุแทรกขั้นจำนวนมาก)
เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ำ(เป็นคลื่นกระจายออกแล้วก็จางหายไป)
สัญญาอุปมาด้วยพะยับแดด(เห็นในสิ่งที่ลวงให้จำว่ามี แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง)
สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย(ลอกออกมีแต่เปลือก จะเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้)
วิญญาณอุปมาด้วยมายากล(ดับตรงนี้ที่สงสัยนะคือดับวิญญาณขันธ์ที่ไปรับทราบความมีตัวตนไง)
ก็มายากลน่ะเขาเล่นกลให้ดูว่าทำของหายไปแล้วโผล่มาตรงนั้นตรงนี้คือหลอก
ความหมายของการดับหมดคือวิญญาณขันธ์นั้นเปรียบเป็นการดับความไม่รู้ จิตที่หลงกิเลสหายไปนะ
เบญจขันธ์ ย่อมปรากฎ เป็นของว่าง เป็นของเปล่า อริยบุคคลรู้ความจริงไม่หลงว่ามีตัวตนแต่ฉลาดรู้
:b16:
:b44: :b44:
วิญญานขันธ์กับวิญญานจิตล้วนๆงง จิตผู้รู้นะวิญญานขันธ์ครับ พระองค์แสดงขันธ์5วิญญานขันธ์ เวทนาขันธ์ สังขารขันธ์สัญญาขันต์. รูปขันธ์.วิญญานล้วนๆไม่มี

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 18:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
s006 wink


"ในสัมมาสมาธิมีนิพพานอยู่ไหม"

ตอบ มี แต่ต้องเดินตามสัมมาสมาธิให้ถึงที่สุดจึงจะได้ถึง นิพพาน ที่แท้จริงด้วยใจ ไม่ใช่นิพพานคิดเอา

สัมมาสมาธิที่พระบรมศาสดาเฉลยไว้นั้นคือ ฌาณ 4

แต่ในทางญาณวิปัสสนาภาวนาแล้ว สัมมาสมาธิจะเต็มองค์เมื่อเข้าถึง สังขารุเปกขาญาณ

ณ จุดสังขารุเปกขาญาณนั้นถ้าผู้ปฏิบัติไม่ละความเพียร ต่อจากนั้นไปอีกไม่กี่อึดใจ ถ้ามรรคได้สัดได้ส่วนดีเกิดสมังคีขึ้นมาจักเป็นเหตุให้เกิด อนุโลมญาณ โคตรภูญาณ มรรคโสดาปัตติมรรคญาณ นิพพาน ตามมาเป็นลำดับ และข้อสังเกต ปัจเวกขณะญาณต้องเกิดขึ้นกับผู้ได้ถึงโสดาบันทุกคนเสมอไม่มีข้อยกเว้น แต่ผู้ถึงนั้นจะมีสติปัญญาสังเกตจดจำมาเล่าสภาวะให้ฟังได้หยาบละเอียดมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น ตามกำลังสติปัญญาบารมีของแต่ละคน
:b36:
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 21:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
huh
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
ข้าพเจ้าก็ว่าพระพุทธเจ้าสอนการบรรลุธรรมแต่ละขั้นด้วยทางเดินของจิตในอริยสัจจ์สี่กะอริยมรรคแปดนี่
ขณะที่กำลังบรรลุธรรมแต่ละลำดับขั้น ก็ต้องครบองค์อริยมรรคและอริยผลด้วยใช่รึไม่ใช่หรือข้าพเจ้าผิด
:b42: :b42:
:b39:
อานาปานสตินั่นแหล่ะครบทุกองค์วาจาสุจริต กายสุจริต มโนสุจริต วจีสังขารดับ กายสังขารดับ มโนสังขารดับ

อานาปานสติน่ะ มันใช้ไม่ได้หรอก ตอนที่ลมหายใจ+คำบริกรรม+กาย หายไปหมดแล้วนะ
เพราะตอนที่รู้อารมณ์ที่ไม่มีกาย สภาวธรรมที่เกิดเปรียบหมือนลอยคออยู่กลางมหาสมุทร
ขณะนั้นไม่รู้อารมณ์ของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญานขันธ์ ดับหมด
(ดับหมด หมายถึงไม่เหลือความจำแบบเดิมๆที่เกิดจากการรับรู้ทางอายตนะหก เหลือจิตผู้รู้เท่านั้น)
เหลือแต่จิตที่เป็นกุศลเป็นในมรรคทั้ง8เกิดทั้งปัญญา ทั้งสติสัมปชัญญะ ไม่เหมือนจิตตอนที่มีกาย
:b16: :b20:
:b43:
ท่านกล่าวมาเกินไปหน่อย วิญญานขันถ์ดับไ่ม่ได้ เพราะวิญญานขันภ์จะเป็นตัวเดียวที่เหลืออยู่เพราะยังไม่ตาย เป็นตัวรับรู้สภาวะว่างเปล่าหรือนิพพาน

เป็นความจริงความดับไม่เหลือของวิญญานที่ไปรับทราบตามความเห็นผิดไม่มีอีกต่อไป
มีแต่ความเห็นถูกความเข้าใจถูกของสิ่งที่มีจริงๆแม้จะถอนจิตออกจากสมาธิมาอยู่กับโลก
ก็เป็นการอยู่เพื่อละความเข้าใจผิดเพราะเข้าใจถูกทั้งวิญญานขันธ์กับวิญญานที่เป็นจิตล้วนๆ
เป็นการค่อยๆละความเห็นผิด ค่อยๆเพิ่มความเห็นถูกความเข้าใจถูก สะสมปัญญาจนเป็นกำลัง
ฟาดฟันตอนที่กิเลสกับอวิชชาต่อสู้กันเพื่อแย่งเก้าอี้ดนตรีในหัวใจนั่ง กิเลสมันไม่ลุกหนีง่ายๆน๊า
:b20:
ปัญญาที่จะฆ่ากิเลส ทรงแสดงว่า
มีชีวิตอยู่ด้วยปัญญาจึงประเสริฐ
รูปอุปมาด้วยฟองน้ำ
เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ำ
สัญญาอุปมาด้วยพะยัพแดด
สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย
วิญญาณอุปมาด้วยมายากล
เบญจขันธ์ ย่อมปรากฎ เป็นของว่าง เป็นของเปล่า
:b8:
อธิบายขยายความเพื่อให้เข้าใจตามที่ข้าพเจ้าเข้าใจคือ
รูปอุปมาด้วยฟองน้ำ(ข้างในมันกลวงมีอากาศธาตุแทรกขั้นจำนวนมาก)
เวทนาอุปมาด้วยต่อมน้ำ(เป็นคลื่นกระจายออกแล้วก็จางหายไป)
สัญญาอุปมาด้วยพะยับแดด(เห็นในสิ่งที่ลวงให้จำว่ามี แต่เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง)
สังขารอุปมาด้วยต้นกล้วย(ลอกออกมีแต่เปลือก จะเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์ไม่ได้)
วิญญาณอุปมาด้วยมายากล(ดับตรงนี้ที่สงสัยนะคือดับวิญญาณขันธ์ที่ไปรับทราบความมีตัวตนไง)
ก็มายากลน่ะเขาเล่นกลให้ดูว่าทำของหายไปแล้วโผล่มาตรงนั้นตรงนี้คือหลอก
ความหมายของการดับหมดคือวิญญาณขันธ์นั้นเปรียบเป็นการดับความไม่รู้ จิตที่หลงกิเลสหายไปนะ
เบญจขันธ์ ย่อมปรากฎ เป็นของว่าง เป็นของเปล่า อริยบุคคลรู้ความจริงไม่หลงว่ามีตัวตนแต่ฉลาดรู้
:b16:
:b44: :b44:
วิญญานขันธ์กับวิญญานจิตล้วนๆงง จิตผู้รู้นะวิญญานขันธ์ครับ พระองค์แสดงขันธ์5วิญญานขันธ์ เวทนาขันธ์ สังขารขันธ์สัญญาขันต์. รูปขันธ์.วิญญานล้วนๆไม่มี

:b32:
เขียนละเอียดขนาดนี้แล้วอ่ะนะ ยังมิมีทีท่าว่าจะเข้าใจได้เลยเหรอตกลงทำสมาธิถึงกายหายยัง
Read again please เผื่อจะเข้าใจเพราะภาษาอื่น ข่อยเมือยใจนำเด้=ข้าพเจ้าเหนื่อยใจด้วยจัง
วิญญานขันธ์เป็นจิตหยาบที่ยึดติดในกายเป็นกิเลสอกุศลเพราะยังโง่อยู่ยังยึดติดตัวตนเต็มๆ
ที่ว่ามีกาย+จิตรวมกันมันไม่ใช่ เหมือนแยกอะไหล่รถออกเป็นชิ้นส่วนน๊อตน้ำมันคนขับไม่ใช่รถ
จิตล้วนๆเป็นจิตละเอียดที่เป็นกุศลเกิดพร้อมเจตสิกดีงามขั้นรู้ความจริงฉลาดรู้ว่าไม่มีตัวตน
:b48: :b48: :b48:
ภาษาดอกไม้แล้วนะเนี่ย


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 06 ส.ค. 2015, 22:01, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร