วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 01:42  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 16:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 6
สมาชิก ระดับ 6
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ธ.ค. 2012, 16:46
โพสต์: 412

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


s006 wink


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


นิพพาน...มีความปกติ

ปกติ..คือ..สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว...

สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว....มิจฉาจึงไม่มี

ไม่มีมิจฉา..แล้วจะเอาคำไหนไปพูดว่า..มีสัมมา

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
นิพพาน...มีความปกติ

ปกติ..คือ..สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว...

สมบูรณ์..บริบูรณ์ดีแล้ว....มิจฉาจึงไม่มี

ไม่มีมิจฉา..แล้วจะเอาคำไหนไปพูดว่า..มีสัมมา

:b8:

คุณจะบรรยายนิพพานได้ก็เพียงในรูปปฎิเสธ. แต่สภาวะนิพพานนั้นจะปรากฎได้ก็ต่อเมื่อสัมมาสมาธิบริบูณร์เท่านั้น. ตราบใดคุณยังท่องคาถาเงินล้านคุณจะไม่มีวันเข้าถึงนิพพานได้แน่นอน

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 05 ส.ค. 2015, 22:53, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
ตราบใดคุณยังท่องคาถาเงินล้านคุณจะไม่มีวันเข้าถึงนิพพานได้แน่นอน


อย่าเข้าทีหลังผมก็แล้วกัน.... :b32: :b32:

เข้าทีหลัง...จะถูกทำโทษ...นะ :b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
bigtoo เขียน:
ตราบใดคุณยังท่องคาถาเงินล้านคุณจะไม่มีวันเข้าถึงนิพพานได้แน่นอน


อย่าเข้าทีหลังผมก็แล้วกัน.... :b32: :b32:

เข้าทีหลัง...จะถูกทำโทษ...นะ :b16: :b16:
เลิกท่องคาถาก็ถูกทางแล้ว มีสิทธิ์เขาได้

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 22:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 23:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
เลิกท่องคาถาก็ถูกทางแล้ว มีสิทธิ์เขาได้


เด้วจะทำให้ดูว่า..ท่องคาถา...ก็เข้านิพพานได้
:b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 23:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว
เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ
:b16: :b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ส.ค. 2015, 23:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
ดูคลิปบันไดไหม
http://m.youtube.com/watch?v=eE8Um7CPJ8M
สัมมาสมาธิ
http://m.youtube.com/watch?v=gyDeY6_GXdU
:b16: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 06:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
สัมมาสมาธิที่บริบูรณ์คือดินแดนพระนิพพานเลยล่ะ

:b12:
ข้าพเจ้าขอแย้งกลับว่าในนิพพานย่อมไม่มีจิต
สัมมาสมาธิเป็นหนึ่งในอริยมรรคแปดประการ
ทางเดินของจิตเข้าสู่อริยะคืออริยสัจกะมรรค
เมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วทางเดินย่อมหมดไปนะ
:b16: :b4:
:b20: :b20:
คุณไม่เคยพบพระนิพพานคุณไม่รู้หรอก ผมถามง่ายๆขณะที่ยังไม่ตายอะไรไปรับรู้พระนิพพาน

ปัญญาไตร่ตรองที่เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าไง
ก็อริยสัจจ์กับอริยมรรคเป็นทางเดินของจิตทางตรง
ทางสายกลางไงที่ต้องนำจิตเข้าสู่ความเป็นอริยชน
พระอภิธรรมยังทรงตรัสรายละเอียดแยกไว้ชัดเจน
อ่านด้วยตาเปล่าก็มองเห็นแต่ตาปัญญาจะเข้าใจไหม
ว่าจิต เจตสิก รูป นิพพาน คนละอันกัน นิพพานว่างนะ
ไต่บันไดขึ้นชั้นบนถึงชั้นบนแล้วบันไดก็ไม่ต้องใช้จ้ะ
:b32: :b32:
ท่องจำมาก็ประมาณนี้ แต่เอาเถอะผมเองก็ยังไม่ใช่อรหันต์ เพียงแค่สัมผัสรสของกระแสนิพพานมาก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย แต่ก็พอรู้รสชาติที่เขาว่า. มันว่าง

ทู่ท่องหรา หึหึ หุหุ 55555 ตรงทางหน่อยทางสายกลางทางเดียว
เข้าใจถูกเป็นปัญญาที่เกิดจากสัมมาทิฐิข้อแรกในอริยมรรคนะ
:b16: :b39:

ผู้ที่พบพระนิพพานเท่านั้นถึงจะเกิดสัมมาทิฎฐิที่แท้จริงที่เกิดผล

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ส.ค. 2015, 09:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
ในสัมมาสมาธิ มี นิพพานอยู่ไหม s006 wink



คุณควรยังศรัทธาให้เกิด ศรัทธาในพระพุทธเจ้า ศรัทธาในพระธรรมคำสอน

หากคุณมีความศรัทธาในพระพุทธเจ้า คุณย่อมเกิดความศรัทธาในพระธรรมคำสอนด้วย
เมื่อเป็นผู้หยั่งลงในความศรัทธาแล้ว ย่อมปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีคำถาม


การที่คุณตั้งคำถามประมาณนี้ เกิดจาก ไม่มีความศรัทธาในพระธรรมคำสอน
หรือ หากมีความศรัทธาบ้าง ก็ยังมีน้อย เพราะไม่มีการขวนขวายหาความรู้จากพระธรรมคำสอน


ยกตย.ให้ดู

เมื่อสงสัยสิ่งใด จงดำเนินตามทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสไว้

การกำหนดรู้(โยนิโสมนสิการ)


ดูกรอัคคิเวสสนะ !
เราแนะนำสาวกทั้งหลายอย่างนี้
และคำสั่งสอนของเรามีส่วนอย่างนี้
ที่เป็นไปมากในสาวกทั้งหลายว่า


รูปไม่เที่ยง
เวทนาไม่เที่ยง
สัญญาไม่เที่ยง
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง
วิญญาณไม่เที่ยง


รูปไม่ใช่ตน
เวทนาไม่ใช่ตน
สัญญาไม่ใช่ตน
สังขารทั้งหลายไม่ใช่ตน
วิญญาณไม่ใช่ตน


สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่ตน
ธรรมทั้งหลายทั้งปวงไม่ใช่ตน ดังนี้


ดูกรอัคคิเวสสนะ !
เราแนะนำสาวกทั้งหลายอย่างนี้
และคำสั่งสอนของเรามีส่วนอย่างนี้
ที่เป็นไปมากในสาวกทั้งหลาย



ผลของการปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
เมื่อกำหนดรู้





อาหารของโพชฌงค์ ๗

[๓๖๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง
ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร
ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้

แม้ฉันใด โพชฌงค์ ๗ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง
ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร
ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน.

[๓๖๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่งสติสัมโพชฌงค์ มีอยู่
การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น
นี้เป็นอาหารให้สติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๖๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศลและ
อกุศลที่มีโทษ และไม่มีโทษ ที่เลวและประณีต ที่เป็นฝ่ายดำและฝ่ายขาว มีอยู่ การกระทำให้มาก
ซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้ธรรมวิจยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๖๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้วิริยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความริเริ่ม ความพยายาม ความบากบั่น
มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในสิ่งเหล่านี้ นี้เป็นอาหารให้วิริยสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๖๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ปีติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่งปีติสัมโพชฌงค์
มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารให้ปีติสัมโพชฌงค์ที่ยัง
ไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๖๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความสงบกาย ความสงบจิต
มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในความสงบนั้น นี้เป็นอาหารให้ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์
ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้สมาธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมาธินิมิต อัพยัคคนิมิต มีอยู่
การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในนิมิตนั้น นี้เป็นอาหารให้สมาธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๗๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายเป็นที่ตั้งแห่ง
อุเบกขาสัมโพชฌงค์ มีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหาร
ให้อุเบกขาสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญบริบูรณ์.

[๓๗๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร
ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ แม้ฉันใด

โพชฌงค์ ๗ เหล่านี้ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะ
อาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน.





เมื่อไม่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน
ไม่มีการกำหนดรู้







เมื่อไม่กำหนดรู้(อโยนิโสมนสิการ)

[๓๕๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง
ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร
ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ แม้ฉันใด

นิวรณ์ ๕ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร
ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน.

[๓๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหาร ให้กามฉันท์ที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศุภนิมิตมีอยู่ การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในศุภนิมิตนั้น
นี้เป็นอาหารให้กามฉันท์ที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้ว ให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น.

[๓๕๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้พยาบาทที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปฏิฆนิมิตมีอยู่
การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในปฏิฆนิมิตนั้น
นี้เป็นอาหารให้พยาบาทที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดขึ้นแล้ว ให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น.

[๓๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้ถีนมิทธะที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความไม่ยินดี ความเกียจคร้าน ความบิดขี้เกียจ ความเมาอาหาร ความที่ใจหดหู่ มีอยู่
การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในสิ่งเหล่านั้น
นี้เป็นอาหารให้ถีนมิทธะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น.

[๓๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความไม่สงบใจมีอยู่
การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในความไม่สงบใจนั้น
นี้เป็นอาหารให้อุทธัจจกุกกุจจะที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น.

[๓๖๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเล่าเป็นอาหารให้วิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิด
เกิดขึ้น หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น?

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งวิจิกิจฉามีอยู่
การกระทำให้มากซึ่งอโยนิโสมนสิการในธรรมเหล่านั้น
นี้เป็นอาหารให้วิจิกิจฉาที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น
หรือที่เกิดแล้วให้เจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้น.

[๓๖๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย กายนี้มีอาหารเป็นที่ตั้ง
ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้

แม้ฉันใด นิวรณ์ ๕ เหล่านี้ ก็มีอาหารเป็นที่ตั้ง
ดำรงอยู่ได้เพราะอาศัยอาหาร ไม่มีอาหารดำรงอยู่ไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกัน.




สิ่งที่ควรศึกษา

โกศลสูตรที่ ๑



ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่งบัญญัติ นิพพานอันยวดยิ่ง ในปัจจุบันมีอยู่


ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความหลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น
เพราะรู้ความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งผัสสายตนะ ๖ ประการ
เลิศกว่าการบัญญัตินิพพานอันยอดยิ่ง ในปัจจุบันแห่งสมณพราหมณ์


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... agebreak=0





เกี่ยวกับกระทู้โสดาบัน ที่เคยบอกไว้ว่า จะนำข้อมูลทั้งหมดมาลงให้
ต้องขอภัยด้วย ที่จะไม่มีการใส่คำอธิบายใๆของคำเรียกนั้นๆอีก


เมื่อดำเนินตามทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสไว้
ควรทำตามพระธรรมคำสอน ที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างไว้

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 76 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร