วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ค. 2025, 03:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2015, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


การทำวิปัสสนา ต้องทำอย่างไรค่ะ คือเท่าที่เราอ่านๆนะคะ
ความเข้าใจของเราคือ
ทำจิตให้เป็นสมาธิ พอจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้ว ก้อพิจารณาธรรมอย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก้อคล้ายๆการทำอาณาปานสติใช่หรือไม่ค่ะ


ทีนี้้ในส่วนที่เรานั่่งสมาธินะคะ
พอจิตของเรานิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป สภาวะตอนนั้นกายจะเบา
มือที่สัมผัสกันอยู่ จะมีความรู้สึก เหมือนมือไม่ได้สัมผัสกัน
คือมีความรู้สึกว่าเหมือนร่างกายไม่มีกระดูกอ่ะ
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะแผ่กุศลให้กับเหล่าวิญญานทั้งหลาย ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ
อย่างนี้ใช่เรียกว่าวิปัสสนาหรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2015, 19:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
....

ทีนี้้ในส่วนที่เรานั่่งสมาธินะคะ
พอจิตของเรานิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป สภาวะตอนนั้นกายจะเบา
มือที่สัมผัสกันอยู่ จะมีความรู้สึก เหมือนมือไม่ได้สัมผัสกัน
คือมีความรู้สึกว่าเหมือนร่างกายไม่มีกระดูกอ่ะ
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะแผ่กุศลให้กับเหล่าวิญญานทั้งหลาย ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ
อย่างนี้ใช่เรียกว่าวิปัสสนาหรือปล่าวค่ะ
:b8: :b41: :b55: :b48:


ไม่ใช่... :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2015, 22:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
การทำวิปัสสนา ต้องทำอย่างไรค่ะ คือเท่าที่เราอ่านๆนะคะ
ความเข้าใจของเราคือ
ทำจิตให้เป็นสมาธิ พอจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้ว ก้อพิจารณาธรรมอย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก้อคล้ายๆการทำอาณาปานสติใช่หรือไม่ค่ะ


ทีนี้้ในส่วนที่เรานั่่งสมาธินะคะ
พอจิตของเรานิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป สภาวะตอนนั้นกายจะเบา
มือที่สัมผัสกันอยู่ จะมีความรู้สึก เหมือนมือไม่ได้สัมผัสกัน
คือมีความรู้สึกว่าเหมือนร่างกายไม่มีกระดูกอ่ะ
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะแผ่กุศลให้กับเหล่าวิญญานทั้งหลาย ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ
อย่างนี้ใช่เรียกว่าวิปัสสนาหรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


ไม่ใช่ครับ

ยกเว้นในเรื่องการเข้าไปเห็นภัยในภพ คือ เกิดบ่อยๆเป็นทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2015, 07:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
การทำวิปัสสนา ต้องทำอย่างไรค่ะ คือเท่าที่เราอ่านๆนะคะ
ความเข้าใจของเราคือ
ทำจิตให้เป็นสมาธิ พอจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้ว ก้อพิจารณาธรรมอย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก้อคล้ายๆการทำอาณาปานสติใช่หรือไม่ค่ะ


ทีนี้้ในส่วนที่เรานั่่งสมาธินะคะ
พอจิตของเรานิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป สภาวะตอนนั้นกายจะเบา
มือที่สัมผัสกันอยู่ จะมีความรู้สึก เหมือนมือไม่ได้สัมผัสกัน
คือมีความรู้สึกว่าเหมือนร่างกายไม่มีกระดูกอ่ะ
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะแผ่กุศลให้กับเหล่าวิญญานทั้งหลาย ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ
อย่างนี้ใช่เรียกว่าวิปัสสนาหรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


ใช่เลย ไม่ว่าจะทำสมถะกรรมฐาน หรือวิปัสสนากรรมฐาน ทั้งสองนี้
ต้องอาศัยสมาธิเป็นฐานเบื้องต้น โดยมากก็จะเรียกรวมเอาเลยว่าทำสมาธิ
การทำสมาธิก็มีความมุ่งหมายทำให้จิตสงบและตั้งมั้นในอารมณ์อันใดอันหนึ่ง
ทั้งที่เป็นสมถะและวิปัสสนา

การเจริญอานาปานสตินั้นแหละ เป็นต้นทางของการเจริญได้ทั้งสองอย่าง
ทั้งสมถะและวิปัสสนาเพียงแต่ว่ากำหนดลมนั้นไปในรูปแบบไหน เป็นในรูปของสมถะหรือวิปัสสนา
เพราะอารมณ์ของสมถะและวิปัสสนานั้นต่างกัน ฉะนั้นผลของการเจริญสมถะและวิปัสสนาจึงต่างกัน
เช่น จดจ่ออยู่กับลมหายใจอย่างเดียวไม่รับอารมณ์อื่นก็เป็นสมถะ

แต่ถ้าว่ามีการพิจารณารู้ลมหายใจ ต้นลมปลายลมตามลม หรือพิจารณาว่า
ลมเป็นรูป รู้ลมเป็นนาม หรือ รู้ร้อนเย็น อ่อนแข็ง ของลม
รู้ลมที่มากระทบจมูกเป็นเพียงหนึ่งในธาตุ ๔ การพิจารณาในลักษณะนี้
เป็นการเจริญวิปัสสนา

ถ้าจะแผ่เมตตาก็ควรต้องแผ่เมตตาตอนที่เราเลิกทำแล้ว เพราะขณะนั้นเรามีกำลังของกุศลอยู่เต็ม

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2015, 19:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สมถะ และวิปัสสนา เป็นสิ่งจำเป็นในการภาวนา

สมถะ เป็น เครื่องอยู่ของจิต เป็นที่พักของจิต เป็นส่วนให้จิตมีกำลังในการทำวิปัสสนา

วิปัสสนา เป็นส่วนแห่งวิชชา ส่วนแห่งความรู้แจ้ง เพื่อให้จิตเห็นแจ้งสัจจะสภาวะธรรมทั้งปวงตามเป็นจริง และทำให้จิตสามารถเห็นความปราถนาดิ้นรนของจิต เพื่อเข้าถึงความเบื่อ ความคลาย ความสลัดคืน ความดับแห่งกิเลสทั้งปวง

สมถะและวิปัสสนา ประกอบกันจึงเป็นองค์แห่งมรรคบริบูรณ์

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มิ.ย. 2015, 21:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
การทำวิปัสสนา ต้องทำอย่างไรค่ะ คือเท่าที่เราอ่านๆนะคะ
ความเข้าใจของเราคือ
ทำจิตให้เป็นสมาธิ พอจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้ว ก้อพิจารณาธรรมอย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก้อคล้ายๆการทำอาณาปานสติใช่หรือไม่ค่ะ

ทีนี้้ในส่วนที่เรานั่่งสมาธินะคะ
พอจิตของเรานิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป สภาวะตอนนั้นกายจะเบา
มือที่สัมผัสกันอยู่ จะมีความรู้สึก เหมือนมือไม่ได้สัมผัสกัน
คือมีความรู้สึกว่าเหมือนร่างกายไม่มีกระดูกอ่ะ
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะแผ่กุศลให้กับเหล่าวิญญานทั้งหลาย ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆอย่างนี้ใช่เรียกว่าวิปัสสนาหรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


ไม่ใช่..ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 14:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b53:
วิปัสสนาภาวนา

วิ วิเศษ เหนือความคิดนึก

ปัสสนา ดู เห็น สังเกต พิจารณา

ภาวนา ทำให้เจริญงอกงาม

เจริญการเฝ้าดู เฝ้าเห็น เฝ้ารู้ เฝ้าสังเกต สิ่งที่วิเศษคือสิ่งที่ความนึกคิดไม่สามารถบอกได้ เกิดเอง เป็นเอง บังคับบัญชาไม่ได้ รู้ตรงที่ใจ

ก็คือ ธรรม อนัตตาธรรม หรือปรมัตถธรรมทั้งหลายนั่นเอง

เมื่อไหร่ที่สำรวมกายใจมานิ่งรู้ นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์ได้ดีเมื่อนั้น วิปัสสนาภาวนาก็กำลังเกิดขึ้นและเจริญงอกงาม

ความสังเกต+พิจารณา หรือที่เรียกว่า "ปัญญาสัมมาสังกัปปะ" เกิดขึ้นเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็เกิด "วิปัสสนาภาวนา"

ผลของวิปัสสนาภาวนาก็คือ รู้ เห็นธรรมตามความเป็นจริง
onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 14:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เด่วอธิบายแบบให้พี่เต้เข้าใจง่ายๆนะค่ะ.. :b1:
การเจริญวิปัสนาในขณะภาวนาคือ..การเห็นอารมณ์ต่างๆ..การเห็นความรู้สึกนึกคิดปรุงแต่งต่างๆตอนภาวนาเห็นสภาวธรรมที่เกิดขึ้นในขณะปัจจุบันนั้น..แล้วสามารถรู้ทันอารมณ์ที่จิตแล่นไป..แล้ววางอารมณ์เหล่านั้น..โดยมารู้อยู่ที่พุธ-โธ
เห็นก็สักแต่ว่าเห็น..รู้ก็สักแต่ว่ารู้..แต่ไม่มีความยินดีพอใจในอารมณ์เหล่านั้น..จนสลัดความยึดถือในธรรมเหล่านั้นทั้งหลาย..เข้าสู่ความสงบโดยรู้ลมเข้าลมออกเป็นเครื่องอยู่..ขณะที่เราเจริญภาวนาในปัจจุบันขณะนั้น..การที่พี่เต้แผ่เมตตา..ในขณะที่เจริญภาวนา..คือการเจริญเมตตาค่ะ..ในขณะทำสมาธิค่ะ..ก็จะทำให้เป็นผู้มีอุปนิสัยที่มีจิตใจเมตตา อ่อนโยนต่อสรรพสัตว์.. :b8: อนุโมทนาเจ้าค่ะ :b1:
ปล.มีตัวรู้สอนคุนน้องในจิตว่า..การให้ธรรมทานผู้อื่นด้วยจิตเมตตา..กรุณา เป็นอานิสงค์ยิ่งใหญ่กว่าทานทั้งปวง..ยิ่งผู้ให้เป็นผู้มีปัญญาสัมมาทิฏฐิ..ยิ่งจะเป็นการพอกพูนสั่งสมปัญญาของตนเป็นอริยทรัพย์ติดตัว..จะทำให้ผู้นั้นเป็นพหูสูตร เป็นนักปราชภ์ เป็นผู้รู้ มีจิตเมตตา กรุณา อยากถ่ายทอดปัญญาความรู้ของตนให้ผู้อื่น..ด้วยความจริงใจ..คุนน้องจะได้ปัญญาลักษณะนี้ติดตัวไปภพหน้า..และแม้ไม่มีผู้ใดอบรมสั่งสอน..แต่อานิสงค์แห่งการให้ธรรมทานผู้อื่นในภพนี้..จะทำให้เป็นผู้คิดเองได้เยี่ยงนักปราชภ์ :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 15:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.พ. 2015, 21:06
โพสต์: 84

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: วิปัสสนาที่สุชาวดีเข้าใจและทำคือ เวลานั่งสมาธิ ตามรู้ลมเข้าออก พอจิตมีความคิดตามรู้ทันว่าคิดจิตจะหยุดคิดแล้วจิตจะเข้าตามลมเอง เวียนอยู่แบบนี้ :b48: วิปัสสนาตอนไม่นั่งสมาธิก็ใช้หลักการเดียวกันคือจิตตามลม เมื่อคิดตามรู้ทันความคิด จิตเขาจะหยุดคิดแล้วเข้าลมเอง วิปัสสนาคือตามรู้ความคิดที่เกิด ดับ และวาง ไม่เข้าไปยึดถือในความคิด :b16: :b16: ปฏิบัติไป สนุกไป เหมือนตำรวจตามจับคนร้าย :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 15:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8585


 ข้อมูลส่วนตัว


สุชาวดี เขียน:
:b8: วิปัสสนาที่สุชาวดีเข้าใจและทำคือ เวลานั่งสมาธิ ตามรู้ลมเข้าออก พอจิตมีความคิดตามรู้ทันว่าคิดจิตจะหยุดคิดแล้วจิตจะเข้าตามลมเอง เวียนอยู่แบบนี้ :b48: วิปัสสนาตอนไม่นั่งสมาธิก็ใช้หลักการเดียวกันคือจิตตามลม เมื่อคิดตามรู้ทันความคิด จิตเขาจะหยุดคิดแล้วเข้าลมเอง วิปัสสนาคือตามรู้ความคิดที่เกิด ดับ และวาง ไม่เข้าไปยึดถือในความคิด :b16: :b16: ปฏิบัติไป สนุกไป เหมือนตำรวจตามจับคนร้าย :b8:

:b8: :b8: :b8:

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


สุชาวดี เขียน:
:b8: วิปัสสนาที่สุชาวดีเข้าใจและทำคือ เวลานั่งสมาธิ ตามรู้ลมเข้าออก พอจิตมีความคิดตามรู้ทันว่าคิดจิตจะหยุดคิดแล้วจิตจะเข้าตามลมเอง เวียนอยู่แบบนี้ :b48: วิปัสสนาตอนไม่นั่งสมาธิก็ใช้หลักการเดียวกันคือจิตตามลม เมื่อคิดตามรู้ทันความคิด จิตเขาจะหยุดคิดแล้วเข้าลมเอง วิปัสสนาคือตามรู้ความคิดที่เกิด ดับ และวาง ไม่เข้าไปยึดถือในความคิด :b16: :b16: ปฏิบัติไป สนุกไป เหมือนตำรวจตามจับคนร้าย :b8:

:b8: อนุโมทนาค่ะ..ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 18:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอเสริมอีกนิดหน่อย..วิปัสนาคือ..ตัวรู้..ที่ทำหน้าที่รู้เท่าทันขันธ์5..ก็พิจารรณาในส่วนที่เป็นขันธ์ 5 นั่นเอง..
ขันธ์5 คืออะไรบ้าง..ก็เอาตัวรู้(ปัญญาในส่วนนี้)
มาพิจารณาเห็นสภาวะธรรมที่เกิดขึ้นตามจริง..ก็รู้ในสิ่งที่จิตเข้าไปยึดแล้วก็โยนิโสมนสิการ..
วิปัสนาทำหน้าที่เหมือนเครื่องฟอกจิต..ทำให้จิตไม่ขุ่นมัวผ่องใส..ไม่ถูกรัก โลภ โกรธ หลง เข้าครอบงำ..วิปัสนาทำหน้าที่รู้เท่าทัน รัก โลภ โกรธ หลง ความคิดกุศลหรืออกุศลต่างๆ..จนวางลงปราศจากความยึดมั่นถือมั่น..
ฝึกไปเรื่อยๆค่ะ..รู้ว่าโกรธก็จับตัวโกรธวางลง..รู้ว่าอะไรเป็นทุกข์ก็จับเจ้าตัวทุกข์นั้นวางลง..นี่แหละค่ะคือวิปัสนา..
ปฏิบัติแล้ว รัก โลภ โกรธ หลง ลดลง
ถือว่าผ่านค่ะ..เป็นการเจริญวิปัสนาเหมือนกัน..
หลวงปู่ดู่ท่านบอกมา :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 20:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องคองเขียน

อ้างคำพูด:
เด่วอธิบายแบบให้พี่เต้เข้าใจง่ายๆนะค่ะ
:b1:

ขอบใจมากๆเลยนะคะคุณน้องคอง ที่รู้ว่า
พี่เต้ ปัญญาทางด้านภาษาของพี่เต้อยู่ระดับไหน
:b32: :b32: :b32:
:b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณสุชาวดีเขียน
อ้างคำพูด:
 วิปัสสนาที่สุชาวดีเข้าใจและทำคือ เวลานั่งสมาธิ ตามรู้ลมเข้าออก พอจิตมีความคิดตามรู้ทันว่าคิดจิตจะหยุดคิดแล้วจิตจะเข้าตามลมเอง เวียนอยู่แบบนี้  วิปัสสนาตอนไม่นั่งสมาธิก็ใช้หลักการเดียวกันคือจิตตามลม เมื่อคิดตามรู้ทันความคิด จิตเขาจะหยุดคิดแล้วเข้าลมเอง วิปัสสนาคือตามรู้ความคิดที่เกิด ดับ และวาง ไม่เข้าไปยึดถือในความคิด   ปฏิบัติไป สนุกไป เหมือนตำรวจตามจับคนร้าย 




ที่คุณสุชาวดีเขียนมา ใช่หมายถึงว่า ในขณะที่ทำสมาธิ
พอจิตเริ่มนิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป ก้อ อย่าให้คำว่าพุทโธหายไป
ให้เริ่มกลับมาที่คำพุท-โธ ใหม่ ใช่หรือปล่าวค่ะ คือทุกๆครั้งที่พอจิตนิ่งแล้ว
เราจะปล่อยให้จิตนิ่งไปเลย จนบางครั้งเราคิดว่าเราหลับไป
บางครั้งเป็นชั่วโมงเราก้อนิ่งอยู่อย่างนั้น ถ้าต้องการจะทำวิปัสสนาก้ออย่าปล่อยให้จิตนิ่งเฉยๆไปใช่หรือปล่าวค่ะ :b8: :b41: :b55: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มิ.ย. 2015, 21:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
การทำวิปัสสนา ต้องทำอย่างไรค่ะ คือเท่าที่เราอ่านๆนะคะ
ความเข้าใจของเราคือ
ทำจิตให้เป็นสมาธิ พอจิตเริ่มเป็นสมาธิแล้ว ก้อพิจารณาธรรมอย่างนั้นใช่หรือไม่ค่ะ ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก้อคล้ายๆการทำอาณาปานสติใช่หรือไม่ค่ะ 


ทีนี้้ในส่วนที่เรานั่่งสมาธินะคะ
พอจิตของเรานิ่งจนคำว่าพุท-โธ หายไป สภาวะตอนนั้นกายจะเบา 
มือที่สัมผัสกันอยู่ จะมีความรู้สึก เหมือนมือไม่ได้สัมผัสกัน 
คือมีความรู้สึกว่าเหมือนร่างกายไม่มีกระดูกอ่ะ
พอเป็นอย่างนั้นแล้ว เราจะแผ่กุศลให้กับเหล่าวิญญานทั้งหลาย ให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีๆ
อย่างนี้ใช่เรียกว่าวิปัสสนาหรือปล่าวค่ะ    



:b8: สาธุในความเพียรนะ

ที่เล่ามา
คล้ายๆกันกับไอเดียค่ะ..พี่เต้ :b1:
พอดีรายละเอียดที่ลงไว้มันไม่ค่อยเยอะเนาะ
แต่..เมื่อก่อน
ได้ความสงบในระดับหนึ่ง..ไอเดียก็พิจารณาในกาย,,เวทนา,,จิต,,ธรรม
คือ..เหมือนคอย..รู้..เฝ้าสังเกตุ เฝ้าดูมันไปเรื่อยๆ
ถึงจุดหนึ่ง..เราจะรู้สึกถึงว่ามีกำลังพอ ก็จะเริ่มพิจารณาถึงความไม่เที่ยง
คือมันจะเห็น..จนมันรู้สึกหน่ายเอง..มันจะพิจารณาขึ้นมาเองเลย

:b55: :b55: คือไอเดียอาจจะคิดต่างจากคนอื่นหน่อย...ที่เขาว่าไม่ใช่ :b9: :b9: ในกรณี..พี่เต้นี้
คือไอเดียรู้สึกว่า..อาจจะใช่ ใจพี่เต้..น่าจะน้อมมาทางนี้(เดาเอา)
:b44: กายมันเหมือนไม่มีกระดูก,,อ่อน,,หด,,เกร็ง-------พิจารณากาย
ถ้าเฝ้าดูต่อไป----มันจะย้ายไปเวทนา จิต ธรรม
:b46: เพิ่มเวลาในการนั่งมากขึ้นกว่านี้...ใช้กำลังสมาธิ...เฝ้าดูแต่ละสภาวะไปเรื่อยๆค่ะ
:b39: ขอย้ำทุกสภาวะนะคะ :b32: :b32: :b32: :b32:
:b55: :b8: ไอเดียตอบไม่อิงตำรานะ..ลองศึกษาดูอีกที s005
แต่ถ้าจะลองทำดู..เพิ่มความเพียร..มีวินัยสม่ำเสมอ ไม่นานจะได้เข้าใจกับคำว่า"ผู้รู้"ค่ะ
rolleyes rolleyes rolleyes


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 19 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร