ตื่นขึ้นมาจากที่นอนตอนเช้า หลังจากได้นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายๆ
ใครพอจะรู้ไหมว่า แขกที่มาเยือนก่อนใครนั้นเป็น กุศล หรือ อกุศล

บ้านช่องห้องหอของเรามี่ ๖ ประตู ตื่นเช้าขึ้นมาแขกก็มารอเข้าประตู
เราจะไปต้อนรับแขกเชิญแขก หรือจะปล่อยให้แขกเข้าออกได้อย่างตามสบาย

คุณลุงสมานเขียน




7 โมงนี่เป็นตอนเช้าของคุณลุงสมานเหรอค่ะ
สำหรับดิฉันแล้ว คิดว่าเวลาตื่นนอนตอนเช้านี่
ต้องเป็นกุศลค่ะ เพราะทุกๆเช้าตื่นนอนขึ้นมา

ก้อจะต้องคิดถึงพวกลูกๆ4ขา ทั้งในบ้านและนอกบ้าน
ตัวนั้นมีแผลตัวนี้มีแผล ต้องหายาใส่ให้พวกเค้า
ต้องทำอาหารให้พวกเค้ากินแบบไหนแผลจัได้หายเร็วๆ
หน้าของพวกเค้าจะได้ไม่ต้องเศร้า เพราะความเจ็บปวด หรือหิว

วันนี้เราลืมตาตื่นขึ้นมา รู้สึกแปลกค่ะ มีความรู้สึก เหมือนเห็นภาพ
หน้าตา ของผู้ชายที่โดนตำรวจ ยิงตาย เมื่อวานนี้ หน้าตาเค้าเหมือนเศร้ามากนะ
เราก้อพยายามที่จะ สลัดความคิดนั้น ออกไป แต่เหมือนจิตไม่ปล่อยให้ภาพนั้นหลุดออกไป ก้อเลยคิดว่า เค้ากับเรา คงเคยพบเคยรู้จัก เคยสร้างบุญด้วยกันมา
ก้อเลยแผ่เมตตาให้เค้า ได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ

ก้อไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไรค่ะ ก้ออธิฐานว่า ให้วิญญาณ ของผู้ตาย ที่อยู่ในมโนภาพ
ของข้าพเจ้า ขณะนี้ ได้รับผลบุญนี้ ก้ออธิฐานไปเรื่อยๆค่ะ

ที่บอกว่าแปลก เพราะเหตุที่ว่า ปกติจะไม่เป็นอย่างนี้นะ เค้ากับเราคงเคย
รู้จักกันหน่ะ เพื่อนๆในลานช่วยกันแผ่กุศล ให้เค้าด้วยนะค่ะ
พวกเราคือผู้ที่ได้โอกาส ที่สัญญาเก่าทางธรรมส่งผล ให้พวกเราได้เห็นธรรมะ
แต่เค้าคืดผู้ที่ไม่ได้โอกาส สัญญาเก่าทางธรรมของเค้า ยังไม่ส่งผล
ดวงจิตของเค้าก้อดับไปแล้ว ช่วยส่งวิญญานให้เค้าได้เปลี่ยนภพภูมิด้วยค่ะ

เห็นข่าวแล้ว..ไม่ดูคลิบเลย...สงสาร..เห็นแว๊บ..ๆ..ว่าคนร้ายยกมือขึ้นแล้วนะ..



เช้านี้ดูไม่ทันเลยลุงหมาน..ว่าแขกคนแรก..กุศลหรือ..อกุศล...ตื่นปั๊บ..ก็ดูแมวเลย...เขาเดินไม่ได้

คุนน้องก็จะอุทิศส่วนบุญไปให้เขาเช่นกันค่ะ..
สมัยนี้กรรมคิดจรวดจริงๆ..เมื่อผู้พิทักษ์สันติราษกระทำผิดเสียเอง...จริงๆมันเป็นเรื่องการฆ่าปิดปาก..เพื่อไม่ให้สาวไปถึงต้นตอใหญ่ได้..นี่แหละค่ะคือเหตุผลทำไม..คนค้ายาถึงโดนตำรวจวิสามัญฆาตกรรม..เราไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์..เราไม่รู้จริงๆหรอกว่าคนร้ายเค้าต่อสู้..หรือเค้ายอมแพ้แต่ก็ต้องตายอยู่ดี...

แต่ก่อนตอนตื่นนั้น ผมรู้สึกว่าจิตมันจะตื่นก่อน มันจะเห็นร่างกายยังนอนอยู่ แล้วจากนั้นร่างกายจะค่อยตื่นๆ
จิตก็มองเห็นร่างกายเดินไปห้องน้ำ แต่รู้ได้ว่าจิตมันตื่น แต่ร่างกายมันยังงัวเงียอยู่


แต่ช่วงนี้ ตื่นก็คือตื่นมองไม่เห็นจิต ไม่รู้เรื่อง ขาดสติ ความจำเลอะเลือน กายจิตรวมเป็นหนึ่งเดียว
ความยึดมั่น ความกลัวตาย มีสูงมากๆๆ ชีวิตเหมือนขาดที่พึ่งอย่างรุนแรง




กิเลส มันหาช่องโหว่ของเราเก่งครับ



ช่วงนี้ขาดสติ รุนแรงมากครับ

"ขาดสติ" ก็รู้ว่าขาดสติ
เอาใหม่..เริ่มใหม่..เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เลิกจดเลิกจ้องเถอะ มันไม่แน่

สำหรับผมนี่ ตอนนี้เรียนอยู่ ม.4 กว่าจะตื่นได้ โห..ก็นะ 55555555

จริงๆ ส่วนมากเราจะไม่ค่อยได้สังเกตุกันว่ากุศลหรืออกุศลที่มาเยือนตอนเราตื่น
ถ้าเป็นนักปฏิบัติที่ดีมีความชำนาญเขาจะรู้ได้ทันทีเ พราะสติเขาแข็งแรงทำงานได้ไว

ลูกศิยษ์อาจารย์สุจินก็มักผูดแบบนี้เหมือนกัน.ก็ไม่ผิดหรอกเพราะคนที่จะทำได้แบบนั้นจริงๆสติต้องไวได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีหรืออาจจะต้องเป็นอริยขั้นกลางๆไปโน้น แต่ผมกล่าวต่างออกไปนะว่าที่จะเข้าสู่การบรรลุธรรมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมาเฝ้าดูสิ่งเหล่านี้เพราะมันจะเกิดขึ้นเองถ้าเราถึงขั้นที่จะรับรู้ได้โดยอัตโนมัติ. เราน่าจะนั่งเข่าคู้บัลลังก์ตั้งตัวตรงดำรงสติให้มั่นมสิหายใจเข้าออก ทำสมะถะวิปัสนากับการมีสติอยู่ที่กาย น่าจะดีกว่านะ. พระศาสดากล่าวว่า กายคตาสติอันชลเหล่าหลงลืม เชื่อว่วหลงลืมอมตะ

ใครเขาพูดละว่า...ให้ฝึกด้วยการมานั่งดูกุศล..อกุศลตอนเช้า...
แค่..ให้สังเกตว่า...ตอนเช้า..เห็นอะไรมาก่อน..มั้ย?

ถ้าเห็น...ก็แสดงว่า..ที่ฝึกๆมา..นั้น...เริ่มพอใช้ได้
แต่ถ้าไม่เห็น..ก็ให้รู้ว่าที่ฝึกๆมา..นั้น...ยังต้องทำอีกเยอะ...

คนเฉ่ไฉ่บางคนอาจรับไม่ได้ว่าตน..ยังแย่อยู่...มันก็ยากที่จะยอมรับ...เป็นธรรมดา

หรือที่ทำที่ดูอยู่นึกว่าตนเองเริ่มดีใช่ป่าว. ไม่นึกเหรอว่าผมไปไกลเกินที่จะมาดูอะไรเหล่านั้น.
เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสนะอัตตา เหมือนพวกชอบดูอาการคนกินเหล่า เล่นการพนัน เที่ยวกลางคืนฯ อะไรนั้นผิดหมด. ผมไปไกลเกินกว่านี้แล้ว. สมัยก่อนก็คิดแบบนั้นแหล่ะ. กบต้องข้ามไปให้ไดด้วยการปฎิบัติสมถะวิปัสนาให้มาก. อย่างน้อยก็ลมหายใจดับไปกบจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้เลย. มันมีหลายบริบทมากจนกบไม่สามารถรู้อะไรได้จริงๆเพราะจณะติตที่ใครทำอะไรกบไม่มีทางรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่. อ้อ แต่ก็เป็นการดีสำหรับไว้สอนคนสนใจธรรมะใหม่ๆจะได้ยึดดีก่อน. เมื่อยึดดีได้ก็จะได้ปล่อยดี

หรือที่ทำที่ดูอยู่นึกว่าตนเองเริ่มดีใช่ป่าว.

ขำ....

ผมไปไกลเกินกว่านี้แล้ว.

ไปทางธรรม..ก็น่าอนุโมทนาในบุญ..นะ

ศีล..รู้ด้วยการคลุกคลี
ปัญญา..รู้ด้วยการสั่งสนทนา

เวลาพูดนี้....ก็รู้ว่าจริง..รึไม่จริง
แค่นี้แหละ...

ไม่รู้เหมือนกัน..นะ
ฮา...

ง่าย..ๆ...

พูด..มีไม่จริง..แล้ว ก็ไม่ต้องมีฤทธิ์ไปดูใจหรอกว่า...เป็นอะไร

รึจะว่า....ไม่ได้ประกอบเนือง ๆ...ซะหน่อย