... อ่านจบแล้ว ...



แต่ยังไม่รู้จะเอาตรงไหนมาพูดดี ...

เพราะ ... ในเรื่องลึก ๆ วงใน มันก็เป็นเรื่องเฉพาะที่คนในเท่านั้นที่จะรู้
และเมื่อพูดปุ๊บ ผู้ที่เหมือนกันเขาก็จะรับรู้กันทันที ...

เหมือนกับที่อาจารย์สถิตย์ธรรมบรรยายไว้ในหนังสือ
ว่าท่านเองก็อ่านงานเขียนของชาวต่างชาติ แล้วรับรู้ รู้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เหมือนกัน
คือมีความรู้ความเข้าใจที่พอเทียบเคียงแล้ว มันตรงกัน

สำหรับท่าน ท่านเล่าทำนองว่า หิมาลัยเรียกร้องหาท่าน ทำให้ท่านต้องไปปฏิบัติที่นั้นอยู่เรื่อย ๆ
และการไปปฏิบัติที่นั่นท่านก็ได้พบประสบการณ์ระลึกอะไรต่อมิอะไรได้ ...

เอกอนก็มีรู้สึกนะ ว่ามีบางที่ ๆ เหมือนว่ามันจะร้องเรียกให้เราไปเยือน



ท่านใช้คำเรียก "สัจจะธรรมยุคไซเบอร์" ว่า "พลังจิตใหม่"

และจากที่เอกอนเห็น เอกอนก็เรียกกลุ่มนี้ว่าพวก "New Age"

คงพูดได้แต่กับคนคล้ายๆกัน..ซินะ

ก็ทำนองนั้น
แต่จริง ๆ ที่เอกอนไม่อยากจะพูดก็เพราะ
บางเรื่องเป็นความลับ เอกอนก็เห็นว่ามันควรจะเป็นความลับน่ะ
ถ้าเอกอนเอามาเสริม มันก็จะกลายเป็นการตอกย้ำให้สิ่งต่าง ๆ ในหนังสือดูน่าสนใจมากขึ้นน่ะ

ก็ถ้าใครสนใจก็หาศึกษาได้...

แต่...เอกอนก็จะฝากไว้แค่ว่า

พระพุทธเจ้าตรัสรู้ด้วยการค้นพบ เส้นทางสายเก่า
เส้นทางสายเก่าสายเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต่างก็ค้นพบ
และ พระศรีอริยะฯ ก็จะตรัสรู้ด้วยค้นพบเส้นทางสายเก่า เช่นกัน

... ถือว่าเป็นความลับเช่นกันนะนี่ ...

เพราะการ Overdrive ของเอกอนทำให้เอกอนเห็นอนาคต ...
ไม่มีเทคโนโลยีชั้นสูงขนาดไหน สร้างการตรัสรู้อย่างพระพุทธเจ้าให้กับใครได้นะ
เทคโนโลยี ทำได้สูงสุดแค่เพียงทำให้คนในสังคมมีชีวิตที่ดี มีความสุขได้
มันเป็นม่านหมอกที่ปกคลุมที่แปลก สภาพการณ์ดี แต่ไม่มีใครสามารถบรรุลธรรมได้

พระศรีอริยะฯ ท่านย่างเท้าตามรอยเท้าตามทางเดินเก่า
ท่านจึงแหวกม่านหมอกออกมา และตรัสรู้ ในที่สุด...
อยากเจอ อยากใกล้ ก็ต้องรู้จักสะสมย่างก้าว...

ถ้าเรารักและศรัทธาในตถาคตจริงๆ.พุทธบริษัทควรสนทนาแต่คำตถาคตนะ. จะได้เป็นพุทธบริษัทชั้นเลิศ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต



กัณหมรรคสูตร
[๑๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมที่เป็นมรรคาดำและธรรมที่
เป็นมรรคาขาวแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรมที่เป็นมรรคาดำเป็นไฉน มิจฉาทิฐิ ฯลฯ มิจฉาวิมุติ นี้เรียกว่าธรรม
ที่เป็นมรรคาดำ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมที่เป็นมรรคาขาวเป็นไฉน สัมมาทิฐิ
ฯลฯ สัมมาวิมุติ นี้เรียกว่าธรรมที่เป็นมรรคาขาวฯ
จบสูตรที่ ๒
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ บรรทัดที่ ๕๗๖๘ - ๕๗๗๕. หน้าที่ ๒๔๙.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... agebreak=0


มรรคาขาว มรรคาดำ สัมมาวิมุติ มิจฉาวิมุติ

จบสิ้นกระบวนความ

ถ้าอยาก บรรลุในทางดำดำ ก็ปฏิบัติ ทางมรรคาดำ
ถ้าอยากบรรลุในทางขาว ให้ปฏิบัติในทางมรรคาขาว

ใช่....หลายๆเรื่อง...ควรพูดก็แต่กับคนที่ควรพูด..จึงจะมีประโยชน์..ไม่มีโทษ