วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 01:45  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 50 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 22 มี.ค. 2015, 07:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสต์ เมื่อ: 23 มี.ค. 2015, 18:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ คุณกบนอกกะลา ขอบคุณมากครับที่เข้ามาให้กำลังใจ


เมตตาเจโตวิมุตติ เป็นอันอบรมแล้วด้วย ......สมาธินทรีย์ เป็นอย่างไร


ขอยกบทธรรมบางส่วน


“......ดูกรภิกษุทั้งหลาย

......จิต ชื่อว่า เมตตา......เพราะรัก สัตว์ทั้งปวง

......จิต ชื่อว่า เจโต......เพราะคิดถึงธรรมนั้น
......จิต ชื่อว่า วิมุตติ......เพราะพ้นจาก......พยาบาท และ ปริยุฏฐานกิเลส ทั้งปวง


......จิต มี เมตตา ด้วย เป็น ......เจโตวิมุตติ ด้วย เพราะฉะนั้น

จึงชื่อว่า เมตตาเจโตวิมุตติ ฯ ......



......บุคคลผู้เจริญเมตตา ตั้งจิตไว้ว่า ขอสัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้ไม่มีเวร
มีความปลอดโปร่ง มีความสุขเถิด ดังนี้


เมตตาเจโตวิมุตติ เป็นอันอบรมแล้วด้วย ......สมาธินทรีย์......”



ขอให้เจริญในเมตตาธรรมทุกท่านนะครับ


โพสต์ เมื่อ: 26 มี.ค. 2015, 12:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


ในวันนี้เริ่มต้นทบทวนเมตตาเจโตวิมุตติ อันเป็นการอบรมแล้วด้วย ......สมาธินทรีย์......


......โดยการตั้งจิตไว้ว่า ขอสัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน
ไม่มีทุกข์ รักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด

......โดยการตั้งจิตไว้ ...... เมื่ออยู่ในอิริยาบถสี่ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน



......เริ่มต้นวันด้วยการมีสติเมื่อรู้สึกตัวตื่นนอนในตอนเช้า ในอิริยาบถ นอน
และพยายามตั้งจิตไว้เป็นมั่น......ในการทำงาน และ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ในอิริยาบถ นั่ง ยืน เดิน ให้ได้ตลอดวัน


อันเป็นการอบรมเมตตาเจโตวิมุตติด้วย ......สมาธินทรีย์ ในอิริยาบถสี่ คือ เดิน ยืน
นั่ง นอน



ขอให้เจริญในเมตตาธรรมทุกท่านนะครับ


โพสต์ เมื่อ: 26 มี.ค. 2015, 17:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 มิ.ย. 2014, 20:13
โพสต์: 709

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
ขออนุโมทนาในความเพียรนะคะ
:b1: ตอนนี้ไอเดียก็พยายามตั้งใจทำความเพียรใหมือนกัน
ฟังธรรมที่พอเข้าใจ....แล้วปฏิบัติตาม
แต่ละวัน...เห็น...อยาก...ไม่อยาก...เฉยๆ
ก็พยายาม..รู้..ไม่ไหลไปตามอารมณ์
ด้วยเริ่มสังเกตุว่า....มีสติ....ทุกอย่างจะทำไปตามเหตุปัจจัย
:b46: :b46: ก็แค่พยายามทำ :b46: :b46: พยายามเข้าใจ :b49: ยังรู้น้อยเหมือนเดิม :b49: .. :b9: :b9: :b9:


โพสต์ เมื่อ: 27 มี.ค. 2015, 12:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับ คุณ idea


:b8: ขออนุโมทนาในการปรารภความเพียรของ คุณ idea ด้วยนะครับ


เมตตาเจโตวิมุตติ เป็นอันอบรมแล้วด้วย ......ปัญญินทรีย์ เป็นอย่างไร


ขอยกบทธรรมบางส่วน


“......ดูกรภิกษุทั้งหลาย

......จิต ชื่อว่า เมตตา......เพราะรัก สัตว์ทั้งปวง

......จิต ชื่อว่า เจโต......เพราะคิดถึงธรรมนั้น
......จิต ชื่อว่า วิมุตติ......เพราะพ้นจาก......พยาบาท และ ปริยุฏฐานกิเลส ทั้งปวง


......จิต มี เมตตา ด้วย เป็น ......เจโตวิมุตติ ด้วย เพราะฉะนั้น

จึงชื่อว่า เมตตาเจโตวิมุตติ ฯ ......



......บุคคลผู้เจริญเมตตา ทราบชัดด้วยปัญญาว่า ขอสัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้ไม่มีเวร
มีความปลอดโปร่ง มีความสุขเถิด ดังนี้

เมตตาเจโตวิมุตติ เป็นอันอบรมแล้วด้วย ......ปัญญินทรีย์......”



ขอให้เจริญในเมตตาธรรมทุกท่านนะครับ


โพสต์ เมื่อ: 30 มี.ค. 2015, 16:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ธรรมเป็นเหตุเจริญ เป็นอย่างไร


ผมชอบบทธรรมบทหนึ่ง


“......ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการ


ชื่อว่าย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ยึดถือเอาสาระและ
ยึดถือสิ่งประเสริฐแห่งกาย


ธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการ เป็นไฉน คือ

......ย่อมเจริญด้วยศรัทธา

......ย่อมเจริญด้วยศีล
......ย่อมเจริญด้วยสุตะ
......ย่อมเจริญด้วยจาคะ
......ย่อมเจริญด้วยปัญญา


ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการนี้แล ชื่อว่า
ย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ยึดถือสาระ และ ยึดถือ
สิ่งประเสริฐแห่งกาย ฯ


อริยสาวกผู้ใด ย่อมเจริญด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และ ปัญญา ทั้งสองฝ่าย
อริยสาวกผู้เช่นนั้น เป็นสัปบุรุษ มีปรีชาเห็นประจักษ์ ชื่อว่าย่อมยึดถือสาระแห่งตน
ในโลกนี้ไว้ได้ทีเดียว ฯ ......”


ขอให้เจริญในธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวงนะครับ


โพสต์ เมื่อ: 01 เม.ย. 2015, 23:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


ขอยกบทธรรมอีกบทหนึ่ง


“......ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวิกาผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการ


ชื่อว่าย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ยึดถือเอาสาระ และ
ยึดถือสิ่งประเสริฐแห่งกาย


ธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการ เป็นไฉน คือ

......ย่อมเจริญด้วยศรัทธา
......ย่อมเจริญด้วยศีล
......ย่อมเจริญด้วยสุตะ
......ย่อมเจริญด้วยจาคะ
......ย่อมเจริญด้วยปัญญา


ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวิกาผู้เจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญ 5 ประการนี้แล ชื่อว่า
ย่อมเจริญด้วยธรรมเป็นเหตุเจริญอย่างประเสริฐ ชื่อว่าเป็นผู้ยึดถือสาระ และ ยึดถือ
สิ่งประเสริฐแห่งกาย ฯ


อริยสาวิกาผู้ใด ย่อมเจริญด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และ ปัญญา ทั้งสองฝ่าย
อริยสาวิกาผู้เช่นนั้น เป็นผู้มีศีล เป็นอุบาสิกา ชื่อว่าย่อมยึดถือสาระแห่งตน ในโลกนี้
ไว้ได้ทีเดียว ฯ ......”


ขอให้เจริญในธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวงนะครับ


โพสต์ เมื่อ: 03 เม.ย. 2015, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ศรัทธา......เป็นอย่างไร


ศรัทธา หมายถึง ความเชื่อ ความเลื่อมใส ในสิ่งดีงาม คือ ธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวง เช่น



ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......ศีล

ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......สัมมาสมาธิ

ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......เมตตา

ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......กรุณา

ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......มุทิตา

ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......อุเบกขา

ศรัทธา ในพระธรรมอันเป็นคำสอนของพระผู้มีพระภาค คือ ......ขันติ ฯลฯ


ผมเริ่มต้นปฏิบัติภาวนาเมตตาเจโตวิมุตติด้วย ......ศรัทธา เป็นเบื้องต้นครับ


ขอให้เจริญในธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวงนะครับ ./


โพสต์ เมื่อ: 05 เม.ย. 2015, 20:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย่อมเจริญด้วยศรัทธา......เป็นอย่างไร


ขอยกบทธรรมบางส่วน


“......ดูกรอาวุโสทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้

นึกถึงอยู่ ชื่อว่าเจริญ


รู้อยู่ ชื่อว่าเจริญ

เห็นอยู่ ชื่อว่าเจริญ

พิจารณาอยู่ ชื่อว่าเจริญ

อธิษฐานจิตอยู่ ชื่อว่าเจริญ

น้อมจิตไปด้วยศรัทธา ชื่อว่าเจริญ

ประคองความเพียรไว้ ชื่อว่าเจริญ

ตั้งสติไว้มั่น ชื่อว่าเจริญ

ตั้งจิตไว้อยู่ ชื่อว่าเจริญ

ทราบชัดด้วยปัญญา ชื่อว่าเจริญ

รู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง ชื่อว่าเจริญ

กำหนดรู้ซึ่งธรรมที่ควรกำหนดรู้ ชื่อว่าเจริญ

ละธรรมที่ควรละ ชื่อว่าเจริญ

เจริญธรรมที่ควรเจริญ ชื่อว่าเจริญ

ทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง ชื่อว่าเจริญ ย่อมเจริญอย่างนี้ ฯ......”


ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ จึงได้ชื่อว่า ......ย่อมเจริญด้วยศรัทธา



ขอให้เจริญในธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวงนะครับ ./


โพสต์ เมื่อ: 06 เม.ย. 2015, 22:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย่อมเจริญด้วยศีล......เป็นอย่างไร


ด้วยเหตุเพียงเท่าใด จึงได้ชื่อว่า ......ย่อมเจริญด้วยศีล


......พึงละการฆ่าสัตว์ เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ วางทัณฑะ วางศาสตรา มีความละอาย
มีความเอ็นดู มีความกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ ประการหนึ่ง

......พึงละการลักทรัพย์ เว้นขาดจากการลักทรัพย์ ไม่ประพฤติตนเป็นขโมย
เป็นผู้สะอาดอยู่ ประการหนึ่ง

......พึงละการประพฤติผิดในกาม เว้นจากประพฤติผิดในกาม ประการหนึ่ง

......พึงละการพูดเท็จ เว้นขาดจากการพูดเท็จ พูดแต่คำจริง ดำรงคำสัตย์ มีถ้อยคำ
เป็นหลักฐานควรเชื่อได้ ไม่พูดลวงโลก ประการหนึ่ง

......พึงละคำส่อเสียด เว้นขาดจากคำส่อเสียด ประการหนึ่ง

......พึงละคำหยาบ เว้นขาดจากคำหยาบ กล่าวแต่คำที่ไม่มีโทษ ประการหนึ่ง

......พึงละคำเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำเพ้อเจ้อ พูดถูกกาล พูดแต่คำที่เป็นจริง
ประกอบด้วยประโยชน์ โดยกาลอันควร ประการหนึ่ง

......พึงเว้นขาดจากการรับสินบน การล่อลวง การตลบตะแลง ประการหนึ่ง

......เป็นบุคคลผู้ปรารภความเพียร มีความสำรวมระวัง รักษา กาย วาจา ใจ
ให้ตั้งมั่นอยู่ในธรรมสุจริต
เป็นบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติ
เห็นภัยในโทษมีประมาณเล็กน้อย เป็นบุคคลผู้สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
ประการหนึ่ง


ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ จึงได้ชื่อว่า ......ย่อมเจริญด้วยศีล


......ย่อมเป็นไปเพื่อละธรรมอันเป็นอกุศล ที่ยังไม่เกิด

......ย่อมเป็นไปเพื่อละธรรมอันเป็นอกุศล ที่เกิดขึ้นแล้ว

......ย่อมเป็นไปเพื่อจะยังธรรมอันเป็นกุศลที่ยังไม่เกิด ให้เกิดขึ้น

......ย่อมเป็นไปเพื่อจะยังธรรมอันเป็นกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ให้ถึงพร้อม


......ย่อมเป็นไปเพื่อความแก่กล้าแห่ง ......ปัญญาวิมุตติ เจโตวิมุตติ...... ที่ยังไม่แก่กล้า


ขอให้เจริญในธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวงนะครับ ./


โพสต์ เมื่อ: 08 เม.ย. 2015, 04:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ย่อมเจริญด้วยศรัทธา......ในเวลาใด


ด้วยเหตุเพียงเท่าใด จึงได้ชื่อว่า ......ย่อมเจริญด้วยศรัทธา


บุคคลเหล่าใด เป็นบุคคลผู้ปรารภความเพียรด้วยศรัทธา


เมื่ออยู่ในเวลากลางวัน และ เมื่ออยู่ในเวลากลางคืน


เมื่ออยู่ในเรือน และ เมื่ออยู่นอกเรือน

เมื่อเดินอยู่ และ เมื่อยืนอยู่

เมื่อนั่งอยู่ และ เมื่อนอนอยู่

เมื่ออยู่คนเดียว และ เมื่ออยู่หลายคน

เมื่ออยู่ในยามต้น ในยามกลาง และ ในยามหลัง

เมื่ออยู่ในวันอาทิตย์ และ วันจันทร์ ......ทุกวัน

เมื่ออยู่ในเดือนมกราคม และ เดือนกุมภาพันธ์ ......ทุกเดือน

เมื่ออยู่ในข้างแรม และ เมื่ออยู่ในข้างขึ้น

เมื่ออยู่ในฤดูฝน ในฤดูหนาว และ ในฤดูร้อน

เมื่ออยู่ในตอนวัยต้น ในตอนวัยกลาง และ ในตอนวัยหลัง

...... ฯลฯ



ขอให้เจริญในธรรมอันเป็นกุศลทั้งปวงนะครับ ./


โพสต์ เมื่อ: 09 เม.ย. 2015, 01:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ก.ย. 2013, 06:03
โพสต์: 95

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


ในช่วงนี้เริ่มต้นทบทวนเมตตาเจโตวิมุตติ อันเป็นการอบรมแล้วด้วย ......ปัญญินทรีย์......


......โดยการทราบชัดด้วยปัญญาว่า ขอสัตว์ทั้งปวง จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่เบียดเบียนกัน
ไม่มีทุกข์ รักษาตนอยู่เป็นสุขเถิด


......โดยการทราบชัดด้วยปัญญา ...... เมื่ออยู่ในอิริยาบถสี่ คือ เดิน ยืน นั่ง นอน


......เริ่มต้นวันด้วยการมีสติเมื่อรู้สึกตัวตื่นนอนในตอนเช้า ในอิริยาบถ นอน
และพยายามตั้งจิตไว้เป็นมั่น โดยการทราบชัดด้วยปัญญา ......ในการทำงาน และ
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ในอิริยาบถ นั่ง ยืน เดิน ให้ได้ตลอดวัน


อันเป็นการอบรมเมตตาเจโตวิมุตติด้วย ......ปัญญินทรีย์ ในอิริยาบถสี่ คือ เดิน ยืน
นั่ง นอน



ขอให้เจริญในเมตตาธรรมทุกท่านนะครับ


โพสต์ เมื่อ: 10 เม.ย. 2015, 11:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


วันนี้อ่านข่าวนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่า บางครั้งการให้ความเมตตาการให้อภัยกับผู้อื่น
เหมือนเป็นสิ่งที่ผู้รับนั้น เค้าได้ชีวิตใหม่ :b8: :b41: :b55: :b49:

http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... 1428638770


โพสต์ เมื่อ: 10 เม.ย. 2015, 20:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สัมมาทิฏฐิ เขียน:
[b]สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
......
ขอให้เจริญในเมตตาธรรมทุกท่านนะครับ

:b8: :b8: :b8:

ตามอ่านคับ....เป็นสติเตือนตนเอง...บางทีมันก็เผลอ...ไม่ได้ตั้งจิตเมตตา...


โพสต์ เมื่อ: 10 เม.ย. 2015, 20:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
วันนี้อ่านข่าวนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่า บางครั้งการให้ความเมตตาการให้อภัยกับผู้อื่น
เหมือนเป็นสิ่งที่ผู้รับนั้น เค้าได้ชีวิตใหม่ :b8: :b41: :b55: :b49:

http://www.khaosod.co.th/view_newsonlin ... 1428638770

:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 50 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร